'ยูนิกซ์' รีวิวขอทุนสุดกระชั้น & เรียนต่อ ม.หญิงล้วนอันดับ 1 ในเกาหลี (วิชาที่ไทยชอบตกเป็นกรณีศึกษา!?)

 สวัสดีค่ะชาว Dek-D ถ้าพูดถึง  "เกาหลีใต้" นอกจากนึกถึงกิตติศัพท์เรื่องระบบจัดการที่ยอดเยี่ยมมากๆ ในทุกสถานการณ์แล้ว ทั้งธุรกิจสื่อทั้งการตลาดของเกาหลียังมีประสิทธิภาพและสร้างสรรค์จนหลายคนอยากไปศึกษากระบวนการทำงานจากประเทศเค้าด้วย อย่างเช่นเด็กทุนชื่อเล่นเก๋ๆ ที่เราจะพาไปรู้จักกันวันนี้ นั่นก็คือ  "พี่ยูนิกซ์ - พจนา มีสมบัติ"  บัณฑิต ม.สตรีอีฮวา  Ewha Womans University (이화여자대학교)  และไปด้วยทุน International Students Scholarship ที่ครอบคลุมค่าเรียน  100%

ท้ายที่สุดเธอไม่ได้เข้าใจแค่โลกการตลาดในมุมที่กว้างและลึกขึ้น แต่สิ่งที่อาจารย์สอนในคลาส รวมถึงระบบจัดการที่สุดยอดของเกาหลี ทำให้เธอได้ตั้งคำถามกับสิ่งรอบตัวว่า มันคือเรื่องปกติ หรือเราแค่เคยชินจนไม่รู้ว่ามันเป็นปัญหากันแน่?

สมัครทุนแบบสายฟ้าแลบ!
เห็นโพสต์ 7 วันก่อนหมดเขต

"จริงๆ ความฝันเราคือการไปเรียนต่ออเมริกา  แต่พอจบ ม.6 แล้วได้ทุนไปเรียนอเมริกาจริงๆ ก ลับไม่เป็นไปตามที่หวังไว้ รู้สึกเหมือนตัวเองเดินหลงทาง  ช่วงปลายเทอมเลยเริ่มเล็งๆ ว่าจะไปไหนดี จนวันนึงมาเจอโพสต์เรื่องทุนอีฮวาบน Dek-D รู้สึกมันดูสมัครง่ายดีจัง แค่ส่่งเอกสาร ไม่ต้องสมัครอะไรเพิ่มแล้ว แล้วตอนนั้นฉุกละหุกมาก เพราะเรามาเห็น 7 วันก่อนปิดรับสมัคร"

ปกติทุนเรียนต่อ Ewha Womans University จะมี 2 ทุนคือ

1. EGPP (Ewha Global Partnership Program)

  • ทุนค่าเล่าเรียนเต็มจำนวน (รวมค่าสมัคร) ค่าที่พัก และค่าใช้จ่ายส่วนตัว
  • ทุนมอบให้ระดับปริญญาตรีสูงสุด 8 เทอม ปริญญาโทสูงสุด 4 เทอม ปริญญาเอกและหลักสูตรต่อเนื่อง 6 เทอม
  • เงื่อนไขเพิ่มเติมคือต้องเป็นนักศึกษาจากประเทศที่กำลังพัฒนา และมีทักษะความเป็นผู้นำ (รวมประเทศไทยแล้ว)

2. ISS (International Students Scholarship)

  • ทุนค่าเล่าเรียนเต็มจำนวน (รวมค่าสมัคร)
  • ทุนจะมอบให้ 1 เทอม, 1 ปี, 2 ปี หรือ 4 ปี ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของทางมหาวิทยาลัย

 "เราสมัครทุน ISS และได้แบบ 100% 2 ปี ส่วนอีก 2 ปีได้ Merit-based ขึ้นอยู่กับเกรดค่ะ ส่วนเรื่องสาขาเค้าจะให้ยื่นได้ 3 อันดับ แต่เรายื่นไป 2 คือ  Communication and Media กับ Business เพราะเรามองว่าการตลาดของเกาหลีสร้างสรรค์มาก เราชอบที่เค้าไม่จำกัดขอบเขตในการเอา   marketing ไปใส่ในทุกสิ่งอย่าง (เช่น Korean Air ใช้ไอดอล SuperM ของ  SM Entertainment  มาอยู่ในวิดีโอสาธิตความปลอดภัยบนเครื่องบิน หรืออย่างในซีรีส์ที่แทรกโฆษณาได้แบบไม่ขัดอารมณ์) ทำให้  เราอยากไปศึกษาลงลึกในประเทศที่เค้าเก่งเรื่องนี้"

