กว่าจะได้ทุน! เปิดโพรไฟล์ & วิธีเตรียมตัวของ 3 นักเรียนทุนรัฐบาลเกาหลีใต้ ป.โท ปี 2021

 

สวัสดีค่าชาว Dek-D~ วันก่อนเรามีโอกาสพูดคุยกับ 3 บัณฑิตสาขาวิชาโทเกาหลีของจุฬาฯ ที่เพิ่งคว้าทุนรัฐบาลเกาหลี (GKS) ระดับ ป.โทปี 2021 แบบสดๆ ร้อนๆ  ซึ่งมีทั้งพี่ที่ยื่นผ่านสถานทูต (Embassy Track) และแบบมหาวิทยาลัย (University Track) โดยที่แต่ละคนมีวิธีเลือกคณะ/มหาวิทยาลัย, การเตรียมตัวเพื่อขอทุน, วิธีฝึกภาษา และการเล่านำเสนอตัวเองลงใน Statement of Purpose (SoP) ที่ทั้งต่างและน่าสนใจมากๆ

และนอกจากเรื่องทุน เรายังชวนแต่ละคนมารีวิวทั้งประสบการณ์ในเกาหลี, สื่อ/ช่องทางเรียนที่แนะนำ, กิจกรรมที่น่าสนใจ แล้วปิดท้ายด้วยประสบการณ์เรียนโทเกาหลีของคณะอักษรจุฬาฯ   มาลองอ่านเพื่อเก็บเป็นหนึ่งใน reference ไว้ปรับใช้ให้เหมาะกับตัวเองกันค่ะ :)

*ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพสวยๆ จากนักเรียนทุนทุกท่านนะคะ 

........

1
แนะนำตัวกันก่อน

 

อาร์ต: สวัสดีครับ ชื่อ 'อาร์ต'  ศุภกิจ เฟื่องชงมณี บัณฑิตคณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ วิชาเอกสารนิเทศศึกษา วิชาโทภาษาเกาหลีครับ

เหมียว: สวัสดีค่ะ ชื่อ 'เหมียว' ภิญญดา เดชะคุณาพงษ์  บัณฑิตคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ วิชาเอกการประชาสัมพันธ์ วิชาโทภาษาเกาหลี  ปัจจุบันทำงาน ที่บริษัทข้ามชาติแห่งหนึ่ง สายงานเกี่ยวกับการบริการลูกค้าในธุรกิจการขนส่งน้ำมันเรือเดินทะเลระหว่างประเทศค่ะ

พี: สวัสดีครับ ชื่อ 'พี' พีรพัฒน์ ล้วนมงคล เรียนจบ ป.ตรี คณะรัฐศาสตร์จุฬาฯ วิชาเอกการปกครอง วิชาโทภาษาเกาหลีครับ

........

2
จุดเริ่มต้นความประทับใจ
อะไรทำให้สนใจภาษา/ประเทศเกาหลี?

 

อาร์ต: จริงๆ ตอนม.ต้นเราก็ยังไม่รู้จักเกาหลีมากเท่าไหร่ แต่มีเพื่อนที่ชอบ Girls' Generation  เอารูปมาให้เราดู พอลองไปฟังเพลงก็รู้สึกว่า เฮ้ย เปิดโลกดีนะ เริ่มตามไปดูรายการที่เขาออก จนรู้สึกอยากฟังให้เข้าใจได้ทันทีแบบไม่ต้องพึ่งซับไตเติล ช่วงแรกกะจะเอาแค่อ่านออกเขียนชื่อเขาเป็นภาษาเกาหลีได้ แต่ไปๆ มาๆ สนุกและเริ่มมีแพสชันจนเรียนจริงจังเป็นวิชาโท ตอนนั้นเราเป็นเด็กสายวิทย์แต่ก็เปลี่ยนเป้าหมายมาเข้าคณะอักษรฯ แทน และได้ไปทำกิจกรรมของสาขาเกาหลีบ่อยๆ เพื่อเก็บประสบการณ์ด้วยครับ

เรารู้สึกชื่นชมและยอมรับประเทศเกาหลีมาก ถึงแม้ว่าเกาหลีจะเคยตกเป็นอาณานิคมของญี่ปุ่น แต่เขาสามารถก้าวข้ามผ่านจุดวิกฤตและสถานการณ์อันเลวร้าย และพัฒนาอย่างก้าวกระโดดขึ้นมาสู่ความเจริญในทุกๆ ด้าน ทั้งเศรษฐกิจ การเมือง การคมนาคม ฯลฯ  พัฒนาทุกวัน มีเรื่องให้ประทับใจตลอดซึ่งเป็นการพัฒนาที่พูดได้เต็มปากว่ามันคุ้มค่ากับภาษีที่ประชาชนต้องจ่ายไป  

ตอนไปเรียนภาษากับทำกิจกรรมที่เกาหลี เราได้ไปสัมผัสอากาศดีๆ ถนนหนทางที่สะอาดและกว้างขวาง มีที่ให้เดินเล่นมากมาย ทุกซอกซอยมีกล้อง CCTV ทำให้รู้สึกปลอดภัย ช่วงนี้ก็เห็นข่าวที่รัฐบาลพยายามติดไฟตามถนน ติดสัญญาณตามเสาในซอยมืดๆ  มีกริ่งให้กดเพื่อส่งสัญญาณตรงไปถึงสถานีตำรวจได้เลย ยิ่งทำให้รับรู้ได้ว่าคุณภาพชีวิตของประชาชนต้องมาก่อน

@aarrttist 
@aarrttist  
@aarrttist 
@aarrttist  

เหมียว: จะเรียกว่าเป็นเหตุผลเดียวกันเลยก็ได้ เมื่อประมาณ ป.6 เราชอบเพลง  I Believe (믿어요) ของ TVXQ มากกกกจนเริ่มอยากรู้ว่าที่กำลังฟังๆ อยู่เนี่ยคือภาษาอะไร ประเทศเขาเป็นยังไง แล้วก็เริ่มเรียนภาษาเกาหลีเอง ซึ่งตอนนั้นก็ได้อ่านกระทู้เกี่ยวกับภาษาเกาหลีผ่าน Dek-D นี่แหละ แล้วช่วงม.ปลายก็(หาเรื่อง)เดินทางไปเกาหลีเพื่อสอบ TOPIK สมัยนั้นยังแบ่งเป็นระดับต้น-กลาง-สูงอยู่เลย  แล้วก็เป็นเรื่องบังเอิญมากว่าสถานที่สอบในตอนนั้นคือ Sungkyunkwan University (SKKU) ที่เรากำลังจะได้ไปเรียนป.โทเดือน ส.ค.นี้แหละค่ะ

พอเราได้ไปสัมผัสเกาหลีจริงๆ เราประทับใจเกาหลีเพราะการเดินทางสะดวกมาก เข้าถึงเกือบทุกที่ มีแอปฯ คอยบอกว่ารถบัสรถไฟฟ้าอยู่ไหน ซึ่งมันดีต่อสุขภาพจิตเพราะไม่ต้องเสียเวลารอรถเก้อ ไม่ต้องกลัวนัดคนอื่นแล้วไปสาย  บริหารชีวิตก็ง่าย ถ้าวางแผนอะไรไว้ก็ได้ทำหมด แถมยังปลอดภัยเพราะไม่ต้องรอรถมืดๆ หนาวๆ คนเดียวที่ป้ายรถเมล์

