เตรียมตัวโกอินเตอร์! รวม 5 ประเทศน่าเรียนต่อในปี 2023 ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ มีทุนให้เพียบ

สวัสดีครับชาว Dek-D ทุกคน! ในปี 2023 นี้มีใครกำลังวางแผนไปเรียนต่อนอกบ้างไหมครับ? ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลเรื่องภาษา ศิลปวัฒนธรรม สื่อบันเทิง มหาวิทยาลัย ค่าครองชีพ หรือสถานที่ท่องเที่ยวเด็ดๆ พร้อมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามชวนฝัน ก็ล้วนจุดประกายให้เราอยากบินลัดฟ้าไปสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ ในต่างประเทศได้ทั้งสิ้น ซึ่งสิ่งสำคัญที่ทุกคนมองหาก็คือมหาวิทยาลัยและประเทศที่ตอบโจทย์ทั้งไลฟ์สไตล์และเป้าหมายชีวิตของเรา 

วันนี้ พี่มิวนิค เลยจะพาไปแนะนำ '5 ประเทศที่น่าไปเรียนต่อ' ซึ่งความเริดความปังคือ แต่ละประเทศมีทุนการศึกษามอบให้ชาวต่างชาติแบบเราๆ ด้วย จะมีที่ไหนโดนใจเราบ้าง ตามไปส่องพร้อมกันเลยค้าบบ~

…………………………….....

เช็กอินที่ “อังกฤษ”
การศึกษาระดับ World Class 

Photo by Aron Van de Pol  on Unsplash
Photo by Aron Van de Pol  on Unsplash 

ใครที่เป็นสายประวัติศาสตร์และกำลังมองหาประเทศที่มีคุณภาพการศึกษาดีติดอันดับโลก ปักหมุดที่อังกฤษ (England) ได้เลยครับ ที่นี่มีมหา’ลัยที่ติดท็อป 10 ของโลกถึง 3 แห่ง (จากการจัดอันดับของ QS World University Rankings 2023) โดยที่ University of Cambridge อยู่ในอันดับที่ 2, University of Oxford อันดับที่ 4 และ Imperial College London อยู่อันดับที่ 6 // นี่แค่ส่วนหนึ่ง ยังมีมหา’ลัยปังๆ อีกเพียบ! 

อย่างที่เกริ่นไปว่าเกาะอังกฤษแห่งนี้มีมหาวิทยาลัยชั้นนำมากมาย แถมมีโปรแกรมให้เลือกเรียนหลากหลาย ทั้งระดับปริญญาหรือคอร์สเรียนภาษา ยิ่งใครอยากเรียนต่อป.โท ก็ยิ่งตอบโจทย์ เพราะแต่ละปีมีชาวต่างชาติบินมาเรียนเพียบ แถมใช้เวลาเรียนแค่เพียง 1 ปีด้วย ส่วนใครอยากอัปสกิลภาษาท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ช่วยให้ซึมซับภาษาอังกฤษแบบบริติช (British English) ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกน่าสนใจ จะเรียนระยะยาวหรือระยะสั้นก็เลือกคอร์สที่ใช่จากแต่ละมหาวิทยาลัยได้เลย!   

ยิ่งไปกว่านั้น ในด้านวัฒนธรรมก็ดีงามไม่แพ้กัน เพราะที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ไหนจะสถาปัตกรรมสุดคลาสสิกที่ใครเห็นก็ต้องหลงใหล ยิ่งใครชอบสายอาร์ตหรือประวัติศาสตร์ก็คือฮีลใจสุดๆ ยกตัวอย่างสถานที่ดังๆ เช่น  พระราชวังบักกิงแฮม (Buckingham Palace), หอคอยลอนดอน (Tower of London), วิหารเวสต์มินสเตอร์ (Westminster Cathedral), สะพานทาวเวอร์บริดจ์ (Tower Bridge) และ สโตนเฮนจ์ (Stonehenge) เป็นต้น // รับรองได้ทั้งความรู้ควบคู่ไปกับประสบการณ์อันล้ำค่าทางประวัติศาสตร์ชาติอังกฤษแน่นอนครับ

ชี้เป้าทุนเรียนฟรีที่อังกฤษ!

