รีวิวขอทุนเรียนฟรี 100% ที่ไต้หวันฉบับพื้นจีนศูนย์ กับการเรียน IMBA ใน 'Taipei Tech' ม.ดังใจกลางนครไทเป!

สวัสดีค่ะชาว Dek-D หนึ่งในเรื่องที่ #ทีมไต้หวัน หลายคนกังวลคือ “ถ้าไม่มีพื้นจีนเลยจะเรียนที่ไต้หวันได้มั้ย?” คำตอบคือมีหลายหลักสูตรในหลายมหาวิทยาลัยที่เปิดสอนเป็นภาษาอังกฤษ และให้เรายื่นเป็นคะแนนวัดระดับภาษาอังกฤษโดยไม่ต้องใช้ภาษาจีน ที่สำคัญคือไต้หวันยังมีทุนเยอะมากทั้งจากรัฐบาลและมหาวิทยาลัยโดยตรง (หนึ่งในนั้นคือทุนป.โท/เอกของ Taipei Tech ที่กำลังเปิดรับสมัคร หมดเขต 15 พ.ย.64) 

วันนี้เราจะพาไปรู้จักคนไทยที่พื้นจีนเป็นศูนย์ แล้วไปเริ่มต้นชีวิตนักเรียนทุน National Taipei University of Technology (Taipei Tech; 國立臺北科技大學) หรือ “มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีแห่งชาติไทเป” หนึ่งใน ม.Top10 ของไต้หวันจากการชาร์ตของ QS World University Rankings 2022  เล่าตั้งแต่สมัครเรียน, หลักสูตร IMBA ที่เป็นภาคอินเตอร์, แนะนำโรงเรียนสอนภาษา NTNU, การสมัครงาน, เม้าท์มอยไต้หวัน ฯลฯ จะน่าสนใจขนาดไหน เลื่อนลงมาเก็บข้อมูลกันเลยค่ะ!

“เมื่อก่อนการไปเรียนต่างประเทศแทบจะเป็นฝันกลางวันเลยครับ เพราะฐานะทางการเงินของผมไม่ได้ดี แต่พอรู้ว่าไต้หวันมีทุนให้เยอะมากก็เริ่มหาข้อมูลและพยายามอย่างหนักจนได้ทุนเรียนฟรี รู้สึกคิดไม่ผิดเลยเพราะทุกอย่างลงตัวหมดทั้งเรื่องเรียนและการใช้ชีวิต ที่สำคัญคือเป็นที่ที่อยู่แล้วสบายใจมาก สังคมเขาเปิดกว้างเรื่อง LGBTQ+ ไม่มีคนมาคอย judge เรา”
 

—  พี่จ๊อบ ศรัณย์

เจ้าของช่องยูทูบและเพจ Saran in Taiwan 

จากเด็กวิศวะการบินในไทย
เบนสายไปเรียนต่อธุรกิจที่ไต้หวัน

สวัสดีครับ ผมชื่อ ‘จ๊อบ-ศรัณย์’ เรียนจบ ป.ตรี หลักสูตรวิศวะการบินที่สถาบันพลเรือน เรามาค้นพบว่างานสายนี้ไม่ใช่ทางของเราเท่าไหร่ แต่มาชอบงาน Marketing ที่ได้ทำหลังเรียนจบมากกว่าครับ ที่สำคัญคือใจอยากไปอยู่ต่างประเทศมาก เลยนั่งหาวิธีที่ไปได้อย่างถูกต้องและเป็นไปได้ ซึ่ง budget คือเรื่องใหญ่ ส่วนที่มาสนใจไต้หวันเพราะศึกษามาว่าเค้ามีความ Westernize สูง แล้วเราเองอยากเรียนต่อป.โท + เก็บภาษาที่สาม ซึ่งภาษาจีนน่าจะช่วยเปิดโอกาสให้เราพอสมควร 

