จากเด็กวิศวะหุ่นยนต์สู่ประธานธุรกิจสายบันเทิงที่ญี่ปุ่น ด้วยเป้าหมายใหม่เชื่อมโลกบันเทิงเอเชีย (THE TERRACE81)

สวัสดีค่ะชาว Dek-D วันนี้จะพาไปคุยกับอินฟลูเอนเซอร์และเจ้าของบริษัทท่านหนึ่งค่ะ ! บอกเลยว่าเส้นกราฟชีวิตน่าตื่นเต้นมาก เริ่มจากการไปเรียน ป.ตรี สาขาวิศวกรรมศาสตร์ของ ม.ดัง ในประเทศญี่ปุ่น ช่วงที่เป็นนักศึกษาก็มีโอกาสจับงานเบื้องหลังวงการบันเทิงครั้งแรก จากนั้นเริ่มงานเป็นวิศวกร และเบนเข็มมาทำงานสายธุรกิจ จุดประกายให้เรียนต่อ MBA ที่ Keio University และยังได้ไปแลกเปลี่ยน 5 เดือนที่ ม.ดังกลุ่ม SKY ของเกาหลีด้วย!

แล้วในที่สุดจิ๊กซอว์ทุกพาร์ตในชีวิตจะมาประกอบกันแบบลงตัว เพราะปัจจุบันเธอเปิดบริษัท Entertainment ของตัวเองเรียบร้อย บริษัทนี้ตั้งอยู่ที่โตเกียว เน้นคอลแล็ปแวดวงบันเทิงระหว่าง 3 ประเทศคือไทย เกาหลี และญี่ปุ่น ซึ่งกำลังจะบุกตลาดจีนเร็วๆ นี้ด้วย (*มีแผนจะเปิดรับสมัครรอบ 2 เร็วๆ นี้ค่า) 

IG: jiniponpokorin
IG: jiniponpokorin

ถึงตารางงานจะแน่นสุดๆ แต่จังหวะก็พอดีสุดๆ เหมือนกัน เพราะเป็นช่วงที่ “จินนี่” @jiniponpokorin เจ้าของบริษัทไฟแรงคนนี้บินมาประสานงานที่ไทยพอดี และแวะมาเติมความสดใสให้ออฟฟิศ Dek-D ของเราด้วยค่ะ~ เราหวังว่าบทสัมภาษณ์นี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคนที่มีความฝันและเติมไฟให้คนกำลังเรียนภาษา สำหรับใครที่อยากอ่านรีวิวการเรียนวิศวะโรบ็อตที่ Waseda Univ. ตามไปอ่านได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้ก่อนได้เลย ><

Part 1 : Waseda University

เริ่มต้นชีวิตนักศึกษาที่ญี่ปุ่น
ป.ตรีวิศวะ > ป.โท MBA

สวัสดีค่า~ ชื่อ ‘จินนี่’ จิณห์ระพีร์ ธนะโสภณ รียนจบ ป.ตรี สาขา Robotics คณะวิศวกรรมเครื่องกลที่ Waseda University (เรียนเป็นภาคญี่ปุ่น) หลังเรียนจบเริ่มงานแรกเป็น System Engineer ในบริษัทที่ญี่ปุ่นค่ะ แต่กลับรู้สึกวิศวะไม่ใช่ทางของเรา เลยลองไปสมัครงานผู้ช่วย CEO ในบริษัท Trading Company ดูแลงานติดต่อธุรกิจต่างประเทศ 

แล้วงานนี้ทำให้ค้นพบว่าเราสนใจด้านธุรกิจมากๆ จนตัดสินใจเรียนต่อ ป.โท MBA ที่ Keio University (慶應) หรือ Keidai (慶大) พร้อมกับทำงานไปด้วยค่ะ ถึงจะเป็นช่วงโควิดแล้วต้องเรียนออนไลน์เกือบ 100% แต่ก็ยังเข้มข้นอยู่ดี ตอนปีแรกเรียนจันทร์-ศุกร์ วันละ 2 คาบ (9:00-16:00) พอปี 2 ลดน้อยลงแล้วไปทำธีสิสแทน

แนะนำว่าอย่างน้อยควรสื่อสารภาษาญี่ปุ่นคล่องถึงจะไม่เหนื่อย เพราะต้องอ่านชีตเรียนวันละเป็นร้อยหน้าเพื่อเตรียมมาอภิปรายกับเพื่อนและอาจารย์ ถ้าใครไม่ได้อ่านมาคือโป๊ะแน่นอน บรรยากาศตอนเรียนคือแชร์กันแบบดุเดือดมากกก แต่ละคนต้องได้พูดอย่างน้อยๆ 1 ครั้งในคลาส และจะมีผลต่อเกรดด้วย