@thmiyaosk
@thmiyaosk

พี:  ได้รู้จักเกาหลีครั้งแรกตอนช่วงชีรีส์แดจังกึมกำลังดังในบ้านเรา ตอนนั้นอยู่ประถมเองครับ รู้จักแค่ตัวซีรีส์ แต่ยังไม่ได้รู้จักประเทศเขาอย่างละเอียด พอขึ้นมัธยมกระแส K-Pop ก็เริ่มเข้ามากขึ้น ทำให้เรารู้จักเกาหลีมากขึ้นด้วย  ในตอนนั้นยังไม่ได้มีความสนใจที่จะเรียนด้านภาษาที่สามใดๆ เลย ถึงแม้ที่โรงเรียนผมเอง(รร.มัธยมวัดมกุฏกษัตริย์)จะเปิดห้องภาษาเกาหลีทั้งมัธยมต้นทั้งมัธยมปลายก็ตาม 

พอช่วงม.6  ที่ต้องตัดสินใจเลือกสาขาเรียนต่อ เนื่องจากตอนนั้นเราได้รับผลกระทบจากความเหลื่อมล้ำมาก เลยตั้งใจเลือกคณะรัฐศาสตร์เพื่อที่จะได้จบมาเป็นคนปรับเปลี่ยนโครงสร้างตรงนั้น (เลือกคณะรัฐศาสตร์จุฬาฯ ไป 3 อันดับในแอดมิชชันเลยครับ) ระหว่างเรียนป.ตรี เราก็พยายามหาสกิล/ความรู้ด้านอื่นๆ ไปด้วย คิดว่าลงเรียนวิชาโทเป็นสาขาอื่นน่าจะดีครับ เลยตัดสินใจไปลองเรียนวิชาโทนิเทศฯ / โทญี่ปุ่น  / โทเกาหลี

หลังจากลองเรียนวิชาโทไปแล้วอย่างน้อยสาขาละ 2 ตัว ก็ตัดสินใจเลือกเกาหลีเพราะเรียนแล้วชอบและสนุกไปกับมัน บรรยากาศการสอนของอาจารย์ก็อบอุ่นจนเป็นความรู้สึกที่อยากเรียนไปทุกวันจริงๆ ยิ่งมาทำกิจกรรมแล้วเจอเพื่อนคนเกาหลีดีๆ ก็ยิ่งมั่นใจกับเป้าหมายการเรียนต่อมากขึ้น  จนเปลี่ยนสายจากรัฐศาสตร์มาด้านภาษาเกาหลีแทนเลยครับ พวกสื่อบันเทิงอย่างเพลง หนัง ซีรีส์ มีส่วนทำให้เราชอบเหมือนกัน เวลาเหนื่อยๆ แล้วมานั่งฟังนั่งดู เหมือนเข้า comfort zone เลย ผมว่าใช้เวลาว่างกับอะไรงี้ก็ดีอ่ะ สนุกแล้วได้ความรู้ไปด้วย เพราะเขาจะแทรกสาระหรือแง่มุมที่น่าสนใจไว้ตลอด

@sehyxn (พี่พี)
@sehyxn (พี่พี)

........

3
สมัครผ่าน  Embassy / University Track?
เลือกหลักสูตรและที่นี่เพราะอะไร?

 

อาร์ต: (สมัคร Embassy Track)

  1. สาขา International Studies คณะ Liberal Arts & Social Sciences ที่ Graduate school of International Studies, Korea University (*เลือกอันดับนี้)
  2. สาขา International Studies คณะ Liberal Arts & Social Sciences ที่ Seoul National University
  3. สาขา Humanities and Social Sciences คณะ International Studies (GSIS) ที่ Pusan National University 

อาร์ต: ด้วยความที่เรียนจบอักษรฯ มา เลยได้เข้าใจ เรียนรู้และเห็นมุมมองในภาพกว้างๆ เหมือนเราก็สามารถต่อยอดพลิกแพลงได้เยอะพอสมควร และอยากลองต่อยอดไปในเส้นทางใหม่ๆ ที่คิดว่าจะตอบโจทย์การทำงานในอนาคตครับ เราเองค่อนข้างสนใจสายที่เกี่ยวกับด้านระหว่างประเทศและความร่วมมือต่างๆ อยู่แล้ว เลยมานั่งดูตัวเลือกในไกด์ไลน์การสมัครเทียบกันหลายๆ ม.ครับว่าคณะไหนน่าสนใจบ้าง แต่ละมหาวิทยาลัยก็จะมีหลักสูตรและชื่อเมเจอร์ที่ต่างกันออกไป เช่น International Relations, International Cooperation, International Development and Cooperation เลยนั่งพิจารณาวิชาเรียนและหลักสูตรตามเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยควบคู่ไปด้วย 

สุดท้ายก็มาลงเอยที่สาขา International Studies ใน major International Development and Cooperation เพราะหลักสูตรมีความหลากหลาย และวิชาเรียนมีความน่าสนใจกว่าเพราะเรียนควบคู่กันทั้ง  2 ด้าน แถมยังเป็นคณะเด่นคณะนึงของ ม.โคเรียเลยก็ว่าได้ครับ

พอเลือกมหาลัยในกลุ่ม SKY (Seoul, Korea, Yonsei) ก็กังวลเหมือนกันนะครับ เพราะโอกาสน้อยและการแข่งขันสูงมากกกก แต่เราเชื่อมั่นในศักยภาพด้านการศึกษาของเขาจนกล้าที่จะเสี่ยง  // ฝากถึงทุกคนว่าจริงๆ ไม่จำเป็นต้องเลือก SKY เสมอไปก็ได้นะครับ เน้นเลือกสถาบันที่โดดเด่นในด้านที่เราสนใจจะดีกว่าครับ

고려대학교 - Korea University, Seoul
고려대학교 - Korea University, Seoul
@ku1905 

  เหมียว: (สมัคร Embassy Track)

  1. Graduate School of Business ที่ Yonsei University
  2. คณะ Graduate School of Business สาขา SKK GSB Full-Time MBA ที่ Sungkyunkwan University (*ได้อันดับนี้)
  3. Full-time Global MBA ที่ Chonnam National University  

  เหมียว: หลังเรียนจบเราทำงานตำแหน่ง Customer Experience Professional ที่บริษัทข้ามชาติอุตสาหกรรมพลังงานแห่งหนึ่งมา 3 ปี เป็นฝ่ายบริการลูกค้าในธุรกิจขนส่งน้ำมันเรือซึ่งเป็นงานที่ต้องติดต่อกับลูกค้าญี่ปุ่นเป็นหลัก และประสานงานกับ Supplier ชาติต่างๆทั่วโลก แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นก็มีประเทศเกาหลี ซึ่งเรารู้สึกประทับใจการจัดการการขนส่งน้ำมันของที่เกาหลีที่มีความผิดพลาดน้อยและยังรวดเร็ว เลยจุดประกายให้เราอยากเรียนรู้เทคโนโลยีและการบริหารแบบเกาหลีในอุตสาหกรรมด้านการขนส่งและการบริการลูกค้ามากขึ้น จนมาเจอข้อมูลว่าหลักสูตร MBA ของ SKKU เป็นที่ยอมรับมากในเกาหลีและในระดับโลก (Ranked #35 in Global MBA Ranking 2021 , Financial Times)