พอลองนั่งหาข้อมูลเท่านั้นแหละถึงรู้ว่าไต้หวันมีทุนเยอะมาก (จนงงว่าทำไมตัวเองไม่รู้มาก่อน 5555) ตอนขอทุนเราเริ่มจากนั่งหาข้อมูลในเน็ตแล้วยื่นขอทุนไปทั้งหมด 15 มหาวิทยาลัย เป็นด้าน MBA และหลักสูตรภาษาอังกฤษทั้งหมด  และยื่นเป็นคะแนน TOEIC 915    ซึ่งก็มีข้อดีอีกว่าส่วนใหญ่ทุนไต้หวันสมัครฟรี แค่ส่งเอกสารให้ครบ หลายที่ไม่มีสัมภาษณ์  ถ้าได้ทุนก็จองตั๋วบินได้เลย 

**ถ้าใครเริ่มจากศูนย์เหมือนกัน แนะนำว่าอันดับแรกให้หาข้อมูลคณะกับมหาวิทยาลัยที่ชอบก่อน ดูรายละเอียดและวันหมดเขตรับสมัคร

เลือกที่ไหนดี? ทริคของเราคือตั้งไว้ 3 ข้อคือ

 

  1. Ranking ค้นหา ranking ใน Google ตามคณะที่สนใจ
  2. Location ไลฟ์สไตล์เราดูเหมาะกับเมืองไหน ไทเปเมืองหลวงเลยมั้ย หรือดูต่างจังหวัดได้ ซึ่งเรามองว่าชีวิตในชนบทที่ไต้หวันก็ไม่ได้ลำบาก
  3. Scholarship เราต้องการทุนเต็มจำนวนเลยมั้ย หรือ % ลดหลั่นลงมาก็ได้ แล้วถ้าต้องการเงินเดือนด้วยก็มีตั้งแต่ 6,000, 12,000 และ 15,000 TWD อันนี้แต่ละที่ตั้งไว้ต่างกัน

**จุดหลักคือการเขียนเรียงความ Study Plan ขอทุน ต้องแสดงให้กรรมการเห็นว่าเราสนใจมหาลัยนั้นจริงๆ (ถึงแม้เราจะสมัครไป 15 ที่ก็ตาม 555 เหนื่อยนะแต่คุ้มมาก) ก่อนเขียนต้องเริ่มจากข้อมูลแต่ละที่ก่อน เช่น จุดเด่น, ranking ของคณะที่จะสมัคร ฯลฯ อีกอย่างเราไปนั่งดูรายวิชาเสริมกับวิชาเลือก แล้วดึงมาเขียนประกอบด้วย อธิบายว่าจะต่อยอดในอนาคตได้ยังไง

ปรากฏว่าเราได้รับการตอบรับประมาณ 10 ทุน และตัดสินใจเลือกที่ International Master Program in Business Administration (IMBA) ที่ National Taipei University หรือ Taipei Tech ครับ 

ทุน International Graduate Student Scholarship สำหรับคนที่จะเรียนต่อปริญญาโทหรือปริญญาเอกที่ Taipei Tech โดยเฉพาะ **ข่าวดีคือเทอม Spring 2022 จะเปิดรับสมัครตั้งแต่ 1 ต.ค.-15 พ.ย.64 นี้่นะคะ  


 ระดับปริญญาโท

-  เงินสนับสนุนค่าเล่าเรียนเต็มจำนวน (สูงสุด 2 ปี) 

-  ค่าใช้จ่ายรายเดือน NT 6,000 หรือ ~ 7,255 บาท (มอบให้ปีแรกเท่านั้น) 
 

ระดับปริญญาเอก

-  เงินสนับสุนนค่าเล่าเรียนเต็มจำนวน (สูงสุด 4 ปี)

-  ค่าใช้จ่ายรายเดือน NT 12,000 หรือ ~ 14,510 บาท (สูงสุด 4 ปี)

 

*อ้างอิงเรตเงิน 1 TWD = 1.21 บาท : อัปเดต ต.ค.64

เปิดจุดเด่นของ Taipei Tech
ม.ชั้นนำ ทำเลเลิศ!

