ตึกชมพูสุดปัง! รวม 9 ไอดอลจากค่าย SM ดีกรีมันสมองขั้นเทพ เก่งจนต้องร้องแทบัก

“เป็นไอดอลคงเรียนไม่เก่งหรอก แค่หน้าตาดีก็ผ่านแล้ว”

เชื่อว่าครั้งหนึ่งหลายคนคงเคยมีความคิดว่าการที่จะเข้าวงการบันเทิงได้เนี่ย แค่หน้าตาดีก็คงทำได้แล้วใช่ไหมล่ะคะ ถึงแม้ไอดอลคนนั้นจะโชว์ความสามารถออกมาก็มักจะมีคนบอกว่า จัดฉากแน่เลย วงการบันเทิงอะเนอะ แต่จริงๆ แล้วใครจะไปรู้ว่าไอดอลหลายคนนั้นโพรไฟล์เลิศจนต้องร้องว่าแทบักเลยล่ะค่ะ!

วันนี้พี่ปลื้มก็จะพาน้องๆ ไปส่องประวัติเทพๆ ของ 9 ไอดอลจากค่าย SM Entertainment ที่นอกจากวิชวลปัง และสกิลการร้อง-เต้นเป๊ะแล้ว หลายคนยังเก่งจนต้องยกมือซูฮกเลยว่า “นี่แหละมันสมองของวง” หรือไม่ก็ “ถ้าไม่เป็นไอดอลก็คงได้ดิบได้ดีในสายงานอื่นแน่ๆ” ว่าแต่จะมีใครบ้าง ตามไปส่องทำเนียบเหล่าเด็กเรียนแห่งตึกชมพูกันเลยค่าา 

__________________

ชิม ชางมิน TVXQ
"เทพเจ้าแห่งโลกตะวันออก ดีกรีปริญญา 4 ใบ"

เริ่มที่คนแรก รุ่นพี่ชางมิน จากวง TVXQ เจ้าของประโยคสุดฮาร์ดคอร์ในตำนานอย่าง “ถ้าไม่อยากโง่ก็จงไปเรียนซะ!” โดนไล่ให้ไปเรียนขนาดนี้ก็คงพอจะเดาได้ใช่ไหมคะว่ารุ่นพี่คนนี้คงจริงจังในด้านการเรียนมากๆ เลยค่ะ และดีกรีความเก่งของเขาก็ขึ้นชื่อมาตั้งสมัยในโรงเรียนด้วย ยกตัวอย่างคร่าวๆ เช่น

• สอบได้ที่ 1 ของโรงเรียน Gaepo High School เมื่อปี 2004
• เข้าห้องสอบชั่วโมงสุดท้าย (เพราะไปทำงาน) แต่ได้คะแนน 289 จากคะแนนเต็ม 300 คะแนน
• ด้วยตารางงานที่ยุ่งทำให้มีเวลาเรียนแค่ 2-3 วันเท่านั้นใน 1 สัปดาห์ แต่สอบได้ที่ 1 ทั้งของห้องและโรงเรียน //พีคคค!

ในรั้วมหาวิทยาลัยรุ่นพี่ของเราก็ไม่น้อยหน้าค่ะ ได้ใบปริญญามาด้วยกันทั้งหมด 4 ใบ!!!!

• ปริญญาตรีใบที่ 1 มหาวิทยาลัยคยองฮี (Kyung Hee University) สาขา ดนตรีร่วมสมัย (Post Modern Music): มหาวิทยาลัยคยองฮีขึ้นว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่สวยที่สุดในเกาหลี และยังโดดเด่นในเรื่องของการวิจัยเป็นพิเศษ แถมมีคนดังเรียนกันเยอะมากกกก ที่สำคัญมีทุนสนับสนุนนักศึกษาต่างชาติก็เยอะ พร้อมมีเงินสนับสนุนค่าที่พักสำหรับนักเรียนทุนด้วยค่ะ และนอกจากทุนของคยองฮีโดยตรงแล้ว น้องๆ ยังสามารถสมัครผ่านทุนรัฐบาลเกาหลี (GKS) ได้เช่นกันนะคะ สำหรับป.ตรี จะเปิดช่วงเดือนกันยายนของทุกปีค่ะ

• ปริญญาตรีใบที่ 2 จากมหาวิทยาลัยคอนกุก (Konkuk University) สาขา ศิลปะภาพยนตร์ (Film and Arts): คอนกุกเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนที่มีการเรียนการสอนภาษาอังกฤษมากกว่า 500 หลักสูตรในแต่ละภาคการศึกษาเลยค่ะ ทุนการศึกษาหรือส่วนลดก็มีนะ (เปิดรั้ว Konkuk คลิกที่นี่)

