จบสายภาษามีงานมากกว่าที่คิด! พาไปส่อง 10 อาชีพยอดฮิต ได้เงินเดือนเท่าไหร่บ้าง?

สวัสดีครับน้องๆ ชาว Dek-D ทุกคน มีใครเป็นเด็กสายภาษาเหมือนพี่มิวนิคบ้างครับ! ถ้าใครเล็งๆ หรือกำลังเรียนด้านนี้อยู่ แต่ยังไม่แน่ใจว่าจบแล้วจะทำงานอะไรดี จะมีอาชีพที่ตรงกับความถนัดและไลฟ์สไตล์ของเรามั้ย? วันนี้พี่จะพาไปเปิดตัวอย่าง 10 อาชีพที่คนจบสายภาษาสามารถทำได้ พร้อมข้อมูลประกอบว่าแต่ละอาชีพมีค่าตอบแทนประมาณไหน? เด็กจบใหม่น่าจะ start เงินเดือนสักประมาณเท่าไหร่? ตามมาเช็กข้อมูลกันเลย!

_________________________

1. ล่าม (Interpreter) 

มาเริ่มข้อแรกกับอาชีพที่เด็กสายภาษารู้จักกันดี ซึ่งก็คือ “ล่าม” นั่นเองครับ ขอบอกว่าอาชีพนี้มาแรงต่อเนื่องหลายปีเพราะทุกวงการต้องมีคนทำงานนี้มาเป็นตัวกลางการสื่อสารหรือเจรจา เช่น ล่ามในการประชุมและอบรมสัมมนาแวดวงธุรกิจ ล่ามทางการแพทย์ ล่ามโรงงาน ล่ามศาล ล่ามวงการบันเทิง เป็นต้น  

โดยที่การจะเป็นล่ามได้ต้องเข้าใจไวยากรณ์ มีคลังคำศัพท์แน่น สื่อความได้ดีทั้งภาษาต้นทางและปลายทาง (Source Language and Target Language) สามารถแปลครบใจความได้อย่างรวดเร็วแบบวิต่อวิ และที่สำคัญต้องมีความเข้าใจในเรื่องเฉพาะทางที่กำลังล่ามอยู่ ด้วยเหตุนี้ความต้องการในตลาดและรายได้ของอาชีพนี้จึงสูงมาก (ยิ่งคนที่ล่ามได้หลายภาษา ค่าตอบแทนยิ่งปังไปอีก) โดยเงินเดือนเริ่มต้นของเด็กจบใหม่จะอยู่ที่ราวๆ 25,000-30,000 บาทเลยครับ // ใดๆ คืออาจต้องสอบใบอนุญาตด้วยนะครับ ใครอยากเป็นล่ามสายไหนก็ศึกษาข้อมูลเพิ่มกันได้เลย

_________________________

2. พนักงานต้อนรับในโรงแรม (Guest Service Agent) 

มาต่อกับอาชีพ “พนักงานต้อนรับในโรงแรม” กันบ้างครับ (อาจเรียกย่อๆ ว่า GSA หรือบางที่ก็เรียกว่าตำแหน่ง Front) บอกเลยว่านักเรียนสายภาษาพาเหรดกันมาทำงานด้านนี้เยอะมากก เพราะได้ใช้สกิลภาษาแบบจัดเต็ม ตั้งแต่ต้อนรับแขกหรือนักท่องเที่ยว (ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ) ดูแลการ check in & check out คอยให้คำแนะนำ รับสายโทรศัพท์ ตอบอีเมล รวมถึงงานเอกสารอื่นๆ เรียกว่าคอยจัดแจงทุกอย่างเพื่อให้แขกประทับใจในบริการของโรงแรมนั่นเอง ความปังคือหากเราทำงานดี มีโอกาสเติบโตในสายงานนี้สูงมากก อาจได้เลื่อนขั้นเป็นถึงระดับผู้จัดการทั่วไป (General Manager) หรือตำแหน่งสูงๆ ในโรงแรมได้เลยครับ