รัฐบาลอังกฤษและมหา’ลัยต่างๆ จะมีมอบทุนเรียนฟรีให้นักเรียนต่างชาติในทุกๆ ปี

  • ทุน Chevening Scholarship
    เป็นทุนเรียนฟรีเต็มจำนวนสำหรับเรียนต่อ ป.โท จากรัฐบาลสหราชอาณาจักร (UK)
    - ค่าเล่าเรียน 100%
    - เบี้ยเลี้ยงรายเดือน (ครอบคลุมทั้งค่าที่พักและค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน)
    - ค่าวีซ่า
    - ค่าตั๋วบินไป-กลับ

Note : ปกติจะเปิดรับสมัครช่วงเดือนสิงหาคมของทุกปี 

ดูรายละเอียดทุนเพิ่มเติม
  • ทุน Weidenfeld-Hoffmann Scholarships and Leadership Programme
    เป็นทุนเต็มจำนวนตลอดหลักสูตรระดับ ป. โท ที่ University of Oxford
    - ค่าเล่าเรียน 100%
    - ค่าครองชีพอย่างน้อย £17,668 หรือประมาณ 738,523 บาท (อ้างอิง ₤1 = 41.80 บาท ณ วันที่ 28 ธ.ค. 65)
ดูรายละเอียดทุนเพิ่มเติม

………………………….................

2

ตะลุย “ญี่ปุ่น”
นวัตกรรมสุดล้ำ วัฒนธรรมสุดเริด

Photo by Max Bender  on Unsplash
Photo by Max Bender  on Unsplash

มาต่อที่ประเทศญี่ปุ่น (Japan) กันครับ ไม่ว่าจะเป็นพิกัดไหนในแดนปลาดิบก็สวยงามและมีเอกลักษณ์จนชวนให้หลงใหล เพราะแค่เอ่ยชื่อสถานที่ท่องเที่ยวดังๆ ก็ทำให้หลายคนร้องว้าวและอยากบินไปเช็กอิน ไม่ว่าจะเป็นโตเกียวทาวเวอร์, ภูเขาไฟฟูจิ, ย่านชิบูย่า, ปราสาทฮิเมจิ, ตลาดปลาซึกิจิ, ศาลเจ้าอิเสะ, หมู่บ้านนินจา และอีกเพียบ เรียกว่ามีให้เที่ยวแบบครบเครื่อง แถมอาหารก็มีเลือกกินแบบครบรส!

นอกจากนี้ญี่ปุ่นยังขึ้นชื่อเรื่องแลนด์มาร์กในการท่องเที่ยว แน่นอนว่าถ้านึกถึงเรื่องความล้ำของเทคโนโลยีและนวัตกรรมแสนทันสมัย เราก็ต้องนึกถึงญี่ปุ่นเป็นอันดับต้นๆ ไหนจะเรื่องความเป็นระเบียบเรียบร้อย ความปลอดภัยในการใช้ชีวิต รวมถึงระบบขนส่งสาธารณะที่เดินทางสะดวกสุดๆ จนหลายคนที่ได้มาเยือนก็ต้องชื่นชอบแน่นอน 

และที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คงเป็นเรื่องของด้านการศึกษา เพราะแดนซากุระแห่งนี้เป็นที่ตั้งของมหา’ลัยชั้นนำระดับโลกมากมาย เช่น University of Tokyo ติดอันดับที่ 23, Kyoto University อันดับที่ 36 และ Tokyo Institute of Technology อันดับที่ 55 (จากการจัดอันดับของ QS World University Rankings 2023) นอกจากนี้ยังมีมหาวิทยาลัยอื่นๆ ที่น่าสนใจไม่น้อย รวมถึงหลักสูตรสำหรับสายอาชีพอย่าง ‘เซมมง’ และ ‘โคเซ็น’  ที่เปิดสอนหลากหลายสายและยังมีทุนไว้ต้อนรับชาวต่างชาติอีกด้วย! 

ชี้เป้าทุนเรียนฟรีที่ญี่ปุ่น!