• ปริญญาโทควบเอก จากมหาวิทยาลัยอินฮา (Inha University): มาถึงมหาวิทยาลัยสุดท้ายของพี่ชางมินค่ะ เป็นอีกมหา’ลัยเอกชนที่เหล่าไอดอลค่าย SM นิยมเลือกมาเรียนกันหลายคนเลย เช่น ชานยอล-ซูโฮ วง EXO ซีวอน-เรียวอุค Super Junior หลักสูตรการเรียนการสอนที่นี่ก็น่าสนใจมาก น้องๆ คนไหนสนใจตามไปศึกษารายละเอียดกันได้เลยนะคะ (รายละเอียดทุนปีก่อน คลิกที่นี่)

สำหรับเคล็ดลับความเก่งของชางมินอ้ปป้าก็ไม่มีอะไรมากค่ะ รุ่นพี่ชางมินได้แนะนำไว้ไว้ว่าให้มีความรับผิดชอบ มีวินัยในตัวเอง ขยันและอดทนก็จะสามารถพาเราไปถึงเป้าหมายได้ และที่สำคัญก็ได้ฝากประโยคฮาร์ดคอร์ไว้อีกประโยคว่า “การเรียนไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิตแต่ถ้าแค่นี้ยังเอาชนะไม่ได้ ต่อไปจะเอาชนะอะไรได้” ฟังแล้วรู้สึกอยากเก็บกระเป๋า แบกหนังสือแล้ววิ่งไปเรียนเลยค่าาาา

........................

ซอ จู-ฮยอน SNSD 
"มักเน่ GG แห่งชาติ งานยุ่งแค่ไหน เรียนก็ต้องมาก่อน!"

คนที่สองของเราจะเป็นใครไม่ได้นอกจากซอฮยอนค่ะ แม้ในตอนนี้เธอจะไม่ได้ต่อสัญญากับค่าย SM Entertainment แต่เธอก็ยังเป็นมักเน่ทองคำแห่ง SNSD ที่เพอร์เฟกต์รอบด้าน และถ้าเปิดโหมดวิชาการเมื่อไหร่ ก็ต้องบอกเลยว่าเลิศสุดอะไรสุด เพราะอย่างสมัยที่วงแอคทีฟแล้วตารางทัวร์จะแน่นแค่ไหน ซอฮยอนก็ยังแบ่งเวลามาให้การเรียนเสมอ จนในที่สุดก็เรียนจบพร้อมรับรางวัลเกียรติคุณแห่งความสำเร็จในพิธีวันจบการศึกษาที่ มหาวิทยาลัยทงกุก (Dongguk University) สาขาการแสดง: 

ทงกุกเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนที่รวมเหล่าดาราและไอดอลไว้เช่นเดียวกันค่ะ เช่น คังโซรา อีซึงกิ โจอินซอง ซอนมี รวมถึงสาวยุนอาจากวงเดียวกันก็จบจากที่นี่ แถมมหาวิทยาลัยนี้ก็มีสาขาที่ลอสแอนเจลิส (Los Angeles) ด้วยนะคะ ซึ่งแคมปัสนี้จะโดดเด่นในสาขา Oriental medicine และ Traditional medicine ค่ะ
 

ซอฮยอนขึ้นชื่อเรื่องความมีวินัย และการแบ่งเวลามากๆ ค่ะเพราะเธอสามารถเรียนจบตามหลักสูตรปริญญาตรี 4 ปีได้แบบพอดีเลย ต้องขอชื่นชมในความขยันสม่ำเสมอนี้จริงๆ ค่า  

........................

 โจ คยูฮยอน Super Junior
"มักเน่หัวกะทิ ดีกรีคณิตโอลิมปิก"

มักเน่อีกคนของเรานี่ก็ไม่ธรรมดาค่ะ เพราะไม่ได้มีดีแค่เสียงร้องเท่านั้น เป็นที่รับรู้กันอยู่แล้วว่าคยูฮยอนจาก Super Junior นั้นอยู่ในระดับหัวกะทิ มาดูกันค่ะว่าคยูฮยอนของพวกเรานั้นวาดลวดลายความเก่งอะไรไว้บ้าง