และด้วยความที่ประเทศไทยเป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยว มีชาวต่างชาติตบเท้าเข้ามาเที่ยวปีละหลายล้านคน พนักงานต้อนรับในโรงแรมจึงเป็นหนึ่งในอาชีพฮอตๆ และรายได้ดีไม่น้อยเลย สำหรับเด็กจบใหม่จะมีเงินเดือนราวๆ 12,000 - 15,000 บาท และหากมีประสบการณ์ 1-5 ปี เงินเดือนก็อาจเพิ่มสูงถึง 35,000 บาททีเดียวครับ (ยังไม่รวมทิปและค่า Service Charge) ถ้าใครเล็งไว้แนะนำให้ลงเรียนวิชาเลือกหรือเสรีที่เกี่ยวกับงานบริการหรืองานโรงแรมไว้เลยครับ มีประโยชน์มากกก!

_________________________

3. พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน 
(Flight Attendant/Cabin Crew)

หากพูดถึงงานยอดฮิตของเด็กสายภาษาแล้ว จะไม่พูดถึง “พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน” ก็คงไม่ได้ (เรียกว่าลูกเรือก็ได้เหมือนกัน) เชื่อเลยครับว่าเด็กสายภาษาหลายคนใฝ่ฝันจะติดปีกเป็นแอร์โฮสเตสหรือสจ๊วต เพราะดีทั้งรายได้ ภาพลักษณ์สุดเนี้ยบ และโอกาสได้ท่องเที่ยวแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมแบบเปิดโลกสุดๆ แถมยังได้ใช้ความรู้ที่เรียนมาแบบเต็มๆ อีกด้วย

ต้องบอกว่าอาชีพนี้เป็นที่นิยมในกลุ่มเด็กจบใหม่ ด้วยสายการบินส่วนใหญ่มักจำกัดอายุผู้สมัครเอาไว้ บางสายก็รับไม่เกิน 28 ปี (บางที่ก็ไม่จำกัดอายุ แต่มีน้อยมากๆ) ดังนั้นถ้าหากน้องๆ คนไหนอยากทำงานนี้ก็รีบเตรียมตัวไว้ให้พร้อม ทั้งคะแนน TOEIC หรือใครมีสกิลภาษาที่ 3 ที่ 4 ก็ฝึกให้เป๊ะปัง รวมถึงเสริมความรู้เกี่ยวกับงานบริการสายการบินไปด้วยก็จะยิ่งดี 

ปฏิเสธไม่ได้ว่าเรื่องรายได้นั้นเป็นเหตุผลหลักๆ ของหลายคนที่เลือกทำงานลูกเรือ ซึ่งแต่ละสายการบินก็มีค่าตอบแทนที่แตกต่างกันไป ถ้าหากเที่ยวบิน (route) เฉพาะในประเทศก็อาจจะได้น้อยกว่าบินต่างประเทศ ยกตัวอย่างเช่น สายการบินกาตาร์แอร์เวย์ (Qatar Airways) ซึ่งบินทั่วโลก จะมีรายได้รวมอยู่ที่ราวๆ 80,000 - 110,000 บาท, สายการบินเอมิเรตส์ (Emirates) อยู่ที่ประมาณ 80,000 - 110,000 บาท, สายการบินแอร์เอเชีย (Air Asia) อยู่ที่ 65,000 - 75,000 บาท หรือสายการบินไทยสมายล์ (Thai Smile) จะได้ประมาณ 45,000 - 50,000 บาท เป็นต้น // ใครเล็งสายไหนไว้ก็รีบเช็กคุณสมบัติของสายนั้นๆ ให้พร้อม เพราะแต่ละปีบางสายอาจเปิดรับไม่บ่อยครับ 

_________________________

4. คอลเซ็นเตอร์ (Call Center)

ทุกบริษัทจะมีตำแหน่ง “คอลเซ็นเตอร์” เพื่อคอยตอบคำถามและให้ความช่วยเหลือลูกค้าผ่านทางโทรศัพท์ (ต่างจากอาชีพ Receptionist ที่ได้เจอลูกค้าตัวเป็นๆ) แน่นอนว่ามีโอกาสที่ปลายสายจะไม่ใช่คนไทย ดังนั้นบริษัทเล็กใหญ่จึงมักมองหาผู้ที่จะเข้ามาทำหน้าที่สำคัญตรงนี้ โดยพิจารณาจากทักษะการสื่อสารภาษาอื่นๆ ด้วย (แก๊งคอลเซ็นเตอร์มิจฉาชีพขอไม่นับนะครับ 5555)

มาส่องเงินเดือนกันสักหน่อย~ สำหรับนักศึกษาจบใหม่เงินเดือนจะอยู่ที่ราวๆ 15,000 - 17,000 บาท พอเก็บเกี่ยวประสบการณ์ไปเรื่อยๆ ก็อาจจะได้เพิ่มขึ้นเป็น 20,000 - 50,000 บาทเลย

 _________________________

5. บรรณาธิการ (Editor)

ใครชอบงานเขียน รักงานอ่าน ชอบตรวจสอบความถูกต้องทางภาษา ปักหมุดที่อาชีพ “บรรณาธิการ” หรือเรียกสั้นๆว่า บ.ก. ได้เลยครับ โดยเฉพาะในสำนักพิมพ์ สำนักข่าว รวมไปถึงสื่อออนไลน์ทุกองค์กรล้วนต้องการผู้ที่คอยควบคุม คัดเลือก ดูแลเนื้อหาและการออกแบบรูปภาพทั้งหมด ก่อนที่งานจะถูกตีพิมพ์หรือเผยแพร่ทางโซเชียล ดังนั้นหลายบริษัทจะต้องการ บ.ก. ที่นอกจากจะแม่นยำเรื่องเนื้อหาแล้ว ถ้าหากรู้มากกว่าสองภาษา มีความคิดสร้างสรรค์ และมีสกิลการจัดการและบริหารงานเก่งๆ ก็จะยิ่งตอบโจท์มากขึ้น // โดยเฉพาะวงการโฆษณาและประชาสัมพันธ์นั้นต้องการบรรณาธิการสุดๆ

มาส่องค่าตอบแทนกันบ้าง! เงินเดือนสำหรับเด็กจบใหม่จะอยู่ที่ราวๆ 17,000 - 25,000 บาท และอาจจะเพิ่มขึ้นสูงถึง 60,000 บาทเลย (ยิ่งมีประสบการณ์สูง รายได้ก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย)

_________________________

6. นักสร้างคอนเทนต์ (Content Creator)

ใครที่ชอบงานด้านความคิดสร้างสรรค์ ปักหมุดที่อาชีพ "นักสร้างคอนเทนต์" นี้ได้เลยครับ! ผู้ที่สามารถสร้างเนื้อหาตอบโจทย์คนยุคปัจจุบันได้ดี ย่อมต้องมีหูตาว่องไว ทักษะการถ่ายทอด พ่วงด้วยความรู้ลึกและรอบโลก ดังนั้นภาษาจึงเป็นแต้มต่อให้สามารถเข้าถึงฐานข้อมูลได้กว้างขวางมากกว่า รวมถึงสามารถนำความรู้มาผลิตคอนเทนต์ได้โดยตรง บอกเลยว่าเดี๋ยวนี้สื่อออนไลน์หลายเจ้าก็เปิดรับตำแหน่งนี้มากขึ้นด้วย ใครอยากทำที่ไหนก็ลองเช็กคุณสมบัติคร่าวๆ และเตรียมผลงานให้พร้อมเอาไว้เลย // อย่างทาง Dek-D ก็เปิดรับเด็กฝึกงาน Content Creator ตลอดปีเลยนะ มีหลายแผนกด้วย ลองดูรีวิวที่ลิงก์ด้านล่างได้เลยครับ ^^

แล้วค่าตอบแทนอาชีพนี้จะอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่นะ? อาชีพนี้จะได้เงินเดือนราวๆ 18,000 บาท จนถึง 45,000 บาท ขึ้นอยู่กับขอบข่ายคอนเทนต์และประสบการณ์การทำงาน ถ้าหากใครมีความสามารถแบบ full package เขียนคอนเทนต์เริด ทำกราฟิกเป็น ตัดต่อวิดีโอได้ หรือมีสกิลการสัมภาษณ์และเป็นพิธีกรได้ บอกเลยว่าค่าตอบแทนยิ่งสูงมากๆ เลยครับ  

