ไปออแพร์ที่ไหนดี? รวม 5 ประเทศยอดฮิตสำหรับโครงการพี่เลี้ยงเด็กที่คนไทยนิยมไป

สวัสดีชาว Dek-D ทุกคนค่ะ มีน้องๆ คนไหนที่อยากใช้ Gap Year หรือเด็กจบใหม่ที่กำลังหาลู่ทางไปเปิดประสบการณ์ในต่างประเทศอยู่บ้าง! นอกจากโครงการสุดฮอตอย่าง Work and Travel หรือ Working Holiday ที่คนไทยนิยมไป วันนี้พี่ครีมมีข้อมูลอีกโครงการที่น่าสนใจไม่แพ้กันมาฝาก นั่นก็คือ “ออแพร์ (Au Pair)” หรือโครงการพี่เลี้ยงเด็กในต่างประเทศมาให้ลองเก็บเป็นอีกตัวเลือกกันค่ะ

โครงการออแพร์ที่ว่านี้คืออะไร? เหมาะกับเรามั้ย? ต้องเตรียมค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไหร่? แล้วคนไทยชอบไปประเทศไหนกันบ้าง? ตามมาเก็บข้อมูลกันเลยค่า~

Photo Credit: Unsplash
Photo Credit: Unsplash

Au Pair คืออะไร?

ออแพร์ (Au Pair) ป็นโครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมรูปแบบหนึ่งที่ผ่านการรับรองและอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐอย่างถูกกฎหมาย เปิดโอกาสให้วัยรุ่นช่วง 18-30 ปี สามารถสมัครทำงานเป็น “พี่เลี้ยงเด็ก” และพักอาศัยกับครอบครัวอุปถัมน์ (Host Family) เป็นระยะเวลา 1-2 ปี ออแพร์จะได้รับค่าตอบแทนตามที่กฎหมายประเทศนั้นๆ กำหนด รวมถึงทุนการศึกษา $500 (ประมาณ 17,600 บาท) ให้เลือกเรียนได้ตามความสนใจ **ไม่ใช่โครงการจัดหางานนะคะ

Au Pair ทำหน้าที่อะไรบ้าง?

หลักๆ จะครอบคลุมการดูแลเด็กทุกอย่างตามชื่อโครงการเลยค่ะ เช่น 

  • เป็นพี่เลี้ยงคอยเล่นและดูแลความปลอดภัยของเด็กๆ
  • ดูแลกิจวัตรประจำวันของเด็กทั้งหมด ตั้งแต่จัดเตรียมอาหาร ช่วยเด็กอาบน้ำ ดูแลเรื่องสุขอนามัย ส่งเด็กเข้านอน เป็นต้น
  • สอนการบ้าน หรือพัฒนาทักษะด้านอื่นๆ ให้กับเด็ก
  • ขับรถรับ-ส่งเด็กๆ ไปโรงเรียนหรือไปทำกิจกรรมอื่นๆ
  • ทำความสะอาดสิ่งของหรือบริเวณที่เกี่ยวข้องกับเด็ก เช่น ห้องนั่งเล่น ห้องนอน เสื้อผ้า ของเล่น ของใช้ เป็นต้น
  • ช่วยเหลืองานบ้านอื่นๆ เช่น จัดโต๊ะอาหาร ล้างจาน ดูแลสัตว์เลี้ยง เป็นต้น

ลักษณะการทำงานของ Au Pair

  • จำนวนชั่วโมงการทำงานขึ้นอยู่กับกฎหมายของประเทศโฮสต์ ส่วนใหญ่ไม่เกิน 10 ชม. ต่อวัน หรือไม่เกิน 45 ชม. ต่อสัปดาห์
  • ปกติจะมีวันหยุด 1.5-2 วันต่อสัปดาห์และลาหยุดได้อีก 4 วันในช่วงระยะเวลา 12 เดือน **ช่วงวันหยุด ออแพร์จะได้เข้าร่วมกิจกรรมหรือเรียนคอร์สภาษาเพิ่ม ภายใต้การสนับสนุนของโฮสต์
  • ควรตกลงเรื่องขอบข่ายหน้าที่และตารางการทำงานกับทางครอบครัวโฮสต์ฯ ให้เรียบร้อยก่อนตกลงเริ่มงาน