• ตอนเรียนอยู่ในโรงเรียนคยูฮยอนมักจะอยู่ใน 10 อันดับแรกของห้องเสมอ รวมถึงเคยได้อันดับ 1 ในโรงเรียนมัธยมปลาย (Yumkwang High School)
• คยูฮยอนบอกว่าเขาชื่นชอบวิชาคณิตศาสตร์มากๆ และคิดว่ามันเป็นวิชาที่ง่าย
• ได้รับรางวัลชนะเลิศในการแข่งขันคณิตศาสตร์โอลิมปิกระดับมัธยมศึกษาของเกาหลี
• เรียนจบปริญญาตรีและโทจากมหาวิทยาลัยคยองฮี สาขา Post Modern Music (สาขาเดียวกับพี่ชางมินเลย ><)

ถึงแม้คยูฮยอนจะเลือกเดินทางสายไอดอลและประสบความสำเร็จอย่างมาก แต่เค้าก็ไม่เคยทิ้งเรื่องการเรียนเลยค่ะ แอบได้ยินมาว่าก่อนจบปริญญาโท คยูฮยอนงานเยอะทุกวัน แต่ก็สามารถปั่นธีสิสจนเสร็จก่อนเข้ากรมด้วย (นับถือมาก ทำได้ไงคะเนี่ย)

........................

 คิม คิบอม SHINee
"นักร้อง นักแสดง ดีไซเนอร์ มีอะไรอีกไหมที่ยังไม่ได้เป็น"

คนนี้โพรไฟล์ก็ไม่ธรรมดาค่ะ พี่คีย์จากวง SHINee ดีกรีนักเรียนนอก 1 ปี ที่ลอสแอนเจลิส (Los Angeles) ซึ่งรับบทเป็นครูสอนภาษาอังกฤษให้กับเมมเบอร์ในวงด้วย คีย์จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมยองจี (Myongji University) สาขาภาพยนตร์และดนตรี (Film and Musical) และฉีกมาเรียนสาขาที่แตกต่างในปริญญาโท สาขา วัฒนธรรมและการพัฒนาเนื้อหาการศึกษา (Culture and Education Contents Development) ที่ Woosuk University ซึ่งระหว่างนั้นคีย์ก็ได้จัดสัมมนาเกี่ยวกับโครงการพัฒนาแนวคิดตนเองของเยาวชน โดยเริ่มจากนักศึกษาในสาขาเดียวกันก่อน ต่อมาก็จัดสัมมนาพิเศษที่โรงเรียนมัธยมต้นในเรื่องความนับถือตนเอง (Self Esteem) ของวัยรุ่นเกาหลี ถือว่าเป็นโปรเจกต์ที่มีประโยชน์มากๆ เลยค่ะ

นอกจากเรื่องดนตรีแล้ว คีย์ก็มีความสนใจมากๆ ในเรื่องแฟชั่นและมีความยูนีคสูงจนหาตัวจับยาก จนได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นหนึ่งในผู้อำนวยการด้านแฟชั่น (Fashion Director) ของ SM Entertainment และได้ออกแบบชุดคอนเสิร์ตของ SHINee มาตั้งแต่ปี 2015 ร่วมมือกับโคแทยง (Ko Taeyong) นักออกแบบเสื้อสเวตเตอร์ และทำขายเพื่อการกุศล รวมถึงออกแบบเสื้อผ้าร่วมกับแบรนด์ Charm's อีกด้วยค่ะ พี่คีย์คนนี้นี่ขึ้นชื่อว่าเป็นทุกอย่างให้เธอแล้วจริงๆ ภาษาก็ได้ การศึกษาก็ดี ดีไซน์เนอร์ก็มา โอ๊ยยยสุดปัง

........................

คิม จุนมยอน EXO 
"พี่จุนที่ไม่ได้มีดีแค่โทนเนอร์"

เพียงแค่ออกมารีวิวว่าใช้ดี #โทนเนอร์พี่จุน ก็ขึ้นเทรนด์ในการตามหาทันที จนหลายคนเกือบลืมชื่อแบรนด์จริงๆ ไปแล้ว เพราะเอาชื่อพี่ซูโฮมาใส่แทน 5555 แต่ที่จริงแล้วพี่ซูโฮของเรา นอกจากจะเป็นลีดเดอร์แสนดีมีความสามารถในการร้องการเต้น รวมถึงขึ้นชื่อในเรื่องโทนเนอร์แล้ว พี่จุนคนนี้เรื่องวิชาการเค้าก็ฉายแววเก่งมานานแล้วนะ เช่น