  1. อยู่ใจกลางเมืองหลวงเป๊ะ อยู่ท่ามกลางที่ฮิตๆ อย่างซีเหมินติง (Ximending, 西門町) หรือตึกไทเป 101 ฯลฯ จะไปไหนก็สะดวกมากๆ เลย
  2. นอกจาก IMBA จะเป็นหนึ่งในคณะเด่นแล้ว คณะวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ก็ดังมาก คุณภาพติดอันดับ 4 ของไต้หวัน  แล้วยังตั้งอยู่ใกล้ย่านกงฮัว (Guang Hua) ซึ่งเป็นศูนย์กลางสินค้าไอทีขนาดใหญ่ที่สุดของไต้หวันด้วยครับ
  3. สิ่งอำนวยความสะดวกพร้อม เช่น ห้องสมุด ตึกยิม ลานบาสเกตบอล indoor ฯลฯ ที่สำคัญคือหออยู่ข้างมหา’ลัยเลยครับ (แอบบอกว่าใครสายผับแนะนำ!)

ไหนๆ ก็มาเล่าเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ทั่วไปก่อน ข้อดีของการเรียนปริญญาที่นี่คือทำงานไปด้วยได้ ค่าแรงขั้นต่ำ Part-time คือ 160 บาทต่อชั่วโมง จริงอยู่ที่ค่าครองชีพจะแพงกว่ากรุงเทพฯ สัก 20% แต่ถ้าลองคำนวณจริงๆ ถ้าเราทำงานที่ไต้หวัน 8 ชั่วโมงจะได้เงิน 1,020 บาท จ่ายรถไฟไปกลับรวม 50 บาท ค่ารถเมล์ 15 บาท ข้าวมื้อละ 120 บาท น้ำเปล่าไม่ต้องซื้อเพราะตามอาคาร ห้าง มหาวิทยาลัย มีน้ำสะอาดให้กดฟรีได้

ทั้งนี้ทั้งนั้น อยากให้เตรียมใจเลยว่าหอพักในไทเปปกติจะแพงมาก เดือนนึงประมาณ 8,000-9,000 บาท และอาจไม่สมเหตุสมผลกับสภาพห้องที่ได้ เนื่องจากเป็นเมืองหลวง คนเยอะและพื้นที่จำกัดครับ **แต่หอใน Taipei Tech สำหรับนักศึกษาปีแรกจะอยู่ใจกลางเมือง เทอมละ 9,900 บาทเท่านั้น แลกกับต้องเสี่ยงดวงเรื่องรูมเมท ห้องนึงจะอยู่ 4 คนครับ พอขึ้นปี 2 จะย้ายไปหอในที่อยู่ไกลออกไปหน่อย แต่สามารถนั่ง MRT มามหาลัยได้ สะดวกเหมือนกัน

ที่ไต้หวันต้องจองที่พักผ่านเว็บ https://www.591.com.tw  และอุปสรรคหลักคือภาษาจีน ถ้าสื่อสารไม่ได้เลยอาจต้องใช้บริการเอเยนซี่ ซึ่งเรตโหดพอสมควร (หรือแนะนำว่าจะจ้างคนไทยที่พูดจีนได้ให้ช่วยเป็นล่ามก็ได้นะครับ)

รีวิวหลักสูตร IMBA
เรียนสนุก ดิสคัสมันส์ๆ

ทุน Taipei Tech จะต่อให้ทีละ 1 ปี โดยมีเงื่อนไขว่าต้องทำคะแนนได้เกิน 85% ถึงจะได้ทุนปีถัดไป ตอนแรกฟังแล้วก็ตกใจเพราะ 85% ดูสูงมาก แต่พอมาเรียนจริงๆ ไม่ได้ยากอย่างที่คิดถ้าตั้งใจเรียนและทำ Presentation เพราะการเรียนที่นี่ไม่กดดันเลย และเพื่อนจะออกแนวช่วยกันเรียนมากกว่า นักศึกษารุ่นนึงจะมีสัก 60 คนได้ เป็นต่างชาติทั้งหมด มีทั้งจากอเมริกา เวียดนาม เยอรมนี มองโกเลีย ไทย ฯลฯ แต่ไม่มีคนไต้หวันเลย  (เรียนเป็นภาษาอังกฤษล้วนๆ)

