สวัสดีชาว Dek-D ทุกคนค่ะ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า “สิงคโปร์” หนึ่งในประเทศเพื่อนบ้านสมาชิกอาเซียนของเรานั้น นอกจากจะมีเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและโครงสร้างพื้นฐานที่ดีแล้ว ในด้านระบบการศึกษาก็ถือเป็นแนวหน้าของโลกด้วยค่ะ
วันนี้พี่พลอยกี้เลยจะพาน้องๆ ไปทำความรู้จักกับ ‘The National University of Singapore’ มหาวิทยาลัยในฝันของใครหลายคน มาดูกันว่าทำไมที่นี่ถึงครองอันดับ 1 ของเอเชียหลายปีติดต่อกัน และจะมีหลักสูตรไหนน่าสนใจ มีทุนอะไรแจกนักเรียนต่างชาติบ้าง ตามไปดูเลยค่ะ
Note: เนื้อหาในบทความนี้ผ่านการแปลและเรียบเรียงโดยทีมงาน Dek-D (รวมถึงระบุแหล่งข้อมูลต้นทางไว้อย่างครบถ้วน) ทางเราจึงไม่อนุญาตให้ท่านนำไปคัดลอกและดัดแปลงเป็นผลงานของตน ตลอดจนนำไปใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์
*กรุณาให้เครดิตลิงก์บทความต้นทาง หรือแชร์จากเว็บหรือโซเชียลมีเดียของทาง Dek-D เท่านั้น
ทำความรู้จัก ‘NUS’
- The National University of Singapore (NUS) หรือมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ก่อตั้งเมื่อปี 1905 เป็นสถาบันอุดมศึกษาที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศ
- คว้าอันดับ 1 มหาวิทยาลัยที่มีคุณภาพการเรียนการสอนดีที่สุดในสิงคโปร์และทวีปเอเชีย แถมยังครองอันดับที่ 11 ของโลกมา 5 ปีซ้อน จากการจัดอันดับโดย QS World University Rankings 2023
- มีสาขาที่มีชื่อเสียงและครองอันดับ 1 ของเอเชีย ได้แก่ สาขาศิลปกรรมและมนุษยศาสตร์ (Arts and Humanities), สังคมศาสตร์และการจัดการ (Social Sciences and Management) และชีววิทยาศาสตร์และแพทยศาสตร์ (Life Sciences and Medicine) // อ้างอิงจากการจัดอันดับของ QS World University Rankings by Subject 2022
- ในปี 2020-2021 มีนักศึกษาระดับป.ตรี ป.โท ป.เอก ลงทะเบียนเรียนเกือบ 40,200 คน ปัจจุบันมีศิษย์เก่าถึง 330,000 คนจาก 100 ประเทศทั่วโลก
- เป็นพาร์ตเนอร์กับมหาวิทยาลัยชั้นนำจาก 190 ประเทศทั่วโลก เช่น KAIST, Durham University และ University of Pennsylvania เป็นต้น
Note: ‘สิงคโปร์’ ถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 4 เมืองในทวีปเอเชียที่ดีที่สุดสำหรับนักศึกษาและอันดับที่ 13 ของโลก จากการจัดอันดับของ QS Best Student Cities 2023
พาไปส่อง Top 5 เมืองในทวีปเอเชียที่ดีที่สุดสำหรับนักศึกษาต่างชาติ ประจำปี 2023
ส่องหลักสูตรน่าเรียน
ที่ NUS เปิดสอนตั้งแต่ระดับป.ตรี ป.โทและป.เอกค่ะ แต่วันนี้พี่จะขอเน้นไปที่หลักสูตรปริญญาตรี ซึ่งมีทั้งหมด 13 คณะดังนี้
- ศิลปศาสตร์และสังคมศาสตร์ (Arts and Social Sciences)
- บริหารธุรกิจ (NUS Business School)