• เป็นนักเรียนดีเด่นของโรงเรียน ขึ้นมัธยมศึกษาก็ได้เป็นรองประธานสภานักเรียน (Whimoon High School) ซึ่งว่ากันว่าการสอบเข้าที่โรงเรียนแห่งนี้จะต้องมีเกรดสูง และโดดเด่นพอสมควรถึงจะสามารถเข้าเรียนได้ แน่นอนว่าเด็กโรงเรียนที่พี่จุนจบมานั้นแต่ละคนคือเทพๆ ทั้งนั้น แถมมีอัตราสอบติดมหาวิทยาลัยในเครือ SKY แต่ละปีสูงกว่า 100 คน

• เนื่องจากคุณพ่อเป็นศาสตราจารย์ และแม่เป็นอาจารย์ พี่ซูโฮเลยถูกสั่งว่า ถ้าอยากเป็นนักร้องก็ให้ตั้งใจเรียนให้ดีจนกว่าจะจบม.ปลายเป็นอย่างน้อย เลยตั้งใจเรียนและฝึกซ้อมไปพร้อมๆ กัน จนคะแนนติด Top50 ของทั้งโรงเรียนค่ะ
• คะแนนติด 50 อันดับแรกของการทดสอบคณิตศาสตร์อัจฉริยะ
• ระหว่างที่เป็นเด็กฝึก พี่ซูโฮสอบติดมหาวิทยาลัย Korea National University of Arts (K-Arts) เอกการแสดง รุ่น 09: K-Arts เป็นมหาวิทยาลัยชื่อดังด้านศิลปะของเกาหลี  ซึ่งที่นี่เค้ามีทุนเรียนต่อสำหรับชาวต่างชาติด้วย โดยแต่ละปีก็จะมีมอบทุนแก่ชาวไทยที่จะเข้าเรียนโดยเฉพาะด้วยค่ะ //ปล. ทุนจะเปิดช่วงมีนาคม-เมษายน น้องๆ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ด้านล่างนี้ได้เลยนะคะ (รายละเอียดทุนปีก่อน คลิกที่นี่ )

แต่เนื่องจากเดบิวต์กับวง EXO ซูโฮจึงทำเรื่องลาออกจากมหาวิทยาลัยค่ะ (แต่ยังติดต่อกับเพื่อนในรุ่นอยู่ตลอด)

• ด้วยตารางงานที่ยุ่ง ซูโฮจึงเลือกเรียนแบบออนไลน์และสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีที่ Kyung Hee Cyber University สาขา Culture and Arts Management 
• ปัจจุบันกำลังศึกษาระดับปริญญาโทที่ Inha University สาขา Culture Management มหาวิทยาลัยเดียวกับพี่ชางมินค่ะ
• โชว์สกิลตอบคำถามที่มีโอกาสเพียง 1% ถึงจะตอบถูกในรายการ Problematic Men แถมตอบได้ในเวลาอันรวดเร็วด้วย!

นอกจากนี้ลีดเดอร์ซูโฮยังพูดไว้ว่าถ้าไม่ได้เป็นไอดอลเขาก็อยากจะมาเป็นครูตามคุณพ่อคุณแม่ด้วยค่ะ เรียกได้ว่ารักการเรียนการสอนมากๆ เลย เห็นไหมล่ะ บอกแล้วว่าไม่ได้มีดีแค่โทนเนอร์!

........................

 ซน ซึงวาน Red Velvet
"เก่งไม่เก่งไม่รู้ ที่รู้ๆ ได้รางวัลจากโอบามา"

เดินทางมาถึงสาวสวยอีกคนที่ไม่พูดถึงไม่ได้จริงๆ ค่ะ เพราะโพรไฟล์การเรียนคนนี้เริ่ดไม่ไหวแล้ว เล่าก่อนว่าเวนดี้นั้นเคยเรียนอยู่ที่เกาหลีจนถึง ป.5 และได้ย้ายไปแคนาดากับพี่สาว จากนั้นก็ย้ายอีกทีไปที่สหรัฐอเมริกา และเรียนต่อมัธยมต้นที่ Shattuck-St. Mary’s School ซึ่งตอนเรียนที่โรงเรียนนี้ เวนดี้ก็ได้แสดงศักยภาพมากมายเลยค่ะ