"แต่กรรมการแนะนำว่าถ้าไม่มีพื้นเกาหลีเลยแบบเรา ไปเรียนคณะ  International Studies ดีกว่า แล้วพบว่ามันคือสาย Business เหมือนกัน แต่ครอบคลุมหลายมิติ ทั้งเศรษฐศาสตร์ การเมือง กฎหมาย ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แล้วอีฮวาก็เด่นสาขานี้พอดีด้วยค่ะ ^^"

Online Campus Tour (Eng Sub)

บันไดมหาชน และเนินหน้าหอมหาภัย

 "เราเดินเข้ามหา'ลัยแล้วไปยืนตรงจุดแลนมาร์กที่คนชอบมาถ่ายรูปกันเยอะๆ รู้สึกว่า 'เฮ้ย เรามาถึงจุดนี้ได้ไงอะ' มันสวยมาก แล้วไม่กี่เดือนที่แล้วยังอยู่อเมริกาอยู่เลย 55555" 

 "ที่เซอร์ไพรซ์กว่าคือหอค่ะ หอเราอยู่ยอดเขาข้างหลังนั่นแหละ ทุกคนจะรู้จักกันดี วิวสวย สูงและชันเกือบ 45 องศา ตรงนั้นคือต้องระวัง ตอนหิมะตกมีคนลื่นล้มเป็นปกติ ส่วนเราเจอความบันเทิงตรงวันย้ายของเข้าหอ เรา ขนกระเป๋าล้อลากใหญ่ๆ แต่เดินไปครึ่งทางดันมีจุดที่ลากต่อไมไ่ด ้ และไม่มี shuttle bus เพราะชนกับวันรับปริญญาพอดี โชคดีมีรถรับส่งเค้าขับขาลงพอดี  เล่นเอาท้อตั้งแต่วันแรกเลยค่ะ  TT"
 

เจาะวิชาเรียนสุดเข้มข้น
ระบบเรียนสุดเคร่งครัด

 "การเรียนที่นี่คือเข้มข้นมาก ห้ามสาย ห้ามลา จะขาดแบบไม่โดนหักคะแนนได้ต่อเมื่อป่วยหนักแบบมีใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลใหญ่เท่านั้น (เพราะเค้าเคร่งเรื่องความเท่าเทียมมากๆ เลยกำหนดเป็นมาตรฐานที่เข้มงวดเหมือนๆ กัน)" 

"ส่วนโครงสร้างหลักสูตรคณะ International Studies ก็จะแยกเป็น  3 concentrations คือ  1. International Business and Economics 2. International Law and Diplomacy 3. Asian Studies ซึ่งหนูเรียนเป็น Double concentrations ตัว 1 กับ 2 เพราะสนใจทางธุรกิจกับกฎหมายค่ะ   (ถ้าเก็บในกลุ่มนั้นๆ ครบ  18 หน่วยกิต จะได้ใบประกาศฯ พิเศษด้วยนะคะ)"

"ถ้าเป็นสไตล์การสอนทางฝั่งธุรกิจและเศรษฐศาสตร์ ( Business  and Economics) เช่น วิชาเศรษฐกิจมหภาค, จุลภาค, การค้าและการลงทุน, เศรษฐศาสตร์พัฒนาการ ฯลฯ เราจะเรียนแบบเน้นเลกเชอร์ ท่องจำ ทำเปเปอร์ พรีเซนต์รัวๆ และไม่มีดิสคัส ยกเว้นวิชาขั้นสูงหน่อยที่เริ่มใส่ความเห็นตัวเองลงไปได้ค่ะ ส่วนฝั่งกฎหมายและการทูต (Law and Diplomacy) เช่น กฎหมายธุรกิจ กฎหมายการเงิน กฎหมายมหาชนระหว่างประเทศ ฯลฯ เราเจออาจารย์ที่เข้มงวดจนทุกคนอยู่ในกรอบเดียวกันหมด  แต่ด้วยตัวเนื้อหาเราว่ามันมีประโยชน์พอสมควร  จากที่รู้แค่มีสิ่งนี้นะ รู้โครงสร้างคร่าวๆ ก็ทำให้เข้าใจว่าถ้าวันนึงเป็นผู้ประกอบการเราจะต้องระวังจุดไหน ต้องดีลกับ Law Firm ยังไงบ้าง"

ยกตัวอย่างวิชาพีคๆ

วิชาที่อาจารย์โพรไฟล์เทพ จนคนบินตรงมาเรียนด้วย!