อีกทั้งยังมีวิชาเลือกที่ทันเหตุการณ์ เช่น AI / Blockchain / Big data analysis ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นอย่างมากสำหรับการต่อยอดธุรกิจการขนส่งและการบริการ และการเรียนการสอนแบบเน้น Case Study, Action Based โดยมี Consulting Projects ให้ทำ ซึ่งได้ยินมาว่าจะมีบริษัทที่เป็นพาร์ตเนอร์กับ SKKU มาเป็นลูกค้าจริงๆ 

แล้วหลักสูตรที่เราเลือกก็เป็น  english 100% เรียนปีครึ่ง อาจารย์และเพื่อนร่วมคลาสเป็นคนจากหลายชาติที่มีความสนใจเกี่ยวกับประเทศเกาหลี  ซึ่งเรารู้สึกว่าเราชอบสภาพแวดล้อมที่เป็น Global แบบนี้ เพราะเรายังคงชอบการทำงานเน้น Result Oriented แบบตะวันตก แต่ก็อยาก explore อุตสาหกรรมการขนส่งของเกาหลีที่มุ่งสู่ความเป็น Global ด้วย  จากเหตุผลต่างๆ เหล่านี้เราเลยสรุปได้ว่าที่นี่เหมาะกับบุคลิกและเป้าหมายของเราที่สุดจึงเลือกที่นี่เป็นคำตอบสุดท้ายค่ะ  (ถ้าสนใจลองเข้าไปอ่านรายละเอียดได้ที่นี่ ล่าสุด มี Guideline สำหรับเด็กทุน GKS โดยเฉพาะด้วย)

성균관대학교 - Sungkyunkwan University International
성균관대학교 - Sungkyunkwan University International
@skkuintl
Samsung Library, SKKU
Samsung Library, SKKU
@skkuintl

พี:  (สมัคร University Track เลือกได้ 1 คณะ) ผมเลือกเป็นคณะ Humanities and Social Sciences สาขา Korean Language & Literature ที่  Kyung Hee University ก็เน้นเพลย์เซฟด้วยส่วนหนึ่ง แต่เหตุผลหลักคือถึงม.คยองฮีจะไม่ได้อยู่ใน SKY แต่ก็อยู่ใน Top10 และมีต่างชาติไปเรียนเยอะมาก คิดว่าหลักสูตรทางนั้นน่าจะเหมาะกับนักเรียนต่างชาติด้วย แล้วเป็นชื่อที่ได้ยินบ่อยเพราะ พี่ทราย รุ่นพี่ในโรงเรียนที่เค้าได้ทุนรัฐบาลเกาหลีเค้าก็จบป.ตรี-โทจากที่นั่น กับอาจารย์คนไทยเก่ง ๆ หลายๆ ท่านก็เรียนจบจากสาขานี้ของม.นี้ด้วย 

ผมก็กลับไปนั่งหาข้อมูลหลักสูตร ประกอบกันดูว่าอาจารย์ทำวิจัยด้านไหนบ้าง ปรากฏว่าเจออาจารย์ท่านหนึ่งที่เคยทำวิจัยด้านที่ผมกำลังสนใจพอดี เราเลยโอเค ที่นี่ตอบโจทย์ทุกอย่าง  (*มีรุ่นน้องคนไทยที่เรียนอยู่เกาหลีในสาขาเดียวกันแนะนำว่าถ้าเลือกม.ควรจะดูอาจารย์เป็นหลักครับ) 

ส่วนสาขาตอนแรกผมก็ลังเลนะว่าจะเลือกอะไรดีระหว่าง Korean Studies ที่เรียนเรื่องเกาหลีแบบรอบด้านทั้งภาษา สังคม วัฒนธรรม เศรษฐกิจ การเมือง ฯลฯ หรือสาขา Korean Language and Literature ที่เจาะภาษา วรรณกรรม และวัฒนธรรมโดยตรง สุดท้ายก็ชั่งน้ำหนักแล้วลงด้านภาษาและวัฒนธรรมเต็มๆ ดีกว่า เพราะตอนเรียนคณะอักษรฯ รู้สึกมีแพสชันกับด้านนี้ อยากเรียนให้ลงลึกไปเลย

경희대학교 - Kyung Hee University
경희대학교 - Kyung Hee University
@sehyxn

อาร์ต: เสริมเป็นข้อเปรียบเทียบระหว่าง 2 Tracks ให้เห็นภาพชัดขึ้นนะครับ

กรณีสมัครผ่านสถานทูตหรือ Embassy Track 

  • เลือกได้ 3 คณะ ตอนนี้เขาเพิ่งเปลี่ยนกฎโดยแบ่งคณะเป็น Type A, B ซึ่งจะบังคับให้เลือก  B  1 ที่เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้สมัครได้คว้าโอกาสได้มากขึ้น  โดยกลุ่ม B จะค่อนข้างไปทางนอกเมืองหน่อยแต่มีชื่อเสียงและศักยภาพดีเหมือนกัน
  • กดดันและเตรียมตัวเยอะกว่ามากๆ  ต้องสัมภาษณ์ทั้งรอบสถานทูตและ/หรือมหาวิทยาลัยทั้ง 3 ที่ที่เราเลือก
  • ถ้าสมัคร 3 ที่ 3 คณะ จะต้องทำการบ้านหนักเรื่องการเขียน SoP ให้สอดคล้องกับคณะที่เลือก
  • ประหยัดค่าส่งเอกสาร แต่จะมีเรื่องการรับรองเอกสารยิบย่อยเยอะ

กรณีสมัครผ่านมหาวิทยาลัย หรือ University Track

  • พุ่งเป้าหมายไปยังคณะที่จะสมัครได้เลย เขาจะได้เห็นถึงความตั้งใจว่าอยากเรียนที่นี่จริงๆ
  • ขั้นตอนน้อยกว่า แต่ก็เลือกอันดับได้น้อยกว่า
ลิสต์มหาวิทยาลัยที่เลือกเรียนได้ตามประกาศปี 2021
ลิสต์มหาวิทยาลัยที่เลือกเรียนได้ตามประกาศปี 2021

........

4
คะแนนที่ยื่น & วิธีเรียนภาษา
(พร้อมแชร์ช่องทางเรียนสำหรับผู้ที่สนใจ)

 

อาร์ต:  ต้องเช็กในไกด์ไลน์คณะนั้นๆ ว่าต้องการคะแนนภาษาเกาหลีหรือภาษาอังกฤษ และกำหนดขั้นต่ำเท่าไหร่ ส่วนเรายื่นทั้งคะแนน TOPIK6 และ TOEIC ครับ 

ส่วนภาษาเกาหลี ผมมีเรียนจากวิชาโทเกาหลีที่จุฬาฯ เป็นหลักอยู่แล้ว พยายามฝึกกับอาจารย์หรือเพื่อนคนเกาหลี นอกนั้นคือเป็นคนชอบดูวาไรตี้ เช่น Knowing Brothers หรือ Vlog คนเกาหลี ซีรีส์ หนัง (ถ้าฝึกผ่านเพลงก็สามารถทำได้แต่บางทีจะผิดไวยากรณ์หรือเรียงประโยคแปลกไปบ้างครับ) สื่อพวกนี้จะทำให้เราเจอคำที่ใช้ในชีวิตประจำวันและได้ฝึกสำเนียงด้วยครับ ต่างจากในหนังสือซึ่งเป็นรูปแบบมาตรฐานที่เราเรียนเป็นวิชาโท นอกจากนี้ก็ฝึกทำข้อสอบบ่อย ๆ อ่านภาษาเกาหลีตามป้ายประกาศ บนผลิตภัณฑ์ อ่านและฟังข่าวเกาหลีจากสำนักข่าวหรือตาม Naver บ้างครับ 

ส่วนที่คิดว่ายากสุดสำหรับภาษาเกาหลี ผมว่าคือคำศัพท์ อาจเพราะเราเป็นต่างชาติที่ยังต้องเรียนรู้อีกเยอะ ยังไม่รู้ว่าศัพท์บางคำใช้ในบริบทไหนได้บ้าง รวมถึงเรื่องความละเอียดอ่อนที่อยู่ในตัวไวยากรณ์ การใช้ที่ต่างกันตามสถานการณ์ มีระดับความสุภาพเข้ามาเกี่ยวข้องครับ :) แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือควรหารูปแบบการฝึกทักษะภาษาที่เข้ากับตัวตนเราให้ได้มากที่สุด ดูรายการที่ไอดอลที่เราชื่นชอบไปออกก็ได้ ทำให้เราได้ผ่อนคลายพร้อมรับสาระความรู้ไปพร้อมๆ กัน หาอะไรที่เราทำแล้วไม่เบื่อและสนุกไปกับมันจะดีที่สุดครับ

แนะนำหนังสือที่ใช้เรียนที่เกาหลี

서울대 한국어  (มีหลายเล่ม)
서울대 한국어  (มีหลายเล่ม)
aminoapps.com

เหมียว: เรายื่น TOPIK5 / TOEIC925 / JLPT N2 / เกรด 3.51   

ถ้าจะพูดถึงวิธีการเตรียมตัวสอบไม่ว่าจะ TOEIC (ภาษาอังกฤษ), JLPT (ภาษาญี่ปุ่น) หรือ TOPIK (ภาษาเกาหลี) ก็คือการทำข้อสอบเก่าวนไปทั้งหมด 555 ต้องฝึกทำให้เร็วขึ้นเรื่อยๆ และพลาดน้อยลง มีจุดอ่อนตรงไหนค่อยๆ มาวิเคราะห์ แต่ถ้าพูดถึงการเรียนภาษาในระยะยาวเราควรเอาตัวเองไปอยู่ในสถานการณ์ที่จะได้ใช้ภาษานั้นให้ได้มากที่สุด สำหรับเราการได้ยินทุกวันและใช้ทุกวันแค่วันละนิดวันละหน่อย ภาษามันจะค่อยๆ ซึบซับและเราจะรูู้สึกสนุกกับมันมากกว่าการอ่าน Text Book หนาๆ แล้วคัดตัวอักษรซ้ำๆ ดังนั้นนอกเหนือจากการพยายามใช้ภาษากับเจ้าของภาษาโดยตรง การศึกษาผ่าน Youtube ก็ถือเป็น Platform ที่เข้ากับสไตล์การเรียนภาษาของเรา เพราะเหมือนมีคนคอยพูดให้ฟังแล้วก็ไม่น่าเบื่อด้วย 

ถ้าเป็นภาษาเกาหลีเราอยากแนะนำช่องยูทูบ Hannijemi  มีวิดีโอสอนวิเคราะห์และเทคนิคทำข้อสอบ TOPIK ครบทุกทักษะและเข้าใจง่าย เวลาคิดแล้วเขียนตามจะช่วยให้เรียนได้แบบสนุกๆ โดยที่เราไม่ต้องอ่าน textbook เลย  ส่วนภาษาญี่ปุ่นเรามีพื้นฐานอยู่แล้วจากการเรียนแผนศิลป์-ญี่ปุ่นที่รร.เตรียมอุดม และเคยไปแลกเปลี่ยนมา 6 เดือน แต่ถ้าใครจะฝึกทำข้อสอบ JLPT เราขอแนะนำเป็นช่องยูทูบ Nihingonomori (日本語の森) ค่ะ ครูตลกมาก คำอธิบายกระชับได้ใจความดี แบ่งเป็น Level เรียนสะดวกมากๆ  

แต่สรุปแล้วจริงๆ เราว่าแต่ละคนมีวิธีการเรียนที่เหมาะกับตัวเองที่ต่างกัน บางคนอาจจะสนุกกับการอ่าน Text Book ดื่มด่ำกับตัวอักษรก็ได้ เราต้องลองเรียนจากหลายๆสื่อ และค้นหาว่าตัวเองชอบแบบไหน ขอแค่ให้มีวินัยในการเรียนอย่างสม่ำเสมอ น่าจะนำไปสู่ผลลัพธ์ทางภาษาที่น่าพึงพอใจที่สุดนะคะ

พี: นอกจากเรียนวิชาโทเกาหลี ก็จะเน้นเรียนรู้ด้วยตัวเองครับ (ยื่น TOPIK 5)

  • ฝึกสกิลจากอ่าน webtoon เกาหลี ผมว่าเป็นสื่อที่ไม่น่าเบื่อเลย และเป็นภาษาพูดที่ไม่ทางการและคนเกาหลีใช้จริง ทำให้เราทันเทรนด์ของเค้า อาจจะจุดที่ยากคือบางคำใหม่เกินจนไม่มีในดิกฯ และเป็นแกรมมาร์ที่ไม่รู้จักมาก่อน
  • เริ่มอ่านข่าวเกาหลีบนเว็บ Naver เลือกข่าวที่เราน่าสนใจและไม่ยาวเกิน ถ้าว่างก็ลองนั่งแปลเล่นๆ ศัพท์จากข่าวจะทางการหน่อย มีโอกาสได้เจอในข้อสอบ
  • เปลี่ยนภาษาในโทรศัพท์ แนะนำว่าควรมีพื้นมาก่อนระดับนึง ไม่งั้นจะกดเมนูอะไรไม่ถูก
  • ดูซีรีส์ ฟังพอดแคสต์ ผมขอแนะนำเป็น Talk To Me In Korean ครับ ช่องนี้ดีมากกก มีพาร์ต IYAGI (เรื่องเล่า) มีหัวข้อแต่ละเทปที่เค้าดิสคัสกันมาพร้อมสคริปต์ ซึ่งจะดีกว่าการนั่งฟังเฉยๆ
  • อ่านหนังสือเตรียมสอบจากเกาหลี ดูศัพท์ที่ออกบ่อยใน TOPIK + ฝึกเขียน ผมมีลงคลาสวันเสาร์ของจุฬาฯ  ที่สอนเขียนสำหรับสอบ TOPIK โดยตรงด้วยครับ

........

5
แชร์ประสบการณ์เรียนและทำงาน
ตัวอย่างรางวัล/ผลงานที่ใส่ลงพอร์ตฯ
 

อาร์ต:  เรามีเลือกส่งผลงานที่เกี่ยวข้องกับคณะที่สมัคร เพราะที่ผ่านมาก็ร่วมกิจกรรมของสาขาเกาหลีที่จุฬาฯ เพื่อเก็บประสบการณ์ตลอดไม่ค่อยได้คาดหวังในตัวรางวัลเลยครับ เช่น 

  • เคยได้ทุน ‘Asian University Network Scholarship (AUNS) ไปเรียนภาษา 1 ปีที่ Korean Language Education Center of LEI (Fall 2019~Summer 2020) เป็นโครงการในความร่วมมือระหว่างสาขาวิชาภาษาเกาหลี จุฬาฯ และ Seoul National University เป็นโครงการที่เปลี่ยนชีวิตมากครับ ภาษาเกาหลีพัฒนาขึ้นมากๆ ได้ไปสัมผัสความเป็นเกาหลีอย่างแท้จริงในระยะยาว ได้เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ได้พบปะเพื่อนๆ ชาวต่างชาติที่คอยช่วยเหลือและแลกเปลี่ยนมุมมองกันในหลายๆ ด้าน อาจารย์ก็น่ารักและใจดีมากๆ เลยครับ
     
  • ได้รับเลือกไปเข้าร่วมโปรแกรมทักษะผู้นำ 'ACC Global Leadership Program'  ประทับใจมากเพราะได้ไปสัมผัสประเทศเกาหลีในหลายๆ มุมเป็นครั้งแรก เรียนทักษะความเป็นผู้นำ เข้าถึงเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมรอบด้าน และรู้จักเพื่อนต่างชาติเยอะมาก ได้แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมร่วมกัน เป็นทริปที่สนุกมากๆ เลยล่ะครับ (ตอนนั้นยังเรียนภาษาเกาหลี 2 อยู่เลยครับ)
     
  • ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ The 28th AKS Summer Program for International Students ที่ประเทศเกาหลี (แต่สละสิทธิ์ไป)
     
  • เคยเข้าร่วมการคัดเลือกเพื่อหาตัวแทนไปแข่งสุนทรพจน์ภาษาเกาหลี
     
  • เคยไปแข่งประกวดเขียนเรียงความในงาน The 6th Sungkyun Writing Contest in Vietnam จัดโดย Sungkyunkwan University ถึงจะไม่ได้รางวัลกลับมา แต่ได้เปิดประสบการณ์ และทราบว่าเรายังบกพร่องในจุดไหนและนำกลับมาพัฒนาทักษะทั้งการเขียนและคำศัพท์ครับ
     
  • ช่วยงานที่คณะอักษร จุฬาฯ ทั่วไป เช่น เป็นสตาฟกิจกรรม, งานอบรมสัมมนา, Korean Festival ฯลฯ
@aarrttist 
@aarrttist  
@aarrttist 
@aarrttist  

เหมียว:  ส่วนของเราก็เล่าประสบการณ์การทำงานในบริษัทเป็นหลักพร้อมยกผลงานโดดเด่นที่เกี่ยวข้องกับประเทศเกาหลีมาซัพพอร์ต ตอนมหาลัยก็เคยเข้าแข่งขัน ASEAN Creative Touism Public Relations Campaign ที่ Bali Indonesia ร่วมกับคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ และ London School of Public Relations Jakarta Campus โดยการรวมกลุ่มกับเพื่อนชาวอินโดนีเซียคิด Campaign ย่อมๆขึ้นมาเพื่อประชาสัมพันธ์ให้คนไทยอยากไปเที่ยวบาหลี และคนบาหลีอยากไปเที่ยวเมืองไทยมากขึ้น

ส่วนกิจกรรมของวิชาโทเกาหลี เราเคยเป็นตัวแทนไปเข้าร่วม Youth camp for Asia’s future ที่ได้ไปเรียนรู้วัฒนธรรมเกาหลีผ่านการไปเยี่ยมเยียนสถานที่สำคัญต่างๆ ใน Seoul-Suwon-Andong-Gyeongju-Jeju ซึ่งนอกจากเพื่อนคนเกาหลีแล้ว เราก็ได้เจอเพื่อนๆจากหลายประเทศในเอเชีย และร่วม Discuss ปัญหาทางสังคมและสิ่งแวดล้อมต่างๆ อย่างสนุกสนานได้ไอเดียใหม่ๆ

นอกจากนั้นก็เราเคยไปฝึกงานเป็นอาสาสมัครโครงการ World Internship Project ที่จัดโดย Hippo Family Club (Lex Institute) ซึ่งเป็น NGO ด้านความหลากหลายทางภาษาและวัฒนธรรม จากญี่ปุ่น ตอนนั้นมีเพื่อนๆ อาสาสมัครจากหลายประเทศทั้งอเมริกา เม็กซิโก รวมถึงคนเกาหลีด้วย กิจกรรมที่เราประทับใจที่สุดคือตอนที่เราไปจัดกิจกรรมห้องเรียนความหลากหลายที่โรงเรียนประถมเพื่อปลูกฝังให้เด็กญี่ปุ่นเข้าใจความแตกต่างและความหลากหลายทางวัฒนธรรมตั้งแต่เล็กๆ เนื่องจากในปัจจุบันที่ประเทศญี่ปุ่นจะมีเด็กลูกครึ่งหรือคนที่ไม่ได้เป็นเชื้อสายญี่ปุ่นแท้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แล้วเด็กๆอาจจะยังมองว่าเพื่อนเหล่านั้นแปลกแยกจากตน เลยไม่กล้าเข้าไปทำความรู้จัก ดังนั้นเราก็จะเข้าไปเป็นตัวกลาง และเล่าเรื่องราวของประเทศเราให้พวกเขาคุ้นเคย เข้าใจในความแตกต่างและอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างสงบสุขในอนาคตค่ะ

@thmiyaosk
@thmiyaosk
@thmiyaosk
@thmiyaosk

พี: ผมก็แอคทีฟกับการทำกิจกรรมมากๆ เลยครับ บางงานก็ไปกับอาร์ตด้วย 5555 เวลามีกิจกรรมของในคณะรัฐศาสตร์ ในคณะอักษรฯ  ระดับมหาวิทยาลัย และนอกมหาวิทยาลัย ก็จะสมัครเข้าร่วมไว้ก่อน จะได้พัฒนาสกิลและเห็นตัวเองชัดขึ้น ต่อให้ไม่มีรางวัลหรือเกียรติบัตรก็ต้องได้อะไรกลับมาแน่นอน เช่น ความสามารถ และประสบการณ์

  • เคยไปแลกเปลี่ยนโครงการ AKS Summer Program for International Students เป็นแนวๆ เรียนรู้เชิง Korean Studies นาน  4 สัปดาห์ครับ เมื่อก่อนจะจัดปีละครั้ง ครั้งละ 4 สัปดาห์ ปัจจุบันจัดปีละ 2 ครั้ง ครั้งละ 3 สัปดาห์
     
  • เคยไปร่วม  The 29th International Youth Forum ที่ให้เยาวชนต่างชาติไป conference ภายใต้หัวข้อ The 4th Industrial Revolution with Youth: Life in Future จัดที่เกาหลีใต้โดยใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก และทำกิจกรรมเกี่ยวกับวัฒนธรรม เช่น ชมวัง ใส่ชุดฮันบก หรือเข้าคลาสเต้น K-POP
     
  • เคยไปแข่งการเขียนภาษาเกาหลีที่เวียดนามในการแข่งขัน The 6th Sungkyun Writing Contest in Vietnam จัดโดย Sungkyunkwan University
     
  • ทำกิจกรรมเชิงวิชาการและกิจกรรมทั่วไปที่จัดทั้งในคณะรัฐศาสตร์ คณะอักษรฯ และระดับมหาวิทยาลัย เช่น ไปเป็นสตาฟอีเวนต์ต่างๆ หรือเป็นผู้เข้าร่วมเอง
     
  • เคยไปเป็นเพื่อนกับเด็กแลกเปลี่ยนเกาหลีที่มาแลกเปลี่ยนเรียนเอกไทยที่จุฬาฯ พาไปเที่ยวหลายที่เลย แล้วทำให้ได้รู้จักวัฒนธรรมของเขาในแบบที่ไม่เคยรู้มาก่อน // พอดีมีเทอมนึงวิชาเรียนน้อยมากจนไปถามอาจารย์ว่ามีอะไรให้ทำไหม เค้าเลยแนะนำให้ไปเป็นเพื่อนกับเด็กแลกเปลี่ยนครับ ใครว่างๆ ลองเข้าไปของานกับอาจารย์ดูได้นะครับ 555
@sehyxn
@sehyxn

........

