เปิดรั้ว ‘Charles Sturt University’ ม.ชั้นนำจากออสเตรเลีย มีทุนมอบให้ชาวต่างชาติเพียบ!

สวัสดีชาว Dek-D ทุกคนค่าา~ ถ้าพูดประเทศที่เหมาะแก่การบินไปเรียนต่อ “ออสเตรเลีย” ก็ต้องเป็นช้อยส์แรกๆ ของคนไทย เพราะเป็นประเทศที่ค่อนข้างเปิดรับความหลากหลาย เรียนจบแล้วสามารถยื่นวีซ่าทำงานต่อได้เลย ส่วนเรื่องคุณภาพการศึกษาก็มีชื่อเสียงระดับโลกอยู่แล้ว เรียกว่าช่วยเสริมโพรไฟล์ให้เป๊ะปังและเพิ่มโอกาสให้กับชีวิตอีกด้วย 

และสำหรับใครที่กำลังมองหาที่เรียนในออสฯ วันนี้พี่บีมบันขอแวะมาแนะนำอีกหนึ่งมหาวิทยาลัยชั้นนำจากรัฐนิวเซาท์เวลส์ นั่นก็คือ 'Charles Sturt University' มาดูกันว่าหลักสูตรการเรียนการสอนเป็นยังไง และจะมีทุนการศึกษาอะไรให้ตามไปสมัครได้บ้าง พร้อมแล้วก็ตามมาอ่านกันเลย!

‘Charles Sturt University’ เป็นมหาวิทยาลัยที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1989 ความโดดเด่นของสถาบันนี้คือ มีหลายแคมปัสให้เลือกเรียน โดยวิทยาเขตหลัก ได้แก่ Dubbo, Albury-Wodonga, Bathurst, Orange, Port Macquarie และ Wagga Wagga ซึ่งอยู่ในนิวเซาท์เวลส์ รัฐทางตะวันออกเฉียงใต้ของออสเตรเลีย

และสำหรับใครที่ชื่นชอบบรรยากาศชนบทต้องถูกใจแน่นอนค่ะ เพราะสภาพแวดล้อมส่วนใหญ่จะรายล้อมไปด้วยธรรมชาติ ทั้งภูเขา ถ้ำ และอุทยานอีกมากมาย // หรือใครชอบเที่ยวในเมืองหน่อย จะแวะไปถ่ายรูปที่ Sydney Opera House ก็ได้นะ ><
 

เกริ่นบรรยากาศนอกห้องเรียนไปขนาดนี้แล้ว มาดูคุณภาพการศึกษาในห้องเรียนกันบ้าง ล่าสุดคว้าอันดับ 35 จากมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในประเทศ (อ้างอิงจาก QS World University Ranking 2024) และยังเป็นอันดับ 1 มหาวิทยาลัยที่มีบัณฑิตได้รับการจ้างงานมากที่สุดในประเทศออสเตรเลียอีกด้วย (โดย Good Universities Guide 2023/24) 

 เมื่อไม่นานมานี้ CSU ก็เพิ่งก่อตั้งสถาบันวิจัยด้านเกษตรกรรม น้ำ และสิ่งแวดล้อม เพื่อแก้ไขปัญหาทางธรรมชาติที่ส่งผลต่อทั่วโลกในวงกว้าง นอกจากนี้ ยังเป็น 1 ในสถาบันของออสเตรเลียที่มีชื่อเสียงด้านหลักสูตรออนไลน์ที่สามารถมอบประสบการณ์ให้นักศึกษาได้อย่างเต็มที่ด้วยค่ะ // ปังสุดๆ

ส่องหลักสูตรน่าเรียนจาก CSU!

Charles Sturt University เปิดสอนหลักสูตรปริญญาตรี ไปจนถึงระดับบัณฑิตวิทยาลัย บทความนี้พี่บีมบันจะเน้นไปที่หลักสูตรที่เปิดสอนนักศึกต่างชาติโดยเฉพาะ ซึ่งมีดังนี้

• เกษตรกรรมและสิ่งแวดล้อม (Agriculture and Environment)
• สัตวศาสตร์และสัตวแพทยศาสตร์ (Animal and Veterinary sciences)
• ศิลปะและการสื่อสาร (Arts and Communication)
• ธุรกิจ (Business)
• การศึกษาและการสอน (Education and Teaching)
• บรรณารักษศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์ (Information and Library Studies)
• ไอทีและคอมพิวเตอร์ (IT and Computing)
• แพทยศาสตร์ (Medicine and Health)
• ตำรวจ, กฎหมาย และความมั่นคง (Policing, Law and Security)
• จิตวิทยาและสังคมสงเคราะห์ (Psychology and Social Work)
• วิทยาศาสตร์ (Science)
• เทววิทยาและอิสลามศึกษา (Theology and Islamic Studies)

Wagga Mardi Gras! 
อิเวนต์สำหรับชาว LGBTQIA+ โดยเฉพาะ

นอกจากคุณภาพการศึกษาที่ไม่น้อยหน้าใครแล้ว Charles Sturt University ยังสนับสนุนความหลากหลายทางเพศ โดยร่วมเป็นผู้สนับสนุนในกิจกรรม Wagga Mardi Gras ซึ่งเป็นอิเวนต์ที่ให้ผู้คนเฉลิมฉลองอัตลักษณ์ของตนเอง พร้อมระเบิดความคิดสร้างสรรค์ผ่านการแต่งกาย และร่วมเดินขบวนพาเหรด ณ ถนน Baylis ที่จะจัดขึ้นในทุกปี ซึ่งสามารถสมัครเข้าร่วมได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ด้วยค่าา~

ค่าเล่าเรียน (ต่อปี)

สำหรับค่าเล่าเรียนในหลักสูตรปริญญาตรีและระดับสูงกว่าปริญญาตรีของชาวต่างชาติ จะอยู่ที่ 21,280 - 63,600 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือประมาณ 490,132 - 1,464,870 บาท // ป.ล. ค่าใช้จ่ายนี้ยังไม่รวมค่าที่พัก ค่าครองชีพ ค่าหนังสือเรียน และค่าอื่นๆ นะคะ

เรียนดี โพรไฟล์ปัง เตรียมตัวคว้าทุน!

ใครอยากมองหาตัวช่วยค่าเล่าเรียนที่ถือว่าสูงไม่ใช่เล่น ข่าวดีคือทาง CSU เค้าก็มีทุนการศึกษามอบให้นักศึกษาต่างชาติที่มีผลการเรียนดีโดยเฉพาะ ทั้งระดับปริญญาตรีและสูงกว่าปริญญาตรี จะมีอะไรบ้าง ไปดูกัน! 

1. Vice-Chancellor International Scholarship

สำหรับใครที่มั่นใจว่าโพรไฟล์ดี Portfolio ปังเข้าตากรรมการแน่นอน รอรับทุนเรียนดีจากรองอธิการบดีของมหาวิทยาลัย CSU ซึ่งเปิดทุกๆ ปีได้เลยค่ะ โดยจะมอบเป็นทุนส่วนลดค่าเล่าเรียน 50% ช่วยน้องๆ เซฟค่าใช้จ่ายไปได้เยอะ ซึ่งนักศึกษาใหม่ที่สมัครเข้าเรียนต่อและได้รับการตอบรับเข้าเรียนในโปรแกรมที่เปิดสอนใน 6 แคมปัสหลัก และมีผลทดสอบภาษาอังกฤษ IELTS ตามเกณฑ์ที่กำหนด จะได้รับพิจารณาทุนนี้ทุกคนค่ะ  

เงื่อนไขในการรับทุน

• ต้องสมัครเรียนและได้รับ Offer ก่อน จากนั้นสถาบันจะทำการพิจารณาคุณสมบัติและส่งคำเชิญสมัครให้เป็นรายบุคคล
• หากได้รับทุนการศึกษานี้แล้ว จะไม่มีสิทธิ์ได้รับทุนอื่นๆ ของมหาวิทยาลัยอีก
• ต้องรักษาเกรดและลงทะเบียนเรียนต่อในเรียบร้อยในทุกภาคการศึกษา มิฉะนั้นทุนการศึกษาจะถูกระงับหรือยุติ
• ผู้ได้รับทุนการศึกษาจะต้องมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมชื่อเสียงของสถาบันด้วย
• หลักสูตร Bachelor of Dental Science และ Bachelor of Veterinary Science ไม่ครอบคลุมอยู่ในทุนการศึกษานี้

2. International Student Merit Scholarship

ต่อกันที่ทุนการศึกษาสำหรับเด็กเรียนดีระดับท็อปโดยเฉพาะ  โดยมอบเป็นส่วนลดค่าเล่าเรียน 25% ซึ่งคุณสมบัติการสมัครก็เหมือนกับทุนข้างต้นเลยค่ะ แต่ทุนนี้ทางสถาบันจะพิจารณาให้อัตโนมัติหลังจากสมัครเรียนไปแล้ว (ไม่ต้องสมัครแยก) ซึ่งเกณฑ์การวัดผลการเรียนเบื้องต้นก็ตามนี้เลย

• สมัครเรียนระดับปริญญาตรี: ต้องมีผลคะแนนทางวิชาการอย่างน้อย 75% ในระดับมัธยมปลาย
• สูงกว่าปริญญาตรี: ต้องมีผลคะแนนทางวิชาการอย่างน้อย 70% ในระดับปริญญาตรี
• เฉพาะผู้ที่สมัครเรียนหลักสูตร Allied Health: ต้องมีผลคะแนนทางวิชาการอย่างน้อย 85% ในระดับมัธยมปลาย

3. International Student Support Scholarship

เป็นทุนส่วนลดค่าธรรมเนียม 10% สำหรับนักศึกษาใหม่ที่สมัครเรียนต่อในปี 2024 โดยสถาบันจะทำการพิจารณาคุณสมบัติและส่งคำเชิญสมัครให้เป็นรายบุคคลเช่นเดียวกับทุนแรก แต่ความแตกต่างคือ คนที่มีสิทธิ์ได้รับทุนนี้จะต้องสมัครในหลักสูตรต่อไปนี้ค่ะ

• Agricultural and Wine Sciences
• Communication
• Allied Health
• Environmental Science and Outdoor Recreation
• Nursing, Midwifery and Indigenous Health
• Pharmacy
• Radiography
• Rehabilitation and Complementary Therapies
• Business
• Information Technology and Computing
• Policing, Security and Emergency Management
• Psychology
• Social Work and Human Services
• Teaching and Education

นอกจาก 3 ทุนการศึกษาข้างต้น ยังมีทุนเฉพาะสาขาวิชาและอื่นๆ มากมายให้น้องๆ เลือกสมัคร สามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยค่ะ (คลิก)

วิธีการสมัครเรียน

1. สมัครเรียนผ่านทางเว็บไซต์ (คลิก) *ต้องสมัครเป็นสมาชิกก่อนสมัครเรียน
2. ไปที่หน้า Start An Application และเลือกหลักสูตรที่สนใจเรียน
3. กรอกข้อมูลส่วนตัวและอัปโหลดเอกสารประกอบการสมัครเรียนให้เรียบร้อย
4. กด Submit

.................

อ่านจบแล้วคงมีน้องๆ ที่เตรียมตัวแพ็กกระเป๋าเพื่อบินไปเรียนต่อที่ ‘Charles Sturt University’ แล้วแน่เลย เพราะนอกจากหลักสูตรที่น่าสนใจแล้ว ทุนการศึกษาสำหรับชาวต่างชาติยังมีเยอะแบบจุกๆ อีกทั้งค่าเล่าเรียนก็ไม่ได้สูงมากเทียบกับสถาบันอื่นๆ ด้วย ใครมีแพลนบินไปเปิดประสบการณ์เรียนต่อที่ออสเตรเลียก็ลองเก็บลิสต์มหาวิทยาลัยนี้ไว้พิจารณาได้นะคะ