มาแล้ว! ทุนดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ เรียนต่อ ป.โท/เอก เศรษฐศาสตร์ ที่ 'LSE' สถาบันดังในอังกฤษ ปี 2022

สวัสดีชาว Dek-D ทุกคน  วันนี้ทุนการศึกษาดีๆ ที่ใครหลายคนรอคอยมาฝากกัน นั่นก็คือ ‘Dr. Puey Ungphakorn Centenary Scholarship’ จากธนาคารแห่งประเทศไทย  สำหรับผู้สนใจเรียนต่อที่ มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งอังกฤษ อย่าง London School of Economics and Political Science (LSE) และอยากร่วมงานกับ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เลื่อนลงมาเช็กรายละเอียดและเงื่อนไขต่างๆ ของทุนรอบนี้กันเลยค่ะ

ระดับและสาขา

ในแต่ละปีการศึกษาจะให้ปีละ 1 ทุน ในระดับและสาขาวิชาที่ ธปท. กำหนด ดังนี้ 

ปริญญาโท 

• Econometrics and Mathematical Economics
• Economics
• Finance
• Finance & Economics
• Financial Mathematics
• Finance & Private Equity
• Risk & Finance
• Quantitative Methods for Risk Management
• Data Science

ปริญญาเอก 

• Economics
• Finance
• Statistics or Methodology (with a focus on Data Science)

คุณสมบัติผู้สมัคร

1. มีสัญชาติไทย
2. อายุไม่เกิน 35 ปีบริบูรณ์ นับถึงวันที่ 20 พฤษภาคม 2565
3. หากเป็นเพศชาย ต้องผ่านการรับราชการทหาร หรือพ้นการเกณฑ์ทหารแล้ว หรือมีหลักฐานแสดงว่าไม่ต้องรับราชการทหาร
4. เป็นผู้ที่ได้รับการตอบรับจาก The London School of Economics and Political Science (LSE) เพื่อเข้าศึกษาในปีการศึกษา 2565 ในระดับปริญญาโทหรือปริญญาเอก ในสาขาวิชาตามที่ ธปท. กำหนด ทั้งนี้ต้องเป็นการตอบรับแบบไม่มีเงื่อนไขทางด้านภาษา หรือ เป็นผู้ที่กำลังศึกษาระดับปริญญาโท หรือปริญญาเอก ที่ LSE ในสาขาวิชาตามที่ ธปท. กำหนด โดยมีระยะเวลาในการศึกษาเหลืออยู่ไม่น้อยกว่า 1 ภาคการศึกษา
5. กรณีที่ผู้สมัครเป็นพนักงาน ธปท. จะต้องแจ้งให้หัวหน้าส่วนงานรับทราบ
6. เป็นผู้มีศีลธรรม วัฒนธรรม และความประพฤติดี
7. ไม่เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษา หรือคำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมายถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท หรือความผิดลหุโทษ
8. ไม่เป็นโรคอันอาจเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา หรือเป็นโรคติดต่อที่เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติงานในอนาคต
9. ไม่เป็นผู้ที่อยู่ระหว่างการรับทุนที่มีสัญญาผูกพันในการปฏิบัติงานชดใช้ทุนใดๆ หรือไม่เป็นผู้มีสิทธิ์รับทุน หรือเป็นผู้ที่มีเงื่อนไขในการรับทุน ธปท. ให้ศึกษาในระดับที่สูงขึ้นได้
10. เป็นผู้ที่มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามของผู้ที่จะได้รับการบรรจุเป็น พนักงาน ธปท. ตามระเบียบ ธปท. ในวันที่รับทุน