• ได้ที่ 5 ในการเป็นตัวแทนโรงเรียนไปแข่งขันลีกคณิตศาสตร์ที่โรงเรียน Minnesota Junior High School
• ได้รับเกียรติบัตรเรียนดีตั้งแต่เกรด 7-9 ทุกเทอม
• ชื่อของเวนดี้ถูกเขียนลงใน Jenkins Head Student
• ได้รับรางวัลจากอดีตประธานาธิบดี บารัค โอบามา เพราะมีผลการเรียนดีเด่น (จากทั่วอเมริกา)

หลังจบมัธยมต้น เวนดี้ก็ได้ย้ายกลับมาแคนาดาอีกรอบและเข้าเรียนต่อมัธยมปลายที่ Richmond Hill High School และได้อยู่ในชมรมออร์เคสตรา (orchestra) ทำหน้าที่เป็นนักร้องตำแหน่ง Soprano ซึ่งถือว่าเป็นนักร้องที่เสียงสูงที่สุดในผู้หญิงเลยค่ะ 

แม้เวนดี้จะมีอุปสรรคด้านภาษาอังกฤษในตอนแรกที่ย้ายไปต่างประเทศ แต่ไม่นานก็สามารถปรับตัวได้ และปัจจุบันสามารถพูดได้ทั้งหมด 4 ภาษา เกาหลี, อังกฤษ, สเปน และฝรั่งเศส (เกรด A รัวๆ) นี่ยังไม่รวมกับความสามารถด้านดนตรีและเสียงร้องที่โดดเด่นเลยนะคะเนี่ย ครบเครื่องทุกด้านไปหมดเลยจริงๆ ค่ะ //อิจมากกกกก

........................

ตง ซือเฉิง NCT-WayV
 "มัธยมยากตรงไหน? แค่ 2 ปีก็จบแล้วปะ"

หนุ่มน้อยจากแดนมังกรที่พกความไม่ธรรมดามาเพียบ สำหรับ ‘วินวิน’ เมมเบอร์จีนจากวง NCT และ WayV ผู้บินตรงเหวินโจวมาเดบิวต์ประเทศเกาหลี แถมโพรไฟล์แรงมาก แรงยังไงมาดูกันค่ะ

• สามารถพูดได้ทั้งจีนกลาง และจีนสำเนียงเหวินโจว (สำเนียงยากเป็นอันดับต้นๆ ของจีน มีวรรณยุกต์ถึง 8 เสียง และมีความซับซ้อนทางภาษามากๆ)
• จบมัธยมภายใน 2 ปี ด้วยคะแนนสอบอันดับ 1 ในสาขา Art Dance จากโรงเรียนมัธยมในสังกัด Beijing Dance Academy
• ได้รับการตอบรับจาก 3 มหาวิทยาลัย
• คะแนนสอบอันดับ 1 ที่ Beijing Dance Academy สถาบันที่รวมนักออกแบบท่าเต้น นักเต้นมืออาชีพ และนักวิจัยด้านการเต้น

• คะแนนสอบอันดับ 7 ที่ The Communication University of China มหาวิทยาลัยด้านการสื่อสารมวลชนของประเทศจีน และชื่อเสียงติดท็อปอันดับต้นๆ ของโลกค่ะ มีทุนให้สำหรับนักศึกษาต่างชาติด้วยนะคะ

• คะแนนสอบอันดับ 10 ที่ The Central Academy of Drama

สุดท้ายแล้ววินวินก็เลือกเรียนต่อที่ The Central Academy of Drama (Zhong Xi) สาขาการแสดง ซึ่งที่นี่ได้รับการจัดให้เป็นเป็นสถาบันอันดับ 1 ในด้านนิเทศศาสตร์และการแสดงของจีนค่ะ ใครสนใจเรียนที่เดียวกับวินวินก็สามารถเข้าศึกษามหาวิทยาลัยกับทุนได้เลยค่า

........................

มุน แทอิล NCT
"พี่ใหญ่แสนใจดี ไอดอลแห่งการเรียน"  

'แทอิล' ก็เป็นอีกหนึ่งคนจากวง NCT ที่บอกเลยว่าวิชาโดดเด่นมากๆ  ซึ่งแรกเริ่มเดิมทีแล้วเจ้าตัวไม่ได้อยากเดบิวต์เป็นไอดอลเป็นเรื่องเป็นราว แต่ต้องขอบคุณคุณครูของพี่แทอิลจริงๆ ค่ะ ที่เป็นคนบอกให้ลองไปออดิชั่นดู ซึ่งสุดท้ายก็ได้มาฝึกที่ SM และเดบิวต์ออกมาโชว์เสียงสวรรค์ให้พวกเราได้ฟังนั่นเองค่ะ >< แต่ก่อนที่จะเดบิวต์ พี่แทอิลก็มีผลการเรียนที่ไม่ธรรมดาเลยนะ