ส่วนผู้สอนจะเป็นอาจารย์ต่างชาติกับอาจารย์ไต้หวันที่จบต่างประเทศ ประมาณครึ่งๆ เค้าจะ open-mided มากกับสิ่งที่เราพรีเซนต์ แสดงความคิดเห็นและไอเดียได้เต็มที่ หรืออย่างคำถามแรกที่เราถามในคลาส เค้าก็ตอบก่อนเลยว่า “Good Question” (=เป็นคำถามที่ดีเลยนะ) เราว่าคำถามนี้ช่วยปลดล็อกและส่งเสริมให้นักศึกษากล้าถามสิ่งที่สนใจจริงๆ

เรียนอะไรบ้าง?

หลักสูตร International Master Program in Business Administration (IMBA) ที่เราเรียนจะสอนตั้งแต่การตลาดพื้นฐาน แล้วครอบคลุมไปถึงเรื่องแนว Big Data, FinTech, Digital Marketing ฯลฯ จะมีทั้งวิชาบังคับและ slot ให้เราเลือกลงเองได้ บางคลาสจะสอน case study ทั้งหมด บางคลาสมีโปรเจกต์ให้เวลาทำทั้งเทอม หรือบางวิชาจะเกี่ยวกับ thesis **ส่วนการจะเรียนจบได้ต้องทำวิทยานิพนธ์ (Thesis) เท่านั้น เริ่มตอนปี 2 แต่ถ้าฝึกงานนี่ไม่บังคับ แล้วแต่คนเลยว่าจะฝึกมั้ย 

จำได้ว่าวิชาที่แฮปปี้สุดคือ International Advertisement อาจารย์ให้หยิบทฤษฎีที่เรียนมาประยุกต์กับไอเดียเพื่อสร้างโฆษณา 1 ชิ้น ให้ลองคิดว่าสมมติเรามี Product แล้วต้องโฆษณาในบริบทฝรั่งเศส เวียดนาม กับอินโดนีเซีย ฯลฯ เราจะ adapt ยังไงให้เข้ากับวัฒนธรรมนั้นๆ คนที่ดูจะนำเทคนิคอะไรไปปรับใช้ 

แต่ที่ยากสุดขอยกให้ Data Decision เราไป sit-in มาแล้วพบว่าอาจารย์เก่งมากกเนื้อหาแอดวานซ์สุดๆ มีทำโปรเจกต์ด้วยครับ แต่เราก็ตัดสินใจถอนเพราะคิดว่าไม่น่าจะไหวจริงๆ (ข้อดีของ Taipei Tech คือเราจะ sit-it ได้ 2 สัปดาห์ และเราสามารถถอนวิชานั้นได้ครับ)

// จริงๆ เราได้เรียนในคลาสตลอด แต่ปรับเป็นออนไลน์ช่วงนึงตอนโควิดบูม ซึ่งไม่สนุกสำหรับเราเลยยยย คิดถึงบรรยากาศการถามตอบในคลาส ได้มีปฏิสัมพันธ์ เจอเพื่อนเจออาจารย์มากๆ แต่อัปเดตคือตอนนี้ยอดผู้ติดเชื้อลดลงแล้ว คิดว่าหลังฝึกงานคงมีโอกาสได้กลับไปเรียนในคลาสเหมือนเดิมครับ

เคยมีคนบอกว่า
"ภาษาจีนยากที่สุดในโลก"

ก็จริง เริ่มตอนแรกจะยากแบบที่ทุกคนพูดเลย แถมไต้หวันยังเป็นอักษรจีนเต็มตัวอีก แต่ถ้าจับจุดได้ เราคิดว่าน่าจะพัฒนาต่อได้ไม่ยาก เพราะสภาพแวดล้อมบังคับให้ทุกคนต้องขวนขวายจนสื่อสารได้ แค่มีแพสชันว่าอยากพูดได้ก็คือการเริ่มต้นที่ดีแล้ว

