สรุปมาให้แล้ว! ทุนนักศึกษาวิจัย (ป.โท/เอก) โดยรัฐบาลญี่ปุ่น ประจำปี 2566 (หมดเขต 6 มิ.ย. 65)

สวัสดีครับนชาว Dek-D ทุกคนนน คราวก่อนมีข่าว ‘ทุนรัฐบาลญี่ปุ่น’ สำหรับเรียนต่อระดับปริญญาตรี มาบอกต่อไปแล้ว รอบนี้เป็นโอกาสดีสำหรับชาวป.โท-เอก สายวิจัยกันบ้างครับ!

สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ประกาศรับสมัคร “ทุนรัฐบาลญี่ปุ่น ประจำปีการศึกษา 2566 (Japanese Government (MEXT) Scholarship 2023)” หรือที่เรียกกันว่า 'ทุนมง' มอบให้สำหรับนักเรียน-นักศึกษาชาวไทย ได้ศึกษาต่อที่ประเทศญี่ปุ่นแบบฟรีๆ ไม่ต้องใช้ทุนคืน ครอบคลุมตั้งแต่ค่าเล่าเรียน เงินสนับสนุนรายเดือน รวมถึงค่าเดินทางไป-กลับ โดยทุนนี้จะเปิดรับสมัครทั้งหมด 4 ประเภททุน ดังต่อไปนี้

1. ทุนนักศึกษาปริญญาตรี (Undergraduate Students)
2. ทุนนักศึกษาวิจัย (Research Student) ระดับป.โท/เอก
3. ทุนนักศึกษาวิทยาลัยเทคโนโลยี (College of Technology Students)
4. ทุนนักศึกษาวิทยาลัยฝึกอบรมวิชาชีพ (Specialized Training College Students)

มูลค่าทุน  & สิทธิประโยชน์

• ค่าธรรมเนียมการสมัครเรียน & ค่าเล่าเรียนเต็มจำนวนตลอดหลักสูตร
• ค่าใช้จ่ายส่วนตัวมูลค่าตั้งแต่ 143,000- 143,500 เยนต่อเดือน (ประมาณ 37,608-38,134 บาท)
• ตั๋วเครื่องบินไป-กลับประเทศญี่ปุ่น

Notes:  

• ระยะเวลาทุนนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2023 ถึงมีนาคม 2025
• อ้างอิงเรตเงิน 1 เยน = 0.026 บาท ณ วันที่ 7 พ.ค. 65

สาขาวิชาที่เปิดรับสมัคร

คุณสมบัติผู้สมัคร

• สัญชาติไทย
• มีอายุไม่เกิน 35 ปี (วันเกิดนับจากวันที่ 2 เมษายน 1988 หรือหลังจากนี้)
• มีความสนใจเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่น และพร้อมที่จะเรียนภาษาญี่ปุ่นถ้าหากได้รับทุน
• มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง
• จบการศึกษา (หรือคาดว่าจะจบ ) ระดับปริญญาตรีหรือโท ภายในสิงหาคม 2023
• มีเกรดเฉลี่ยสะสมในระดับป.ตรี ไม่ต่ำกว่า 3.25 และมีเกรดระดับ ป.โท ไม่ต่ำกว่า 3.50 (ถ้ามี)
• หรือ  ถ้าหากมีเกรดเฉลี่ยสะสม 3.00 ในระดับป.ตรี จะต้องยื่นหลักฐานดังต่อไปนี้ (เลือกอย่างหนึ่ง + ผลสอบไม่เกิน 2 ปี นับจากวันสมัครทุน)
  - ผลสอบ JLPT ระดับ N1/N2
  - ผลสอบ EJU วิชาภาษาญี่ปุ่น ขั้นต่ำ 200 คะแนน
  - คะแนนภาษาอังกฤษ CEFR ระดับ B2 หรือสูงกว่า (เทียบเท่า  TOEFL iBT 72, IELTS 5.5, TOEIC 785 หรือสูงกว่า) 
  - หรือเรียนจบระดับป.ตรี/โท ในหลักสูตรที่ทำการเรียนการสอนเป็นภาษาญี่ปุ่นหรือภาษาอังกฤษ

 เอกสารประกอบการสมัคร

1. Admission Form ตัวจริง 1 ฉบับ (บัตรเข้าห้องสอบ) ส่งทั้ง 2 ส่วน
2. Application Form ตัวจริง 1 ฉบับ
3. รูปถ่ายขนาด 4.5×3.5 ซม.  จำนวน 3 รูป (รูปครึ่งตัวบน หน้าชัด ไม่สวมหมวก ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน) + เขียนชื่อและสัญชาติลงด้านหลังรูป และแนบไปกับเอกสาร 2 ข้อแรก
4. แผนการศึกษาและวิจัย (Field of Study and Research Plan) 1 ฉบับ
5. Placement Preference Application Form (กรอกข้อมูลให้ครบถ้วนแต่ยังไม่จำเป็นต้องติดต่อในช่วงยื่นสมัครทุน)  1 ฉบับ
6. ทรานสคริปต์ 1 ฉบับ (ตัวจริง)
7. สำเนาหลักฐานรับรองการจบการศึกษา 1 ฉบับ ซึ่งออกโดยสถาบันศึกษา (สำหรับผู้ที่เรียนจบแล้ว)
8. หนังสือรับรองการเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย 1 ฉบับ (สำหรับผู้ที่กำลังเรียนอยู่ระดับมหาวิทยาลัย)
9. บทคัดย่อวิทยานิพนธ์  (แนบประกอบมาด้วย หากผู้สมัครได้เขียนธีสิสไว้แล้ว)
10. ใบสอบวัดระดับภาษา ระบุคะแนนที่ได้ 1 ฉบับ (สามารถยื่นได้ทั้ง JLPT, TOEFL, IELTS ฯลฯ //  ไม่บังคับส่ง )
11. ผลสอบ EJU 1 ฉบับ (ถ้ามี)

