รวมมาให้! 7 ทุนเรียนต่อ “อิตาลี” ประเทศการศึกษาดี ศิลปะคลาสสิก ดื่มด่ำความโรแมนติกแห่งสายน้ำ

Ciao! สวัสดีชาว Dek-D ทุกคนค่ะ “ประเทศอิตาลี” เป็นหนึ่งในประเทศที่สวยที่สุดในโลก ซึ่งถ้าใครเคยได้ไปหรือได้เห็นผ่านตา ก็จะเห็นว่าทั้งวัฒนธรรม สถาปัตยกรรม และธรรมชาติของอิตาลีมีเสน่ห์เหลือล้น จนทำให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกแวะเวียนไปเยี่ยมชมกันอย่างไม่ขาดสาย ยิ่งถ้าได้ไปเรียน ไปอยู่ ไปใช้ชีวิตในประเทศแห่งนี้ก็คงจะเป็นโอกาสที่ดีไม่น้อย

วันนี้ พี่ปุณ เลยมากับ “ทุนเรียนต่ออิตาลีสำหรับนักศึกษาต่างชาติ” ไปดูกันค่ะว่ารายละเอียดและเงื่อนไขแต่ละทุนของเป็นยังไง และจะมีทุนไหนน่าสนใจให้ตามไปสมัครกันบ้าง!

1. Italian Government Scholarships for International Students

มาเริ่มกันที่ทุนจาก “รัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศอิตาลี (MAECI)” ทุนนี้เป็นทุนที่มอบให้กับนักศึกษาต่างชาติและผู้ที่ถือสัญชาติอิตาลีแต่ไม่ได้มีภูมิลำเนาหรืออาศัยอยู่ในประเทศ สำหรับใครที่อยากไปเรียนต่อปริญญาโท ปริญญาเอก หรือศึกษาการทำวิจัย รวมไปถึงคอร์สเรียนภาษาและวัฒนธรรมอิตาลี พี่ก็เชื่อว่าทุนนี้จะตอบโจทย์และช่วยให้น้องๆ ได้ทำตามเป้าหมายที่วางไว้ 

โดยระยะเวลาการรับทุนจะแบ่งเป็นแบบ 3 เดือน, 6 เดือน, และ 9 เดือน ผู้ที่ได้รับคัดเลือกจะได้รับทั้งทุนค่าเล่าเรียน ค่าประกันสุขภาพ และค่าเบี้ยเลี้ยง 900 ยูโรหรือประมาณ 34,000 บาทต่อเดือน ส่วนข้อกำหนดเรื่องอายุก็จะแตกต่างกันไปตามหลักสูตรที่แต่ละคนเลือกไว้ อย่างผู้ที่สนใจสมัครทุนเรียนต่อปริญญาโท และคอร์สเรียนด้านภาษาและวัฒนธรรมก็จะต้องมีอายุไม่เกิน 28 ปี ส่วนผู้ที่จะเรียนต่อปริญญาเอกก็จะต้องมีอายุไม่เกิน 30 ปีในวันที่สมัครทุน ใครที่อยากไปเรียนต่อในมหาวิทยาลัยชั้นนำของอิตาลีก็ลองเข้าไปศึกษารายละเอียดของทุนนี้ และอย่าลืมเตรียมตัวในเรื่องของภาษาทั้งอิตาลีและอังกฤษกันไว้ให้ดีด้วยนะคะ

2. University of Bologna Study Grants

‘University of Bologna’ เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของโลก ตั้งอยู่ในเมืองโบโลญญา เมืองเล็กๆ ในอิตาลีที่เต็มเปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่น่าตื่นตาตื่นใจ ในทุกปีสถาบันแห่งนี้จะมีการมอบ “ทุนเต็มจำนวน” ให้กับนักศึกษาต่างชาติที่สนใจเรียนต่อในระดับ First Cycle (ปริญญาตรี), Second Cycle (ปริญญาโท), หรือ Single Cycle Degree Programmes ซึ่งก็คือการเรียนเพื่อพัฒนาความรู้ความสามารถด้านทักษะอาชีพเฉพาะทาง

เงื่อนไขการรับทุนนี้มีอยู่ไม่มาก หากผู้สมัครอายุไม่เกิน 30 ปีและมีคุณสมบัติตรงตามที่แต่ละโปรแกรมกำหนดไว้ก็สามารถผ่านการคัดเลือกและรับทุนเรียนฟรีจากทางมหาวิทยาลัยได้ แอบกระซิบว่าทุนนี้มีมูลค่าสูงถึง 11,059 ยูโรหรือประมาณ 420,000 บาท ใครอยากมีโอกาสเรียนฟรีในมหาวิทยาลัยชั้นดีแบบนี้ ก็เตรียมศึกษาข้อมูลไว้ แล้วรอสมัครทุนในรอบต่อไปได้เลย