IG: jiniponpokorin
IG: jiniponpokorin

นอกจากนี้ก็จะมีโปรเจ็กต์กลุ่ม เช่น วิชา [ 起業体験] ให้แบ่งกลุ่ม 6 คนจัดตั้งบริษัททำยอดแข่งกัน เริ่มตั้งแต่ร่างเอกสารเลยว่าบริษัทเราตั้งอยู่ที่ไหน, เปิดบัญชีบริษัท, ทำ Business Model เตรียมนำเสนอให้นักลงทุน, นำเสนอจริง, วางตำแหน่งว่าใครเป็น CMO, CEO ฯลฯ แบ่งหุ้นส่วนยังไงว่าใครได้เท่าไหร่บ้าง, วางแผนว่าจะเริ่มทำตอนไหน, ขายเมื่อไหร่, ช่องทางไหน, กลุ่มลูกค้าคือใคร ฯลฯ โดยวิชานี้จะมีรุ่นพี่ที่เรียนลงวิชานักลงทุนเข้ามาลงทุนกับบริษัทของพวกเราด้วย

หรืออย่างอีกวิชานึงคือโปรเจ็กต์ตอนเรียน Keio เรากับเพื่อนมองหาธุรกิจที่ขายได้ทางออนไลน์ เลยเลือกทำ E-Book เขียนๆ แปลๆ กันคนละ 10-20 หน้า มีฉบับภาษาไทยกับอังกฤษ ใครสนใจพิกัดด้านล่างนี้เลยค่า 5555

โปรแกรมนักศึกษาแลกเปลี่ยน
บินไปเรียน 5 เดือนที่เกาหลี

MBA Keio จะมีโปรแกรมแลกเปลี่ยนที่เป็นความร่วมมือกับหลักสูตร Global MBA ของ ม.ยอนเซ (Yonsei University) ของเกาหลี ตอนนั้นสมัครแล้วได้ไปแลกเปลี่ยน 5 เดือน (ตอนนั้นก็คือบินไปเกาหลีนะ แต่เรียนออนไลน์ในร้านกาแฟ 555) ส่วนตัวคิดว่าบรรยากาศในคลาสไม่ตึงเครียด และเรียนเป็นภาคภาษาอังกฤษ

แวะไปเช็กอินที่ Busan สักหน่อย
แวะไปเช็กอินที่ Busan สักหน่อย
IG: jiniponpokorin

ช่วงนั้นจะมีเรียนคลาสภาษาเกาหลี Practical Korean: Beginning 1A และ 1B (สัปดาห์ละ 2 วัน เน้นการสื่อสารเบื้องต้น) และคลาส MBA อีก 4 วิชา

  • IT For Value Creation
  • Entrepreneurship in Action
  • Advanced Business Communications **ชอบวิชานี้สุด ได้เรียนรู้ตั้งแต่การสร้าง First Impression ที่ดีต่อผู้บริโภค กิจกรรมกลุ่มคือให้คุยกับเพื่อนคนนึง หาจุดเด่นแล้วนำเสนอให้คนอื่นในคลาสจดจำเพื่อนคนนี้ให้ได้ ซึ่งเค้าจะดูเรื่องบุคลิกการพูดของเราด้วยว่าชวนตื่นเต้นมั้ย จังหวะการพูดช้าเร็วยังไงบ้าง
  • Career Foundation

การเรียนที่ Keio กับ Yonsei ประสบการณ์ที่ดีมากและเด่นเรื่องคอนเน็กชันทั้งคู่ เราสังเกตว่าคนญี่ปุ่นนิยมเรียน MBA เพื่อต่อยอดไปทำสายงานที่ปรึกษา​ (Consultant) และเป้าหมายคือการได้เข้าทำงานในบริษัทใหญ่ๆ ในขณะที่คนเกาหลีมักจะมาเรียนด้านนี้เพื่อสานต่อธุรกิจครอบครัวหรือก่อตั้งธุรกิจหรือ Start-Up 

**โปรไฟล์เพื่อนของทั้ง 2 ที่ก็จะอลัง แต่ข้อแตกต่างคือที่ Yonsei เป็นคอนเน็กชันระดับโลก เช่น บริษัทเครื่องสำอางฝรั่งเศส ในขณะที่ Keio จะเป็นบริษัทแนวหน้าในประเทศญี่ปุ่น

หลังกลับจาก Yonsei เราก็ได้ภาษาเกาหลีระดับนึง แล้วหาเวลาเรียนต่อจริงจังเพราะอยากทำธุรกิจที่ต้องใช้ภาษาญี่ปุ่นและเกาหลี (ข้อดีคือไวยากรณ์เกาหลีเหมือนกับญี่ปุ่น และบางคำศัพท์คล้ายกัน ช่วยให้เรียนได้เร็วขึ้น) 

.
.
.