เอกสารและหลักฐานประกอบการสมัคร

1. รูปถ่ายหน้าตรง ไม่สวมหมวกและไม่สวมแว่นตาดำ ถ่ายมาแล้วไม่เกิน 6 เดือน ขนาด 1 นิ้ว 1 รูป
2. ประวัติย่อ (Resume) และ Statement of Purpose  1 ชุด
3. สำเนาหนังสือแสดงการยกเว้น หรือผ่านการเกณฑ์ทหาร 1 ชุด
4. สำเนาปริญญาบัตรและใบแสดงผลการศึกษา (Transcript) ที่แสดงผลการเรียนตลอดหลักสูตรของวุฒิการศึกษาที่ผ่านมา ในทุกระดับปริญญา อย่างละ 1 ชุด
5. ระดับปริญญาเอก ให้ระบุหัวข้องานวิจัย/วิทยานิพนธ์ Research Area of Interest แผนการศึกษาและหัวข้อที่ต้องการศึกษา วิจัย ที่เป็นประโยชน์ต่องาน ธปท. เพื่อประกอบการพิจารณา
6. ใบแสดงผลสอบภาษาอังกฤษ TOEFL หรือ IELTS ที่มีอายุไม่เกิน 2 ปี นับถึงวันปิดรับสมัคร (หากมี)
7. ใบตอบรับจากLSE ให้เข้าศึกษาในระดับ และสาขาวิชาที่ ธปท. กำหนด พร้อมแนบรายชื่อวิชาและคำอธิบายประกอบของหลักสูตรที่ได้รับการตอบรับ หรือ กรณีที่กำลังศึกษาอยู่ที่ LSE ให้ส่งหนังสือรับรองจากสถานศึกษาว่าเป็น ผู้กำลังศึกษาในระดับปริญญาโท หรือระดับปริญญาเอก ในสาขาวิชาที่ ธปท. กำหนด และมีระยะเวลา ในการศึกษาเหลืออยู่ไม่น้อยกว่า 1 ภาคการศึกษาพร้อมแนบรายชื่อวิชาและคำอธิบายประกอบของ หลักสูตรที่กำลังศึกษา
8. กรณีผู้สมัครเป็นพนักงาน ธปท. ให้มีแบบฟอร์มหนังสือรับทราบจากหัวหน้าส่วนงาน

การสมัครทุน

ผู้สมัครสอบสามารถกรอกแบบฟอร์มใบสมัครออนไลน์พร้อมแนบหลักฐานประกอบการสมัคร ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 ถึงวันที่ 20 พฤษภาคม 2565 โดยดูรายละเอียดได้ทางเว็บไซต์ของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ http://www.bot.or.th หัวข้อ "ประกาศรับสมัครทุน/ สมัครออนไลน์" 

การคัดเลือก

รอบที่ 1  คัดเลือกจากข้อมูล เอกสารต่างๆ รวมถึง Statement of Purpose ของผู้สมัคร และ/หรือ อื่นๆ ที่คณะกรรมการคัดเลือกเห็นสมควร ทั้งนี้ หากมีการสอบสัมภาษณ์ทางวิชาการ ผู้มีสิทธิ์เข้ารับการคัดเลือกจะต้องเข้ารับการสัมภาษณ์ทางวิชาการตามวัน เวลา และสถานที่ ที่ ธปท. กำหนด

รอบที่ 2  ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกรอบที่ 1 จะต้องเข้ารับการสอบสัมภาษณ์ ตามวันเวลา และสถานที่ที่ ธปท. กำหนด โดยจะประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ ภายในเดือนมิถุนายน 2565 ที่เว็บไซต์ ธปท. http://www.bot.or.th หัวข้อ "ประกาศรับสมัครทุน/สมัครออนไลน์" 

การประกาศผลการคัดเลือก ธปท.จะประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์ได้ทุนภายในเดือนกรกฎาคม 2565 ทางเว็บไซต์ของ ธปท. ที่ http://www.bot.or.th หัวข้อ "ประกาศรับสมัครทุน/สมัครออนไลน์" และจะประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์ได้รับทุนเท่านั้น 

สิทธิและข้อผูกพันในการรับทุน 

1. ผู้ได้ทุนจะได้รับค่าใช้จ่ายตามหลักเกณฑ์ที่ ธปท. กำหนด
    
2. ผู้ได้ทุนที่สำเร็จการศึกษาตามที่ ธปท. กำหนด ธปท. จะรับเข้าเป็นพนักงาน ตามระเบียบของ ธปท. ทั้งนี้ ธปท. สงวนสิทธิ์ในการรับเข้าทำงานหากเห็นว่าไม่เหมาะสม
    