คุณสมบัติเบื้องต้น

  • อายุ 17-30 ปี *แต่ละประเทศกำหนดต่างกัน สามารถตรวจสอบที่นี่ได้เลยค่า
  • จบการศึกษาขั้นต่ำ ม.6 หรือกำลังเรียนระดับปริญญา *แต่ละประเทศกำหนดต่างกัน
  • สถานภาพโสด (ไม่เคยแต่งงานหรือมีบุตร)
  • สามารถสื่อสารในชีวิตประจำวันด้วยภาษาอังกฤษหรือภาษาของประเทศโฮสต์ได้ บางประเทศอาจต้องใช้หลักฐานคะแนนสอบวัดระดับภาษา (Language Certificate) หรือต้องลงคอร์สภาษาเพื่อนำใบรับรองมายื่นขอวีซ่า เช่น ประเทศเยอรมนี กำหนดภาษาเยอรมันขั้นต่ำ A1
  • อุปนิสัยรักเด็ก ใช้เวลาอยู่กับเด็กได้
  • มีประสบการณ์เกี่ยวกับเด็กอย่างน้อย 200 ชม. และมีเอกสารรับรอง
  • มีใบอนุญาตขับขี่และสามารถขับรถยนต์ได้ หรือกรณีที่ขับรถไม่ได้ สามารถสมัครออแพร์ประเทศที่เดินทางด้วยจักรยาน เช่น เนเธอร์แลนด์
  • สุขภาพดี ไม่เป็นโรคติดต่อ ไม่มีประวัติอาชญากรรม
  • หากไม่สูบบุหรี่จะช่วยให้หาโฮสต์ได้ง่ายขึ้น

Note: บางกรณีโฮสต์แฟมิลี่อาจขอใบรับรองหรือเอกสารอื่นๆ เพิ่มเติมเพื่อยืนยันความสามารถ

ค่าใช้จ่าย

 ในส่วนของค่าใช้จ่ายโครงการออแพร์ค่อนข้างเป็นมิตรกับคนที่มีงบจำกัด  สำหรับการเดินทางจะขึ้นอยู่กับการตกลงกันกับทางโฮสต์แฟมิลี่ ซึ่งไม่ได้มีกฎชัดเจนว่าทางโฮสต์จะต้องออกค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ให้ ดังนั้น ผู้เข้าร่วมออแพร์ควรมีเงินที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในส่วนนี้สำรองไว้ หรือควรตกลงกับทางโฮสต์ให้เรียบร้อยก่อน

Note: 

  • ข้อดีของออแพร์ที่แตกต่างจากโครงการอื่นๆ คือ ผู้สมัครไม่ต้องยื่นหลักฐานทางการเงิน (Financial Statement)
  • ถ้าหากสมัครผ่านเอเจนซีจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่อาจสูงกว่าการดำเนินการสมัครด้วยตนเอง
Photo Credit: Unsplash
Photo Credit: Unsplash

สรุปจุดเด่น & ข้อควรระวังก่อนสมัครออแพร์

ข้อดี

  • มีวุฒิ ม.6 ก็สมัครไปได้เลย เหมาะกับน้องๆ หรือใครที่อยากใช้ Gap Year เพื่อเปิดประสบการณ์ต่างประเทศ
  • ไม่ต้องแสดงหลักฐานการเงิ(Financial Statement) นการสมัคร
  • ค่าใช้จ่ายเข้าร่วมโครงการถูก เนื่องจากสามารถสมัครเองได้และส่วนใหญ่โฮสต์จะเป็นฝ่ายออกให้
  • ได้กินฟรี-อยู่ฟรีในบ้านของครอบครัวโฮสต์
  • ได้อัปสกิลภาษาอื่นๆ เพิ่มนอกจากภาษาอังกฤษ (และก็เรียนฟรีด้วย)
  • ถ้าไปออแพร์ประเทศในยุโรปจะได้เชงเก็นวีซ่า ทำให้สามารถเที่ยวประเทศอื่นๆ ในยุโรปได้ง่ายขึ้น
  • ออแพร์ในบางประเทศจะได้วีซ่าให้เที่ยวต่อเป็นเวลา 1 เดือน เช่น สหรัฐอเมริกา