แล้วในที่สุดเราก็มีบริษัทเป็นของตัวเองแล้วค่ะ!

IG: jiniponpokorin
IG: jiniponpokorin
IG: jiniponpokorin
IG: jiniponpokorin
เว็บไซต์หลักสูตร MBA Keio

. . . . . . . . .

เมื่อจิ๊กซอว์ทุกพาร์ตในชีวิต
มาประกอบกันเป็น THE TERRACE81

ปัจจุบันเราออกมาเปิด Entertainment Company เองแล้วค่ะ ชื่อว่า “THE TERRACE81” มาจากคำว่า “terrace ในภาษาอังกฤษแปลว่าระเบียงหรือพื้นที่ ซึ่งไปพ้องกับคำในภาษาญี่ปุ่นที่อ่านออกเสียงว่า “เท-รา-ซึ”「照らす 」ที่แปลว่า เปล่งประกาย ส่องแสง เจิดจ้า ฯลฯ ส่วนเลข 81 มาจากหมายเลขโทรศัพท์ตัวหน้าของภาษาญี่ปุ่น (ของญี่ปุ่น +81 ของไทยคือ +66) แล้วที่บังเอิญอีกคือบริษัทก่อตั้งเมื่อวันที่ 18 เดือน 11

บริษัทของเรามีออฟฟิศตั้งอยู่ที่เมืองชินจูกุ (Shinjuku-ku / 新宿区) ในกรุงโตเกียว จดทะเบียนเมื่อ 18 พฤศจิกายน 65 ที่ผ่านมานี้เอง คอนเซ็ปต์คือการ collab กันระหว่างประเทศเกาหลี-ไทย-ญี่ปุ่น และอาจมีขยายไปยังชาติอื่นๆ อีกในอนาคต ซึ่งตอนนี้ก็กำลังมีโปรเจ็กต์กับจีนด้วยค่ะ

ตัวอย่างเช่นโปรเจ็กต์ #จาเฟริสท์ พาไปถ่ายงานที่เกาหลี, ถ่ายแบบทำ Photobook ขายในญี่ปุ่น, ทำแฟนมีตของจาเฟริสท์ครั้งแรกในญี่ปุ่น (ขายบัตร VIP หมดภายใน 5 นาที) และมีทำ Goods ด้วยนะคะ พวกเค้ามีแฟนๆ จากทั่วโลกเยอะมาก !

มีโอกาสกระทบไหล่คนดังในวงการเยอะมากกกก
มีโอกาสกระทบไหล่คนดังในวงการเยอะมากกกก

ย้อนไปตั้งแต่ตอนเรียน Waseda Univ. เรามีโอกาสเข้าไปเป็น staff ประสานงานไทย-ญี่ปุ่น ของงานถ่ายละครทีวีช่องหนึ่ง นั่นคือครั้งแรกที่ได้ทำงานเบื้องหลังของวงการบันเทิง พอจบออกมาก็เป็นวิศวกรและผู้ช่วย CEO ก่อนจะย้ายมาทำบริษัทเกี่ยวกับสื่อบันเทิงของญี่ปุ่น และปัจจุบันเปิดบริษัทตัวเอง 

เราได้ใช้ทั้งสิ่งที่เรียนกับประสบการณ์ที่ผ่านมา ประยุกต์ใช้กับการจับเทรนด์เพื่อหาทางให้ธุรกิจไปได้ดี และสิ่งสำคัญคือคอนเน็กชัน เราเหมือนเรียนไปเก็บคอนเน็กชันไป ตั้งแต่สมัยเป็นเด็กแลกเปลี่ยน AFS, ตอนเรียนที่ Waseda และโดยเฉพาะที่ Keio กับ Yonsei คือเยอะมากกก

ช่วงแรกบริษัทมีจินนี่คนเดียว และจ้างคนภายนอก (outsource) แต่ช่วงนี้มีเปิดรับสมัครพนักงานประจำแล้วนะคะ คาดว่าจะเปิดรับสมัครพนักงานใหม่อีกรอบเร็วๆนี้ ใครผ่านมาทางนี้แล้วรู้สึกงานใช่ คุณสมบัติตรง รอติดตามข่าวกันเลยค่า

. . . . . . . .

ตามไปทัวร์ผลงานออฟฟิศสุดปังนี้กันนน~  

THE TERRACE81

ติดตามช่องทางหลัก THE TERRACE 81

ติดตามพี่จินนี่ @jiniponpokorin

Part 1 : Waseda University
พี่กุ๊กไก่
พี่กุ๊กไก่ - Columnist มนุษย์เบ้าหน้าจีน หวีดนักร้องไทย คลั่งไคล้ซีรี่ส์เกาหลี คลุกคลีกับอาหารญี่ปุ่น

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น