คุ้มสุด! 7 ทุนเรียนฟรี 100% ที่ 'ดูไบ' ประเทศแห่งผืนทราย ไอที และธุรกิจระดับโลก

สวัสดีชาว Dek-D ทุกคนค่า คงเคยได้ยินกันมาบ้างว่า United Arab Emirates (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) หรือที่เราเรียกกันว่า ‘ดูไบ’ นั้นเป็นประเทศที่เจริญรุ่งเรืองมาก และเป็นแหล่งรวบรวมนักลงทุนกับบรรดามหาเศรษฐีไว้นับไม่ถ้วน แต่ประเทศนี้ไม่ได้มีดีแค่เรื่องธุรกิจนะคะ เพราะคุณภาพชีวิตของประชากรยังดี เมืองมีความปลอดภัยสูง รายล้อมด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย แถมยังมีความพิเศษด้วยวิวของตึกสูงมากมายท่ามกลางผืนทรายอีกด้วย! ถือเป็นประเทศที่น่าไปเยือนมากเลยทีเดียว และด้วยข้อดีเหล่านี้แหละทำให้ดูไบเป็นจุดหมายในไปการเรียนต่อของใครหลายคน วันนี้พี่เมนี่เลยขอมาแนะนำแบบจัดเต็มไปกับ 7 ทุนจาก 3 มหาวิทยาลัยชื่อดังของประเทศ ทั้งในระดับป.ตรีโทและเอกให้ทุกคนได้รู้จักกันค่ะ

.........

ทุนจาก Khalifa University

มาเริ่มกันที่ ‘Khalifa University’ มหาวิทยาลัยรัฐอันดับต้นๆ ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่นี่มีทุนให้เด็กต่างชาติตั้งแต่ระดับปริญญาตรีถึงปริญญาเอกกันเลยทีเดียวค่ะ ยิ่งกว่านั้นยังให้เงินสนับสนุนในด้านอื่นๆ เพิ่มอีก เช่น ค่าที่พัก และประกันสุขภาพ ใครสนใจห้ามพลาดเลยนะคะ ให้ทุนเยอะมาก!

1. President Scholarship

ทุนนี้มอบให้กับนักศึกษาต่างชาติระดับปริญญาตรีที่มีผลการเรียนยอดเยี่ยมในสาขาวิศวกรรมศาสตร์และวิทยาศาสตร์ เหมาะสำหรับน้องๆ สายวิทย์ที่กำลังอยากไปเรียนต่อต่างประเทศเลยค่ะ แต่ขอบอกว่าทุนนี้การแข่งขันสูงมากกก เพราะคัดกันที่มันสมองเน้นๆ ว่าแล้วตามไปดูรายละเอียดทุนคร่าวๆ กันดีกว่า

คุณสมบัติผู้รับทุน

• ทางมหา’ลัยจะคัดเลือกเราจากใบสมัครที่ยื่นตั้งแต่ตอนสอบเข้าเลยค่ะ พิจารณาจากทั้งเกรดและคะแนนสอบโดยต้องได้คะแนนขั้นต่ำ EMSAT English: 1400 และ EMSAT Math: 1250 (นอกจากนี้ยังมีทุน 50-75% พิจารณาจากเกรดที่ลดหลั่นกันไป) เพราะฉะนั้นถ้าโปรไฟล์เป๊ะปังก็ยิ่งมีโอกาส!
• หลังจากได้รับทุนแล้วจะต้องรักษาเกรดเฉลี่ยสะสม (GPA) ให้อยู่ที่ 3.3 หรือมากกว่าระหว่างที่ศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัย
• Note: แต่ตามที่บอกไปว่าทุนนี้การแข่งขันสูงมากกกก เพราะเป็นศูนย์รวมหัวกะทิแห่งชาติ ถึงคุณสมบัติจะผ่าน แต่ถ้ามีคนโปรไฟล์เป๊ะกว่าเรา ก็มีโอกาสนกได้นะคะบอกเลย

2. KU MED Scholarship for Expatriates

ต่อมาเป็นทุนของว่าที่คุณหมอทั้งหลาย ซึ่งเป็นทุนเต็มจำนวนมอบให้เพื่อสนับสนุนนักศึกษาแพทย์ทุกคนของมหา’ลัยที่จะจบไปเป็นบุคคลคุณภาพ ออกไปช่วยสร้างชื่อเสียง และผลงานดีๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมต่อไปนั่นเอง โดยคนที่ได้รับทุน ทางมหาวิทยาลัยจะให้เข้าโปรแกรม ‘Pre-Medicine Bridge Program’ เป็นหลักสูตร 1 ปี เพื่อเตรียมพร้อมกับด้านต่างๆ ทั้งการเรียนและสัมภาษณ์ รับรองว่าพร้อมเข้าเป็นนักศึกษาแพทย์ของมหา’ลัยในอนาคตเลยละค่ะ

 ทุนครอบคลุม

• ค่าเล่าเรียนเต็มจำนวน
• สนับสนุนการเข้าร่วมกิจกรรมการศึกษาทั้งในและต่างประเทศ
• ค่าที่พักฟรี (ขึ้นอยู่กับจำนวนห้องพักที่ว่าง)
• หนังสือเรียน