 _________________________

7. เจ้าหน้าที่ทรัพยากรบุคคล (Human Resources, HR)

มาต่อที่อาชีพ “เจ้าหน้าที่ทรัพยากรบุคคล” หรือตำแหน่ง ‘HR’ ผู้ที่เป็นเหมือนตัวแทนของบริษัทเลยก็ว่าได้ เพราะมีบทบาทตั้งแต่กระบวนการคัดเลือกคนเข้าทำงาน สัมภาษณ์ จัดการเอกสาร สัญญาจ้างงาน กฎระเบียบองค์กร เงินเดือน-สวัสดิการ ไปจนถึงรักษาบรรยากาศการทำงานให้น่าอยู่ด้วย (ขอบข่ายของงาน HR ในแต่ละบริษัทจะแตกต่างกัน) แถมสมัยนี้ยังมีการซื้อตัวพนักงานกันเยอะมาก ทุกบริษัทจึงต้องมี HR ที่หูตาไว คอยมีข้อเสนอใหม่ๆ ให้พนักงานเก่งๆ ไม่ถูกซื้อตัวออกจากไปจากองค์กร

และด้วยความที่ในประเทศไทยมีบริษัทข้ามชาติเยอะมากๆ ทั้งสาย Law Firm, สาย Audit หรือแวดวงเอเจนซีโฆษณา ล้วนแล้วต้องการฝ่ายบุคคลที่มีทักษะทางด้านภาษาในระดับดีพร้อมรับมือกับกระบวนการคัดเลือกชาวต่างชาติทั่วโลกเข้าทำงาน สามารถติดต่อสื่อสารในและนอกองค์กรได้อย่างราบรื่นโดยไม่มีกำแพงภาษามาเป็นอุปสรรคครับ

หลายคนมักเข้าใจว่าจะต้องจบรัฐศาสตร์เท่านั้นจึงจะเป็น HR ได้ แต่ความจริงเด็กสายภาษาแบบเราก็ทำได้ครับ ถ้าหากใครอยากได้ประสบการณ์ตรงก็แนะนำให้ลองฝึกงานก่อนเลยครับ (จะได้เป็นการเตรียมพร้อมก่อนลงสนามจริง) และสำหรับเงินเดือน HR ของเด็กจบใหม่จะอยู่ที่ราวๆ 15,000 - 25,000 บาท หากมีประสบการณ์การทำงาน 1 - 5 ปี ก็จะได้เงินเดือน 20,000 - 50,000 บาท และหากมีประสบการณ์มากกว่า 5 ปี เงินเดือนอาจพุ่งสูงถึง 35,000 - 70,000 บาทเลยย

_________________________

8. เลขานุการ (Secretary)

“เลขานุการ” ก็เป็นอีกอาชีพที่สกิลเรื่องภาษานั้นสำคัญมาก ยิ่งถ้าหากใครต้องการทำงานในบริษัทต่างชาติหรือบริษัทที่มีการติดต่อทำธุรกิจกับต่างประเทศ เด็กที่จบสายภาษาจึงเป็นที่ต้องการมากๆ เพราะบางบริษัทอาจต้องมีการต้อนรับแขกระดับ VIP จากต่างประเทศ ดูแลเอกสารลับและตอบอีเมล แปลเอกสารที่เต็มไปด้วยคำศัพท์ระดับทางการ อีกทั้งต้องมีการติดต่อเจรจากับลูกค้าที่เป็นชาวต่างชาติด้วย รวมถึงงานอื่นๆ ที่ได้รับมอบหมาย อาชีพนี้จึงเหมาะกับเด็กจบสายภาษาแบบเราสุดๆ

สำหรับเงินเดือนนั้นจะอยู่ระหว่าง 15,000 บาท จนถึง 150,000 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดของบริษัท และประสบการณ์การทำงานของเราด้วย 

_________________________

9. พนักงานขาย (Sale Executive) 