ในทุกๆ ปีทางรัฐบาลญี่ปุ่นและแต่ละมหา’ลัยจะมอบทุนเรียนฟรีหลายประเภทให้กับนักเรียนต่างชาติ ยกตัวอย่างเช่น

  • ทุน ‘Monbukagakusho (MEXT) Scholarship’
    หรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘ทุนรัฐบาลญี่ปุ่น’ หรือ ทุนมง เป็นทุนเรียนฟรีที่เปิดรับสมัครทุกปี และมีหลากหลายระดับ แบ่งออกเป็นทุน 7 ประเภท ดังนี้ 
    1. ทุนนักศึกษาปริญญาตรี (Undergraduate Students)
    2. ทุนนักศึกษาวิจัย ป.โท/ป.เอก (Research Students)
    3. ทุนญี่ปุ่นศึกษา สำหรับนักศึกษาเอกญี่ปุ่น (Japanese Studies Students)
    4. ทุนฝึกอบรมวิชาชีพครู (Teacher Training Students)
    5. ทุนนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิค (College of Technology Students)
    6. ทุนนักศึกษาฝึกอบรมวิชาชีพ (Specialized Training College Students)
    7. ทุนนักศึกษาประเภท Young Leaders' Program (YLP)
ดูรายละเอียดของทุนแต่ละประเภท
  • Asian Development Bank – Japan Scholarship Program (ADB – JSP)
    เป็นทุนที่ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย หรือ Asian Development Bank ร่วมกับทางรัฐบาลญี่ปุ่นมอบให้กับนักศึกษาต่างชาติระดับ ป.โท ในทุกๆ ปี โดยมีมูลค่าและสิทธิประโยชน์ ดังนี้
    - ค่าเล่าเรียนเต็มจำนวน
    - เบี้ยเลี้ยงรายเดือน (รวมทั้งค่าที่พัก)
    - ค่าหนังสือและอุปกรณ์การเรียน
    - ค่าประกันสุขภาพ
    - ค่าเดินทาง
ดูรายละเอียดทุนเพิ่มเติม

………………………….............

3

พาไปเยือน “ออสเตรเลีย”
ตอบโจทย์เรียนไปด้วย & ทำงานไปด้วย 

Photo by   Dan Freeman on Unsplash
Photo by   Dan Freeman on Unsplash

ใครอยากอัปสกิลภาษาอังกฤษให้ปังห้ามพลาดที่นี่! เพราะว่า ‘ประเทศออสเตรเลีย’ เป็นอีกแลนมาร์กยอดฮิตสำหรับนักเรียนจากทั่วโลก (มีจำนวนนักศึกต่างชาติเป็นอันดับ 3 รองจากประเทศอังกฤษและอเมริกา) แถมมีโรงเรียนที่มีคุณภาพเปิดสอนอยู่ทั่วประเทศอีกด้วย หรือถ้าใครอยากเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยหรือสนใจทำงานด้านการวิจัย ก็มีโปรแกรมจากมหาวิทยาลัยแนวหน้าหลายแห่งให้เลือกเรียนทั่วประเทศ อาทิ Australian National University อันดับที่ 30, University of Melbourne อันดับที่ 33 และ University of Sydney อันดับที่ 41 (จัดอันดับโดย QS World University Rankings 2023)

เชื่อว่าหลายคนที่อยากเรียนต่อออสเตรเลีย นอกจากเหตุผลด้านการศึกษาแล้ว อีกปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดชาวต่างชาติเป็นเพราะว่า ออสเตรเลียอนุญาตให้นักศึกษาต่างชาติที่เข้ามาเรียนภาษาสามารถทำงานพาร์ตไทม์ไปด้วยได้ไม่เกิน 20 ชั่วโมง/สัปดาห์ โดยสามารถเลือกทำงานด้านไหนก็ได้ตามที่เราชอบเลย (แต่ต้องถูกกฎหมายนะ) และอีกอย่างออสเตรเลียยังมี Visa หลายประเภทให้แก่ชาวต่างชาติอีกด้วย เช่น วีซ่านักเรียน วีซ่าท่องเที่ยว วีซ่าครอบครัว และ วีซ่าทำงาน เรียกได้ว่า foreigner friendly มากกก 

นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นดั่งสวรรค์สำหรับผู้ที่รักษ์โลกและหลงใหลในธรรมชาติ จนได้รับฉายาว่าเป็นดินแดนสีเขียว เพราะมีสิ่งแวดล้อมดี ป่าไม้อุดมสมบูรณ์ และสิ่งมีชีวิตชายฝั่งทะเลอันงดงาม เช่น เกรตแบร์ริเออร์รีฟ (Great Barrier Reef) ซึี่งเป็นปะการังที่ยาวและสวยงามที่สุดในโลก เรียกว่าตอบโจทย์ทั้งสายเรียนและสายเอกซ์ตรีมสุดๆ  

ส่องเหตุผลทำไมควรเรียนต่อที่ออสเตรเลีย 

ชี้เป้าทุนเรียนฟรีที่ออสเตรเลีย!

ประเทศออสเตรเลียมีทุนเรียนฟรีให้ชาวต่างชาติเยอะมากกก ไม่ว่าจะเป็นทุนจากทางรัฐบาลหรือจากทางมหา’ลัยโดยตรง ตามมาดูตัวอย่างทุนที่น่าสนใจกันเลยครับ!

  • ทุน ANU Chancellor’s International Scholarship
    เป็นทุนสำหรับนักศึกษาระดับ ป.ตรี และ ป.โท จากมหาวิทยาลัย Australian National University
    - จำนวน 200 ทุน
    - ทุนค่าเล่าเรียน 25% หรือ 50%
ดูรายละเอียดทุนเพิ่มเติม
  • ทุน UC International High Achiever Scholarship
    เป็นทุนสำหรับนักศึกษาระดับ ป.ตรี และ ป.โท จากมหาวิทยาลัย University of Canberra
    - ทุนเค่าเล่าเรียน 20%
ดูรายละเอียดทุนเพิ่มเติม
  • ทุน Australia Awards Scholarship
    ทุนสำหรับนักศึกษาระดับ ป.โท จากรัฐบาลออสเตรเลีย ร่วมกับทางสำนักงาน ก.พ. (ประเทศไทย)
    - สำหรับข้าราชการพลเรือนไทยเท่านั้น
    - ไม่มีข้อผูกมัดในการใช้ทุน
    - มอบทุนเรียนค่าเล่าเรียนเต็มจำนวน
    - ค่าตั๋วบินไป-กลับ
    - ประกันสุขภาพตลอดระยะเวลาทุน
ดูรายละเอียดทุนเพิ่มเติม
  • ทุน Destination Program
    ทุนสำหรับนักศึกษาระดับ ป.ตรี, ป.โท และ ป.เอก มอบโดยรัฐบาลออสเตรเลีย
    - ทุนมีมูลค่าสูงถึง $15,000 AUD /ปี (~521,400 บาท)
ดูรายละเอียดทุนเพิ่มเติม

………………………….........

4

แวะมาที่ “สวีเดน”
ดินแดนแห่งเสรีภาพ ความเท่าเทียมและ IKEA

Photo by Dylan Shaw on Unsplash
Photo by Dylan Shaw on Unsplash

Hej Hej! บินมาสู่ประเทศในแถบสแกนดิเนเวียอย่างสวีเดน (Sweden) กันบ้างครับ ที่นี่ก็น่าสนใจไม่แพ้ที่อื่นเลย เพราะขึ้นชื่อเรื่องการศึกษามีคุณภาพ เปิดโอกาสให้ต่างชาติเรียนฟรีและมีสวัสดิการที่ดีอีกด้วย นอกจากนี้ยังเป็นดินแดนเสรีภาพที่ให้อิสระทางความคิดกับทุกคน (จนเกิดนวัตกรรมทางความคิดมากมาย เช่น แบรนด์ IKEA) แถมต้อนรับชาวต่างชาติอย่างอบอุ่น และให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมทางเพศสุดๆ จนทำให้ผู้คนจากทั่วโลกต่างมาตั้งหลักปักฐานใช้ชีวิตที่นี่กันไม่น้อยเลยทีเดียว (คนไทยเยอะมากกก)

อย่างที่เล่าไปตอนต้นว่าการศึกษาที่สวีเดนก็ปังไม่แพ้ใคร เพราะมีมหา’ลัยชั้นนำติดอันดับท็อปๆ ของโลกด้วย เช่น KTH - Royal Institute of Technology ติดลำดับที่ 89, Lund University อันดับ 95 และ Uppsala University ม.เก่าแก่ของประเทศ ติดอันดับ 128 ของโลก (จากการจัดอันดับของ QS World University Rankings 2023)

แอบกระซิบว่าที่นี่ยังมีกิจกรรมที่น่าตื่นเต้นให้เราไปผจญภัยมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการปีนเขา ปั่นจักรยานเสือภูเขา ตั้งแคมป์ชมธรรมชาติ หรือชมแสงเหนือก็ยิ่งฟินนน~ // ว่าแล้วก็เตรียมเทคคอร์สภาษาสวีดิชไว้รอเลย! 