3. Master Research Teaching Scholarship (MRTS)

เนื่องจากมหา’ลัยนี้ค่อนข้างมีชื่อเสียงด้านการวิจัย ทำให้มีทุนระดับปริญญาโทเพื่อส่งเสริมทั้งการสอนและการวิจัยให้กับนักศึกษาที่สนใจด้วยค่ะ จะต่างจากทุนที่ผ่านๆ มาอยู่นิดหน่อย เพราะนอกจากเรียนฟรีแล้วก็ยังมีเงินเดือนให้ใช้อีกต่างหาก ^ ^

 ทุนครอบคลุม

• ค่าเล่าเรียนเต็มจำนวน
• เงินเดือน 4,000 AED (ประมาณ 34,000 บาท)
• ประกันสุขภาพ (มีวีซ่านักเรียน)
• สนับสนุนการเข้าร่วมประชุมวิจัยระดับนานาชาติ
• ความช่วยเหลือค่าเครื่องบินสำหรับนักศึกษาต่างชาติ

4. Combined Master/Doctoral Research Teaching Scholarship (CMDRTS)

ทุน CMDRTS เป็นทุนที่น่าสนใจเป็นพิเศษและถือว่าคุ้มค่ามากๆ เพราะไม่ได้ให้แค่ระดับปริญญาโท แต่ให้สำหรับคนที่จะเรียนทั้งป.โทและเอกต่อกันจนจบ บอกเลยว่าเข้าทางคนมุ่งเรียนทีเดียวเอาให้จบป.เอกแน่นอนค่ะ ยังไม่หมดแค่นั้นพอขึ้นปริญญาเอกก็จะได้ค่าใช้จ่ายรายเดือนเพิ่มขึ้นอีก 30,000 บาทด้วย //เปย์กันสุดๆ ไปเล้ย!

ทุนครอบคลุม

• ค่าเล่าเรียนเต็มจำนวน
• เงินเดือน ช่วงป.โท: 8,000 AED (ประมาณ 69,000 บาท) / ช่วงป.เอก: 12,000 AED (ประมาณ 103,000 บาท)
• ประกันสุขภาพ (มีวีซ่านักเรียน)
• สนับสนุนการเข้าร่วมประชุมวิจัยระดับนานาชาติ
• ความช่วยเหลือค่าเครื่องบินสำหรับนักศึกษาต่างชาติ
• ค่าที่พักฟรี (แต่ถ้าที่พักไม่พอ ทางมหา’ลัยก็จะช่วยออกให้สูงถึง 2,000 AED = 17,000 บาท ต่อเดือน)

5. Doctoral Research Teaching Scholarship (DRTS)

มาถึงทุนสุดท้ายของมหา’ลัยนี้กันแล้วนะคะ แน่นอนว่าต้องเป็นในระดับป.เอก ซึ่งเป็นทุนด้านการสอนและการวิจัยที่มอบให้กับนักเรียนต่างชาติโดยเฉพาะ ส่วนมูลค่าทุนที่มอบให้ก็เรียกว่าใจป้ำสุดๆ เลยค่ะ

ทุนครอบคลุม

• ค่าเล่าเรียนเต็มจำนวน
• เงินเดือน 12,000 AED (ประมาณ 103,000 บาท)
• ประกันสุขภาพ (มีวีซ่านักเรียน)
• สนับสนุนการเข้าร่วมประชุมวิจัยระดับนานาชาติ
• ความช่วยเหลือค่าเครื่องบินสำหรับนักศึกษาต่างชาติ
• ค่าที่พักฟรี (แต่ถ้าที่พักไม่พอ ทางมหา’ลัยก็จะช่วยออกให้สูงถึง 2,000 AED = 17,000 บาท ต่อเดือน)

.........

ทุนจาก Mohamed Bin Zayed University of 
Artificial Intelligence

สำหรับใครที่สนใจ #สายไอที ต้องที่นี่เลยย เพราะ ‘Mohamed Bin Zayed University of Artificial Intelligence’ (MBZUAI) เป็นมหาวิทยาลัยเฉพาะทางด้าน Artificial Intelligence (AI) หรือปัญญาประดิษฐ์แห่งแรกของโลก! ที่ถูกก่อตั้งใหม่เมื่อไม่นานมานี้ค่ะ แต่ถึงเป็นมหา’ลัยเปิดใหม่ แต่คุณภาพระดับท๊อป ทั้งได้เรียนกับระบบ AI ที่ทันสมัยที่สุด และผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลกด้วย โดยทางมหา’ลัยจะมอบทุน 100% ให้กับนักศึกษาไม่ว่าจะมาจากชาติใดก็ตาม จะมีสาขาที่เปิด 3 ด้านต่อไปนี้ค่ะ

หลักสูตรที่เปิดสอนทั้งระดับป.โท และป.เอก

• Computer Vision
• Machine Learning
• Natural Language Processing

คุณสมบัติผู้สมัคร

• มีคะแนนวัดระดับภาษาอังกฤษ อย่างใดอย่างหนึ่ง: คะแนน TOEFL iBT อย่างต่ำ 90 / คะแนน IELTS อย่างต่ำ 6.5 / EmSAT English อย่างต่ำ 1550
• จบการศึกษาในด้านที่เกี่ยวข้องกับ สาขาวิศวกรรมศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ เช่น วิศวกรรมคอมพิวเตอร์, คณิตศาสตร์, ฟิสิกส์ ฯลฯ จากมหาวิทยาลัยที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงศึกษาธิการของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
• มีเกรดเฉลี่ยสะสม (CGPA) อย่างต่ำ 3.2

.........