Notes:

• เอกสารทั้งหมดจะต้องเป็นภาษาอังกฤษหรือภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น
• หนังสือรับรอง (Recommendation Letter) และใบรับรองแพทย์ (Medical Certificate) ยังไม่ต้องส่งในด่านรอบเอกสาร หากผ่านเข้ารอบถัดไปจะต้องแนบไปด้วย
• ผู้ที่ต้องการสมัครทุนควรศึกษา Application Guideline และ Annex ซึ่งเป็นกำหนดการและข้อกำหนดของประเทศไทยอย่างละเอียดก่อนทำการสมัคร เพื่อป้องกันการถูกตัดสิทธิ์

วิธีการสมัคร

ผู้สมัครต้องส่งเอกสารทั้งหมดมาถึงสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย หรือสถานกงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่ ภายในวันจันทร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2565 เวลา 16.30 น. โดยจะเปิดรับใบสมัครทางไปรษณีย์เท่านั้น

กำหนดการอื่นๆ 

• ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบข้อเขียน (written examination) ที่เว็บไซต์ของ  Embassy of Japan in Thailand ในวันจันทร์ที่ 20 มิถุนายน 2022
• สอบข้อเขียนในวันอาทิตย์ที่ 26 มิถุนายน 2022 (ต้องเลือกสนามสอบเพียงที่เดียว พร้อมระบุใน Admission Form)
• ประกาศผลสอบข้อเขียนในวันศุกร์ที่ 8 กรกฎาคม 2022
• สำหรับผู้ที่ผ่านเข้ารอบสอบสัมภาษณ์ จะดำเนินการทางออนไลน์ 
  - Social Sciences and Humanities  (26-27 ก.ค. 65)
  - Natural Sciences (1-2 ส.ค. 65)
• ประกาศผลสอบสัมภาษณ์วันที่ 4 สิงหาคม 2022

หมายเหตุ

1. หากเอกสารไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ หรือส่งมาล่าช้ากว่าที่กำหนด จะไม่รับพิจารณา
2. สำเนาใบรับรองการจบการศึกษาต้องเป็นสำเนาที่ออกหรือรับรองโดยโรงเรียน/มหาวิทยาลัยเท่านั้น สำเนาที่ถ่ายเอกสารจากฉบับจริงไม่สามารถใช้ได้
3. จะมีการจำกัดจำนวนผู้เข้าสอบข้อเขียนในแต่ละสนามสอบ สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นและสถานกงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่จะคัดเลือกผู้มีสิทธิ์เข้าสอบข้อเขียนโดยพิจารณาเอกสารสมัครที่ส่งมาและไม่เปิดเผยเกณฑ์การคัดเลือก
4. ขอให้ผู้สมัครตรวจสอบสถานะการจัดส่งเอกสารกับผู้ให้บริการไปรษณีย์ด้วยตนเอง
5. ตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบข้อเขียนและสถานที่สอบในวันจันทร์ที่ 20 มิถุนายน 2565 เวลา 15.00 น. ที่เว็บไซต์สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยและสถานกงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่
6. ผู้มีสิทธิ์สอบข้อเขียนสามารถรับบัตรเข้าสอบคืนได้ที่หน้าสนามสอบในวันสอ
7. ศึกษาตัวอย่างข้อสอบเก่าได้ ที่นี่ 

สอบถามเกี่ยวกับการสมัคร

ผู้ที่ลงสอบในกรุงเทพฯ, ขอนแก่น และสงขลา

• Embassy of Japan in Thailand
• Tel: 02-207-8504, 02-696-3004
• E-mail: japanese-scholarship@bg.mofa.go.jp
• ติดต่อในวันจันทร์-ศุกร์ (เว้นวันหยุดราชการ)

ผู้ที่ลงสอบในเชียงใหม่  

• Consulate-General of Japan in Chiang Mai
• Tel: 052-012-500 ext. 190
• E-mail: culture@tm.mofa.go.jp
• ติดต่อในวันจันทร์-ศุกร์ (เว้นวันหยุดราชการ)

[ชวนอ่านต่อ]

สำหรับใครที่มองหาโอกาสโกอินเตอร์ ตอนนี้มีหลายทุนกำลังเปิดรับสมัคร
ตามไปเช็กกันต่อได้เลยที่ "โปรแกรมค้นหาทุนเรียนต่อนอก by Dek-D"