สำหรับที่ Taipei Tech จะมีคอร์สเรียนภาษาจีนทั้งแบบฟรีและเสียเงินให้ไปเรียนได้ด้วย เราเคยลงเรียนแบบฟรีมานะ เค้าจะจัดเป็นรอบๆ อาจารย์ใจดีมาก คุยภาษาจีนกับเราล้วนๆ และมีใช้ภาษาอังกฤษสอนสำหรับคนเพิ่งเริ่มด้วย ซึ่งที่ Taipei Tech จะเน้น Speaking Class มากกว่า // แต่ที่เราไปลองจ่ายเงินเรียนแล้วแนะนำมากกกคือของที่ มหาวิทยาลัยครูแห่งชาติไต้หวัน หรือ ซือต้า (National Taiwan Normal University : NTNU) มีเป็น General กับ Intensive ซึ่งแบบหลังคือมีรีวิวว่ายากจนเราอาจไม่มีเวลาทำอย่างอื่นไปด้วย 

ดังนั้นเราเลยเลือกลง General ปกติเลย 1 คอร์สใช้เวลาเรียน 3 เดือน ราคาตก 27,000 บาทไทย แต่มั่นใจเลยว่าใน 3 เดือนนี้ใครที่มาพร้อมพื้นภาษาจีนเป็นศูนย์ ก็สามารถจบออกไปแบบพูดได้แน่นอน เพราะเค้ามีวิธีสอนที่เจ๋งมากจนช่วยให้เราจำและสื่อสารได้ เน้นเรื่องในชีวิตประจำวัน เช่น ถาม-ตอบ ขึ้นรถเมล์ จ่ายเงิน ฯลฯ มีแบ่งทักษะฟัง-พูด-อ่าน-เขียนครบ จนทุกวันนี้เราสื่อสารได้สบายๆ ไปหาหมอคนเดียวได้แล้ว  ใช้ชีวิตในไต้หวันง่ายขึ้นเยอะ

ทำมาแล้วทั้งพาร์ตไทม์และฝึกงาน
(+รีวิวสไตล์การทำงาน)

ฝึกงานที่ไต้หวันได้เงินด้วย!! อันนี้ข้อดีที่อยากนำเสนอเป็นอย่างแรก 55555 โดยจะได้เท่าค่าแรงขั้นต่ำ มีสวัสดิการให้ (มีประกันสุขภาพ) และจากประสบการณ์ส่วนตัวคือไม่รู้สึกว่าเค้ากีดกันต่างชาติเลย แต่ควรได้ทักษะภาษาที่เพียงพอกับลักษณะงาน อย่างร้านชานมไข่มุกจะใช้ภาษาจีนพื้นฐาน คนไทยบางส่วนก็ทำงานร้านอาหารกันนี่แหละ ส่วนเราเองก็มีเพื่อนที่ไม่ได้จีนแต่ใช้ภาษาอังกฤษในการทำงานได้

เราเคยมีโอกาสทำงาน Part-time ที่บริษัทแอปพลิเคชัน กับฝึกงานในบริษัทเกี่ยวกับอุปกรณ์ไอทีแห่งหนึ่ง ทำฝ่าย Marketing ทั้งสองที่ เพราะเป็นจังหวะที่เขากำลังตีตลาดไทยพอดี เลยต้องการคนที่คลุกคลีกับโซเชียลมีเดียที่ไทย ตอนสมัครเราเลยเล่าเรื่องที่เปิดช่อง YouTube กับเพจ Facebook ไปด้วย

เล่ารวมๆ เกี่ยวกับวัฒนธรรมการทำงานละกันครับ เราเจอความยืดหยุ่นเรื่องเวลาการเข้างาน โดยเราเข้างานได้ตั้งแต่ 9.00-10.30 น. ส่วนเวลาเลิกงานก็ทดไปตามนั้น แต่ที่ชอบมากคือเพื่อนร่วมงานน่ารักมากก และบริษัทจะมีสไตล์การทำงานแบบ Start-up เค้า open-minded ยอมรับไอเดียของคนรุ่นใหม่ (ซึ่งเขาเองก็มองหาคนที่กล้าคุยกล้าเสนอไอเดีย คัดกรองคุณสมบัตินี้มาตั้งแต่ตอนสัมภาษณ์เลยด้วยซ้ำ) เวลาทำงานดีก็ได้รับคำชม ทุกอย่างทำให้เรารู้สึกชอบที่จะได้ไปทำงานและเจอคนหลายชาติ 