3. Bocconi Merit and International Awards

มาต่อกันกับทุนเรียนฟรีระดับปริญญาตรีและปริญญาโทจาก ‘Bocconi University’ มหาวิทยาลัยชื่อดังในเมืองแฟชั่นของอิตาลี อย่างเมือง Milan ต้องบอกก่อนเลยว่าทุนนี้มีเกณฑ์การพิจารณาจาก “ผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาและความสำเร็จด้านกิจกรรมนอกหลักสูตรประเภทต่างๆ” ดังนั้นใครสนใจอยากสมัครทุน ก็ต้องเตรียมโพรไฟล์ด้านการศึกษาไว้ให้ดี เพื่อรับมือกับการแข่งขันที่ค่อนข้างสูง 

สำหรับทุนเรียนต่อปริญญาตรี มูลค่าของทุนจะอยู่ที่ 12,000 ยูโรหรือประมาณ 456,000 บาทต่อปี ส่วนทุนเรียนต่อปริญญาโทในสาขาวิทยาศาสตร์ก็จะมีมูลค่าอยู่ที่ 14,000 ยูโรหรือประมาณ 533,000 บาทต่อปี และนอกจากทุนค่าเล่าเรียนเต็มจำนวนแล้ว ทางมหาวิทยาลัยก็ยังมีทุน 50% ให้นักศึกษาต่างชาติได้ยื่นขอกันอีกด้วย ใครรู้ตัวว่าเรียนเก่ง เรียนดี ก็อย่าพลาดโอกาสเรียนฟรีในมหาวิทยาลัยแห่งนี้กันนะคะ

4. Politecnico de Milano Merit-Based Scholarships

‘Politecnico di Milano’ เป็นมหาวิทยาลัยรัฐบาลในอิตาลีที่ ‘QS World University’ จัดให้เป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดอันดับที่ 5 ของโลกด้านการเรียนการสอนศิลปะและการออกแบบ โดยหลักสูตรปริญญาโทด้านการออกแบบของสถาบันแห่งนี้จะเป็นหลักสูตร 1 ปีที่จะปูพื้นฐานและเพิ่มความเชี่ยวชาญให้กับผู้ที่ทำงานในสายออกแบบและหน่วยงานต่างๆ 

นอกจากนี้ทางสถาบันก็ยังมีทุนเรียนต่อให้กับนักศึกษาต่างชาติ ซึ่งจะพิจารณาจากความสามารถและผลงานด้านวิชาการ โดยทุนจะถูกแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก

• Platinum Scholarships ทุนมูลค่า 10,000 ยูโรหรือประมาณ 380,000 บาท
• Gold Scholarships ทุนมูลค่า 5,000 ยูโรหรือประมาณ 190,000 บาท
• Silver Scholarships ทุนที่ครอบคลุมค่าธรรมเนียมทางการศึกษา โดยจะสอดคล้องกับเงื่อนไขทุนที่ได้รับ

ทุนเหล่านี้จะมีการแบ่งโอนเข้าบัญชีธนาคารของผู้รับทุน 2 - 3 งวดต่อปี และจะมีการเก็บค่าดำเนินการ 200 ยูโรหรือประมาณ 7,600 บาท ใครสนใจและอยากเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับทุนนี้ ก็อย่าลืมรักษา GPA ให้สูง ทำพอร์ตโฟลิโอให้ปัง และเขียน Motivation Letter ให้ดี เพราะ 3 สิ่งนี้จะมีผลต่อการตัดสินของคณะกรรมการทุนอย่างแน่นอน

5. University of Padova Scholarships for All Degree Courses

สำหรับใครที่หลงใหลในประวัติศาสตร์และความงดงามของเมืองเก่า พี่ก็ขอแนะนำ ‘University of Padova’ มหาวิทยาลัยในเมืองปาดัว เมืองศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและโทรคมนาคมของอิตาลี เพราะนอกจากบรรยากาศที่ดีและมาตรฐานการศึกษาที่สูงแล้ว มหาวิทยาลัยแห่งนี้ยังมีทุนเรียนต่อปริญญาตรีและปริญญาโทมอบให้ โดยผู้ที่ต้องการรับทุนไม่จำเป็นต้องส่งใบสมัครหรือสอบแข่งขันอะไร ขอเพียงแค่เป็นนักศึกษาต่างชาติที่ไม่ได้มีภูมิลำเนาอยู่ในอิตาลี และเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ ก็จะได้รับการพิจารณาทุนในทันทีเลยค่ะ

