ออสเตรเลียปรับเกณฑ์ใหม่! สรุป 3 ประเด็น ‘วีซ่านักเรียน & ทำงาน’ ปี 2024 มีอะไรเปลี่ยนบ้าง?

สวัสดีพี่ๆ น้องๆ Dek-D ที่น่ารักทุกคนด้วยนะครับ เป็นที่รู้กันว่า “ออสเตรเลีย” เป็นอีกประเทศในฝันของใครหลายต่อหลายคนที่มุ่งมั่นอยากจะเดินทางไปเปิดประสบการณ์ทั้งเรื่องการเรียน การทำงาน และใช้ชีวิตในระยะยาว เห็นได้จากโครงการ Working and Holiday Visa ที่มีโควตาวีซ่าช่วยสานฝันให้คนไทย  รวมถึงมีทุนการศึกษามากมายช่วยเพิ่มโอกาสให้นักเรียนต่างชาติในทุกๆ ปี

แม้จะเปิดรับชาวต่างชาติมากแค่ไหน แต่อย่างไรก็ตามล่าสุดทางรัฐบาลของประเทศออสเตรเลียได้ประกาศปรับลดจำนวนแรงงานผู้อพยพเข้าประเทศลงกว่าครึ่งนึง พร้อมทั้งปรับเกณฑ์ข้อกำหนดการอนุมัติวีซ่านักเรียนให้เข้มงวดยิ่งขึ้นกว่าเดิมไปอีก เรียกว่าทำเอาสะเทือนวงการทีมออสฯกันสุดๆ (ปกติก็ขอวีซ่ายากอยู่แล้ววว)

อะไรทำให้ออสเตรเลียต้องมีการปรับใช้มาตรการใหม่นี้ จะมีจุดไหนที่เข้มงวดมากขึ้นหรือมีประเด็นอะไรที่เราควรรู้กันบ้าง? วันนี้ พี่อั้ม สรุปมาให้แล้ว มาดูไปพร้อมกันเลยครับ 

เปิดเหตุผลที่ออสเตรเลียต้องปรับลดชาวต่างชาติ

อย่างที่กล่าวมาข้างต้นนะครับว่า ‘ออสเตรเลีย’ (Australia) นั้นเป็นประเทศที่ค่อนข้างเปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติได้ย้ายเข้ามาศึกษาและทำงาน จึงทำให้จำนวนผู้อพยพย้ายถิ่นฐานและนักเรียนต่างชาตินั้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนล่าสุดมีการเปิดเผยยอดซึ่งทะลุกว่า 510,000 คน ซึ่งถือว่าสูงเป็นประวัติการณ์เลยทีเดียว และแน่นอนว่ายิ่งคนเยอะมากเท่าไหร่ก็ย่อมมีปัญหาตามมามากมาย เพราะมีคนจำนวนไม่น้อยที่ใช้วีซ่านักเรียนเป็นช่องทางในการอยู่อาศัยอย่างผิดกฏหมายนั่นเองครับ 

ล่าสุดเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2023 ทางรัฐบาลกลางออสเตรเลียนำโดยนายกรัฐมนตรี แอนโทนี แอลบานีส (Anthony Albanese) ได้ประกาศ ‘Migration Strategy’ ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์เกี่ยวกับการโยกย้ายถิ่นฐานระยะเวลา 10 ปี (ชั่วคราว) โดยจะลดจำนวนของโควตาผู้อพยพเข้ามาในประเทศ พร้อมปรับเกณฑ์การอนุมัติวีซ่านักเรียนต่างชาติให้มีความเข้มงวดมากยิ่งขึ้น มีทั้งหมด 3 ประเด็นหลักๆ เราได้สรุปมาให้แล้วครับ 

หากจะขอวีซ่าเรียนต่อ / ทำงานที่ออสฯ
มีเกณฑ์อะไรเปลี่ยนไปบ้าง?

1. ให้วีซ่ากับวัยทำงานคุณภาพสูง

เมื่อมีคนหลั่งไหลเข้ามาเยอะ แน่นอนว่ามาตรการก็ต้องแน่นหนาขึ้นตามไปด้วย ทางรัฐบาลออสเตรเลียจึงได้ปรับเกณฑ์การอนุมัติวีซ่าบางส่วนใหม่ โดยมีแนวทางที่จะเพิ่ม “Skills in Demand Visa” หรือวีซ่าสำหรับคนทำงานที่มีทักษะความสามารถสูงในสายงานที่กำลังขาดแคลน มาแทนที่วีซ่าแรงงานชั่วคราวอันเดิมอย่าง TSS 482 (Temporary Skill Shortage Visa)

จุดประสงค์ที่ทางรัฐบาลออสเตรเลียกำหนดวีซ่าตัวนี้ขึ้นมาก็เพื่อเอาไว้คัดแรงงานที่มีคุณภาพสูงส่งเข้าสู่ตลาดแรงงานของประเทศ ซึ่งเงื่อนไขการอนุมัติวีซ่าจะแบ่งจากเกณฑ์ระดับของทักษะแรงงาน 3 หมวดดังนี้  

Specialist Skill Visa 

เกณฑ์ระดับทักษะความสามารถในระดับ Specialist Skill เหมาะสำหรับผู้สมัครวีซ่าแรงงานที่มีความสามารถเฉพาะทาง โดยจะเน้นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีหรือพลังงานสะอาด ซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการมากในตลาดงานของออสเตรเลีย และเค้ายังมีกำหนดเรื่องรายได้เอาไว้ว่าจะต้องมีมากกว่า $135,000 (หรือ 3,167,505 บาทต่อปี) จึงจะผ่านเกณฑ์เพื่อขอวีซ่าได้ครับ