6
แนะนำทริคเขียนเรียงความ SoP
(Statement of Purpose)

 

อาร์ต:  SoP  คือเรียงความที่จะทำให้มหาวิทยาลัยรู้จักเรามากขึ้น  กำหนดให้เขียนไม่เกิน 2 แผ่น  โดยแยกเป็นแพลนเรียนภาษากับเป้าหมายในอนาคต จะเขียนภาษาอังกฤษหรือเกาหลีก็ได้ครับ แนะนำให้ดูว่าคณะเรียนอะไร ให้เขียนภาษานั้นครับ

  • Language Study Plan ถ้าไม่มีพื้นฐานภาษาเกาหลีมาก่อน ควรแสดงให้เห็นความตั้งใจที่จะพัฒนาตัวเองในทักษะด้านต่างๆ ครับ
  • Study Plan เล่าเป้าหมายการเรียนให้เห็นภาพอย่างเป็นรูปธรรม แสดงให้เห็นทั้งคุณสมบัติและความตั้งใจของเรา
  • Future Plan เน้นเล่าเป้าหมายหลังเรียนจบ เช่น อยากทำงานที่ไหน ยกตัวอย่างเช่นอยากลองหางานทำที่เกาหลีโดยใช้สิ่งที่เรียนมาตั้งแต่ป.ตรี-โท ให้เกิดประโยชน์ทั้งกับเขาและเราครับ

เขาจะมีคำถามไกด์ไลน์มาให้อยู่แล้วว่าต้องเขียนครอบคลุมอะไรบ้าง (แต่ละปีกำหนดต่างกัน) ไม่ควรจ้างใครเขียนเด็ดขาด และอย่าประดิษฐ์เยอะ นอกจากจะเขียนให้น่าติดตามแล้ว ควรจะเขียนเป็นรูปธรรมจับต้องได้ และเป็นธรรมชาติให้มากที่สุดเพื่อให้เขารู้จักตัวตนเรา ใส่ความตั้งใจว่าอยากได้ทุนนี้เพราะอะไร ทำไมอยากเรียน ทำไมถึงตัดสินใจสมัคร ฯลฯ จริงๆ แล้วขึ้นอยู่กับวิธีการเล่าเลยครับ ลองนึกภาพว่าเราเป็นกรรมการต้องอ่านใบสมัครเป็นร้อยๆ ใบ ทุกคนก็เขียนคล้ายกันหมดมันก็ไม่เป็นที่จดจำถูกไหมครับ ดังนั้นเราต้องทำยังไงก็ได้ให้ใบสมัครของเราโดดเด่นและน่าติดตาม อยากแนะนำว่าควรหาข้อมูลเยอะๆ ควรเขียนล่วงหน้าจะดีที่สุด เขียนทิ้งไว้แล้วค่อยกลับมาอ่านใหม่ ขอคำแนะนำหรือฟีดแบคจากคนรอบข้างด้วยก็ได้ครับ แก้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะเสร็จสมบูรณ์ในแบบฉบับของเราครับ

@aarrttist 
@aarrttist  

เหมียว: หลักๆ เราอาศัยตอบคำถามด้วย main idea ก่อนแล้วค่อยเขียน supporting idea เสริมเข้าไป เช่น เขาถามเป้าหมาย ก็ควรเขียนตั้งแต่ต้นไปเลยว่าอยากทำประมาณไหนด้วยวิธีการอะไร แล้วการทำสิ่งนี้จะสร้างประโยชน์อะไรให้แก่สังคมบ้าง อย่าลืมว่าต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานความจริงและเป็นไปได้ด้วย สมมติใครอยากเป็นเจ้าของธุรกิจที่นำเข้าอุปกรณ์ Health Care ก็ต้องแสดงให้เห็นว่าเรามีรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้และการบริหารธุรกิจมากแค่ไหน แล้วทำไมคนไทยถึงต้องการอุปกรณ์นี้  เขียนบรรยายด้วยหลักฐานให้กรรมการเห็นภาพ

@thmiyaosk
@thmiyaosk

พี: ควรจะเริ่มจากถามตัวเองก่อนว่าอยากทำอะไร อยากเรียนต่อด้านไหน ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนแล้วรีเสิร์ชข้อมูลโดยการอ่านหนังสือฟิลด์ที่เราสนใจว่าตัวเองคลิกกับอะไรที่สุด (เช่น สาขาเรา Korean Language and Literature ที่ Kyung Hee University ก็จะมี Korean Linguistics, Korean Education, Classical Literature, Modern Literature และ Korean Cultural Contents) จากนั้นก็ปรึกษาคนที่เรียนด้านนี้จริงๆว่าแนวทางนี้จะพาไปถึงเป้าหมายที่เราตั้งไว้ได้ไหม

จากนั้นก็กลั่นกรองมาเขียน SoP   ผมทำกิจกรรมเยอะเลยเลือกหยิบมาใส่ได้เยอะ ถึงงานไหนไม่ได้รางวัลกลับมา เราก็เล่าได้นะว่างานนั้นให้อะไรกับเราบ้าง  บางทีเรื่องเล็กๆ ที่เราคิดว่าไม่สำคัญ มันอาจสำคัญก็ได้ อยู่ที่มุมที่เราเลือกจะนำเสนอให้เขาเห็น

โดยรวมคือต้องทำ SoP ให้สมเหตุสมผล ตอบครอบคลุมทุกอย่างที่เค้าถาม โดยไม่เพ้อฝัน ไม่เกินจริง หาวิธีเล่าเชื่อมให้ทุกย่อหน้าทุกประโยคสมเหตุสมผลกัน  และอย่าแสดงทัศนคติด้านลบลงไป พอเขียนเสร็จก็ลองอ่านใหม่ ลบอะไรที่รู้สึกไม่เกี่ยวข้องลงไป ผมเองรีเสิร์ชข้อมูล ปรึกษา เขียนๆ ลบๆ นานเป็นเดือนเลยครับ

พี่อาร์ตและพี่พี (คนที่ 4 และ 5 นับจากซ้าย) 
พี่อาร์ตและพี่พี (คนที่ 4 และ 5 นับจากซ้าย) 
ไปร่วมกิจกรรมที่เวียดนามพร้อมกัน
@sehyxn

อาร์ต: เรื่องเอกสารควรเผื่อเวลาไว้เยอะๆ ศึกษาให้ละเอียด เราอ่านหลายรอบมากเพราะกลัวตีความผิดด้วย อย่าเพิ่งท้อนะครับ อาจให้เพื่อนช่วยๆ กันอ่านว่าเข้าใจตรงกันมั้ยก็ได้

ปกติทุนจะประกาศช่วงกุมภาพันธ์ เราก็อาจไปศึกษาข้อมูลเอกสารอิงจากปีก่อนๆ แล้วพอเขาประกาศรอบใหม่ก็มาเช็กอัปเดตรายละเอียดอีกทีเผื่อมีการเปลี่ยนแปลง ถ้าเอกสารไหนไม่ใช่ภาษาอังกฤษหรือเกาหลีก็ต้องแปลแล้วไปรับรองครับ   ระหว่างนั้นเริ่มร่างเรียงความ (SoP) ไว้ก่อนเปิดรับสมัครล่วงหน้าสักเดือนสองเดือนเลย อย่าคิดว่าแป๊บเดียวจะเขียนเสร็จ เราเห็นแต่ละคนแก้เป็นสิบๆ รอบกว่าจะส่งได้ ถ้าเขียนเสร็จอาจจะทิ้งช่วงไว้พักนึงแล้วมาอ่านใหม่ ให้เพื่อนช่วยอ่านด้วยก็ได้ครับ

........