3. ในกรณีที่ผู้ได้ทุนไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับ ระเบียบ คำสั่ง ประกาศ คู่มือวิธีปฏิบัติของ ธปท. และประพฤติตนในทางที่จะนำมาซึ่งความเสียหายหรือเสื่อมเสียแก่ ธปท. ไม่ว่าใน ทางตรงหรือทางอ้อม และเป็นกรณีร้ายแรง ธปท. สามารถยกเลิกการให้ทุนและไม่รับเข้าเป็นพนักงาน โดยผู้ได้ทุนต้องชดใช้เงินค่าใช้จ่ายที่ ธปท. ได้จ่ายคืนไปทั้งหมดคืน ธปท. และต้องชดใช้เงินอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งเท่ากับจำนวนค่าใช้จ่ายดังกล่าวเป็นเบี้ยปรับแก่ ธปท.
    
4. ผู้ได้ทุนที่ ธปท. รับเข้าเป็นพนักงานของ ธปท. จะต้องทำงานให้ ธปท. เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 2 เท่าของระยะเวลาที่ได้ทุน และหากผู้ได้ทุนทำงานให้ ธปท. ไม่ครบกำหนดผู้ได้ทุน ต้องชดใช้เงินที่ ธปท. ได้จ่ายไปทั้งหมดหรือตามส่วน โดยคำนวณจากระยะเวลาที่ไม่ได้ทำงานให้ ธปท. คืน ธปท. และต้องชดใช้เงินอีกจำนวนหนึ่งซึ่งเท่ากับเงินจำนวนที่ ธปท. เรียกคืนทั้งหมดหรือตามส่วน ดังกล่าวเป็นเบี้ยปรับแก่ ธปท.
    
5. ในกรณีที่ผู้ได้ทุนไม่อาจศึกษาได้ครบตามหลักสูตรในเวลาที่กำหนด หรือผู้ได้ทุนนั้นศึกษาได้ผลไม่สมตามความมุ่งหมายของ ธปท. ทาง ธปท. สามารถยกเลิกการให้ทุนและไม่รับเข้าเป็นพนักงาน นอกจากนี้ ธปท. อาจเรียกหรือไม่เรียกให้ผู้ได้ทุนชดใช้เงินที่ ธปท. ได้จ่ายไปทั้งหมดหรือบางส่วนคืน ธปท. ก็ได้ และอาจเรียกหรือไม่เรียกให้ใช้เงินอีกจำนวนหนึ่งซึ่งเท่ากับเงินจำนวนที่ ธปท. เรียกคืนทั้งหมดหรือบางส่วนดังกล่าวเป็นเบี้ยปรับแก่ ธปท. ก็ได้
    
6. ในกรณีที่ผู้ได้ทุนสละสิทธิ์การรับทุนภายหลังจากที่ได้ศึกษาไปแล้ว หรือไม่ศึกษาวิชาตามที่ ธปท. ให้ความเห็นชอบ หรือประพฤติตนในทางที่จะนำมาซึ่งความเสียหายแก่ ธปท. หรือทำงานให้ไม่ครบกำหนดระยะเวลาด้วยประการใดๆ ผู้ได้ทุนต้องชดใช้ทุนการศึกษาที่ ธปท. ได้จ่ายไปแล้วทั้งหมดและต้องจ่ายเงินอีกจำนวนหนึ่งซึ่งเท่ากับเงินจำนวนดังกล่าวเป็นเบี้ยปรับแก่ ธปท. ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ผู้ได้ทุนได้รับแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรจาก ธปท. และผู้ได้ทุนต้องยินยอมให้ ธปท. คิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของจำนวนเงินที่คงค้างชำระนับตั้งแต่วันที่ครบกำหนดชำระ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม