รู้จัก ‘Caregiver’ โครงการพี่เลี้ยงเด็ก & ดูแลผู้สูงอายุ โอกาสโยกย้ายไปคว้า PR ที่แคนาดา

สวัสดีชาว Dek-D ทุกคนค่า ใครกำลังหาลู่ทางโยกย้ายไปทำงานหรืออาศัยในแคนาดากันอยู่บ้างมั้ยคะ? วันนี้พี่ครีมมีอีกหนึ่งตัวเลือกดีๆ อย่าง โครงการ “Caregiver” มาแนะนำให้น้องๆ ได้รู้จักกันค่ะ ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับโครงการออแพร์ (Au Pair) เลย แต่ที่แตกต่างคือ ไม่จำกัดเพศและขยายขอบเขตอายุที่มากกว่า และที่พิเศษสุดๆ ก็คือถ้าทำงานครบ 2 ปีแล้วก็สามารถยื่นขอสิทธิ์เป็นพลเมืองถาวรของแคนาดาได้อีกด้วย! 

ว่าแต่โครงการนี้คือะไร? เหมาะกับเราไหม? ค่าโครงการแพงไหม? สมัครยังไง? ถ้าใครกำลังอยากย้ายประเทศไปเป็น #ทีมแคนาดา รีบตามมาทำความรู้จัก Caregiver ให้มากขึ้นและเตรียมพร้อมสมัครกันเลยค่ะ~ 

Photo credit: pexels.com
Photo credit: pexels.com

Note: บทความนี้อัปเดตข้อมูล ณ วันที่ 27 กรกฎาคม 2566 

Caregiver คืออะไร?

Caregiver คือ โครงการที่เปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติสามารถเข้าไปทำงานเป็นพี่เลี้ยงเด็ก (Home Child Care Provider Pilot) หรือคนดูแลผู้สูงอายุ (Home Support Worker Pilot) ที่ประเทศแคนาดา เป็นระยะเวลา 1-2 ปี โดยพักอาศัยอยู่กับครอบครัวของนายจ้าง ซึ่งคล้ายกับโครงการออแพร์ (Au Pir) ในประเทศฝั่งยุโรปนั่นเองค่ะ โดยผู้เข้าร่วมโครงการจะได้รับวีซ่าอนุญาตให้ทำงานในประเภท Caregiver และได้รับการดูแลคุ้มครองเปรียบเสมือนพลเมืองของแคนาดา แถมยังสามารถพาครอบครัวไปอยู่แคนาดาพร้อมกันได้ ซึ่งความพิเศษของโครงการนี้คือ ถ้าทำงานครบ 2 ปีก็จะมีสิทธิได้เป็นพลเมืองถาวร (Permanent Resident) ของแคนาดาอีกด้วย

อ่านบทความโครงการออแพร์ (Au Pair)

ไปออแพร์ที่ไหนดี? รวม 5 ประเทศยอดฮิตสำหรับโครงการพี่เลี้ยงเด็กที่คนไทยนิยมไป
ไปออแพร์ที่ไหนดี? รวม 5 ประเทศยอดฮิตสำหรับโครงการพี่เลี้ยงเด็กที่คนไทยนิยมไป

Caregiver ทำอะไรบ้าง?

ผู้สมัครจะสามารถเลือกได้ว่าจะทำงานเป็นพี่เลี้ยงเด็ก (Home Child Care Provider Pilot) หรือ ดูแลผู้สูงอายุ (Home Support Worker Pilot) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และความสามารถของผู้สมัครด้วยค่ะ

Photo credit: pexels.com
Photo credit: pexels.com

หน้าที่ของพี่เลี้ยงเด็ก (Home Child Care Provider Pilot)

  • ดูแลเกี่ยวกับกิจวัตรประจำวันของเด็ก เช่น อาบน้ำ แต่งตัวและให้อาหาร (ในกรณีที่เป็นเด็กทารกจะต้องเตรียมสูตรอาหารและเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ด้วย)
  • วางแผน จัดเตรียมและเสิร์ฟอาหารสำหรับเด็ก รวมทั้งทำหน้าที่ดูแลความสะอาดอื่นๆ
  • สอนเด็กเกี่ยวกับสุขอนามัยส่วนบุคคล
  • จัดฝึกอบรมด้านการศึกษาที่เหมาะสมกับวัยผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น เกม งานฝีมือ การอ่านและกิจกรรมนอกสถานที่
  • รับ-ส่งเด็กๆ ไปโรงเรียนหรือไปทำกิจกรรมอื่นๆ
  • คอยเล่นกับเด็กและดูแลความปลอดภัยของเด็กๆ
  • อาจจำเป็นต้องเก็บบันทึกกิจกรรมประจำวันและข้อมูลสุขภาพของเด็กที่ดูแล

