สวัสดีพี่ๆ น้องๆ Dek-D ที่น่ารักทุกคนครับ~ เข้าใกล้สิ้นปีก็เตรียมเข้าสู่ “เทศกาลลอยกระทง” ในวันเพ็ญเดือนสิบสองกันอีกแล้ว (ปีนี้ตรงกับ 27 พฤศจิกายน 2566) ซึ่งแต่ละปีก็จะมีประเด็นถกเถียงกันตลอดว่า ควรจัดงานลอยกระทงดีไหม? เพราะแทนที่จะได้ขอขมาต่อพระแม่คงคาในฐานที่เราให้น้ำสกปรก แต่ลักษณะการจัดงานกลับไปเพิ่มขยะให้แม่น้ำลำคลองซะงั้น จนสุดท้ายก็ส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมและตัวเราเองด้วย
ดังนั้นวันนี้ พี่อั้ม จะขอพาทุกคนไปดูกรณีศึกษาที่น่าสนใจในต่างประเทศกัน โดยเป็นเรื่องราวของ “แม่น้ำเทมส์” (Thames River) ของอังกฤษ ที่ในอดีตเคยเป็นเหมือนแม่น้ำใกล้ตายเพราะปนเปื้อนด้วยเศษขยะและมลพิษ แต่สุดท้ายก็พลิกกลับมาเป็นแม่น้ำที่สะอาดติดอันดับต้นๆ ของโลก รวมถึงเป็นแลนมาร์กสำคัญ และได้ฉายา “สิ่งล้ำค่าแห่งมหานครลอนดอน” (Jewelry of London) มาครองด้วย
ประเทศอังกฤษฟื้นฟูแม่น้ำด้วยวิธีไหนยังไง? มารู้จักและหาคำตอบพร้อมๆ กันเลยครับ
มาทำความรู้จักแม่น้ำเทมส์กัน
- แม่น้ำเทมส์ (Thames River) เป็นแม่น้ำขนาดใหญ่ทางตอนใต้ของอังกฤษ มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาคอทส์โวลส์ (Cotswold Hills) ในมณฑลกลอสเตอร์เชอร์ (Gloucestershire) โดยทิศทางของแม่น้ำจะไหลลงมาทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ผ่านเมืองสำคัญ อย่าง อ็อกซ์ฟอร์ด (Oxford) และลอนดอน (London) ก่อนจะลงออกสู่ทะเลเหนือ (North sea) ผ่านทางปากแม่น้ำเทมส์
- ความยาวของแม่น้ำเทมส์อยู่ที่ 346 กิโลเมตร จัดเป็นอันดับ 2 ของประเทศ เป็นรองเพียงแม่น้ำเซเวิร์น (River Severn) ซึ่งมีความยาว 354 กิโลเมตร
- ปัจจุบันเป็นแม่น้ำสายหลักของประเทศ และติด Top Chart แม่น้ำที่สะอาดที่สุดในโลก (อ้างอิงจาก Globalcitizen.org )
- ด้วยความที่ “ดินโคลน” เป็นส่วนสำคัญของระบบนิเวศทางน้ำ จึงทำให้เป็นแม่น้ำเทมส์มีสีน้ำตาลข้น แต่ถึงสีจะเป็นแบบนั้น แต่รู้หรือเปล่าว่าปริมาณ 2 ใน 3 ของแม่น้ำเทมส์ ถูกบำบัดและกรองอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้ประชาชนใช้อุปโภคบริโภค จนเป็นเหมือนสายน้ำแห่งชีวิตของชาวลอนดอน
- อีกเรื่องที่ช่วยรับประกันความสมบูรณ์และความสะอาดได้คือ ความหลากหลายทางชีวภาพของสัตว์น้ำ เพราะเห็นแบบนี้ในแม่น้ำเทมส์มีปลาอาศัยอยู่มากกว่า 125 ชนิด ที่พีคกว่านั้นคือมีม้าน้ำ แมวน้ำ โลมาปากขวด ฯลฯ ว่ากันว่ามี “ฉลาม” ด้วยนะ เรียกว่าเป็นระบบนิเวศที่สมบูรณ์ในระดับนึงเลยครับ
ก่อนจะสะอาดอย่างทุกวันนี้
ก็เคยเป็น ‘สายน้ำแห่งความเน่าเหม็น’
อย่างที่พี่บอกไปตอนต้นครับ เมื่อก่อนแม่น้ำเทมส์เคยสกปรกสุดๆ จนได้ฉายา “The Great Stink” หรือแม่น้ำแห่งความเน่าเหม็น เนื่องด้วยหลายเหตุผลครับ
หากลองย้อนไปสมัยวิกตอเรียน หรือช่วงปี 1820 สมัยนั้นอังกฤษยังไม่มีมาตรการควบคุมมลพิษทางน้ำจากโรงงานอุตสาหกรรม ในขณะที่ประชาชนก็ยังนิยมทิ้งสิ่งปฏิกูลหรือของเสีย (เช่น จากครัวเรือนหรือโรงฆ่าสัตว์) ลงสู่แหล่งน้ำทุกวันๆ แถมเคราะห์ร้ายยังเจอระเบิดจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้ท่อระบายน้ำถูกทำลาย และสารเคมีปริมาณมากก็ไหลลงสู่แม่น้ำเทมส์ กลายเป็นต้อตอของกลิ่นเหม็นอบอวลไปทั่วเมือง
แน่นอนว่าพอแม่น้ำปนเปื้อนสารพิษ ปัญหาสุขภาพของผู้คนก็ตามมาครับ ยกตัวอย่างเหตุการณ์ร้ายแรงในปี 1832 ที่มี “โรคอหิวาตกโรค” ระบาดและคร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 35,000 รายเลยทีเดียว ซึ่งสาเหตุหลักๆ ก็มาจากแบคทีเรีย Cholera bacillus ซึ่งอยู่ในแม่น้ำแห่งนี้นี่แหละครับ
จากสายน้ำที่เกือบตาย
กลายเป็นแม่น้ำสะอาดที่สุดในโลก
กว่าจะตระหนักถึงความสำคัญของแหล่งน้ำ หลายชีวิตก็ได้ดับสิ้นไป ซึ่งหลังจากผ่านช่วงของสงครามโลกทางรัฐบาลได้เร่งปรับปรุงและพัฒนาในหลายๆ ด้าน เพื่อที่จะช่วยลดมลพิษทางน้ำและกลิ่นเหม็นที่มาจากแม่น้ำเทมส์ โดยแบ่งเป็น 2 ข้อหลักๆ ดังนี้
1. มีการสร้างระบบจัดการน้ำเสียแบบใหม่ (Sewage system)
ในปี 1858 รัฐบาลได้อนุมัติให้สร้างระบบการจัดการระบายน้ำรูปแบบใหม่ขึ้น นำทีมโดยวิศวกรมืออาชีพ ‘เซอร์โจเซฟ บัลซาเก็ต’ (Sir Joseph William Bazalgette) สร้างอุโมงค์ยาวกว่า 138 กิโลเมตร เพื่อส่งย้ายน้ำเสีย ขยะและสิ่งปฏิกูลต่างๆ ออกมาจากแม่น้ำเทมส์ ซึ่งอุโมงค์นี้ก็ได้รับการพัฒนาคุณภาพให้ดีขึ้นและใช้มาจนถึงปัจจุบัน
2. มีการลงทุนในเรื่องของอุปกรณ์เทคโนโลยีในการช่วยบำบัดน้ำ
ในช่วงปี 1960 รัฐบาลได้ลงทุนพัฒนาอุปกรณ์บำบัดน้ำเสียและใช้เครื่องมือเทคโนโลยีสำหรับช่วยเติมออกซิเจนคืนให้กับแม่น้ำ ยกตัวอย่างเช่น ‘เรือบับเบิลส์’ (Bubble Boat) หรือการใช้ ‘ผงซักฟอกที่สามารถย่อยสลายได้’ (Biodegradable detergent) ซึ่งถือว่าล้ำสุดๆ ในยุคนั้น แต่ความก้าวหน้าของอุปกรณ์ก็พัฒนาขึ้นตามกาลเวลานะครับ อย่างปัจจุบันถึงขั้นมีการใช้ ‘ไอ้ฉลามเหล็ก’ (Robot shark) ช่วยลาดตระเวนเก็บเศษขยะในแม่น้ำเทมส์อีกด้วยครับ ซึ่งเค้าบอกว่ามันสามารถช่วยเก็บขยะได้ถึง 22,270 ชิ้นต่อวันเลยทีเดียวนะครับ เรียกว่าล้ำขนาด
และเพื่อให้สภาพแวดล้อมของแม่น้ำมีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น เค้าก็ได้เปลี่ยนจากการใช้กำแพงคอนกรีตกั้น มาใช้ ‘แนวเศษหิน’ (Rubble stone) แทน นอกจากจะช่วยสร้างแนวดินโคลนแล้ว ยังเป็นประโยชน์ต่อระบบนิเวศภายในแม่น้ำเทมส์ด้วยครับ
มหาวิทยาลัยดัง แลนมาร์กเด็ด!