- วิชาการคอมพิวเตอร์ (Computing)
- การศึกษาต่อเนื่องและการศึกษาตลอดชีวิต (Continuing and Lifelong Education)
- ทันตแพทยศาสตร์ (Dentistry)
- การออกแบบและวิศวกรรมศาสตร์ (Design and Engineering)
- นิติศาสตร์ (Law)
- แพทยศาสตร์ (Medicine)
- ดุริยางคศาสตร์ (Music)
- สาธารณสุขศาสตร์ (Public Health)
- วิทยาศาสตร์ (Science)
- วิทยาลัย NUS (NUS College)
- วิทยาลัย Yale-NUS (Yale-NUS College) วิทยาลัยที่เปิดสอนในสาขาศิลปศาสตร์ อยู่ในความร่วมมือของ NUS และมหาวิทยาลัยเยล (Yale University) มหา’ลัยชื่อดังในเครือไอวีลีก
หลักสูตรพิเศษ เลือกเรียนได้หลากหลาย
สำหรับน้องๆ ที่อยากเรียนหลายอย่างไปพร้อมกัน คณะนั้นก็ชอบ สาขานี้ก็โดน แต่ไม่อยากเสียเวลาเรียนหลายปี ทาง NUS เค้ามีหลักสูตรพิเศษให้เรียนด้วยค่ะ ตัวอย่างเช่น
- NUS Double Degree Programmes (DDP): หลักสูตรที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้คว้าปริญญา 2 ใบจาก 2 สาขาวิชาที่เปิดสอนในมหาวิทยาลัย เช่น วิศวกรรมศาสตร์-เศรษฐศาสตร์, บริหารธุรกิจ-นิติศาสตร์ เป็นต้น โดยระยะเวลาเรียนจะอยู่ที่ประมาณ 5 ปีค่ะ
- Concurrent Degree Programmes (CDP): หลักสูตรปริญญาตรีควบปริญญาโท จากปกติที่ต้องเรียนป.ตรี 4 ปีให้จบก่อนแล้วค่อยไปต่อ ป.โท อีก 2 ปี แต่สำหรับเด็กหลักสูตรจะใช้เวลาเพียง 4 ปีครึ่ง-5 ปีเท่านั้น // ดีมากกก
- Double Major Programmes (DMP): เมื่อเรียนจบมาจะได้ปริญญาใบเดียวเหมือนหลักสูตรทั่วไป แต่หลักสูตรนี้พิเศษตรงที่น้องๆ สามารถเลือกวิชาเอกได้ 2 สาขา เหมาะกับคนที่อยากรู้ลึกรู้จริงเป็นสาย multitasking ในหลายสาขาค่ะ
นอกเหนือจาก 3 หลักสูตรที่พี่ยกมา ยังมีหลักสูตรพิเศษอื่นๆ ที่น่าสนใจเช่นเดียวกัน ใครอยากรู้ว่ามีอะไรบ้างก็ คลิกที่นี่ เพื่อไปส่องรายละเอียดกันเลยค่ะ
Grade-Free Semester เรียนแบบไม่คิดเกรด!
เพื่อให้นักศึกษาปี 1 ปรับตัวกับการใช้ชีวิตและการเรียนในรั้วมหา’ลัยได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งเพื่อให้นักศึกษาได้ก้าวออกมาจากพื้นที่ปลอดภัย ได้ลงเรียนวิชายากๆ ที่ท้าทายความสามารถของตนเอง แบบไม่ต้องกังวลเรื่องเกรด ทาง NUS จึงมีนโยบายไม่คิดเกรดในเทอมแรกหรือ Grade-Free Semester ออกมา โดยจะคิดเพียงแค่ “ผ่าน/ไม่ผ่าน” (S/U) เท่านั้น ส่วนเทอมต่อๆ มาก็จะกลับมาตัดเกรดตามเกณฑ์ปกติค่ะ
ค่าเล่าเรียน
สำหรับหลักสูตรระดับปริญญาตรีจะมีค่าเล่าเรียนแตกต่างกันไปตามหลักสูตร ดังนี้
หลักสูตร/คณะ | ค่าเล่าเรียนต่อปี |
- บริหารธุรกิจ | 32,400 ดอลลาร์สิงคโปร์ (~833,652 บาท) |
- บริหารธุรกิจ [BSc(Real Estate)] | 30,050 ดอลลาร์สิงคโปร์ (~773,186 บาท) |
- การออกแบบและวิศวกรรมศาสตร์ (สาขา Built Environment) | 30,050 ดอลลาร์สิงคโปร์ (~773,186 บาท) |