เด็กภาษาคนไหนรู้ตัวว่าขายเก่งงงง นำเสนอเก่งงงง โน้มน้าวเก่งงงง ไม่แน่ว่าอาชีพ “พนักงานขาย” อาจงานที่ใช่ก็ได้นะครับเพราะนอกจากต้องเข้าใจผลิตภัณฑ์หรือบริการเป็นอย่างดี รู้วิธีเข้าหาลูกค้าชาวไทย ยังมีบริษัทมากมายเลยครับที่ต้องการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มชาวต่างชาติ แน่นอนว่าภาษานี่แหละที่จะช่วยทลายข้อจำกัดด่านแรก จนสามารถโน้มน้าวใจลูกค้ากลุ่มนี้ได้สำเร็จ

สำหรับพนักงานขายที่เป็นเด็กจบใหม่ เงินเดือนจะอยู่ที่ราวๆ 20,000 - 25,000 บาท และหากมีประสบการณ์การทำงาน 1 - 5 ปี เงินเดือนอาจเพิ่มเป็น 30,000 - 60,000 บาท และถ้ามีประสบการณ์เกิน 5 ปี ก็อาจจะได้เงินเดือนรวมกว่า 45,000 - 70,000 บาทเลยทีเดียวครับ

_________________________

10. ครูสอนภาษาไทยให้ต่างชาติ
(A Thai Teacher for Foreigners)

หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าภาษาไทยก็ป็อบสุดๆ ในหมู่ชาวต่างชาติบางกลุ่ม ทั้งนักท่องเที่ยว นักเรียน-นักศึกษาแลกเปลี่ยน หรืออย่างช่วงหลายปีมานี้กระแสซีรีส์วายไทยและ T-POP ก็มาแรงมากๆ จนกลายเป็น soft power ทำให้กลุ่มแฟนอินเตอร์ที่ชื่นชอบศิลปินบ้านเราหันมาเรียนภาษาไทยกันมากขึ้น ทำให้มีหลายสถาบันที่เปิดรับสมัคร “ครูสอนภาษาไทยให้ชาวต่างชาติ” (ทั้งแบบออนไลน์และแบบออนไซต์) ซึ่งแน่นอนว่าพื้นฐานสำคัญก็คือความเข้าใจใน ‘ภาษาไทย’ และ ‘ภาษาของผู้เรียน’ เป็นอย่างดี  (เช่น อังกฤษ เกาหลี ญี่ปุ่น ฯลฯ) และหากยิ่งได้หลายภาษายิ่งขยายโอกาสให้เจองานค่าตอบแทนสูงไปอีก ดีไม่ดีอาจเจอช่องทางโยกย้ายไปเป็นครูสอนภาษาไทยในต่างประเทศได้ด้วยนะครับ

สำหรับเงินเดือนเริ่มต้นก็ไม่ต่ำกว่า 17,000 บาทเลย และจริงๆ แล้วก็ไม่จำเป็นต้องเป็นครูภายใต้สถาบันใดสถาบันหนึ่งก็ได้ เพราะหลายคนยิ่งมีประสบการณ์มากๆ หรือมีการรีวิวบอกต่อปากต่อปากจากลูกค้า ก็หันมารับงานฟรีแลนซ์เองจนได้ค่าตอบสูงมากๆ เลยด้วย เรียกว่าเป็นอีกอาชีพที่ผู้ชอบการสอนและหลงใหลการได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกับคนจากทุกมุมโลกไม่ควรมองข้ามเลยครับ!  

_________________________

เป็นอย่างไรบ้างครับสำหรับ 10 อาชีพที่พี่ได้แนะนำไป มีอาชีพไหนถูกใจน้องๆ บ้างไหมครับ? ต้องบอกเลยว่าการเรียนภาษาทำให้เปิดโอกาสการทำงานมากมาย แถมยังได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าอีกด้วย และพี่ก็เชื่อว่าหากเราหมั่นอัปสกิลภาษาตลอดเวลา รับรองว่าน้องๆ ต้องได้งานตามที่หวังไว้แน่นอนครับ

วันนี้พี่มิวนิคก็ต้องขอตัวลาไปก่อน ไว้คราวหน้าพี่จะนำบทความที่สนุกและแฝงไปด้วยสาระมาฝากทุกคนอีก อย่าลืมติดตามช่องทางต่างๆ ของ Dek-D ไว้ด้วยนะครับ เวลาพี่นำข่าวสารมาอัปเดตเมื่อไหร่ จะได้ไม่พลาดกัน Bye~~