หน้าที่ดูแลผู้สูงอายุหรือผู้ป่วย (Home Support Worker Pilot)

  • ให้การดูแลและเป็นเพื่อนกับบุคคลที่อยู่ในช่วงทุพพลภาพ พักฟื้น หรือครอบครัวหยุดชะงัก เช่น หย่าร้าง ห่างจากครอบครัว หรือสมาชิกในครอบครัวเสียชีวิต เป็นต้น
  • ดูแลผู้ป่วยข้างเตียงและดูแลเรื่องส่วนตัวต่างๆ เช่น การช่วยเหลือผู้ป่วย การอาบน้ำ ดูแลเรื่องสุขอนามัย และการแต่งกาย
  • วางแผนและเตรียมอาหาร (อาจมีการช่วยเหลือในการให้อาหาร)
  • อาจทำหน้าที่เกี่ยวกับสุขภาพ เช่น เปลี่ยนผ้าปิดแผล ช่วยดูแลเรื่องการรับประทานยาและเก็บสิ่งส่งตรวจภายใต้คำสั่งของหน่วยงานหรือพยาบาลที่ดูแล
  • อาจทำหน้าที่ดูแลบ้าน เช่น ซักผ้า ล้างจาน และจัดเตียง เป็นต้น

ลักษณะการทำงานและรายได้

โดยปกติ Caregiver จะทำงานไม่เกิน 35-45 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และได้รับรายได้ไม่น้อยกว่าฐานขั้นต่ำที่รัฐบาลกำหนด โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ CA$1,600-2,400 ต่อเดือน (~41,000-63,000 บาท/ต่อเดือน) **ค่าแรงจะแตกต่างกันไปในแต่ละเมืองและประสบการณ์ของผู้เข้าร่วมโครงการ นอกจากนี้ Caregiver จะได้รับวันหยุดประจำสัปดาห์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ รวมทั้งได้รับวันหยุดเป็นเวลา 2 สัปดาห์หลังจากทำงานครบ 1 ปีอีกด้วย

Photo credit: pexels.com
Photo credit: pexels.com

ค่าใช้จ่าย

รายการ

ค่าใช้จ่าย

ค่าดำเนินการสมัคร$570 (~19,600 บาท)
ค่าธรรมเนียมสมัครการพำนักอาศัยถาวร (Permanent residence)$515 (~17,700 บาท)
ค่าธรรมเนียมสำหรับคู่สมรสหรือคนรัก (ถ้าไปด้วย)$1,085 (~37,000 บาท)
ค่าธรรมเนียมสำหรับเด็ก (ถ้าไปด้วย)$155 (~5,300 บาท)
ค่าธรรมเนียมตรวจพิสูจน์บุคคล (Biometrics) **หากจำเป็น$85 (~2,900 บาท)
ค่าธรรมเนียมตรวจพิสูจน์บุคคล (Biometrics) สำหรับ 2 คนขึ้นไป **หากจำเป็น$170 (~5,800 บาท)
ค่าธรรมเนียมขอใบอนุญาตทำงาน (Work Permit)$155 (~5,300 บาท)

Note: 

  • ควรชำระค่าธรรมเนียมสมัครการพำนักอาศัยถาวร (Permanent residence) ทันทีหลังจากสมัคร
  • อาจมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินเอกสารอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น ค่าตรวจสุขภาพ ค่าทำหนังสือรับรองพฤติกรรม ค่าสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ หรือค่าขอใบรับรองการศึกษา เป็นต้น
  • ถ้าสมัครกับทางเอเจนซีอาจมีค่าดำเนินการเพิ่มเติม
Photo credit: pexels.com
Photo credit: pexels.com

คุณสมบัติเบื้องต้น

  • อายุ 18-45 ปี ไม่จำกัดเพศ ศาสนา เชื้อชาติและสถานภาพการสมรส
  • จบการศึกษาสูงกว่าระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย และต้องได้รับการประเมินหนังสือรับรองการศึกษาหรือการเทียบวุฒิ (ECA) จากองค์กรที่ได้รับการรับรอง สามารถเข้าไปเช็กรายละเอียดเพิ่มเติิมได้ที่นี่ 
  • ต้องหางานและได้รับ Job offer จากนายจ้างจากแคนาดา (สำคัญมาก!)
  • ควรมีประสบการณ์การทำงานอย่างน้อย 1 ปี เช่น ครู พยาบาล ออแพร์ พี่เลี้ยงเด็ก ผู้ดูแลคนชราหรือคนป่วย เป็นต้น (ส่วนนี้จะทำให้หานายจ้างได้ง่ายขึ้น)
  • ต้องมีผลสอบวัดระดับภาษาอังกฤษอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้ **ผลการสอบต้องมีอายุอย่างน้อย 2 ปีก่อนสมัคร
    - ผลสอบวัดระดับภาษาอังกฤษของประเทศแคนาดา หรือ Canadian Language Benchmarks (CLB) ขั้นต่ำระดับ CLB 5
    - ผลการสอบ IELTS ประเภท General Training ขั้นต่ำระดับ 5 ยกเว้นพาร์ต Reading ขั้นต่ำระดับ 4
  • อาจต้องมีใบรับรองการฝึกอบรมปฐมพยาบาลและการช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR)
  • สามารถขับรถได้ และมีใบขับขี่รถยนต์ (สามารถสอบได้หลังจากเข้าร่วมโครงการ)
  • สุขภาพดี ไม่เป็นโรคติดต่อ และไม่มีประวัติอาชญากรรม

Note:

  • ประสบการณ์ในการทำงานจะต้องเกี่ยวกับหน้าที่ที่ต้องการสมัครเท่านั้น เช่น ถ้าสมัครเป็นพี่เลี้ยงเด็ก ก็ต้องมีประสบการณ์ดูแลเด็ก ไม่สามารถใช้ประสบการณ์ดูแลผู้สูงอายุแทนได้
  • อาจต้องสำเร็จหลักสูตรการฝึกอบรมการดูแลผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ป่วยระยะพักฟื้น หรือในสาขาที่เกี่ยวข้อง (ในกรณีเลือกดูแลผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุ)
Photo credit: pexels.com
Photo credit: pexels.com

สรุปข้อดี & ข้อควรระวังก่อนสมัคร Caregiver

ข้อดี 

  • Caregiver เป็นโครงการที่ถูกต้องตามกฏหมายของประเทศแคนาดา ผู้เข้าร่วมจะได้รับการอนุญาตและการคุ้มครองเปรียบเสมือนพลเมืองแคนาดาคนหนึ่ง
  • ได้รับการคุ้มครองสุขภาพฟรีจากรัฐบาลแคนาดา ยกเว้น เรื่องศัลยกรรมความงาม และทันตกรรม
  • ไม่เสียค่าที่พัก เนื่องจากสามารถอาศัยอยู่กับนายจ้างได้ (หรือไม่พักอาศัยอยู่กับนายจ้างก็ได้เช่นกัน แต่ต้องออกค่าใช้จ่ายเอง)
  • สามารถขอภาษีคืนจากรัฐบาลแคนาดาได้ทุกๆ ต้นปี
  • เมื่อทำงานครบ 2 ปี สามารถทำเรื่องขอเป็นผู้อยู่อาศัยถาวร (Permanent resident) ของประเทศแคนาดาได้
  • สามารถพาครอบครัว (คนรักและลูก) ไปที่ประเทศแคนาดาพร้อมกันได้ หรือ ย้ายครอบครัวเข้ามาที่ประเทศแคนาดาได้เมื่อเป็นผู้อาศัยถาวรแล้ว (Permanent resident) โดยจะได้รับสิทธิประโยชน์เทียบเท่ากับชาวแคนาดา

ข้อควรระวัง

  • ต้องจ่ายค่าดำเนินการและค่าทำเอกสารในการสมัครด้วยตัวเองทั้งหมด
  • การพักอาศัยอยู่กับนายจ้างที่ดูแล อาจมีบางครั้งที่ต้องทำงานเกินเวลาที่ตกลงไว้ โดยไม่ได้รับค่าตอบแทนเพิ่มเติม
  • อาจสูญเสียความเป็นส่วนตัว เนื่องจากต้องแชร์ส่วนต่างๆ ภายในบ้านกับทางนายจ้าง ดังนั้นควรพูดคุยทำข้อตกลงกับนายจ้างและขีดเส้นแบ่งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวให้ชัดเจน
  • ต้องมีใจรักในการทำงาน สามารถทนอยู่ในสถานการณ์ที่ปัญหาหรือรับแรงกดดันได้ โดยเฉพาะการดูแลผู้ป่วยและผู้สูงอายุ
  • ไม่สามารถทำงานอย่างอื่นนอกจาก Caregiver ได้
  • อาจมีปัญหากับนายจ้าง ต้องเผื่อใจเอาไว้และคุยข้อตกลงกับนายจ้างดี

อยากเป็น Caregiver ที่แคนาดาต้องทำยังไง?

Photo credit: pexels.com
Photo credit: pexels.com

โครงการ Caregiver จะเปิดรับสมัครทุกวันที่ 1 มกราคม (รอบต่อไปวันที่ 1 มกราคม 2024) จำนวน 2,750 คน/ประเภท และจะปิดรับสมัครทันทีเมื่อเต็มจำนวน ซึ่งรายละเอียดและคุณสมบัติอาจมีการเปลี่ยนแปลงในแต่ละปีได้ ดังนั้นแนะนำให้ศึกษาข้อมูลและติดตามอัปเดตที่เว็บไซต์โดยตรงอีกทาง >> https://shorturl.at/kCIQV << 

Note: 

  • หากผู้สมัครมีคุณสมบัติตรงตามกำหนด จะได้รับใบอนุญาตเพื่อทำงานในแคนาดาแบบชั่วคราว
  • ใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) เป็นแบบจำกัดอาชีพ (ทำได้แค่งาน Caregiver เท่านั้น) แต่สามารถเปลี่ยนเจ้านายได้ **อาจมีข้อยกเว้นเพิ่มเติม
  • เมื่อทำงานครบ 2 ปีแล้ว สามารถส่งหลักฐานเพื่อพิจารณาขอเป็นผู้พำนักอาศัยถาวร (Permanent residence) ได้เลย โดยไม่ต้องยื่นเอกสารทั้งหมดอีกรอบ
  • ถ้าครอบครัวต้องการไปทำงานหรือเรียนที่แคนาดา สามารถพาครอบครัวไปด้วยได้ โดยต้องส่งเอกสารพร้อมกับผู้สมัคร

เช็กคุณสมบัติและเตรียมตัวให้พร้อม

ควรเช็กคุณสมบัติให้เรียบร้อยก่อนทำการสมัคร เพราะถ้ามีข้อใดที่ไม่ตรงตามที่กำหนดก็จะไม่สามารถสมัครได้ เช่น วุฒิการศึกษา ผลสอบวัดระดับภาษา ชั่วโมงในการทำงาน เป็นต้น สามารถเช็กคุณสมบัติคร่าวๆ ได้ตามที่ลิสต์ไว้ข้างบนหรือเข้าไปเช็กที่ลิงก์นี้ก็ได้ค่ะ 

หานายจ้างเพื่อขอ Job Offer

ระหว่างรอวันเปิดรับสมัครผู้สมัครสามารถหานายจ้างรอก่อนได้นะคะ เพราะว่าต้องใช้เอกสาร Job Offer ในการสมัครนั่นเองค่ะ โดยสามารถหาจากช่องทางออนไลน์หรือกลุ่มในเฟซบุ๊กก็ได้ เช่น AuPair World, indeed.com และ CannadianNanny.ca เป็นต้น ในส่วนของ Job Offer ควรมีข้อเสนอดังนี้

  • เอกสารการจ้างงานจากนายจ้าง (ดาวน์โหลดเอกสาร)
  • ทำงานอย่างน้อย 30 ชั่วโมง และได้รับค่าจ้างในแต่ละสัปดาห์
  • ต้องทำงานเมืองอื่น ที่ไม่ใช่เมือง Quebec
  • งานที่ทำต้องอยู่ในขอบเขตหน้าที่ที่ได้กล่าวไปข้างบน

เตรียมเอกสารให้เรียบร้อยก่อนสมัคร

  • ใบสมัครออนไลน์ (Online Application Forms)
  • หนังสือเดินทาง (Passport)
  • ผลการสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ IELTS หรือ CLB
  • หนังสือรับรองการศึกษาหรือการเทียบวุฒิ (ECA)
  • เอกสารระบุตัวตนและสถานะทางพลเมืองต่างๆ เช่น สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน สูติบัตร เอกสารการเปลี่ยนชื่อ (ถ้ามี) ทะเบียนสมรสหรือใบหย่า (ถ้ามี) ใบแสดงสถานะทางการเงิน (Financial Statement) เป็นต้น
  • หลักฐานแสดงการทำงาน (ได้รับเงินเดือนหรือไม่ได้รับก็ได้) ได้แก่ จดหมายอ้างอิงจากนายจ้าง บันทึกการจ้างงาน สัญญาการจ้างงาน เช็กเงินค่าจ้าง **สามารใช้เอกสารในการฝึกงานและประกาศนียบัตรได้
  • หนังสือรับรองพฤติกรรมจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่
  • รูปภาพของผู้สมัครและครอบครัว 50 mm x 70 mm **ต้องถ่ายภายใน 6 เดือนก่อนสมัคร อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่

Note: 

  • เอกสารข้างบนเป็นเพียงการลิสต์คร่าวๆ เท่านั้นนะคะ อาจมีเอกสารอื่นๆ เพิ่มเติม สามารถเข้าไปเช็กรายละเอียดเอกสารได้ที่นี่เลยค่ะ >> Document Checklist <<
  • เอกสารทั้งหมดควรแปลเป็นภาษาอังกฤษและแปลโดยนักแปลที่ได้รับการรับรองทางการแปล

กรอกใบสมัครทางออนไลน์ 

  • สามารถสมัครเพื่อขอพำนักอาศัยถาวร (Permanent residence) และยื่นคำร้องขอใบอนุญาตทำงานหรือ Work Permit ไปพร้อมกันเลยได้ค่ะ
    - สมัคร PR ได้ที่นี่ >> https://prson-srpel.apps.cic.gc.ca/en/login <<
    - ยื่นขำร้องขอ Work Permit ได้ที่นี่ >> https://shorturl.at/mowZ3 <<
  • ผู้สมัครต้องกรอกแบบฟอร์มออนไลน์เหล่านี้ให้เรียบร้อย 
    - Generic Application Form for Canada 
    - Schedule A – Background/Declaration
    - Additional Family Information
    - Supplementary Information - Your travels
  • แบบฟอร์ม PDF ที่สามารถกรอกทางออนไลน์ได้ (ไม่ต้องลงลายมือชื่อ)
    - Document Checklist: Home Child Care Provider or Home Support Worker (ใช้เพื่อเช็กเอกสารว่าครบหรือไม่)
    - Schedule 19a – Home Child Care Provider or Home Support Worker – Education and Language Assessment
  • แบบฟอร์ม PDF ที่ต้องพิมพ์และลงรายมือชื่อ พร้อมทั้งอัปโหลดลงในใบสมัคร
    - Offer of Employment
    - Application For a Work Permit Made Outside of Canada 
    - Statutory Declaration of Common-law Union (ถ้ามี)
    - Separation Declaration for Minors Traveling to Canada (ถ้ามี)

Note: 

  • สามารถอ่านรายละเอียด, ศึกษาขั้นตอนการสมัคร PR รวมถึงดาวน์โหลดเอกสารที่เกี่ยวข้องได้ที่ >> https://shorturl.at/asMTX <<
  • ผู้สมัครควรกรอกและตรวจสอบข้อมูลให้ครบถ้วน หากส่วนใดไม่เกี่ยวข้อง สามารถเขียนว่า "Not Applicable" หรือ "NA" ได้เลยค่ะ
  • อาจมีการร้องขอเอกสารเพิ่มเติมจากทางเจ้าหน้าที่

ชำระค่าธรรมเนียมในการสมัคร

ดำเนินการชำระค่าธรรมเนียมสำหรับตัวผู้สมัครและสมาชิกในครอบครัว สามารถอิงรายการชำระเงินจากข้างบนได้เลย และดูรายละเอียดในการชำระเงินได้ที่นี่ค่ะ และหลังจากดำเนินการเสร็จแล้วให้บันทึกใบเสร็จทั้งหมด พร้อมทั้งอัปโหลดลงในใบสมัครด้วย

ส่งใบสมัคร

  • ก่อนส่งใบสมัครควรตรวจสอบเอกสารให้เรียบร้อย สามารถเช็กใน Document Checklist ได้นะคะ
  • ลงนามในแบบฟอร์มที่ต้องลงลายมือชื่อให้เรียบร้อย
  • รวมใบเสร็จค่าดำเนินการ เพื่ออัปโหลดลงในใบสมัคร
  • อัปโหลดเอกสารประกอบทั้งหมด
  • ลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ในใบสมัคร (พิมพ์ชื่อ-นามสกุลให้ตรงตามที่ปรากฏบนหนังสือเดินทาง)

P.S. หากใบสมัครไม่เรียบร้อย จะถูกปฏิเสธและต้องทำการแก้ไขข้อผิดพลาดเพื่อส่งอีกครั้ง สามารถส่งใบเสร็จเดิมได้เมื่อทำการสมัครอีกครั้ง และควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าค่าธรรมเนียมที่ชำระครบถ้วนและไม่มีการเปลี่ยนแปลง

สมัคร Caregiver กับทางเอเจนซีดีไหมนะ?

อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าเราสามารถสมัคร Caregiver ด้วยตัวเองได้ แต่ถ้าใครไม่มีเวลาเตรียมตัวหรือกังวลเรื่องเอกสารและมีงบเพียงพอ การสมัครกับทางเอเจนซีก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะจะช่วยอำนวยความสะดวกให้เรามากขึ้น ตั้งแต่ขั้นตอนการหานายจ้าง การเตรียมเอกสารและการสมัครเลยค่ะ 

วันนี้พี่ครีมเลยลิสต์ตัวอย่างเอเจนซีของไทยที่รับดูแลการสมัคร Caregiver ในประเทศแคนาดามาฝากทุกคนด้วย ตามมาส่องรายละเอียดคร่าวๆ พร้อมจดลงลิสต์กันเลยย~

  • Thai To Canada - เพจที่รวบรวมข้อมูล ช่วยจัดหานายจ้างและตรวจสอบเอกสารต่างๆ สำหรับงาน Caregiver ที่ประเทศแคนาดาโดยเฉพาะ
    เว็บไซต์:  https://thaitocanada.com/thaihome/
    FB: https://web.facebook.com/thaitocanada?locale=th_TH
    Email: thaitocanada@gmail.com
  • iHostThailand - บริษัทที่ให้คำปรึกษาและคอยช่วยเหลือการเรียนหรือทำงานต่างประเทศ รวมถึงโครงการ Caregiver ที่ประเทศแคนาดาด้วย
    เว็บไซต์: https://ihostthailand.com/work-abroad-2/canada-caregiver/
    FB: https://web.facebook.com/IHostFanPage/
    Tel: 083 989 1810
  • Au Pair Thailand - บริษัทที่ให้คำปรึกษาและคอยช่วยเหลือโครงการ Caregiver ที่แคนาดาและโครงการออแพร์ในประเทศอื่นๆ โดยจะให้ความช่วยเหลือตั้งแต่เริ่มจนจบโครงการ
    เว็บไซต์: http://www.aupairthailand.org/
    Line: aupairthailand
    Tel: 086-338-4455

เป็นยังไงกันบ้างคะกับ ‘โครงการ Caregiver’ ที่นำมาฝากกันในวันนี้ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการย้ายไปอยู่ต่างประเทศที่น่าสนใจเลยทีเดียว ถ้าใครสนใจแนะนำให้รีบเตรียมคุณสมบัติและเอกสารไว้ให้พร้อมตั้งแต่เนิ่นๆ เลยนะคะ เพราะว่าโควตาเต็มเร็วมากก! (ระวังพลาดกันนะ) ส่วนพี่เองก็ต้องขอลาไปเตรียมตัวก่อนบ้างเหมือนกัน เผื่อจะได้โยกย้ายส่ายสะโพกไปสัมผัสคุณภาพชีวิตดีๆ ที่แคนาดากับเค้าบ้างง >< // ใครเคยเข้าร่วมโครงการนี้แล้ว มาเล่าสู่กันฟังได้น้าา รออ่านค่า ^^

 

Sources: https://www.canada.ca/en/immigration-refugees-citizenship/services/immigrate-canada/caregivers.htmlhttps://web.facebook.com/thaitocanada/posts/3786404161488140/?locale=th_THhttps://thaitocanada.com/โครงการ-live-in-caregiver/https://www.canadavisa.com/canada-caregivers-pathways-permanent-residence.htmlhttps://www.servicelinks.ca/page/live-in-caregiver-work-permit?lang=th
พี่ครีม
พี่ครีม - Columnist มนุษย์อิ้งสปีค Chinese ชอบ Eat ปิ้งย่าง พร้อมว่างเมื่อเจอนิยาย

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

1 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด
กำลังโหลด