Get yourself ready: รวมเรื่องเตรียมพร้อมก่อนเรียนต่อ 'เดนมาร์ก' ดินแดนแห่งโคนม สายลม และทุ่งหญ้า!

 สวัสดีน้องๆ ชาว Dek-D ทุกคนค่า ถ้าให้พูดถึงประเทศจุดหมายปลายทางที่ใครหลายคนอยากไปเรียนต่อ พี่ก็ขอยกให้ประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลกอย่าง “เดนมาร์ก” เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งในใจเลยล่ะค่ะ เพราะนอกจากชื่อเสียงด้านหลักสูตรการเรียนการสอนที่หลากหลาย ทันสมัย และมีคุณภาพมากแล้ว ค่าเทอมและค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันยังไม่ได้แพงอย่างที่คิด แถมยังติดโผประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลกทุกปีอีกด้วย!

แต่แน่นอนว่าการจะหิ้วกระเป๋าออกเดินทางไปเรียนต่างประเทศได้ ก็ต้องมีการวางแผนไว้เป็นอย่างดี วันนี้ พี่ปุณ เลยจะมาแนะนำน้องๆ ในเรื่องของ ค่าเล่าเรียนในมหาวิทยาลัย ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน การขอทุนการศึกษา และเอกสารการขอพำนักในประเทศเดนมาร์ก ว่าแล้วก็อย่ารอช้าตามไปศึกษาข้อมูลและเตรียมความพร้อมกันไว้ได้เลย!

University tuition fees in Denmark

ด้วยชื่อเสียงที่โด่งดังด้านการจัดระบบการศึกษาที่ดี มีคุณภาพ และให้อิสระกับผู้เรียนอย่างเต็มที่ ทำให้ในแต่ละปีมีนักศึกษาจากทั่วโลกเดินทางมาเรียนต่อ ณ ประเทศแห่งนี้เป็นจำนวนมาก ในส่วนของค่าเล่าเรียน หลายคนอาจพอทราบแล้วว่า มหาวิทยาลัยในเดนมาร์กเปิดโอกาสให้นักศึกษาที่มีภูมิลำเนาอยู่ในภูมิภาคยุโรปและสวิตเซอร์เเลนด์สามารถเข้ามาเรียนต่อได้ฟรี แบบไม่มีค่าใช้จ่าย แต่สำหรับนักศึกษาจากภูมิภาคอื่นก็จะต้องจ่ายค่าเล่าเรียนเฉลี่ยอยู่ที่ 6,000 - 16,000 ยูโรหรือประมาณ 220,000 - 590,000 บาทต่อปี 

ดังนั้นใครที่รู้ตัวว่าอยากไปเรียนต่อในเดนมาร์กและอยากหาทุนเพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของที่บ้าน พี่ก็ขอแนะนำให้น้องๆ ลองเข้าไปศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการสมัครทุนรัฐบาลเดนมาร์กหรือทุนจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็น Aarhus University, Technical University of Denmark, Copenhagen Business School, หรือ University of Copenhagen  ไว้ก่อนได้เลยค่ะ

โดยแต่ละหลักสูตรของแต่ละมหาวิทยาลัยก็จะมีค่าใช้จ่ายในการเรียนไม่เท่ากัน อย่างใน 5 คณะยอดนิยม ที่นักศึกษาจากหลากหลายประเทศเลือกมาเรียนก็จะมีค่าใช้จ่ายต่างกันไปดังนี้

• บริหารธุรกิจ (Business Administration) ค่าเล่าเรียนปีละ 10,000 ยูโรหรือประมาณ 366,000 บาท
• เศรษฐศาสตร์ (Economics) ค่าเล่าเรียนหลักสูตรปริญญาตรีปีละ 6,000 - 8,500 ยูโรหรือประมาณ 220,000 - 310,000 บาท และหลักสูตรปริญญาโทปีละ 10,000 - 17,400 ยูโรหรือประมาณ 366,000 - 637,000 บาท
• เทคโนโลยีชีวภาพ (Biotechnology) ค่าเล่าเรียนปีละ 12,000 - 20,000 ยูโรหรือประมาณ 440,000 - 730,000 บาท
• การโรงแรมและการท่องเที่ยว (Hospitality and Tourism) ค่าเล่าเรียนหลักสูตรปริญญาตรีปีละ 4,000 ยูโรหรือประมาณ 146,000 บาท และหลักสูตรปริญญาโทปีละ 7,000 ยูโรหรือประมาณ 256,000 บาท
• รัฐศาสตร์ (Political Science) ค่าเล่าเรียนปีละ 9,000 ยูโรหรือประมาณ 330,000 บาท