 "วิชา 'Intro. to International Relations' (IR) เป็นตัวบังคับของสาขานี้ค่ะ    สอนโดย อาจารย์ที่โพรไฟล์แกรนด์มากกก จบดอกเตอร์จาก  Harvard และเป็นที่ปรึกษาของรัฐบาลเกาหลีด้วย  ตอนเรียนเลยให้ฟีลเหมือนอยู่ในซีรีส์ จินตนาการตัวเองเป็นพระเอกนางเอกนั่งเรียนในมหาวิทยาลัยกลุ่ม  Ivy League แล้วมีเด็กแลกเปลี่ยนจากต่างประเทศบินตรงมาเพื่อเรียนกับเขาโดยเฉพาะ! 5555 วิธีการเรียนก็จะต่างจากวิชาอื่น นั่งแบ่งเป็นกลุ่ม มีบทความให้อ่าน  นั่งแลกเปลี่ยนความคิดเห็นแล้วเขียนส่งอาจารย์ ถ้าใครอินกับรัฐศาสตร์รับรองว่าชอบแน่ๆ"

"เวลาสอบก็มีทั้งพาร์ตท่องจำและจับทฤษฎีมาประยุกต์ พอคะแนนออกปุ๊บหน้าซีดกันเลยค่ะ มีคนได้เต็มร้อยคะแนน 3 คน และต่ำสุดคือ 33 คะแนน ตอนนั้นลุ้นมากว่าใช่เรามั้ย? ผลคือได้กลางๆ แต่ก็น้อยกว่าที่คิดไปมาก น่าจะเป็นเพราะวิธีการเรียนและสอบแบบนี้ใหม่สำหรับเรามาก เพราะเรียนแต่แบบท่องจำมาตลอด"

วิชาที่ประเทศไทย ไปโผล่เป็นกรณีศึกษาในหลาย topic

"มีวิชานึงเจ๋งมาก ชื่อว่า   'เศรษฐศาสตร์พัฒนาการ' (International Economic Development) เพราะเราเห็นภาพชัดเจนเลยว่านักเศรษฐศาสตร์เค้าวิเคราะห์หลายปัจจัย  ครอบคลุมทั้งเรื่องเศรษฐกิจ การเมือง ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ มันอยู่ในวังวนเดียวกันหมด  อาจารย์จะสอนโดยยกเคสแล้วตั้งคำถามว่าทำไมประเทศนี้ใช้วิธีการทางเศรษฐกิจนี้ถึงไม่เจริญ? หรือไม่ก็ให้เทียบ  2 ประเทศที่ปกครองระบอบเดียวกันว่าทำไม A เจริญ แต่ B ไม่เจริญ?"

 "ตอนเรียนวิชานี้อาจารย์เรียกเราบ่อยมากจนเล่นเอาตั้งตัวไม่ทันเลยค่ะ เพราะชื่อประเทศไทยอยู่ในหลาย topic ที่เรียน เช่น เปเปอร์นึงให้เราเขียนเปรียบเทียบอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ของไทยกับมาเลเซีย  เสร็จแล้วอาจารย์ถามว่า 'Ms.มีสมบัติ ในฐานะที่เป็นคนไทย คุณคิดเห็นยังไงกับเรื่องนี้?"

 "หรือเวลาเราพูดถึงเรื่องการพัฒนาอุตสาหกรรม (Industrialization) เค้าก็จะชอบถามเราเรื่องนโยบายเศรษฐกิจ เช่น ถ้าเมื่อก่อนคนจะรู้ว่าไทยเน้นส่งออกสินค้าเกษตร  แต่พอเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรมแล้วช่วงแรกๆ ไทยปรับตัวยังไงบ้าง?  เน้นอุตสาหกรรมอะไร? แล้วตอนนี้เป็นยังไงบ้าง? ทำไมถึงเน้นการผลิตสิ่งนี้แทนที่จะเน้นอุตสาหกรรมที่ช่วยเสริมให้ฝั่งสินค้าทางการเกษตรโตไปพร้อมๆ กัน?"

"นอกจากนี้เค้าจะมีพูดถึงศาสนาหรือระบอบการปกครองด้วยบ้างค่ะ  เวลาที่เรียนเราจะเน้นพูดถึงสมมติฐาน อาจารย์ก็เลือกถามเราเป็นข้อๆ ในข้อที่พอถามได้ เช่น เรื่องศาสนา เขาเองจะไม่ได้รู้ลึกเรื่องพุทธมาก เขาเลยถามว่าเรานับถือพุทธมั้ย? อยากให้เราแชร์ว่าศาสนาพุทธในบริบทไทยเป็นยังไงบ้าง? แล้วจากสมมติฐษนที่นักเศรษฐศาสตร์อธิบายว่า ศาสนาพุทธสอนให้คนปล่อยวาง ไม่ยึดเอาความเจริญทางโลก มันส่งผลกระทบต่อสังคมการทำงานในไทยจริงมั้ย? อะไรแบบนี้ค่ะ"

ถึงเป็นหลักสูตรอินเตอร์ จบไปก็ได้ 2 ภาษา

"แล้วถึงจะเรียนภาคภาษาอังกฤษ ก็ไม่่ใช่ว่าจะหนีภาษาเกาหลีพ้น เพราะเค้ามีตัวบังคับให้ลง 2 ตัว มาพร้อมเงื่อนไขพีคๆ คือต้องมี TOPIK  4 ก่อนถึงจะลงได้ ตอนนั้นรุ่นเรายังมีอีกวิธีคือเรียนและสอบเลเวล 4 ของวิชาภาษาเกาหลีให้ผ่าน   พอรู้เงื่อนไขที่เรากับกลุ่มเพื่อนคนไทยมองหน้ากันเลิ่กลั่กเลยค่ะ สรุปเราก็ไปเริ่มเลเวล 1 ตอนปีแรก แล้วข้าม 2 กับ 3  เพราะตารางเวลาไม่ลงตัว ต้องอาศัยช่วงกลับไทยไปเรียนเพิ่มแล้วข้ามช็อตไป Pre-test เพื่อเรียนเลเวล 4 ตอนปี 3 แทน ซึ่งก็จะมีปัญหานิดนึงตรงที่ระดับ 4 เค้าเน้นหนักเรื่องเขียน essay ซึ่งตอนเรียนที่ไทยไม่มีคนช่วยตรวจให้เรา"

"ข้อดีของภาษาเกาหลีคือตัวฮันกึลมีไม่กี่ตัว อ่านง่าย แต่ยากตรงจำศัพท์เพราะมีเสียงน้อย แล้วมันจะวนๆ อยู่ในนั้นให้สับสนเล่นๆ  (แต่ถ้าเกิดมีพื้นแล้วอยากไปต่อยอดภาษาจีนหรือญี่ปุ่นอาจจะง่ายขึ้นค่ะ เพราะแกรมมาร์คล้ายกัน  ศัพท์บางคำเหมือนกันเลยก็มี)  เราว่าสุดท้ายแล้วมันขึ้นอยู่กับแพสชัน ต้องอาศัยฝึกๆๆๆ อย่างเดียว แล้วมันยิ่งยากเมื่อต้องไปอยู่ในประเทศที่เค้าแทบไม่พูดภาษาอังกฤษกันเลยแม้จะเป็นย่านท่องเที่ยวอย่าง อีแด (이대)   เวลาติดต่อราชการเดินเรื่องแต่ละทีลำบากมาก โชคดีมีเครือข่ายนักเรียนไทยในนั้นให้ขอความช่วยเหลือได้"


คิดว่าเหตุผลอะไร
ทำให้เกาหลีพัฒนาไวมาก?