ชี้เป้าทุนเรียนฟรีที่สวีเดน!

แต่ละมหา’ลัยในประเทศสวีเดนได้มอบทุนการศึกษาแก่นักเรียนต่างชาติเป็นประจำทุกปี

  • ทุน Jönköping University scholarship
    เป็นทุนจากรัฐบาลสวีเดนร่วมกับทางมหาวิทยาลัย Jönköping University
    - ทุนสำหรับนักเรียนระดับ ป.ตรี และ ป.โท
    - ทุนค่าเล่าเรียน 30%
ดูรายละเอียดทุนเพิ่มเติม
  • KTH Royal Institute of Technology Scholarships 
    เป็นทุนเรียนดีจากมหาวิทยาลัย KTH Royal Institute of Technology
    - สำหรับนักศึกษาระดับ ป.โท เท่านั้น
    - ทุนเต็มจำนวนเป็นเวลา 1 ปี หรือ 2 ปี
ดูรายละเอียดทุนเพิ่มเติม
  • Linnaeus University Scholarships
     ทุนจากมหาวิทยาลัย Linnaeus University
    - ทุนเรียนฟรีจำนวน 75% ในปีแรก
    - ทุนเรียนฟรีจำนวน 100% สำหรับผู้ที่เรียนต่อในสาขาวิทยาศาสตร์และธุรกิจ
ดูรายละเอียดทุนเพิ่มเติม
  • ทุนเรียนต่อระดับ ป.โท ที่ Uppsala University 
    - มอบทุนค่าเล่าเรียนเต็มจำนวน 
    - ปิดรับสมัคร 16 ม.ค. 66
ดูรายละเอียดทุนเพิ่มเติม

…………………………...................

5

ส่องดินแดน “สเปน”
ภาษาน่าเรียน ไม่จมไม่หายไม่ตายลาติน

Photo by Ken Cheung on Unsplash
Photo by Ken Cheung on Unsplash

Hola! ใครเป็นสายชอบดูฟุตบอลเตรียมบินมาสเปนได้เลย เพราะอย่างที่หลายคนรู้ว่าดินแดนนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นเบอร์ต้นๆ ของวงการลูกหนัง มีสโมสรชื่อดังระดับโลกและคว้าแชมป์มานับไม่ถ้วนอย่าง บาร์เซโลน่าและเรอัลมาดริด อีกทั้งยังมีสนามกีฬาที่ยิ่งใหญ่อลังการอยู่ทั่วประเทศให้ตามไปเช็กอิน ใครเป็นแฟนบอลก็คือฟินสุดๆ

สำหรับใครที่หาประเทศค่าเรียนไม่แพง และมีค่าครองชีพรวมถึงค่าที่พักสบายกระเป๋า บอกเลยว่าเข้าทาง ยิ่งใครที่อยากเรียนภาษาสเปนอยู่แล้วก็ถือเป็นโอกาสดีเลย เพราะนอกจากภาษาอังกฤษแล้ว ต้องบอกว่าภาษาสเปนนั้นเป็นที่น่าจับตามองและปัจจุบันก็มีคนใช้สื่อสารทั่วโลกกว่า 534 ล้านคนแล้วด้วย (อัปเดตเมื่อ ม.ค. 2023) ช่วยเพิ่มโอกาสทั้งเรียนต่อและทำงานในประเทศอื่นๆ เช่น เม็กซิโก โคลอมเบีย และอาร์เจนตินา รวมถึงในสหรัฐอเมริกา (บางรัฐ) ได้อีกด้วย บอกเลยไม่จมไม่หายไม่ตายลาติน!