Student living costs in Denmark

แน่นอนว่าการหาข้อมูลเรื่องค่าเล่าเรียนอย่างเดียวคงไม่พอ เพราะการมาเรียนต่อยังต้องมีภาระค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในชีวิตประจำวันอีกมากมาย ทั้งค่าหอพัก ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าหนังสือ และค่าอุปกรณ์การเรียนต่างๆ ซึ่งต้องบอกเลยว่าค่าครองชีพของเดนมาร์กนั้นค่อนข้างสูง ยิ่งถ้าเลือกอาศัยอยู่ในเมืองหลวงอย่างโคเปนเฮเกนแล้ว ยิ่งต้องบริหารจัดการเงินในแต่ละเดือนให้ดี โดยอย่างต่ำๆ ก็ควรเตรียมเงินค่าใช้จ่ายไว้เดือนละ 800 - 1,200 ยูโรหรือประมาณ 30,000 - 44,000 บาท ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้จ่ายของแต่ละคนในแต่ละเดือนด้วย เดือนไหนกินแพง ชอปเยอะ หรือเที่ยวบ่อยเงินที่เตรียมไว้ก็อาจจะไม่พอได้เหมือนกันค่ะ!

1. Accommodation costs

“ค่าหอพักหรือค่าที่อยู่อาศัย” ถือเป็นค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ที่นักศึกษาทุกคนต้องเจอ ยิ่งถ้าใครเรียนอยู่ในโคเปนเฮเกนและอยากหาที่พักใกล้มหาวิทยาลัย ค่าหอพักก็จะค่อนข้างสูง อยู่ที่ 800 - 900 ยูโรหรือประมาณ 30,000 - 33,000 บาทต่อเดือน แต่ถ้าใครที่เลือกพักอยู่รอบนอก ค่าหอก็จะต่ำลงมาอยู่ที่ 400 - 670 ยูโรหรือประมาณ 14,600 - 24,500 บาทนั่นเอง

หลายคนเห็นตัวเลขเหล่านี้แล้วอาจจะตกใจ แต่อย่าเพิ่งกังวลไปค่ะ เพราะนอกจากการเช่าหออยู่เองแล้ว เรายังสามารถหารค่าหอพักอยู่กับเพื่อน หรือเลือกพักในหอพักของมหาวิทยาลัยเพื่อลดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ได้อีก ซึ่งถ้าใครรู้ตัวว่ากำลังจะไปเรียนต่อในอีกไม่กี่เดือนแล้ว พี่ก็ขอแนะนำให้เตรียมศึกษาข้อมูลของหอพักแต่ละแบบไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อที่เราจะได้มีเวลาเปรียบเทียบราคาและหาหอพักที่จะอำนวยความสะดวกให้เราได้มากที่สุด

2. Food costs

โดยทั่วไปค่าอาหารสำหรับการใช้ชีวิตในเดนมาร์กก็จะอยู่ที่ 200 - 270 ยูโรหรือประมาณ 7,300 - 8,000 บาท ขึ้นอยู่กับว่าเรากินอะไรและกินเยอะแค่ไหน ซึ่งถ้ามื้อไหนน้องๆ อยากประหยัดเงินค่าอาหาร ก็สามารถไปที่ซูเปอร์มาร์เก็ตใกล้หอพัก อย่างเช่น Bilka, Lidl, Netto, Fakta, หรือ Aldi เพื่อหาข้าวกล่องหรือวัตถุดิบในราคาที่ถูกได้ ส่วนใครที่ไม่ถนัดทำอาหารหรืออยากไปกินข้าวนอกบ้านก็จะต้องเตรียมเงินไว้ประมาณ 30 ยูโรหรือ 1,000 บาทต่อมื้อ ถือว่าจ่ายเงินซื้อทั้งอาหารและบรรยากาศไปเลยค่ะ

3. Transportation costs

มาถึงค่าเดินทางกันบ้าง ต้องบอกก่อนว่านักศึกษาที่นี่ส่วนใหญ่มักจะใช้บริการรถสาธารณะซึ่งราคาตั๋วรายเดือนของรถบัส รถไฟฟ้าใต้ดิน และรถไฟจะตกอยู่ที่ 40 - 50 ยูโรหรือประมาณ 1,400 - 1,800 บาท ส่วนคนที่ชอบตื่นมารับอากาศดีๆ ในตอนเช้าก็จะเช่าจักรยานปั่นไป-กลับมหาวิทยาลัย ถือเป็นกิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลายและได้ออกกำลังกายไปในตัว!