  "นอกจากการเดินทางที่สะดวกถึงขั้นสบาย (โอกาสหลงทางน้อยมาก)  มีกล้องวงจรปิดที่ติดทั่วเมือง เรื่องที่ชอบมากคือความ  practical  ของคนเกาหลีค่ะ   ยกตัวอย่างง่ายๆ เวลาตำรวจได้รับแจ้งเหตุ เค้าจะ action ทันที  หรือถ้าเห็นในข่าว รัฐบาลประกาศอะไรปุ๊บ   เค้าทำเลย  ย้อนไปเมื่อก่อนตอนเค้าคิดจะพัฒนาประเทศ เขาก็ทุ่มให้กับการศึกษา พอประชาชนได้รับการ educated ประเทศก็โตเร็วมาก และทำให้สังคมน่าอยู่ขึ้นด้วย เพราะคนของเค้ามีจิตสำนึกต่อส่วนรวม"

"ทำให้เห็นเลยว่าถ้าจะพัฒนาประเทศได้  'การศึกษา' คือพื้นฐานของทุกอย่าง ทุกคนต้องพร้อมเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง อย่างคนเกาหลีเค้าประท้วงบ่อยๆ ยืนประท้วงคนเดียวยังมีเลย เพราะเค้ารู้ว่าสิทธิของตัวเองคืออะไร มีกรอบความรู้ประมาณนึงว่าเค้ากำลังโดนละเมิดอะไรอยู่บ้าง   // เหตุการณ์ประท้วงใหญ่ในเกาหลี เด็กอีฮวาคือตัวตั้งตัวตีเลยค่ะ ใครสนใจตามไปอ่านได้ในบทความ : นักศึกษาเกาหลีใต้" คนหนึ่งโกงข้อสอบ นำมาสู่ "การขับไล่ประธานาธิบดี" ในเดือนตุลา 2016

Before & After 
หลังเรียนที่เกาหลี 4 ปี

"เรารู้สึกว่าตัวเองความคิดเปลี่ยน เปลี่ยนเหมือนเป็นอีกคนไปเลย   เพราะทั้งเนื้อหาที่เรียนในคลาส หรือสิ่งที่เห็นในประเทศเค้า มันทำให้เราได้เปรียบเทียบ เห็นชัดว่าอะไรคือปัญหาที่ต้องรอการแก้ไขอยู่บ้าง  มั่นใจว่าต่อให้ใครไม่ชอบเนื้อหา International Studies แต่ถ้าจบมายังไงก็ต้องตั้งคำถามกับสิ่งรอบตัวมากขึ้นแน่นอน โดยเฉพาะเมื่อมาอยู๋ในสภาพแวดล้อมของเด็กที่มีแพสชันในการเป็นผู้นำของโลกเหมือนกับที่นี่"

. . . . . . . . . . 

You’re Invited!
อยากปรึกษา 1:1 กับพี่ยูนิกซ์ตัวจริง
พบกันที่ไบเทคบางนา 28 เม.ย. 2024

รอบนี้พิเศษมากก!! Dek-D’s Study Abroad Fair ได้รับเกียรติจากรุ่นพี่นักเรียนทุนและจบนอกจากประเทศยอดนิยมตอบรับคำเชิญมาประจำบูธใหญ่ของพวกเรา เพื่อให้น้องๆ และผู้ปกครองในงานสามารถ Walk-in ปรึกษาได้ตัวต่อตัว ไม่ว่าจะเป็น รุ่นพี่ทุน Erasmus+ (ยุโรปและอเมริกา), Fulbright (อเมริกา), Chevening (สหราชอาณาจักร), DAAD (เยอรมนี), Franco-Thai (ฝรั่งเศส), ทุนรัฐบาลอิตาลี, จีน, เกาหลี, ญี่ปุ่น, ไต้หวัน, ทุนรัฐบาลไทย (ก.พ./UiS) รวมถึงรุ่นพี่จากมหาวิทยาลัยในสกอตแลนด์และออสเตรเลียก็มาด้วยนะ

"พี่ยูนิกซ์" จะสแตนด์บายที่บูธปรึกษากับน้องๆ แบบ 1:1 ในวันที่ 28 เมษายน 2024 และห้ามพลาดไฮไลต์อีกมากมายในงานนี้ค่ะ

เช็กไฮไลต์งานแฟร์ต่อนอกที่นี่
พี่กุ๊กไก่
พี่กุ๊กไก่ - Columnist มนุษย์เบ้าหน้าจีน หวีดนักร้องไทย คลั่งไคล้ซีรี่ส์เกาหลี คลุกคลีกับอาหารญี่ปุ่น

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น