Core Skill Visa

ถัดมาเป็นระดับ Core Skill จะเหมาะกับผู้สมัครวีซ่าแรงงานที่มีทักษะตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน หรือ Skilled occupation list (งานจากลิสต์ที่ทางรัฐบาลคอยอัปเดตหรือจัดหาไว้ให้) และจะต้องมีรายได้มากกว่า $70,000 (หรือ 1,642,410 บาทต่อปี) จึงจะขอวีซ่าประเภทนี้ได้  

Essential Skill Visa

สำหรับผู้สมัครที่มีทักษะความสามารถไม่ผ่านเกณฑ์ 2 ข้อข้างบนไม่ต้องเสียใจนะครับ ทางรัฐบาลยังเปิดให้ผู้สมัครที่มีทักษะอื่นๆ ได้มีโอกาสเข้ามาทำงานในสายงานทางด้านภาคการบริการ เช่น งานดูแลผู้สูงอายุ, งานพยาบาล, งานร้านอาหาร เป็นต้น โดยจะพิจารณาให้กับคนที่มีรายได้ต่ำกว่า $70,000 (หรือต่ำกว่า 1,642,410 บาทต่อปี) 

2. คะแนนภาษาโหดกว่าเดิม

แน่นอนว่าการจะไปเรียนต่อออสเตรเลีย น้องๆ จะต้องมีคะแนนสอบ IELTS ไว้ใช้ยื่นทั้งมหาวิทยาลัย รวมถึงยื่นขอวีซ่า ซึ่งเดิมทีแล้วจะต้องได้ขั้นต่ำ band 5.5 แต่ล่าสุดได้ปรับเกณฑ์คะแนนภาษาอังกฤษ IELTS ให้สูงขึ้น โดยจะต้องได้ band 6.0 ขึ้นไป จึงจะสามารถขอวีซ่านักเรียนได้ 

และสำหรับผู้ที่เรียนจบป.ตรีแล้ว และอยากจะอยู่ทำงานต่อที่ออสเตรเลีย คะแนน IELTS ก็ปรับขึ้นเช่นกันครับ โดยจะต้องได้ band 6.5 (เดิมทีต้องได้ band 6.0) ซึ่งถือว่าสูงพอสมควรเลย และเหตุผลที่คะแนนโหดขึ้นก็เพื่อต้องการคัดกรองแรงงานที่มีทักษะและคุณภาพสูงเข้ามาทำงานในประเทศนั่นเองครับ แต่เชื่อว่าถ้าหากตั้งใจยังไงก็ไม่ยากอยู่แล้ว~  

3. คัดเข้มขึ้น เน้นคุณภาพนักศึกษา 

น้องๆ หลายคนที่จะไปเรียนต่อออสเตรเลียอาจจะคุ้นชินกับ Genuine Temporary Entrant (GET) หรือเกณฑ์การพิจารณาสำหรับบุคคลที่จะเข้าศึกษาต่อใช่มั้ยครับ แต่ล่าสุดทางรัฐบาลได้อัปเดตปรับเกณฑ์การพิจารณาอนุมัติ Student Visa ใหม่ โดยเปลี่ยนมาใช้ “Genuine Student Test” (GST) แทนแบบเดิม

และเนื่องจากที่ผ่านมามีนักเรียนต่างชาติจำนวนไม่น้อยให้ความสำคัญกับการทำงานเสริม รวมถึงยืดระยะเวลาอาศัยในประเทศ มากกว่าการโฟกัสเรื่องการศึกษา ดังนั้นทางรัฐจึงปรับเกณฑ์การพิจารณาใหม่ให้เข้มงวดขึ้น โดยจะขยายขอบเขตการประเมินความพร้อมในด้านต่างๆ ของผู้สมัครและพิจารณาจากหลายๆ ปัจจัย เช่น ความตั้งใจที่จะมาศึกษาต่อ ระดับของภาษา ฐานะการเงินและจดหมายตอบรับเข้าเรียน เป็นต้น // จากเดิมที่เคร่งอยู่แล้ว ก็ทวีคูณไปอีก! 

นอกจากนี้จะมีการพิจารณาปรับเกณฑ์อนุมัติวีซ่า “Temporary Graduate Visas” แบบอัตโนมัติสำหรับนักเรียนต่างชาติที่เรียนจบจากออสเตรเลีย และมีการอัปเดตเงื่อนไขระยะเวลาในการอยู่อาศัยของตัววีซ่า โดยผู้ที่ถือวีซ่าดังกล่าวนี้จะสามารถพำนักและหางานทำต่อในประเทศได้ชั่วคราวเหมือนเดิม แต่จะมีระยะเวลาการอยู่ที่สั้นลง (แบบเดิมจะให้อยู่ได้นานกว่า และให้โอกาสกับคนที่มีทักษะในสาขาขาดแคลนยืดระยะยาวกว่า)  

.................................................

เรียกว่าประกาศมาตรการใหม่ของออสเตรเลียนี้เข้มงวดสุดๆ เลยนะครับ แต่ก็เป็นการแก้ปัญหาแรงงานผิดกฎหมาย และช่วยคัดคนให้มีคุณภาพมากขึ้น ดังนั้น หากน้องๆ คนไหนที่มีแพลนอยากจะไปเรียนต่อหรือทำงานที่ออสเตรเลีย อย่าลืมหมั่นเช็กรายละเอียดและคอยอัปเดตติดตามข่าวสารเพิ่มเติม จะได้ไม่พลาดเป็น #ทีมออสเตรเลีย กันนะครับ