4. Extra costs and savings 

นอกเหนือจากค่าที่พัก ค่าอาหาร และค่าเดินทางแล้ว น้องๆ ก็อาจต้องจ่ายค่าประกันสุขภาพ ค่าหนังสือหรือสื่อการเรียนการสอน รวมไปถึงค่าใช้จ่ายในกิจกรรมต่างๆ ที่ทางมหาวิทยาลัยกำหนดไว้ด้วย ซึ่งค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ก็จะอยู่ที่ 150 - 240 ยูโรหรือประมาณ  5,500 - 8,800 บาทค่ะ

University scholarships and grants 

ต้องยอมรับเลยว่าการจะไปเรียนต่อต่างประเทศได้ เราต้องมีความพร้อมด้านค่าเล่าเรียนและค่าใช้จ่ายอยู่พอสมควร แต่สำหรับใครที่อยากหาตัวช่วยเพื่อแบ่งเบาภาระของที่บ้าน พี่ก็ขอเสนอวีธีการขอทุนและเงินสนับสนุนจากรัฐบาลเดนมาร์กหรือมหาวิทยาลัยที่น้องๆ ต้องการเข้าศึกษา โดยแต่ละสถาบันก็จะกำหนดเงื่อนไขและคุณสมบัติผู้สมัครแตกต่างกันไป

• The Danish Government Scholarships under the Cultural Agreements เป็นทุนสำหรับนักเรียนแลกเปลี่ยนที่เรียนดีมีความสามารถและอยากจะมาเรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรมของชาวเดนิช โดยหลักสูตรที่เลือกเรียนก็จะต้องเป็นหลักสูตรที่เกี่ยวข้อง อย่างเช่น สถาปัตยกรรมหรือการออกแบบ
• The Erasmus+ or Erasmus Mundus Joint Master Degree (EMJMD) programmes เป็นโปรแกรมที่ได้รับการสนับสนุนจากสหภาพยุโรป โดยมุ่งหานักศึกษาที่อยากพัฒนาความสามารถด้านวิชาการไปพร้อมกับการหาประสบการณ์จากวัฒนธรรมที่หลากหลายในต่างแดน แอบกระซิบว่าทุนนี้ครอบคลุมทั้งค่าเทอม ค่าเข้าแลป ค่าห้องสมุด และค่าประกันเต็มจำนวนอีกด้วยนะ
• The Nordplus programme ทุนสำหรับนักศึกษาที่อยากมาเก็บใบปริญญาที่มหาวิทยาลัยในกลุ่มประเทศนอร์ดิกหรือบอลติก

นอกจากทุนเหล่านี้น้องๆ ยังสามารถเข้าไปศึกษาข้อมูลการสมัครทุนอื่นๆ ได้ทางเว็บไซต์ของทุกมหาวิทยาลัยในเดนมาร์ก เพราะในทุกปีรัฐบาลเดนิชจะมีการมอบเงินสนับสนุนให้แต่ละมหาวิทยาลัยไปจัดสรรเป็นทุนการศึกษาสำหรับนักศึกษาที่ไม่ได้อยู่อาศัยในภูมิภาคยุโรป บอกเลยว่า “เรื่องการศึกษา” เป็นเรื่องที่รัฐบาลเดนิชให้ความสำคัญและพร้อมสนับสนุนเป็นอย่างมาก!

Visa and residence permit fees for Denmark

แน่นอนว่าการจะไปอยู่อาศัยใช้ชีวิตในเดนมาร์กเป็นเวลาหลายปีก็ต้องมีการขออนุญาตเข้าประเทศกันสักหน่อย โดยเบื้องต้นแล้วการขอวีซ่าและเอกสารพำนักอาศัยต้องใช้เวลาดำเนินการประมาณ 2 เดือน และมีค่าใช้จ่าย 225 ยูโรหรือประมาณ 8,200 บาทนั่นเอง ซึ่งถ้าใครยังสงสัยเกี่ยวกับขั้นตอนการยื่นคำขอก็สามารถตามเข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์ New to Denmark กันได้เลย

ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลเกี่ยวกับ ค่าเล่าเรียน ค่าใช้จ่าย ทุนการศึกษา และขั้นตอนการเตรียมตัวคร่าวๆ สำหรับการไปเรียนต่อที่ประเทศเดนมาร์ก ไม่ซับซ้อนหรือยุ่งยากอย่างที่คิดใช่ไหมล่ะคะ? ดังนั้นใครที่มีแพลนไปแลกเปลี่ยนหรือเรียนต่อก็อย่าลืมหาข้อมูลเกี่ยวกับมหาวิทยาลัย และการใช้ชีวิตในประต่างเทศกันไว้แต่เนิ่นๆ เมื่อถึงเวลาเราจะได้ไม่พลาดอะไรและพร้อมไปเรียนได้ในทันทีเลย! (  *´ω`*)