#เม้าท์มอยไต้หวัน ใน 5 ข้อ
คุณภาพชีวิต / สังคม / อาหาร

1. ระบบขนส่งสาธารณะมีประสิทธิภาพ ที่ไต้หวันใช้ระบบสแกนบัตรจ่ายค่าโดยสาร ป้ายรถเมล์มีเวลารถบอก มีแอปให้เช็ก ซึ่งรถก็มาตรงเวลา และค่าโดยสารก็ถูกและสัมพันธ์กับค่าครองชีพด้วย ยอมรับเลยว่าโดยส่วนตัวเรานั่งรถไฟฟ้ากับรถเมล์ที่ไทยตลอดจนเห็นปัญหามาหมดแล้ว แต่พอมาที่นี่ เหมือนสิ่งที่หงุดหงิดในใจมันหายไปหมดเลย

2. ไทเปมีความหลากหลายทางเชื้อชาติมาก เค้าไม่ได้ discriminate เลยว่าใครเชื้อชาติไหน (แต่คนพูดจีนไม่ได้เลยอาจใช้ชีวิตลำบากหน่อย) ที่สำคัญคือเราอยู่ในกลุ่ม LGBTQ+ เรารับรู้เลยว่าไต้หวันเปิดกว้างเรื่องนี้มากจริงๆ เหมือนเป็นเซฟโซนที่อยู่แล้วสบายใจ เพราะคนที่นี่ไม่ judge คู่รักเพศไหนก็จูงมือกันในที่สาธารณะได้ แล้วยังมีกฎหมายสมรสเท่าเทียมที่ซัพพอร์ตเราอีก

3. ผู้ชายไต้หวัน.. (หรือผู้หญิงด้วยแหละๆ เอาเป็นว่าคนไต้หวันละกัน) เรารู้สึกคนที่นี่ nice มากกก นิสัยดีและชอบเทคแคร์ จนบางทีรู้สึกเหมือนเราได้พรีวิลเลจจากการเป็นคนไทยด้วยซ้ำ น่าจะเพราะเค้ามีทัศนคติบางอย่างที่ดีกับคนไทยครับ

4. เที่ยวธรรมชาติง่ายมาก ถ้าอยู่ที่ไทยเราก็มักจะนัดเที่ยวกันที่ห้างใช่มั้ยครับ หรือถ้าจะจัดทริปธรรมชาติก็ต้องนัดกันแบบดูยิ่งใหญ่ แต่พอไต้หวันแล้วเที่ยวห้างนับครั้งได้ เพราะแค่นั่งบัสหรือรถไฟก็ไปทะเลได้แล้ว ขนาดเราเองไม่ใช่คนเที่ยวสาย adventure ลุยๆ ก็ยังชอบปีนเขากับเที่ยวทะเลที่นี่เลยครับ 

5. อาหารไต้หวัน ไม่ถึงกับกินไม่ได้ครับแต่ใช้คำว่าไม่ถูกปากเราดีกว่า ไลฟ์สไตล์คนไต้หวันคือเค้ากินอาหารรสชาติไม่ได้เข้มข้นเหมือนที่เราคุ้นเคยกัน และส่วนใหญ่จะค่อนข้างอมน้ำมันด้วย แต่เราเลือกได้ มีบางเมนูที่ชอบอยู่ อย่างเช่นเสี่ยวหลงเปากับ Peanut Soup (ซุปถั่วลิสง) เราเคยกินแต่ถั่วลิสงต้ม ที่นี่มาเป็นซุปเลย ไม่รู้ทำไมกินแล้วสดชื่นจัง

อัปเดตสถานการณ์จัดการโควิด
ตัวเลือกวัคซีนเยอะและน่าเชื่อถือ!