7
รีวิวสั้นๆ กับบรรยากาศสัมภาษณ์
(เจอกี่รอบ, ภาษาอะไร, เตรียมตัวยังไงบ้าง)

 

อาร์ต:  กดดันมาก ㅠㅠ  ต้องสัมภาษณ์ออนไลน์เพราะเป็นช่วงโควิด ไปสถานทูตไม่ได้ เราโดนสัมภาษณ์สองภาษาเลย เป็นคำถามพื้นฐานรอบตัวเราและอยู่ในใบสมัครที่ส่งไป เช่น SoP, Study Plan บางคนอาจเจอคำถามจิตวิทยาก็ได้   วิธีเตรียมตัวของเราคือซ้อมตอบคำถามแบบดักทุกทางให้ได้มากที่สุด แล้วซ้อมพูดคนเดียวทั้งภาษาอังกฤษกับเกาหลี เราเตรียมตัวสัมภาษณ์ไม่ต่ำกว่า 2-3 รอบ เพราะนอกจากสถานทูตแล้ว มหา'ลัยทั้ง 3 ที่เราเลือกอาจมาสัมภาษณ์เราด้วย

เหมียว: เราสัมภาษณ์ทั้งกับสถานทูต เป็นภาษาอังกฤษ+เกาหลี และ มหาวิทยาลัย (SKKU) เป็นภาษาอังกฤษล้วน มีทั้งเรื่องเบสิกทั่วไป พื้นความรู้ของสิ่งที่จะเรียนนิดหน่อย และมีคำถามที่เราประทับใจคือ อาจารย์เขาถามว่าคิดเห็นยังไงกับอนาคตของธุรกิจการขนส่งน้ำมันและอิทธิพลของ Blockchain // จริงๆ มันเป็นคำถามที่เราไม่ได้คาดคิดเลยอึ้งนิดหน่อย แต่เราก็ตอบไปโดยใช้ประสบการณ์และความรู้ที่เรามี(แม้จะน้อยนิด) และจากคำถามนี้ก็ยิ่งทำให้มั่นใจว่าเราอยากเรียนที่นี่ อยาก Discuss เรื่องนี้กับเพื่อนและอาจารย์ เพราะมันเป็นธุรกิจที่ใกล้ตัวเราและเรามีความสนใจ

พี:  ของผมเป็น University Track มีโอกาสที่ม.นั้นจะสัมภาษณ์/ไม่สัมภาษณ์ ส่วนผมเจอสัมผ่าน Zoom สั้นๆ ไม่เกิน 5 นาที (ตอนแรกคิดว่าจะไม่มี เพราะเคยมีคนเมลไปถามทางมหาวิทยาลัยแล้ว จู่ๆ เขาก็แจ้งกระชั้นชิดจนแทบไม่ได้เตรียมตัวเลย 5555) ตอนนั้นมีกรรมการ 3 คน มาถึงเริ่มทักเป็นภาษาอังกฤษ พอเราตอบกลับภาษาเกาหลี เค้าก็เลยสัมเราต่อเป็นภาษาเกาหลีซะเลย ส่วนคำถามผมไม่เจอนอกเหนือจากใน SoP ที่เขียนไปครับ มีประมาณเรื่องการเรียนภาษาเกาหลี, สิ่งที่ยากที่สุด, เป้าหมายหลังเรียนจบ, เหตุผลที่เลือกเรียนที่นี่ ฯลฯ 

@sehyxn
@sehyxn

........

8
อัปเดตสถานการณ์โควิด
รูปแบบการเรียน,  การกักตัว, วัคซีน ฯลฯ

 

อาร์ต: เราออกเดินทางสิ้นเดือน ก.ค.นี้แล้วครับ ไปถึงแล้วต้องกักตัว 14 วัน เรื่องเอกสารค่อนข้างขั้นตอนเยอะ เพราะสถานการณ์ทำให้ขั้นตอนล่าช้าและเวลาถูกบีบลง ช่วงนี้จะทำเรื่องเอกสารลำบากขึ้น มีตรวจสุขภาพ แต่ที่เกาหลีมีนโยบายฉีดวัคซีนฟรีให้คนต่างชาติด้วย น่าจะช่วง ส.ค.-ก.ย. นี้แหละครับ (ส่วนตอนนี้คิดว่าน่าจะได้เรียนออนไลน์แน่ๆ เลย ㅠㅠ)  หวังว่าโควิดจะดีขึ้นในเร็ววันนะครับ 

เหมียว:  เราบินวันที่ 1 ส.ค.ค่ะ ตอนนี้เราก็เริ่มเก็บกระเป๋าไปกักตัว 14 วัน  ทาง SKKU จะให้ลิสต์คร่าวๆ ด้วยว่าเขามีอะไรเตรียมไว้ให้ แล้วเหลืออะไรที่เราต้องเตรียมเองบ้าง ส่วนรูปแบบการเรียนทาง SKKU บอกว่าเป็น Hybrids คือผสมผสานระหว่างออนไลน์กับออฟไลน์ ต้องรอประกาศที่แน่นอนอีกครั้งตามสถานการณ์ แต่ตอนนี้ทางมหาลัยส่งคอร์ส Pre-MBA มาให้เรียน Online แล้ว เรียกได้ว่าเริ่มเรียนตั้งแต่ยังไม่ถึงเกาหลีเลย (ดูเหมือนว่าการแจกจ่ายวัคซีนในเกาหลีค่อนข้างเป็นระเบียบอยู่แล้ว หวังว่าจะได้กลับไปใช้ชีวิตปกติได้เร็วๆ ในเทอม  2 เป็นอย่างช้า)

พี: น่าจะได้ออกเดินทางช่วง ส.ค.ครับ หลังจากที่รู้ว่าได้ทุนก็ต้องไปตรวจสุขภาพเพื่อยื่นวีซ่า ซึ่งช่วงนี้จะต้องระวังเป็นพิเศษเลย ถ้าใครเป็นโควิดขึ้นมาจะลำบากมากเพราะเรื่องเอกสารต้องเดินเรื่องทำด้วยตัวเอง  ส่วนจะได้เรียนออนไลน์มั้ย ช่วงนี้ยังต้องรอประกาศจากทางมหา'ลัยอีกทีครับ

ซ้ายพี่อาร์ต :  @aarrttist 
ซ้ายพี่อาร์ต :  @aarrttist  
ขวาพี่พี : @sehyxn 

........