- วิชาการคอมพิวเตอร์ - การออกแบบและวิศวกรรมศาสตร์ - นิติศาสตร์ | 38,450 ดอลลาร์สิงคโปร์ (~989,318 บาท) |
- ทันตแพทยศาสตร์ | 166,750 ดอลลาร์สิงคโปร์ (~4,290,477 บาท) |
- แพทยศาสตร์ (ทุกสาขายกเว้น Nursing) | 166,750 ดอลลาร์สิงคโปร์ (~4,290,477 บาท) |
- แพทยศาสตร์ (สาขา Nursing) | 37,250 ดอลลาร์สิงคโปร์ (~958,442 บาท) |
- การออกแบบและวิศวกรรมศาสตร์ (สาขา Architecture, Landscape Architecture) | 39,250 ดอลลาร์สิงคโปร์ (~1,009,902 บาท) |
- มนุษยศาสตร์และวิทยาศาสตร์ | 34,250 ดอลลาร์สิงคโปร์ (~881,252 บาท) |
- ดุริยางคศาสตร์ | 128,100 ดอลลาร์สิงคโปร์ (~3,296,013 บาท) |
- วิทยาศาสตร์ (สาขา Pharmacy) | 38,300 ดอลลาร์สิงคโปร์ (~985,459 บาท) |
Note:
- อ้างอิงเรตเงิน 1 ดอลลาร์สิงคโปร์ = 25.73 บาท (อัปเดตเมื่อวันที่ 18 ส.ค. 65)
- ค่าเล่าเรียนข้างต้นเป็นค่าเล่าเรียนเต็มจำนวน ในกรณีที่ไม่ได้รับเงินอุดหนุนเพื่อการศึกษาจากกระทรวงศึกษาธิการของสิงคโปร์ (MOE Tuition Grant) ดูรายละเอียดเพิ่มเติม ที่นี่
ใครสมัครได้บ้าง?
สำหรับน้องๆ ที่อยากสมัครเรียนต่อหลักสูตรปริญญาตรีที่ NUS จะต้องมีคุณสมบัติคร่าวๆ ดังนี้
- จบแล้ว หรือ กำลังจะจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6
- มีเกรดเฉลี่ย 3.00 ขึ้นไป
- มีผลสอบวัดระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษ ได้แก่ (*เลือกส่งอย่างใดอย่างหนึ่ง)
- C1 Advanced/ Cambridge English Advanced 180 คะแนนขึ้นไป
- EL1119 ระดับ C6
- IELTS 6.5 ขึ้นไป (Reading & Writing 6.5)
- MUET (Malaysian University English Test) 200 คะแนนขึ้นไป (กรณีสอบปี 2020) หรือ 240 คะแนนขึ้นไป (กรณีสอบตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นมา)
- PTE Academic หรือ PTE Academic Online 62 คะแนนขึ้นไป
- TOEFL (iBT, iBT Special Home Edition, iBT Paper Edition) 92-93 คะแนนขึ้นไป
- TOEFL Essentials Test 10 คะแนนขึ้นไป
- TOEFL revised Paper-delivered Test 580 คะแนนขึ้นไป
น้องๆ สามารถเข้าไปดูคุณสมบัติเพิ่มเติมเพื่อเตรียมพร้อมสมัครเรียนได้ ที่นี่
ทุนการศึกษา
NUS มีทุนการศึกษาหลายประเภทที่สมัครพร้อมกับการสมัครเรียน (ไม่ต้องสมัครแยก) เพื่อสนับสนุนด้านการเงินของนักศึกษาเข้าใหม่ ตามมาดูรายละเอียดกันค่ะ~
ASEAN Undergraduate Scholarship (AUS)
เป็นทุนรัฐบาลสิงคโปร์ที่มอบให้นักศึกษาที่มีผลการเรียนโดดเด่นจากประเทศสมาชิกอาเซียน มีมูลค่าทุนการศึกษาดังนี้
- ค่าเล่าเรียน (หลังหักเงินอุดหนุนทางการศึกษา MOE Tuition Grant Subsidy)
- เบี้ยเลี้ยงรายปี มูลค่า 5,800 ดอลลาร์สิงคโปร์ (~154,380 บาทต่อปี)
- ค่าคอมพิวเตอร์ 1,750 ดอลลาร์สิงคโปร์ (~45,027 บาท) *ให้ครั้งเดียว
- ค่าที่พัก มูลค่า 3,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ต่อปี (~77,190 บาท)
Science & Technology (S&T) Undergraduate Scholarship
ทุนสำหรับนักศึกษาจากประเทศในทวีปเอเชียที่มีผลการเรียนโดดเด่น และลงทะเบียนเรียนในคณะวิชาการคอมพิวเตอร์, วิศวกรรมศาสตร์ หรือวิทยาศาสตร์ (ยกเว้น สาขาสิ่งแวดล้อมศึกษาและเภสัชศาสตร์) มีมูลค่าทุนการศึกษาดังนี้
- ค่าเล่าเรียน (หลังหักเงินอุดหนุนทางการศึกษา MOE Tuition Grant Subsidy) และค่าธรรมเนียมภาคบังคับ (Compulsory fees)
- เบี้ยเลี้ยงรายปี มูลค่า 6,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ (~149,234 บาทต่อปี)
- ค่าคอมพิวเตอร์ 1,750 ดอลลาร์สิงคโปร์ (~45,027 บาท) *ให้ครั้งเดียว
- ค่าตั้งรกราก 200 ดอลลาร์สิงคโปร์ (~5,146 บาท)
- ค่าที่พัก
- ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ
Note: ใครสนใจทุน S&T ตามไปอ่านข้อมูลทุนของปีที่แล้วไว้เตรียมพร้อมสมัครรอบหน้าได้นะคะ
นอกจากทุนข้างต้น ยังมีทุนจากคณะให้คนที่เรียนเอกจีนศึกษา (Chinese Studies Major Scholarship) และทุนจากองค์กรต่างๆ ให้เรายื่นสมัครด้วยค่ะ
เช็กข้อมูลทุน*******************
เป็นยังไงกันบ้างคะกับการพาทัวร์ ‘The National University of Singapore’ ในวันนี้ บอกเลยว่าหลักสูตรของที่นี่มีคุณภาพ ตอบโจทย์ทั้งคนเรียนสายวิทย์และสายศิลป์ แถมมหา’ลัยและองค์กรต่างๆ ก็มีทุนการศึกษามอบให้ด้วย สมมงเบอร์หนึ่งของเอเชียสุดๆ
ใครอยากบินไปเรียนต่อที่ NUS ก็อย่าลืมเข้าไปศึกษาข้อมูลที่หน้าเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยเพื่อเตรียมพร้อมสมัครกันนะคะ สุดท้ายนี้พี่พลอยกี้ขอเอาใจช่วยให้น้องๆ ทุกคนโชคดีค่าา~
เว็บไซต์มหาวิทยาลัยสำหรับใครที่มองหาโอกาสโกอินเตอร์ ตอนนี้มีหลายทุนกำลังเปิดรับสมัคร
ตามไปเช็กกันต่อได้เลยที่ "โปรแกรมค้นหาทุนเรียนต่อนอก by Dek-D"
ติดตามทุนต่อนอกง่ายๆ กับ Dek-D
- Website: www.dek-d.com/studyabroad
Twitter: @tornokandcourse - IG: @tornokandcourse
- Facebook: Study Abroad เรียนต่อนอก by Dek-D
3 ความคิดเห็น
ถ้าจบม.ปลายด้วยวุฒิgedสามารถเรียนต่อที่นี่ได้มั้ยคะ
ตอนนี้เปิดรับสมัครรึยังหรอคะ พอดีกดตามลิ้งค์เข้าไปดู requirements แล้วเหมือนจะเป็นของปีเก่าอยู่เลยค่า
แล้วทุน AUS เค้าเลือกประเทศล่ะกี่คนหรอคะ หรือว่า หรือรับในอาเซียนอาจจะมาจาก
ประเทศเดียวกันงี้หรอคะ
สวัสดีค่ะ เบื้องต้นมหาวิทยาลัยจะคัดเลือกผู้สมัครเรียนที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามเงื่อนไขรับทุน และจะแจ้งให้ดำเนินการสมัครทุนในภายหลัง ดังนั้นจำนวนผู้รับทุนจึงขึ้นอยู่กับการพิจารณาของมหาวิทยาลัยค่ะ