• เรียนมัธยมที่ Seo Seoul life Science High School: โรงเรียนนี้ถือว่าเป็นศูนย์รวมเด็กสายวิทย์-คณิตหัวกะทิเลยค่ะ (ฟีลแบบรร.มหิดลวิทยานุสรณ์ หรือ รร.กำเนิดวิทย์ ประมาณนั้นเลยค่ะ) ที่นี่มีระบบคัดเลือกเข้มงวดมากๆ จะคัดเฉพาะเด็กที่มีพรสวรรค์จากมัธยมทั่วประเทศเท่านั้น แถมยังส่งนักเรียนเข้าแข่งวิทยาศาสตร์โอลิมปิกทั้งในและต่างประเทศตลอด (ได้รางวัลตลอดด้วย) และนักเรียนที่จบจากที่นี่ส่วนมากจะเลือกเข้าสอบต่อที่ SKY  (3 มหาวิทยาลัยชั้นนำของเกาหลี) หรือไม่ก็เลือกไปเรียนต่อต่างประเทศเลยค่ะ
• แทอิลสอบติดที่มหาวิทยาลัยฮันยาง (Hanyang University) สาขา ดนตรี (Practical Music): อีกหนึ่งมหาวิทยาลัยชื่อดังค่ะ อัตราการเข้าสอบ 407:1 ซึ่งในปีนั้นมีเพียงผู้ชายคนเดียวที่สอบติดค่ะนั่นคือมุนแทอิลนั่นเองงงง (นอกนั้นเป็นผู้หญิงค่ะ สอบติด 9 คน)

อย่างที่ได้บอกไปค่ะว่าที่จริงแล้วพี่แทอิลไม่ได้อยากเข้าบริษัทเลย ตอนนั้นมีแค่เพียง 2 ทางคือไปเรียนกับเข้าเป็นเด็กฝึก แน่นอนว่าคนเก่งของพวกเราเลือกเรียนค่ะ แต่ทาง SM ได้ขอเอาไว้สุดท้ายแทอิลเลยตัดสินใจเลื่อนการเรียนที่ม.ฮันยางด้วยการดรอปไว้ก่อน รักการเรียนมากเลยนะคะเนี่ย น่าเอาเป็นแบบอย่างมากเลยค่า 

........................

คิม มินจอง aespa
"น้องใหม่ดีกรีสุดปัง อิมพอร์ตจากตึกชมพู"

สุดท้ายแล้วค่ะกับสาวน้อยตัวแทนจากวงน้องใหม่ไฟแรง ‘วินเทอร์ aespa’ ที่เพียงแค่ได้ยินเพลงแล้วอยากเลื้อยเป็นงูในเอ็มวีเลยค่ะ 5555 ล้อเล่นนะคะ เรามาดูผลงานของน้องหนาวกันดีกว่าค่ะ ซึ่งจะบอกว่าประวัติหายากพอสมควร ลึกลับมากจริงๆ แต่สุดท้ายความเก่งของน้องก็ถูกเอาออกมาพูดถึงค่ะ 

• ได้เป็นรองประธานนักเรียน (Yamsang Samseong Elementary and High School ) แต่ออกจากโรงเรียนกะทันหันค่ะเพราะได้เข้าเป็นเด็กฝึกก่อน ถึงอย่างนั้นน้องก็ยังจบได้โดยการสอบเทียบ GED

• มีผลการเรียนดีในวิชาคณิตศาสตร์จนถูกจัดให้ไปเรียนคลาส Advance ซึ่งเป็นห้องสำหรับเด็กหัวกะทิและมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น

และทั้งหมดนี้ก็คือตัวอย่างของเหล่าไอดอลหัวกะทิประจำตึกชมพูที่พี่ปลื้มยกโพรไฟล์มาเล่าให้ฟังค่ะ สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนเลยคือทุกคนมีความขยัน สม่ำเสมอและแบ่งเวลาเก่ง น่าเอาเป็นแบบอย่างมากๆ ^^ ความจริงแล้วยังมีอีกหลายคนที่เก่ง แต่ในวันนี้ขอคัดมาเล่าให้ฟังเท่านี้ก่อนน้า รักใครชอบใครก็อย่าลืมสนับสนุนพวกเขาด้วยนะคะ! ซารางเฮฮฮฮ