ทุนจาก Abu Dhabi University

สถาบันสุดท้ายที่เราจะมาแนะนำในวันนี้คือ ‘Abu Dhabi University’ ที่ถูกก่อตั้งในปี 2003 และจัดให้เป็นมหาวิทยาลัยเอกชนที่ดีที่สุดระดับท๊อป 2.5% ของโลกในปี 2018 มีวิทยาลัยในเครือถึง 5 แห่ง เปิดสอนสาขาศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์, ธุรกิจ, วิศวกรรมศาสตร์, วิทยาศาสตร์สุขภาพ และนิติศาสตร์ นอกจากนั้นยังมีทุนหลายๆ แบบทั้งแบบเต็มจำนวนและไม่เต็มจำนวนให้กับนักศึกษา แต่วันนี้ไปดูทุนเต็มจำนวนกันก่อนค่ะ

7. Chairman’s Scholarship

เวลาเราไปสมัครเรียนมหา’ลัยต่างประเทศ ทุกคนคงรู้กันดีว่าค่าธรรมเนียมแพงมากก T_T แล้วถ้าต้องสมัครหลายๆ ที่ ค่าใช้จ่ายก็ยิ่งเพิ่ม แต่ครั้งนี้น้องๆ ไม่ต้องกังวลเลยค่ะ เพราะทุน ‘Chairman’s Scholarship’ นี้เป็นทุนเต็มจำนวนระดับป.ตรีที่ไม่ต้องออกตั้งแต่ค่าธรรมเนียมสมัครจนไปถึงค่าเล่าเรียน เพียงแต่มีข้อแม้ว่าน้องๆ จะต้องทำเกรดได้ดีมากๆ ในช่วงมัธยมปลาย และเข้าเรียนเลยหลังจากเรียนจบค่ะ

ทุนครอบคลุม

• ค่าเล่าเรียนเต็มจำนวน
• ค่าธรรมเนียมสมัคร
• ค่าสมัคร
• ค่าบริการนักศึกษา
• ค่าบริการด้านสุขภาพ

คุณสมบัติผู้รับทุน

• ช่วงมัธยมปลายได้คะแนนเกรดเฉลี่ยสะสมประมาณ 97% (4.0) หรือมากกว่าในทุกๆ ปี (เกรด 10-12 หรือเทียบเท่ากับม.4-ม.6)
• เป็นนักเรียนที่เพิ่งจบการศึกษาจากระดับมัธยมปลายและเข้าเรียนที่มหา’ลัยในปีเดียวกันเลย
• จะต้องมีความสามารถทางภาษาอังกฤษตามที่กำหนดโดยกระทรวงศึกษาธิการและการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (อย่าลืมเตรียมฝึกภาษาอังกฤษกันไว้ก่อนเลยนะคะ!)
• การได้รับทุนจะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของสำนักงานประธานบริหาร
• เข้าเรียนเป็นนักศึกษาแบบ full-time และลงเรียนอย่างน้อย 12 หน่วยกิตต่อเทอม

เงื่อนไขการรับทุน

• ระหว่างเรียนอยู่ต้องได้เกรดเฉลี่ยสะสม (CGPA) อย่างต่ำ 3.70
• ต้องเก็บหน่วยกิตให้ได้อย่างน้อย 12 เครดิตต่อ 1 เทอม (ยกเว้นช่วงเทอมฤดูหนาวและฤดูร้อน)
• *ถ้าต้องเรียนซ้ำวิชาไหน เช่น ได้เกรด F, WA และ W จะต้องจ่ายค่าเรียนเอง เพราะฉะนั้นต้องทำคะแนนให้ดีอยู่เสมอ ไม่อย่างนั้นทุนก็จะหลุดมือไปอย่างน่าเสียดาย

...

เป็นยังไงกันบ้างสำหรับการรีวิว ‘ทุนเต็มจำนวนเรียนต่อดูไบ’ ในวันนี้ แต่ละทุนคุ้มสุดๆ เลยใช่มั้ยคะ แต่เพราะอย่างนั้นก็ทำให้การแข่งขันสูงมากๆ เช่นเดียวกัน ยังไงก็ตามน้องๆ อย่าเพิ่งถอดใจกันนะ ถ้าพยายามและเริ่มเตรียมตัวอ่านหนังสือหรือทำคะแนนให้ดีตั้งแต่เนิ่นๆ พี่เชื่อว่ามีโอกาสได้แน่นอน! สู้ๆ ค่าทุกคนน