ตอนเราบินมาถึงไต้หวัน สถานการณ์ในไทยเริ่มจะไม่ค่อยดีแล้ว แต่ไต้หวันเค้าเซฟมาตลอด จัดการดีมาก อย่างจะมีช่วงนึงที่บูมขึ้นมาคือมีผู้ติดเชื้อ 300 คน เค้าก็ออกมายกระดับความเข้มงวด ทุกคนต้องใส่หน้ากากอนามัย แล้วที่นี่ตำรวจปรับจริง และเท่าเทียม (ไม่มีแบบยัดเงินใต้โต๊ะ 500 แล้วปล่อยผ่าน) อีกอย่างคือ nature คนไต้หวันตระหนักเรื่องโควิด ทุกคนเลยร่วมด้วยช่วยกันจนยอดผู้ติดเชื้อลดเร็วมาก ทุกวันนี้เหลือ 0-1 เคสต่อวัน 

เราเป็นต่างชาติที่ได้ฉีดวัคซีนที่ไต้หวันด้วย เค้าให้ความสำคัญเท่าเทียมกัน ไม่ได้จัดเราไปอยู่พลเมืองชั้นสองที่ต้องรอฉีดทีหลัง วิธีการจองวัคซีนก็ง่ายมาก แค่เข้าวัคซีนไปลงทะเบียนไว้เฉยๆ มีให้เลือกเป็น Moderna, Pfizer, AstraZeneca และวัคซีนของไต้หวันเองคือ Medigen หรือ เกาตวน (高端) มีเกณฑ์กำหนดอยู่ว่าใครสามารถเลือกฉีดตัวไหนได้บ้าง

เปิดช่องยูทูบและแฟนเพจ
บอกต่อโอกาส & ชวนเที่ยวด้วยกัน!

เนื่องจากจุดเริ่มต้นของเราคืออยากอยู่ต่างประเทศโดยการไปเรียนต่อ เริ่มจากศูนย์จริงๆ เลยอยากนำประสบการณ์ที่มีมานำเสนอผ่านโพสต์บนเพจ saranintaiwan และคลิปบนช่อง SaranInTaiwan เพื่อบอกว่ามีโอกาสดีๆ รออยู่เยอะมาก อีกอย่างเรามาพบว่าไต้หวันน่าอยู่มากด้วย เลยอยากทำคอนเทนต์แชร์เรื่องทุนการศึกษา ท่องเที่ยว และไลฟ์สไตล์สำหรับคนไต้หวัน ให้รู้สึกเหมือนทุกคนได้มาเดินอยู่ที่นี่ด้วยกันจริงๆ

(ความภูมิใจคือตั้งแต่เปิดช่องยูทูบมา มีบริษัทสื่อไทยและไต้หวันเชิญให้ไปสัมภาษณ์ 4-5 ที่แล้ว TT ไม่คิดเลยว่าจะได้รับโอกาสดีๆ แบบนี้ ในอนาคตตั้งใจจะทำคลิปเป็นภาษาจีนด้วยครับ)

สุดท้ายนี้เรายอมรับว่าการทำคลิปไม่ง่ายเลย มันเหนื่อยมากก แต่พอเจอคอมเมนต์ที่บอกว่า “ทำคลิปต่ออีกนะคุณจ๊อบ” “คลิปมีประโยชน์มากครับพี่จ๊อบ” และทุกคอมเมนต์ อ่านแล้วใจชื้นเลย เป็นกำลังใจที่ดีมากๆ และทำให้เรายิ่งอยากตั้งใจทำคลิปต่อไป // ถ้าใครที่ดูคลิปอยู่แวะมาทักทายในช่องคอมเมนต์กันได้เลยนะครับ :)

…….

[ ชวนอ่านต่อ ]

‘วินนี่’ สาวนักเรียนทุน “ไต้หวัน” 
เมืองเทคโนโลยี การศึกษาดี ค่าครองชีพถูก!

พี่กุ๊กไก่
พี่กุ๊กไก่ - Columnist มนุษย์เบ้าหน้าจีน หวีดนักร้องไทย คลั่งไคล้ซีรี่ส์เกาหลี คลุกคลีกับอาหารญี่ปุ่น

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

1 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด
กำลังโหลด