จากความพยายามผลักดันและร่วมมือร่วมมือใจกันของทั้งทางภาครัฐและประชาชน ในที่สุดแม่น้ำเทมส์ก็ได้เป็นอีกหนึ่งจุดเช็กพอยต์สำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังประเทศอังกฤษ โดยตลอดสายของแม่น้ำจะรายล้อมไปด้วยสถานที่สำคัญๆ อย่างชิงช้าสวรรค์ลอนดอนอาย (London Eye) หอศิลป์เทตโมเดิร์น (Tate Modern) และตึกที่สูงที่สุดในลอนดอนอย่าง เดอะชาร์ด (The Shard)
นอกจากจะมีสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ เรียงรายกันอยู่ตลอดสายของแม่น้ำเทมส์แล้ว ยังเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยดังๆ อีกหลายแห่ง อาทิ Imperial College London, University College of London, University of Greenwich เรามาสำรวจคร่าวๆ กันดีกว่าครับ
Imperial College London
มหาวิทยาลัยอิมพิเรียลคอลเลจลอนดอน (Imperial College London) จัดเป็นตัวตึงสายวิชาการ อันดับรวมอยู่ที่ 3 ของประเทศอังกฤษอ้างอิงจาก QS World University Rankings 2024 และมีหลายสาขาเด่นๆ เช่น วิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี (อันดับ 3 ของประเทศ) สาขาวิทย์สุขภาพ (อันดับ 7 ของประเทศ)
ตัวอย่างศิษย์เก่าที่มีชื่อเสียง
- Brian Harold May นักร้องชื่อดังแห่งวง Queen
- Alexander Fleming นักจุลชีววิทยาผู้ค้นพบยาปฏิชีวนะคนแรกของโลก
Note:
- ใครที่สนใจอ่านข้อมูลเพิ่มเติมของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ สามารถตามต่อได้ที่นี่เลยครับ : Imperial College London” มหาวิทยาลัยท็อปของอังกฤษ ที่มีนักศึกษาต่างชาติจาก 130 ประเทศ!
University College London (UCL)
มหาวิทยาลัยคอลเลจลอนดอน (University College London) เป็นสถาบันการศึกษาที่เก่าแก่และได้รับการจัดอันดับเป็น Top 4 ของประเทศอังกฤษ ตั้งอยู่ในกรุงลอนดอน รายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและสถาบันการศึกษามากมาย ที่นี่มีศิษย์เก่าที่ได้รับรางวัลโนเบลกว่า 30 คน
ตัวอย่างศิษย์เก่าที่มีชื่อเสียง
- Mahatma Gandhi ผู้นำเรื่องสันติภาพในอินเดีย
- Christopher Nolan เจ้าพ่อแห่งโลกภาพยนตร์ ฉายา “เสด็จพ่อ”
University of Greenwich
มหาวิทยาลัยกรีนิช (University of Greenwich) มี 3 แคมปัส หนึ่งในนั้นคือ Greenwich Campus ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเทมส์แบบพอดิบพอดีเลยครับ ที่นี่ขึ้นสวยติดอันดับ 8 ในบรรดามหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักร (อ้างอิงจากการจัดอันดับในปี 2023 โดย Times Higher Education) ส่วนในด้านการเรียนการสอน บอกเลยว่ามีมากกว่า 200 หลักสูตร และมีทุนการศึกษาสำหรับนักศึกษาต่างชาติในทุกๆ ปีด้วย!
. . . . . . .
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับ ‘แม่น้ำเทมส์’ แม้ว่าในอดีตจะเคยเป็นแม่น้ำที่เหม็นและสกปรกมากขนาดไหน แต่ปัจจุบันจากการร่วมด้วยช่วยกันของทั้งภาครัฐและภาคประชาชน แม่น้ำแห่งนี้ก็ได้ถูกพัฒนาจนกลายมาเป็นแม่น้ำที่สะอาดที่สุดในโลก พร้อมกับเป็นพื้นที่เช็กพอยต์สำคัญที่รายล้อมไปด้วยแลนด์มาร์กเด่นๆ ของประเทศอีกด้วยครับ
ทาง พี่อั้ม หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้น้องๆ ได้เรียนรู้แบบอย่างวิธีการฟื้นฟูแม่น้ำ รวมทั้งช่วยสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นไปได้ของการริเริ่มที่จะเปลี่ยนแปลงและให้ความสำคัญกับการรักษาแหล่งน้ำของเราให้สะอาดเข้าไว้ครับ ยังไงช่วงลอยกระทงนี้เดินทางไปไหน ขอให้ราบรื่นปลอดภัย ไว้เจอกันใหม่ครับทุกคน : )
sources:https://waste4change.com/blog/thames-river-once-was-the-cause-of-cholera-outbreak-and-filled-with-sewage-now-nominated-as-one-of-the-worlds-cleanest-riverhttps://www.rmg.co.uk/stories/topics/pollution-river-thames-historhttps://www.timeshighereducation.com/student/best-universities/10-most-beautiful-universities-uk https://www.thamesclippers.com/blog/5-unmissable-london-landmarks-along-the-river-thames https://www.thamesriversightseeing.com/blog/interesting-facts-about-the-thames https://www.sciencemuseum.org.uk/objects-and-stories/medicine/cholera-victorian-london https://www.epa.vic.gov.au/about-epa/laws https://www.mylondon.news/news/zone-1-news/thames-cleanest-river-world-dirty-20601885https://active360.co.uk/blogs/can-you-describe-the-river-thames-in-one-word/ https://www.standard.co.uk/news/tech/marine-robot-shark-eating-plastic-waste-thames-b1068598.htmlhttps://www.britannica.com/event/Victorian-erahttps://www.youtube.com/watch?v=YzwlM52hxQ4 https://www.youtube.com/watch?v=SDhnPYaZQ-w
0 ความคิดเห็น