รีวิวกระชับๆ ฉบับเรียนต่อ ป.โท ที่ Beijing Normal University ม.ท็อปด้านการสอน โดยเด็กทุนครูภาษาจีน

เมื่อ 2 ปีที่แล้ว พี่วินมีโอกาสได้สัมภาษณ์ ‘พี่นุก’ ในบทความ ‘ธีสิสชนะ! เล่าชีวิตเด็กทุน CIS จาก BLCU พร้อมแชร์เทคนิคเขียนธีสิสที่แม้แต่โควิดก็ยังต้องยอมแพ้’ กันไปแล้ว ณ ตอนนั้นเจ้าตัวเพิ่งจบป.ตรีที่ Beijing Language and Culture University สาขาการสอนภาษาจีนสำหรับต่างชาติ ปัจจุบันนุกก็ยังคงแน่วแน่ในเส้นทางอาชีพครู โดยตัดสินใจขอทุนเรียนต่อระดับปริญญาโท สาขาการสอนภาษาจีน ที่มหาวิทยาลัยครุศาสตร์ปักกิ่ง หรือ Beijing Normal University (北京师范大学) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศจีน 

ณ ตอนนี้มีสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว 3 อย่าง 1. พี่นุกสามารถขอทุนได้สำเร็จ 2. มหาวิทยาลัยในประเทศจีนเปิดเรียนแล้ว และ 3. เส้นทางความฝันในการเป็นครูที่ดีของเธอนั้นยังคงดำเนินต่อไป ซึ่งแต่ละเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับพี่นุกนั้นจะน่าสนใจแค่ไหน ตามมาอ่านกันครับ

Two-year skip: จากเด็ก BLCU จบใหม่ 
สู่นักเรียนทุนจีนป.โท BNU แบบเต็มตัว

จากเด็ก BLCU เมื่อสองปีก่อน ตอนนี้ได้เป็นเด็ก BNU แล้ว
จากเด็ก BLCU เมื่อสองปีก่อน ตอนนี้ได้เป็นเด็ก BNU แล้ว

หลังจบปริญญาตรี เป็นช่วงเวลาแห่งการตัดสินใจที่ยิ่งใหญ่เลยว่า จะเลือกทำงานเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ หรือจะเลือกเรียนต่อ ซึ่งพี่นุกได้ตัดสินใจช้อยส์หลัง พี่วินเลยอยากรู้ว่าเพราะอะไรถึงตัดสินใจแบบนั้น และมีวิธีการเตรียมตัวในการเรียนต่อ ป.โท ที่จีนอย่างไรบ้าง ตามมาดูคำตอบกันเลยครับ

เส้นทางสู่มหาวิทยาลัยด้านครุศาสตร์อันดับหนึ่งของจีน

หนังสือตอบรับเข้าเรียนที่ Beijing Normal University อย่างเป็นทางการ
หนังสือตอบรับเข้าเรียนที่ Beijing Normal University อย่างเป็นทางการ

จริงๆ ตอนแรกแพลนว่าหลังจบป.ตรีแล้วก็จะเรียนต่อโทเลย เพราะรู้สึกว่าถ้าได้เรียนต่อเนื่องจะทำให้ไม่ลืมความรู้ที่เรียนมา (ไอ้เราตอนนั้นก็ไฟแรงซะด้วยสิ) แต่ติดตรงที่ประเทศจีนตอนช่วงนั้นยังไม่เปิดให้เข้าเพราะสถานการณ์โควิด ก็เลยทำงานเป็นติวเตอร์สอนภาษาจีนไปก่อน พอจีนเปิดประเทศแล้วก็ไม่รอช้าค่ะ ตัดสินใจยื่นทุนเลย

 เรายื่นทุน 国际中文教师奖学金 หรือที่ทุกคนรู้จักกันว่าเป็นทุน CIS หรือทุนสถาบันขงจื่อ ค่ะ สำหรับการเตรียมตัวมีหลายขั้นตอนเลย แถมยังต้องสมัครในเว็บของทางมหาวิทยาลัยอีกด้วย สิ่งที่ต้องเตรียมหลักๆ มีลิสต์คร่าวๆ คือ

  • ใบแสดงผลการเรียนหรือ Transcript ป.ตรี
  • ใบรับรองจบการศึกษา
  • ผลสอบ HSK 6 และ HSKK ระดับสูง
  • Study Plan (สำคัญมาก!)
  • จดหมายแนะนำตัว หรือ Personal Statement (个人陈述)
  • ข้อเสนอโครงการวิจัย หรือ Research Proposal (研究计划)

เตรียมเอกสารว่ายากแล้ว การรับรองเอกสารยากยิ่งกว่า เนื่องจากว่าเราจบที่จีน การรับรองเอกสารก็ต้องทำที่ 公证处 ซึ่งเป็นสถานที่รับรองเอกสาร ก็ต้องทำที่จีนเท่านั้น แต่ประเด็นคือตอนนี้เราอยู่ไทย ไปขอให้สถานทูตจีนและกงสุลมาก็ถูกปฏิเสธหมดเลย ที่นี้ละก็ว้าวุ่นเลย สุดท้ายต้องส่งเอกสารผ่าน DHL ไปให้เพื่อนที่จีน ไหว้วานให้ไปทำเรื่องรับรองเอกสารให้ กว่าจะส่งเอกสารได้ก็เลยกำหนดไปแล้ว คิดว่าจะไม่ได้ไปแล้ว แต่สุดท้ายทางมหาวิทยาลัยก็กดรับให้ค่ะ

Photo Credit:
Photo Credit: 北京市司法局

 ส่วนการนำเสนอหัวข้อวิจัยกับการสอบสัมภาษณ์ก็ถือว่ายากมากๆ เลยค่ะ ทางมหาวิทยาลัยมีเวลาให้เขียน research proposal แค่สองวัน ตอนนั้นเครียดมากเพราะไม่รู้ว่าจะเขียนอย่างไร ก็เลยใช้เวลาหาวิธีการเขียนเป็นวัน จนสุดท้ายก็สามารถเขียนส่งไปได้ ส่วนตอนสัมภาษณ์ เวลาเตรียมตัวน้อยมาก ทางมหา’ลัยก็ให้เวลาแค่วันเดียวแล้วก็สัมภาษณ์เลย ซึ่งสำหรับนุก คำถามก็จะเน้นหนักไปทางวิจัยตอน ป.ตรีมากๆ ค่ะ (แต่ก็ได้ยินมาว่าแต่ละคนก็เจอไม่เหมือนกันด้วย อย่างเพื่อนต่างชาติไม่ค่อยโดน แต่เราโดนเยอะ)

แล้วถ้าตอนเรียนป.ตรีไม่เคยทำวิจัยมาก่อนล่ะ?

ก็ต้องยอมรับว่ามีผลต่อการพิจารณาทุน ถ้าไม่เคยทำมาก่อนทางมหาวิทยาลัยอาจจะไม่พิจารณาเพราะเหมือนเห็นมาว่าเป็น requirement ของทางคณะด้วยค่ะ

Life at BNU: เจาะลึกทุกประเด็นเกี่ยวกับ ‘เป่ยซือต้า (北师大)’ มหาวิทยาลัยครูจีนอันดับ 1 ของประเทศ

Why BNU?

จริงๆ เราอยากเข้าม.นี้ตั้งแต่ป.ตรีแล้ว แต่ตอนนั้นทุน CIS ไม่มี BNU ให้เลือก ตอนป.โทก็เลยตั้งใจว่าจะเข้ามหาวิทยาลัยนี้ให้ได้ เพราะที่นี่เน้นเรื่องการสอนและการเป็นครู นอกจากนี้ยังโดดเด่นเรื่องการวิจัยด้วย ส่วนอีกเหตุผลก็คืออยากลองหาประสบการณ์ใหม่ๆ จากมหา‘ลัยนี้ซึ่งเป็นม.คนจีนด้วย อยากรู้ว่าการเรียนกับคนจีนเป็นยังไง จะกดดันแค่ไหนบ้าง

在青春的赛道上奋力奔跑:จงวิ่งไปข้างหน้าอย่างไม่ลดละบนเส้นทางการแข่งขันของเยาว์วัย (หากแปลผิดขออภัยคร้าบ)
在青春的赛道上奋力奔跑:จงวิ่งไปข้างหน้าอย่างไม่ลดละบนเส้นทางการแข่งขันของเยาว์วัย (หากแปลผิดขออภัยคร้าบ)

ช่วยรีวิวให้ฟังหน่อยว่าที่ BNU เป็นอย่างไรบ้าง?

โดยรวมแล้วเป็นมหาวิทยาลัยที่ดีมากที่หนึ่งเลย สภาพแวดล้อม หอพัก ร้านค้าต่างๆ ในม. ก็มีครบ โรงอาหารก็อร่อยด้วย ในส่วนของการเรียนครูสอนดีนะแต่ค่อนข้างไวเลย (แถมไม่มี ppt ให้อีก) และเนื้อหาก็ทั้งยากทั้งเยอะด้วย เลยทำให้เวลาเรียนต้องโฟกัสมากกว่าปกติ หลุดทีหนึ่งคือฟังไม่รู้เรื่องเลยค่ะ ส่วนบรรยากาศในห้อง ห้องนึง 60 คนรวมนักเรียนจีนด้วยครูก็เลยอาจจะดูแลไม่ทั่วถึง แต่ถ้ามีคำถามอะไรก็สามารถถามได้

บรรยากาศงานต้อนรับนักศึกษาใหม่
บรรยากาศงานต้อนรับนักศึกษาใหม่

ห้องนึง 60 คนเลยหรอ เยอะมาก เทียบกับปริญญาโทที่ไทย ห้องนึงซัก 15-20 คนก็เยอะมากแล้ว

ช่ายค่ะ แต่อันนี้เหมือนว่า 60 คนคือทั้ง 学院 (สถาบัน) เลย ก็เท่ากับว่ามีห้องเดียว เวลาเรียนก็คือเรียนด้วยทุกคาบ

ตอนนี้เรียนวิชาอะไรบ้าง ชอบวิชาไหนสุด

เทอมนี้ (ป.โท เทอมแรก) เรียนทั้งหมด 5 วิชาค่ะ

  • 跨文化交际案例分析 (Intercultural Communication) เรียนเกี่ยวกับการสื่อสารข้ามวัฒนธรรม โดยเรียนผ่านกรณีศึกษาเป็นหลัก
  • 语言要素及其教学 (The Teaching of Language Element) เรียนเกี่ยวกับองค์ประกอบของภาษาจีนและวิธีการสอน เป็นวิชาที่เราชอบที่สุดเพราะเราจะได้รู้วิธีการสอนภาษาจีนในด้านต่างๆ จากวิชานี้ เช่น ไวยากรณ์ (语法) เสียง (语音) อักษรจีน (汉字) และคำศัพท์ (词汇)
  • 中华传统才艺及其教学 (The Teaching of Chinese Traditional Talent and Skill) เรียนเกี่ยวกับสกิลทางด้านงานฝีมือรวมไปถึงวิธีการสอนด้วย เช่น เรียนว่าเราจะสอนนักเรียนเขียนพู่กันจีนอย่างไร
  • 中华文化与传播 (Chinese Culture and Communication) เรียนเกี่ยวกับวัฒนธรรมจีนและแนวทางการเผยแพร่วัฒนธรรมจีนในฐานะครู
  • 汉语课堂教学法 (Chinese Language Classroom Teaching) เรียนวิธีการเป็นครูและแนวทางการสอนนักเรียนในคลาสเรียน

ชวนพี่นุกเล่นเกม This or That

ซ้าย BNU ขวา BLCU
ซ้าย BNU ขวา BLCU

ตอนเรียนป.ตรีที่ BLCU กับตอนที่เรียนป.โทที่ BNU มีความแตกต่างกันอย่างไร วันนี้พี่วินได้เตรียมหัวข้อมาให้พี่เลือกตอบว่าชอบที่ไหนกว่ากัน เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา มาเริ่มกันเลยครับ

พี่วิน: campus

พี่นุก: BNU เพราะม.สวยและกว้างขวางมากๆ ค่ะ

 

พี่วิน: หอพัก

พี่นุก: ให้ BNU เหมือนกันเพราะหอสะอาด สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และมีห้องน้ำในตัว

 

พี่วิน: อาหารการกิน

พี่นุก: BNU เพราะโรงอาหารถูก อร่อย อาหารหลากหลาย ร้านอาหารก็เยอะด้วย

 

พี่วิน: บรรยากาศการเรียน

พี่นุก: ให้ BLCU เพราะห้องนึงมีแค่ 20 กว่าคน ครูดูแลทั่วถึงกว่า

 

พี่วิน: เพื่อนๆ ล่ะ 

พี่นุก: BLCU ค่ะ เพราะเพื่อนๆ อัธยาศัยดี ช่วยเหลือกันมากกว่า

 

พี่วิน: อาจารย์

พี่นุก: ให้ BLCU เหมือนกัน เพราะอาจารย์ที่นั่นใส่ใจนักเรียนและเป็นกันเองมากกว่าค่ะ

 

พี่วิน: ข้อสุดท้าย การใช้ชีวิต

พี่นุก: ให้ BLCU เพราะรู้สึกว่าไปไหนมาไหนง่าย ชีวิตไม่เร่งรีบ ไม่รู้สึกกดดันด้วย

ว่าด้วยอาชีพ “ครู”

การเป็นครูนั้นไม่ง่ายเลย เพราะเพียงแค่ความเชี่ยวชาญในสิ่งที่ตัวเองเรียนมานั้นไม่พอ แต่ต้องรู้จักวิธีการถ่ายทอดความรู้ไปให้นักเรียน แถมยังต้องแบกรับความคาดหวังจากสังคมในฐานะคนที่บ่มเพาะเหล่านักเรียนให้สามารถเป็นอนาคตของสังคมและประเทศให้ได้

ภาพถ่ายพี่นุกกับอาจารย์
ภาพถ่ายพี่นุกกับอาจารย์

พี่นุกเลือกเรียนสาขาครูสอนภาษาจีนตั้งแต่ระดับปริญญาตรีจนถึงปริญญาโท เรามาดูกันว่า ทำไมพี่นุกถึงอยากเป็นครู และอาชีพครูมีความหมายอะไรกับพี่นุกบ้าง?

ทำไมถึงอยากเป็นครู

จริงๆ แล้วตอนแรกไม่ได้อยากเป็นครูเลยค่ะ แต่พอได้ไปเรียนที่ BLCU เราได้เจอครูที่ดีหลายคนเลย พวกเขาไม่ได้แค่สอนเก่ง แต่มี “จิตวิญญาณ” ของความเป็นครูอีกด้วย ก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นของการอยากเป็นครู แล้วพอได้เรียนคณะนี้ไปเรื่อยๆ จากที่เฉยๆ ก็เริ่มเปิดใจมากขึ้น และกลายมาเป็นความชอบ ก็เลยอยากเป็นครูและอินกับความเป็นครูมาตั้งแต่ตอนนั้นค่ะ

อาชีพครูมีความหมายอะไรกับเรา

เบื้องหลังของความสำเร็จในทุกอาชีพ ล้วนมาจากอาชีพครู ถ้าหากเราไม่มีครู ไม่ได้รับการอบรมการสั่งสอน ไม่ได้รับความรู้ที่ดีและถูกต้อง เราก็อาจจะไม่ประสบความสำเร็จค่ะ อย่างนุกเองกว่าจะเติบโตมาถึงจุดนี้ได้ ก็เพราะได้ครูดี ถ้าไม่มีครู ก็คงไม่มีเราในวันนี้

คิดว่านิยามของการเป็นครูที่ดีคืออะไร

ครูที่ดีไม่ใช่ครูที่สอนเก่งที่สุด แต่เป็นครูที่เข้าใจนักเรียนและจุดประกายความฝันให้นักเรียนได้ เพราะสุดท้ายนักเรียนจะไม่จำว่าครูคนนั้นเก่งแค่ไหน แต่จะจำว่าครูคนนั้นปฏิบัติกับพวกเขาอย่างไร และทำให้พวกเขาเติบโตได้มากเท่าไรต่างหาก

อยากฝากอะไรให้กับน้องๆ ที่อยากเป็นครู หรืออยากเรียนต่อจีนบ้าง

อยากฝากน้องๆ ที่อยากเรียนครูว่า ถ้าอยากมาสายนี้ ขอให้มั่นใจว่าเราชอบมันจริงๆ เพราะเรียนสายนี้ไม่ง่ายเลย ถ้าเราไม่ได้ชอบ ไม่ได้รักมันจริงๆ เราอาจจะไม่สามารถเป็นครูที่ดีได้

ส่วนน้องๆ ที่อยากเรียนต่อจีน ถ้าจะขอทุน อยากให้น้องๆ ตั้งใจเขียน Study Plan ให้ดี เพราะมีผลมากจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นปริญญาตรีหรือปริญญาโท พี่เชื่อว่าน้องๆ ทุกคนทำได้ ขอแค่ตั้งใจ มีความพยายามและอดทนมากพอ สุดท้ายนี้ก็ขอเป็นกำลังใจให้น้องๆ ทุกคนค่ะ

…… 

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ นอกจากจะได้ฟังเรื่องราวของพี่นุกในการขอทุนเรียนปริญญาโทแล้ว ยังได้ฟังรีวิว Beijing Normal University กันแบบจุกๆ ตั้งแต่เนื้อหาวิชาเรียนจนถึงรั้วมหาวิทยาลัย และแนวคิดเกี่ยวกับวิชาชีพครูด้วย หวังว่าสตอรี่ของพี่นุกจะจุดประกายความฝันและเป็นแรงบันดาลใจให้กับน้องๆ ที่กำลังจะยื่นทุน หรือมีความฝันอยากเป็นครู สุดท้ายนี้พี่วินก็ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนครับ 加油

ขอขอบคุณรูปภาพจากเจ้าตัวครับ

พี่วิน
พี่วิน - Columnist Sentio amorem, ergo sum.

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น