อีกทั้งที่นี่ยังมีมหา’ลัยชั้นนำตั้งอยู่หลายแห่ง เช่น University of Barcelona ติดอันดับที่ 187 และ Autonomous University of Barcelona อันดับที่ 184 จากโพล QS World University Rankings 2023 (ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมสเปนถึงน่าจับตามองทั้งแวดวงการศึกษาและกีฬา)

ชี้เป้าทุนเรียนฟรีที่สเปน!

เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ ที่แนะนำไปตอนต้น มหา’ลัยทั่วประเทศสเปนเองก็มีทุนเรียนฟรีให้นักเรียนต่างชาติเป็นประจำทุกปี

  • ทุน IE Asia Pacific Talent Scholarships
    เป็นทุนจากมหาวิทยาลัย IE University
    - สำหรับนักศึกษาระดับ ป.โท (ที่มาจากแถบเอเชียแปซิฟิก)
    - ทุนค่าเล่าเรียนตั้งแต่ 10% จนถึง 35%
ดูรายละเอียดทุนเพิ่มเติม
  • ทุน International Excellence Scholarships (International students)​​​​​​​
    ทุนจากมหาวิทยาลัย Universitat Internacional de Catalunya หรือ UIC Barcelona
    - สำหรับนักศึกษาระดับ ป.ตรี
    - ทุนค่าเล่าเรียน 20%
ดูรายละเอียดทุนเพิ่มเติม

..........................................

เป็นอย่างไรบ้างครับสำหรับ 5 ประเทศที่ที่พี่แนะนำกันในวันนี้ มีประเทศไหนที่เข้ากับไลฟ์สไตล์และความสนใจของน้องๆ บ้างไหมเอ่ย? แต่ละที่ก็มีจุดเด่นเป็นเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันไป ทั้งทางด้านภาษา ประวัติศาสตร์ กีฬา วัฒนธรรม วิวทิวทัศน์อันงดงาม หรือกิจกรรมกลางแจ้งที่สุดแสนตื่นเต้น รวมถึงยังมีทุนแจกให้กับนักเรียนต่างชาติอีกด้วย ถ้าน้องๆ สนใจที่ไหนก็อย่าลืมศึกษารายละเอียดอย่างถี่ถ้วนกันด้วยนะครับ จะได้เรียนต่อมหาวิทยาลัยที่ใช่ ในประเทศที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของเรา 

หากใครสนใจไปเรียนต่อที่ประเทศไหน อย่าลืมศึกษาข้อมูลทุนเรียนต่อในประเทศนั้นๆ ด้วยนะครับ หรือติดตามช่องทางต่างๆ ของคอลัมน์เรียนต่อนอก Dek-D ไว้ก่อนเลย จะได้ไม่พลาดทุนดีๆ // สำหรับวันนี้พี่มิวนิคก็ต้องขอตัวลาไปก่อน แล้วเจอกันใหม่ครับ Bye~~~

 

Sources:https://www.gooverseas.com/blog/10-most-popular-study-abroad-destinations https://www.chevening.org/scholarship/thailand/  https://www.th.emb-japan.go.jp/itpr_th/jis_study.html https://www.ox.ac.uk/admissions/graduate/fees-and-funding/fees-funding-and-scholarship-search/weidenfeld-hoffmann-scholarships-and-leadership-programme https://www.th.emb-japan.go.jp/itpr_th/jis_study.htmlhttps://www.adb.org/work-with-us/careers/japan-scholarship-program https://www.canberra.edu.au/scholarship/uc-international-high-achiever.html https://www.anu.edu.au/study/scholarships/find-a-scholarship/anu-chancellors-international-scholarship  https://www.education.gov.au/destination-australia  https://www.kth.se/en/studies/master/general/scholarships/kth-scholarship-1.72827 https://lnu.se/en/education/study-at-linnaeus-university/scholarships/ https://www.ie.edu/financial-aid/masters/scholarships/ https://www.uic.es/en/estudis/beques/international-excellence-scholarships-international-students 
พี่นิค
พี่นิค - Columnist หนุ่มเอก Eng ติ่ง Blackpink วิ่งหาประสบการณ์ใหม่ๆ หลงใหลในการแปลและการแต่งนิยาย

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น