สำหรับมูลค่าทุนก็จะอยู่ที่ 8,000 ยูโรหรือประมาณ 304,000 บาทต่อปี โดยนักศึกษายังคงต้องจ่ายค่าแรกเข้าและค่าภาษี อีกทั้งยังมีระยะเวลารับทุนเพียง 2 และ 3 ปี ซึ่งต่อจากนี้ ก็จะต้องจ่ายค่าเล่าเรียนจนจบหลักสูตรด้วยตัวเอง ใครมั่นใจว่ามีผลการเรียนดีหรือมีผลงานด้านการศึกษาอื่นๆ ก็ลองศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมทางเว็บไซต์ แล้วรอยื่นใบสมัครรอบต่อไปได้เลย

6. Scuola Normale Superiore PhD Scholarships in Italy

มาถึงอีกหนึ่งทุนน่าสนใจจาก ‘Scuola Normale Superiore’ สถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาในเมือง Pisa ทุนนี้เป็นทุนระดับปริญญาเอกที่มอบให้กับนักศึกษาต่างชาติและนักศึกษาในประเทศอิตาลีทุกคนที่ผ่านการคัดเลือกและได้เข้าเรียนในสถาบันแห่งนี้ ซึ่งนอกจากทุนค่าเล่าเรียนแล้ว ทางสถาบันยังมีเงินสนับสนุนเพื่อส่งเสริมการทำวิจัย อีกทั้งยังช่วยจัดหาหอพักให้นักศึกษาด้วย 

ผู้ที่ต้องการรับทุนสามารถเลือกเรียนได้หลากหลายสาขา ไม่ว่าจะเป็นสาขาปรัชญา ฟิสิกส์ รัฐศาสตร์ นาโนศาสตร์ ประสาทวิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์ข้อมูล และสาขาอื่นๆ อีกมากมาย นักศึกษาปริญญาโทคนไหนอยากเรียนต่อและยังมีอายุไม่เกิน 30 ปี ก็ลองใช้โอกาสนี้เพื่อเรียนรู้ หาประสบการณ์ และเตรียมความพร้อมเข้าสู่โลกการทำงานกันได้นะคะ

7. UNIPV International Scholarships for Developing Countries

ปิดท้ายไปกับทุนเรียนต่อปริญญาโทจาก ‘University of Pavia’ ทุนนี้เป็นทุนที่มอบให้กับนักศึกษาจากประเทศกำลังพัฒนา โดยทางมหาวิทยาลัยจะสนับสนุนทั้งค่าเล่าเรียนและค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับให้ รวมแล้ว 8,000 ยูโรหรือประมาณ 304,000 บาทต่อปี ซึ่งผู้ที่จะได้รับทุนจะต้องมีอายุไม่เกิน 35 ปีและเลือกศึกษาใน 6 สาขาตามที่มีการกำหนดไว้ในเงื่อนไขทุน ได้แก่

• Electronic Engineering
• Industrial Automation Engineering
• Economics, Finance and International Integration
• International Business and Entrepreneurship
• Molecular Biology and Genetics
• World Politics and International Relations

ใครมีคุณสมบัติครบถ้วนตามนี้ ก็สามารถเข้าไปศึกษารายละเอียดและติดตามข่าวสารการเปิดรับสมัครทุนรอบต่อไปได้ทางเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยเลยค่ะ

เป็นยังไงกันบ้างคะ? มีทุนไหนถูกอกถูกใจว่าที่นักศึกษาอิตาลีกันบ้างหรือเปล่า? ใครที่มีแพลนเรียนต่อและอยากแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของที่บ้าน แต่ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน พี่ก็ขอแนะนำให้ลองเข้าไปศึกษารายละเอียดและเงื่อนไขทุนที่แต่ละมหาวิทยาลัยมอบให้ แล้วตัดสินใจเลือกจากสาขาที่ใช่ มหาวิทยาลัยที่ชอบ จากนั้นก็เตรียมตัวเตรียมใจให้ดี ทุนที่เล็งไว้เปิดรับสมัครเมื่อไหร่ก็รีบพุ่งตัวไปเลย ( *´ω`* )