ข้อควรระวัง

  • เงินเดือนอาจไม่ได้เยอะมาก เหมาะกับคนที่ต้องการไปหาประสบการณ์ ไม่เน้นเงินเก็บ
  • ไม่สามารถทำงานเสริมได้ (เป็นกฎของโครงการ)
  • ต้องมีใจรักเด็กจริงๆ สามารถทนอยู่กับเด็กได้เวลาที่เด็กไ่ม่รับฟังหรือมีปัญหา
  • อาจเจอปัญหากับครอบครัวโฮสต์ ต้องเผื่อใจเอาไว้และต้องตกลงกันดีๆ
  • กรณีเปลี่ยนโฮสต์ จะต้องหาโฮสต์ใหม่ภายใน 2 อาทิตย์เท่านั้น
  • การใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมีค่าครองชีพค่อนข้างสูง ดังนั้นควรใช้จ่ายอย่างประหยัด
  • เนื่องจากต้องอาศัยอยู่ในบ้านของโฮสต์ ดังนั้นควรขีดเส้นกั้นระหว่างงานกับความเป็นส่วนตัวให้ดี

พาส่อง 5 ประเทศสุดฮิตที่คนไทยชอบไปออแพร์

สหรัฐอเมริกา

Photo Credit: Unsplash
Photo Credit: Unsplash

เริ่มที่ประเทศยอดฮิตของคนไทยที่ชอบไปเรียนและทำงานกันอย่าง  ‘สหรัฐอเมริกา’ ซึ่งเป็นประเทศศูนย์กลางของโลก มีอิสระเสรี และมีความหลากหลายทางวัฒนธรรมสูง และที่สำคัญไม่จำเป็นต้องมีทักษะภาษาที่สามก็สามารถไปออแพร์ได้ โดยการไปออแพร์ที่นี่จะต้องใช้วีซ่านักเรียนประเภท J1 (Cultural Exchange Visitor Visa) ค่ะ 

คุณสมบัติ

  • อายุ 18-26 ปี
  • สำเร็จการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาหรืออนุปริญญา
  • สามารถสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษและใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกาได้อย่างน้อย 1 ปี
  • สถานภาพโสด (ไม่เคยแต่งงานหรือมีบุตร)
  • มีประสบการณ์เกี่ยวกับเด็กอย่างน้อย 200 ชม.

ออแพร์ที่อเมริกาจะได้รับค่าตอบแทนเป็นรายสัปดาห์ เฉลี่ยจะอยู่ที่สัปดาห์ละ $195.75 (ประมาณ 6,800 บาท) โดยทำงานไม่เกิน 45 ชม.ต่อสัปดาห์และมีวันหยุด 1.5-2 วันต่อสัปดาห์ แต่ต้องโน้ตไว้สักนิดว่าถ้าใครเล็งๆ ไปออแพร์ที่อเมริกาต้องรีบหน่อยนะคะ เพราะว่าเค้าจำกัดอายุไม่เกิน 26 ปีเท่านั้น ถ้าช้ากว่านี้อาจต้องเปลี่ยนไปประเทศอื่นแทนค่า

เนเธอร์แลนด์

Photo Credit: Unsplash
Photo Credit: Unsplash

ต่อกันที่ดินแดนแห่งทุ่งทิวลิปอย่าง ‘เนเธอร์แลนด์’ ก็เป็นหนึ่งในประเทศที่หลายคนแนะนำให้ไปออแพร์ เพราะว่ามีทั้งบรรยากาศที่สงบเรียบง่าย ธรรมชาติสวยงามที่ตราตรึงใจจนไม่อยากกลับ นอกจากนี้ยังเป็นประเทศศูนย์กลางสามารถเดินทางไปเที่ยวประเทศใกล้เคียงในแถบยุโรปตะวันตกอย่างเยอรมนีและเบลเยียมได้สะดวกอีกด้วย! ใครจะไปออแพร์ที่นี่เตรียมเรียนภาษาดัตซ์ไว้เลยย

คุณสมบัติ

  • อายุ 18-25 ปี
  • สถานภาพโสด (ไม่เคยแต่งงานหรือมีบุตร)
  • มีประสบการณ์ในการดูแลเด็กอย่างน้อย 200 ชม.
  • สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษหรือภาษาดัตช์ได้
  • ไม่เคยมีใบอนุญาตผู้พักอาศัย (Resident Permit) ในเนเธอร์แลนด์มาก่อน

รายได้ออแพร์ในเนเธอร์แลนด์อยู่ที่ 300-340 ยูโรต่อเดือน (ประมาณ 11,400-13,000 บาท) ทำงานไม่เกิน 8 ชม.ต่อวันหรือไม่เกิน 30 ชม.ต่อสัปดาห์ และมีวันหยุด 2 วันเต็มต่อสัปดาห์ ใครที่อยากไปที่นี่เผื่อเวลาในการเตรียมตัวด้วยนะคะ เนื่องจากต้องทำเรื่องขอใบอนุญาตผู้พักอาศัย (Residen Permit) และวีซ่า MMV (วีซ่าอยู่ในประเทศนานกว่า 90 วัน)

สวิตเซอร์แลนด์

Photo Credit: Unsplash
Photo Credit: Unsplash

ใครอยากไปสัมผัสอากาศบริสุทธิ์ ทุ่งหญ้าป่าเขาในสวิตเซอร์แลนด์ ประเทศนี้ก็เข้าร่วมโครงการออแพร์ด้วยเช่นกันค่ะ แต่ต้องขอโน้ตไว้ก่อนนะคะว่าผู้สมัครควรมีทักษะภาษาที่สามที่สี่ติดตัวมาด้วย เพราะว่าที่นี่มีภาษาทางการถึง 3 ภาษา (ขึ้นอยู่กับโซนของประเทศ) อาจต้องใช้คะแนนภาษาและส่งผลต่อการหาโฮสต์ด้วยค่ะ

คุณสมบัติ

  • อายุ 18-25 ปี
  • สถานภาพโสด (ไม่เคยแต่งงานหรือมีบุตร)
  • สามารถสื่อสารภาษาใดภาษาหนึ่งได้เป็นอย่างดี ได้แก่ ภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศส ภาษาเยอรมัน หรือภาษาอิตาเลียน
  • มีประสบการณ์ในการดูแลเด็กอย่างน้อย 200 ชม.
  • สามารถลงคอร์สเรียนภาษาเพิ่มเติมได้ (ภาษาที่เรียนขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่ออแพร์อาศัยอยู่)

ส่วนของรายได้ที่สวิตเซอร์แลนด์อยู่ที่ SFr500 - 800 ต่อเดือน (ประมาณ 20,000-31,000 บาท) ทำงานไม่เกิน 30 ชม.ต่อสัปดาห์และมีวันหยุดอย่างน้อย 2 วันต่อสัปดาห์ ถ้าใครสนใจไปออแพร์ที่นี่จะรอช้าไม่ได้แล้วนะคะ เพราะใช้เวลายื่นขอ Resident Permit ในแต่ละเมืองค่อนข้างนาน ซึ่งเอเจนซีส่วนใหญ่จะเปิดรับถึงอายุ 24 เท่านั้นค่ะ

สวีเดน

Photo Credit: Unsplash
Photo Credit: Unsplash

หลายประเทศทางแถบสแกนดิเนเวียก็เข้าร่วมโครงการออแพร์เช่นกัน หนึ่งในนั้นก็มี “สวีเดน” ที่ขึ้นชื่อเรื่องนวัตกรรม คุณภาพชีวิตที่ดี มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม และยังเปิดกว้างเรื่องเพศอีกด้วย แต่ต้องขอบอกไว้ก่อนว่าประเทศนี้เหมาะกับคนที่สนใจเรียนภาษาสวีดิชหรือพอมีพื้นฐานอยู่แล้ว เนื่องจากต้องใช้ในการยื่นขอวีซ่านั่นเองง 

คุณสมบัติ

  • อายุ 18-30 ปี
  • สถานภาพโสด (ไม่เคยแต่งงานหรือมีบุตร)
  • สามารถเข้าร่วมโครงการได้เป็นระยะเวลาสูงสุด 1 ปี
  • สามารถใช้ภาษาอังกฤษหรือภาษาสวีดิชได้ดี
  • สามารถลงคอร์สเรียนภาษาสวีดิชได้ เนื่องจากต้องใช้ยื่นขอวีซ่า
    **ค่าใช้จ่ายในการลงคอร์สจะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลหรือโฮสต์แฟมิลี่

ในส่วนของรายได้ออแพร์ในสวีเดนจะอยู่ที่ 5,250 SEK ต่อเดือน (ประมาณ 17,430 บาท) โดยจะทำงานไม่เกิน 25 ชม.ต่อสัปดาห์และไม่เกิน 6 วันต่อสัปดาห์ (ช่วงเวลาในการทำงานสามารถยืดหยุ่นได้) ใครยังไม่พร้อมไปออแพร์ตอนนี้ จดประเทศสวีเดนไว้ในลิสต์ก่อนได้นะคะ เพราะเค้าเปิดรับถึงอายุ 30 ปีเลย~

เดนมาร์ก

Photo Credit: Unsplash
Photo Credit: Unsplash

ประเทศที่ผู้คนมีความสุขมากที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ของโลก และใช้ภาษาอังกฤษได้ดีที่สุดในกลุ่มประเทศที่ใม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่อย่าง “เดนมาร์ก” ก็เข้าร่วมโครงการออแพร์เช่นกันค่ะ โดยผู้ที่สนใจจะต้องสัมภาษณ์วีซ่าเป็นภาษาอังกฤษ และลงเรียนคอร์สภาษาเดนนิชด้วย // ถ้าใครพอมีพื้นฐานหรือตั้งใจจะเรียนภาษานี้เพิ่มอยู่แล้ว โอกาสนี้เหมาะสุดๆ เพราะทางโฮสต์กับทางรัฐบาลจะออกค่าใช้จ่ายในการลงเรียนให้ค่า 

คุณสมบัติ

  • อายุ 18-29 ปี
  • สถานภาพโสด (ไม่เคยแต่งงานหรือมีบุตร)
  • สามารถพูดและเข้าใจภาษาอังกฤษ ภาษาเดนนิช ภาษาสวีดิช ภาษานอร์เวย์ หรือภาษาเยอรมันได้ในระดับปานกลาง (ขึ้นอยู่กับพื้นที่ของประเทศ)
  • มีวุฒิติการศึกษาต่ำสุดอย่างน้อย ม.3 หรือเทียบเท่าเกรด 9 ในระดับการศึกษาของเดนมาร์ก
  • ไม่เคยมีใบอนุญาตผู้พักอาศัย (Resident Permit) ในเดนมาร์กมาก่อน

รายได้ออแพร์ในเดนมาร์กอยู่ที่ 4,550 DKK ต่อเดือน (ประมาณ 23,000 บาท) โดยทำงาน 5–6 ชั่วโมงต่อวันหรือสูงสุด 30 ชั่วโมงต่อสัปดาห์และทำงานไม่เกิน 6 วันต่อสัปดาห์ สำหรับคนที่สนใจหรือเล็งประเทศเดนมาร์กไว้สามารถอ่านรายละเอียดที่นี่ได้เลยค่า

Note: นอกจาก 5 ประเทศข้างต้น ยังมีอีกหลายประเทศทั่วโลกที่เปิดรับผู้เข้าร่วมโครงการออแพร์เช่นกัน เช่น เยอรมนี ฝรั่งเศส เบลเยียม ลักเซมเบิร์ก ออสเตรีย เป็นต้น 

อยากไปออแพร์ต้องเริ่มยังไง? 

มาถึงตรงนี้แล้ว มีใครเริ่มสนใจไปออแพร์บ้างไหมคะ? ถ้าใครสนใจลองเลื่อนดูวิธีการเตรียมตัวด้านล่างได้เลยยย

Photo Credit: gifdb.com
Photo Credit: gifdb.com

เช็กคุณสมบัติของการเป็นออแพร์

อย่างที่เกริ่นไปตอนต้นว่าเกณฑ์การรับออแพร์แต่ละประเทศแตกต่างกัน ทางผู้สมัครควรศึกษาข้อมูลและเช็กคุณสมบัติของแต่ละที่ให้ชัดเจน เช่น ข้อจำกัดเรื่องของอายุ ภาษา การศึกษา เป็นต้น โดยสามารถเช็กคุณสมบัติคร่าวๆ ตามที่ลิสต์ไว้ข้างบนได้เลยหรือเข้าหรือไปเช็กคุณสมบัติแต่ละประเทศทางลิงก์นี้ก็ได้ค่า >> https://www.aupairworld.com/en/au-pair-programs <<

หาประสบการณ์ดูแลเด็กอย่างน้อย 200 ชม.

ก่อนสมัครออแพร์เราต้องมีใบรับรองประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องมาก่อนด้วย โดยผู้ที่สนใจสามารถสมัครดูแลเด็กได้ตามศูนย์เด็กเล็ก โรงเรียนใกล้บ้าน หรือนายจ้างที่ต้องการให้เราดูแลลูกให้ โดยมีกำหนดขั้นต่ำที่ 200 ชม. (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละประเทศ) และอย่าลืมขอเอกสารรับรองการทำงานด้วยนะคะ สำคัญมากกก! 

Note: มีการเปิดรับพี่เลี้ยงเด็กสำหรับเก็บชั่วโมงออแพร์โดยเฉพาะในบางแห่ง สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมทางอินเทอร์เน็ตหรือทางกลุ่มเฟซบุ๊กออแพร์ได้เลยค่ะ

เตรียมเอกสารและใบสมัครการเป็นออแพร์

ผู้สมัครควรตรวจสอบและเตรียมเอกสารที่ต้องใช้เข้าประเทศที่เลือกล่วงหน้า เช่น รูปถ่าย, เอกสารรับรองการศึกษาและการทำงาน, Transcript (ภาษาอังกฤษ), เอกสารตรวจสุขภาพ, ใบรับรองประวัติอาชญากรรม, ใบรับรองการดูแลเด็ก, สำเนาใบขับขี่, จดหมายถึงครอบครัวอุปถัมภ์, แบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่า, หนังสือเดินทางที่มีอายุการใช้งาน และสัมภาษณ์วัดระดับภาษา เป็นต้น 

P.S. เอกสารที่ต้องเตรียมแตกต่างกันไปตามข้อกำหนดของแต่ละประเทศหรือแต่ละเอเจนซีค่ะ

สมัครออแพร์ยังไงดี?

การสมัครออแพร์สามารถดำเนินการสมัครด้วยตัวเองหรือดำเนินการผ่านทางเอเจนซีก็ได้ค่ะ

[ สมัครออแพร์ด้วยตัวเอง ] ใครอยากเซฟงบและลุยเดี่ยวด้วยตัวเองก็สามารถสมัครผ่านทางเว็บไซต์  Aupairworld  หรือ Airpair.com ได้เลยค่ะ (สมัครใช้งานฟรี) ซึ่งจะต้องสมัครสมาชิกกับทางเว็บก่อน โดยจะมีให้กรอกประวัติและตอบคำถามต่างๆ เพื่อให้โฮสต์รู้จักและแมตช์กับเราง่ายขึ้น ทางเว็บจะมีส่วน Find fimily เพื่อให้เราหาโฮสต์แฟมิลี่และทำการติดต่อพูดคุยกับทางโฮสต์ด้วยตัวเองค่ะ

นอกจากนี้ผู้สมัครยังสามารถหาโฮสต์แฟมิลี่ทางกลุ่มเฟซบุ๊กออแพร์ต่างๆ ได้เช่นกัน แต่ต้องเช็กประวัติให้ดีๆ นะคะ เพราะว่าบางคนก็อาจเป็นมิจฉาชีพแอบแฝงนั่นเองค่ะ

[ สมัครออแพร์กับทางเอเจนซี ] ตอนนี้มีหลายเอเจนซีที่เปิดรับสมัครผู้เข้าร่วมโครงการออแพร์ ถ้าใครสนใจสามารถติดต่อไปทางเอเจนซีที่ต้องการได้เลยค่ะ โดยส่วนใหญ่จะช่วยดำเนินการหาโฮสต์แฟมิลี่และช่วยจัดการเรื่องของเอกสารให้แบบครบทุกขั้นตอนเลย ใครที่ไม่ค่อยมีเวลาเตรียมตัวหรืออยากลดความกังวล ก็ลองเลือกปรึกษากันได้เลยค่าา 

P.S. ในบางประเทศมีกฎให้เข้าร่วมออแพร์ผ่านทางเอเจนซีเท่านั้น เช่น สหรัฐอเมริกา เนเธอร์แลนด์ และสวิตเซอร์แลนด์ เป็นต้น **ไม่จำเป็นต้องเป็นเอเจนซีไทย ถ้าใครหาโฮสต์เอง ทางโฮสต์จะติดต่อกับทางเอเจนซีของประเทศโฮสต์ให้ค่ะ

สมัครออแพร์สมัครเอเจนซีไหนดีนะ?