9
พาร์ตส่งท้าย!
ชวนพี่ศิษย์เก่า 3 คน รีวิวโทเกาหลีจุฬาฯ ให้ฟัง

 

ด้วยความที่พี่อาร์ต, พี่เหมียว และพี่พี เลือกเรียนวิชาโทเป็นภาษาเกาหลีทั้งหมด และตั้งแต่ปี 2561  เป็นต้นมา คณะอักษรจุฬาฯ ก็เปิดสอนเป็นเอกเกาหลี (เรามีขนทีมงานไปบุกถึงถิ่นแล้วด้วย อ่านต่อที่นี่ค่ะ) เราเลยขอถือโอกาสนี้ชวนนักเรียนทุนทั้ง 3 คนมาช่วยรีวิวทั้งเรื่องการเรียน สังคม และกิจกรรม เผื่อมีน้องๆ ที่กำลังตัดสินใจเรียนต่อสาขานี้ที่จุฬาฯ // ด้านล่างนี้สรุปมาให้แล้ว ตามมาอ่านกันเลยค่ะ!

ภาพจากบทความรีวิวเอกเกาหลีจุฬาฯ (Dek-D)
ภาพจากบทความรีวิวเอกเกาหลีจุฬาฯ (Dek-D)
  1. ความเจ๋งของจุฬาฯ คือเปิดโอกาสให้นิสิตเลือกเรียนวิชาโทข้ามคณะได้อย่างอิสระ และคณะอักษรฯ ก็มีทั้งเอกและโทให้เลือกเยอะมากด้วย (เช่นพี่เหมียวเด็กนิเทศฯ กับพี่พีเด็กรัฐศาสตร์ ก็เลือกเรียนเป็นโทเกาหลีของคณะอักษรฯ ได้) ซึ่งถ้าเกิดนิสิตคณะใดก็ตามที่ตั้งใจจะเรียนโทเกาหลี จะต้องช่วงชิงที่นั่งลงเรียน "วิชาเกาหลี1"  ให้ผ่านก่อนถึงจะเรียนตัวต่อไปได้ หรือไม่ก็ต้องสอบข้ามเงื่อนไข // วิชานี้คือบูมสุดๆ ด้วยนะคะ
     
  2. สังคมสาขานี้อบอุ่นมาก มีทั้งอาจารย์ที่น่ารักและเป็นกันเอง แถมแต่ละคนก็เก่งและมีดีกรีเป็นนักเรียนทุนรัฐบาลเกาหลีทั้งนั้นเลยค่ะ ใครสงสัยเรื่องภาษาหรือ Career Path ก็ถามได้หมด ทำให้นิสิตสบายใจที่จะเรียนและคุยกับอาจารย์
     
  3. มีทั้งครูไทยและครูเกาหลี ยกตัวอย่างวิธีการสอนเช่น ใน 1 คาบมี 3 ชั่วโมง ใน 2 ชั่วโมงแรกเรียนไวยากรณ์และการอ่าน + ชั่วโมงสุดท้ายเรียนสอน-ฟัง-พูด กับครูเจ้าของภาษา  ช่วงแรกแต่ละคนก็จะเขินๆ แต่เขาสอนแบบเข้าใจผู้เรียน ส่วนผู้เรียนก็พยายามพัฒนาตัวเองไปด้วย
     
  4. วิชาโทจะมีบังคับ 7 วิชา แต่ละวิชาเรียน 3 ชั่วโมง/สัปดาห์ แต่ถ้าใครเมเนจเวลาดีๆ ก็จะลงเป็นสิบๆ ตัวเหมือนพี่ในบทความนี้ก็ได้! ตัวอย่างวิชาในสาขา เช่น เกาหลี1-6 (สูงสุดน่าจะถึง TOPIK3) , Korean Writing, Reading, Culture, Grammar, Business
     
  5. ไม่ต้องกังวลว่าต้องเป็นเทพเกาหลีมาก่อนถึงจะเลือกโทนี้ได้ เพราะมีนิสิตทั้งคนที่มีพื้นฐาน/ไม่มีพื้นฐานมาก่อน อย่างพี่พีเริ่มต้นจากระดับที่ได้แค่ตัวอักษร พอปี 4 เทอม 1 ไปลองสอบก็ได้ TOPIK3  
     
  6. จากบทสัมภาษณ์ด้านบนอาจพอเดาได้ว่ากิจกรรมคณะนี้เยอะมาก และหน้าเพจของสาขา @koreanchula  ยังมีอัปเดตทุนแลกเปลี่ยน ทุนภาษา กิจกรรมจากมหา'ลัยพาร์ตเนอร์ที่เกาหลีหรือองค์กรภายนอกตลอด เช่น แข่งสุนทรพจน์ ไปแข่งเรียงความที่ต่างประเทศ กิจกรรมพัฒนาทักษะผู้นำ ฯลฯ ซึ่งในหลายกิจกรรมก็ต้องเดินทางไปเกาหลีหรือประเทศอื่นที่จัดแข่งด้วยค่ะ เรียกว่าซัพพอร์ตนิสิตกันสุดๆ
ภาพจากบทความรีวิวเอกเกาหลีจุฬาฯ (Dek-D)
ภาพจากบทความรีวิวเอกเกาหลีจุฬาฯ (Dek-D)
ภาพจากบทความรีวิวเอกเกาหลีจุฬาฯ (Dek-D)
ภาพจากบทความรีวิวเอกเกาหลีจุฬาฯ (Dek-D)
@aarrttist 
@aarrttist  

 

ถ้าอยากปรึกษาเพิ่มเติม ลองติดต่อพี่ๆ ได้ที่ช่องทางด้านล่างนี้นะคะ ^^

พี่อาร์ต IG: @aarrttist  

พี่เหมียว  IG: @thmiyaosk

พี่พี IG: @sehyxn / ryusehyun96@naver.com 

 

[ชวนอ่านต่อ]

[ข่าวทุน] ประกาศทุนรัฐบาลเกาหลี (GKS) ระดับป.โท/เอก ของปี 2021 *ศึกษาไว้เตรียมตัวล่วงหน้า

https://www.dek-d.com/studyabroad/57248/

ปิ๊งรักตารางฮันกึล: เล่าชีวิตเด็กเอกเกาหลี แลกเปลี่ยนที่ปูซาน ลุยงานล่าม แถมได้ทุนรัฐบาล ป.โท!

https://www.dek-d.com/studyabroad/55746/

ชีวิตวุ่นๆ ของเด็กทุนรัฐบาลเกาหลีที่ ม.การแพทย์ 'Konyung' ทันสมัย แล็บดี (โดนบัดดี้เทตั้งแต่วันแรก!)

https://www.dek-d.com/studyabroad/55999/ 

[กระทู้]  รีวิวทุนรัฐบาลเกาหลี(GKS)ระดับปริญญาโท 2020

https://www.dek-d.com/board/studyabroad/3998911/ 

ม.โคเรีย/ บริษัทเกาหลี/ ร่วมงานกับไอดอล: ‘HYEBAM’ ยูทูบเบอร์ผู้เริ่มต้นจากการเป็น ‘เด็กทุนรัฐบาลเกาหลี’

https://www.dek-d.com/studyabroad/58139/ 

มัดรวม 12 รีวิวรวมเทคนิคพิชิตทุนฉบับทีมเกาหลี : เตรียมตัวยังไงให้ได้ทุน?

https://www.dek-d.com/studyabroad/57689/ 

พี่กุ๊กไก่
พี่กุ๊กไก่ - Columnist มนุษย์เบ้าหน้าจีน หวีดนักร้องไทย คลั่งไคล้ซีรี่ส์เกาหลี คลุกคลีกับอาหารญี่ปุ่น

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น