อย่างที่บอกไปว่าเราสามารถสมัครออแพร์ด้วยตัวเองได้โดยไม่ต้องผ่านเอเจนซี แต่หากมีเวลาจำกัด จับต้นชนปลายไม่ถูก ไม่รู้ต้องหาโฮสต์จากไหน ก็สามารถเลือกใช้บริการเอเจนซีเพื่อให้ทุกขั้นตอนง่ายขึ้น (มีค่าใช้จ่าย)  และด้านล่างนี้คือลิสต์ตัวอย่างเอเจนซีของไทยที่รับดูแลการสมัครออแพร์ในประเทศต่างๆ ตามมาส่องรายละเอียดคร่าวๆ และจดลงลิสต์กันเลย~

  • Engenius - บริษัทที่ให้คำแนะนำโครงการแลกเปลี่ยนต่างๆ ในต่างประเทศ และยังครอบคลุมถึงออแพร์ประเทศยอดฮิตอย่างสหรัฐอเมริกาและเยอรมนีด้วย
    เว็บไซต์:  https://www.engenius.co.th/
    FB: Engenius International
    Tel: 02 117 4742
     
  • Cultural Care Au Pair - บริษัทที่ให้คำแนะนำและช่วยเหลือการไปออแพร์ที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ EF (www.ef.co.th)
    เว็บไซต์: https://www.culturalcare.co.th/next-step/faq
    FB: Cultural Care Au Pair 
    Tel: 081 733 2256
     
  • ThaiAupiar.com - บริษัทที่ให้คำแนะนำเกี่ยวกับโครงการออแพร์ในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ ในยุโรป  ได้แก่ เบลเยียม เยอรมนี ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์และออสเตรเลีย
    เว็บไซต์: https://www.thaiaupair.com/about-us#
    FB: Thaiaupair.com
    Tel:  088 577 0350
     
  • Au Pair Alternative Thailand - บริษัทให้คำปรึกษาและคอยช่วยเหลือเกี่ยวกับออแพร์ ส่วนใหญ่จะครอบคลุมประเทศฝั่งยุโรป เช่น เดนมาร์ก สวีเดน เนเธอร์แลนด์ เบลเยียม ลักเซมเบิร์ก ฝรั่งเศส เยอรมนี เป็นต้น
    เว็บไซต์: http://aupair-alt.com/
    FB: Au Pair Alternative Thailand
    Tel: 097 323 3300
     
  • BTA (Beloved Thailand Au Pair) - บริษัทแนะแนวการศึกษาต่อและโครงการแลกเปลี่ยนต่างประเทศ รวมถึงโครงการออเแพร์ในประเทศฝั่งยุโรป เช่น สหรัฐอเมริกา เดนมาร์ก สวีเดน ออสเตรีย เป็นต้น
    เว็บไซต์: https://www.belovedthaiaupair.com/
    FB: BTA บีเลิฟด์ไทยออแพร์
    Tel: 089 789 6337

เป็นยังไงกันบ้างคะกับข้อมูล ‘โครงการออแพร์’ ที่พี่นำมาฝากในวันนี้ เรียกว่าฉ่ำจัดเต็มสุดๆ แอบกระซิบว่าบางประเทศมีโควตาให้เราเที่ยวต่อหลังจบออแพร์ด้วยนะ ได้ทั้งทำงาน เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ แถมยังได้ท่องเที่ยว เรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรมไปพร้อมๆ กันด้วย เลิศมาก! ถ้าใครสนใจรีบศึกษาข้อมูลและเตรียมตัวไว้ก่อนได้เลย เพราะเค้ามีข้อจำกัดเรื่องของอายุนะคะ (ระวังพลาดประเทศที่อยากไปกันนะ) // ส่วนวันนี้ไม่ขอช้าง ไม่ขอม้า แต่ขอลาไปเตรียมตัวก่อนค่า ><
 

[อ่านรีวิวประสบการณ์พี่เลี้ยงในสวีเดนเพิ่มเติมได้ที่นี่]

'ปาล์ม' กับประสบการณ์งานพี่เลี้ยงเด็กในสวีเดน พร้อมสวัสดิการสุดเริ่ด!
'ปาล์ม' กับประสบการณ์งานพี่เลี้ยงเด็กในสวีเดน พร้อมสวัสดิการสุดเริ่ด!
Resources:https://www.aupairworld.com/enhttps://www.aupair.com/https://edudee.co.th/edudee-aupair/https://www.engenius.co.th/au-pair/https://thelittlefighter.com/aupair-denmark/https://web.facebook.com/groups/469288273141624https://techsauce.co/connext/career-insight/au-pair-in-americahttps://beyondyaovy.com/au-pair-in-the-netherlands-general/
พี่ครีม
พี่ครีม - Columnist มนุษย์อิ้งสปีค Chinese ชอบ Eat ปิ้งย่าง พร้อมว่างเมื่อเจอนิยาย

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น