สวัสดีค่ะชาว Dek-D ต้องบอกว่าเทรนด์การเรียนต่อ "ไต้หวัน" มาแรงในหมู่นักเรียนไทยมากๆ ด้วยหลายเหตุผล ตั้งแต่เรื่องการจัดการเมือง เทคโนโลยี คุณภาพการศึกษา ชื่อเสียงมหาวิทยาลัย สภาพแวดล้อมที่เหมาะกับการฝึกภาษาจีน ฯลฯ ซึ่งถ้าสนใจขึ้นมาก็จะมีทั้งทุนมหาวิทยาลัย หรือทุนจากองค์กร หรือทุนรัฐบาลไต้หวันอีกเยอะมาก เช่น ทุน MOE, ทุน TaiwanICDF, ทุน HES เรียนภาษาจีนระยะสั้น
และหนึ่งในทุนฮิต และครอบคลุมค่าใช้จ่ายเต็มจำนวน ก็คือทุน TaiwanICDF นั่นเองค่ะ ทุนนี้ดียังไง? เลือกเรียนสาขาและมหา'ลัยไหนได้บ้าง? เริ่มเตรียมตัวยังไงดี? วันนี้เราจะพาไปอ่านรีวิวประสบการณ์ “พี่จ๋า–ศริญญา เจียรสุข” คนไทยที่จบ ป.โท International Human Resource Development จาก National Taiwan Normal University ที่ตั้งอยู่ในกรุงไทเป // พี่จ๋าเป็นเด็กกิจกรรมตัวยงตั้งแต่อยู่ไทย แล้วพอไปถึงไต้หวันก็ไม่แผ่ว แล้วสิ่งที่ทำก็พาโอกาสมาให้เยอะมากแบบไม่คาดคิด รวมไปถึงการขอทุนสำเร็จในครั้งนี้ด้วย ประสบการณ์เรียนที่ไต้หวันครั้งนี้พาไปเจออะไรบ้าง เราไปเริ่มพาร์ตแรกกันเลยค่ะ
*อ้างอิงค่าเงิน 1 TWD (Taiwan Dollar) = 1.11 บาท อัปเดต ก.ค. 67
. . . . . . . . . .
เปิดที่มาที่ไป
ทำไมถึงลงตัวที่ไต้หวันและ NTNU
สวัสดีค่า ชวนทักทายผู้อ่านกันก่อน~
สวัสดีค่ะ ชื่อ "พี่จ๋า" นะคะ เรียนจบ ป.ตรี คณะรัฐศาสตร์ สาขาการเมืองระหว่างประเทศ ม.ธรรมศาสตร์ (ภาคภาษาอังกฤษ) ตอนสมัครเรียนและสมัครทุนที่ไต้หวัน ยื่นคะแนนภาษาอังกฤษ TOEIC 850 ค่ะ
จริงๆ แล้วจ๋าเริ่มจากอยากเรียนต่อต่างประเทศก่อน จากนั้นค่อยๆ หาว่ามีทุนไหนให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมดโดยไม่ต้องรบกวนที่บ้านเยอะบ้าง จนมาเจอทุน TaiwanICDF ซึ่งเราต้อง (1) สมัครทุน และ (2) สมัครมหาวิทยาลัย แยกกัน หมายความว่าบางคนอาจเจอกรณีที่ติดมหาวิทยาลัยแต่ไม่ติดทุนก็ได้
เลือกมหาวิทยาลัยจากเหตุผลอะไรบ้าง?
- ความเป็นไปได้จากพื้นฐาน ประสบการณ์ ผลงาน คะแนนที่เราถือ ฯลฯ
- ประสบการณ์ที่น่าจะได้รับกลับมา เช่น จ๋ามีสกิลบริหารจัดการคนและสนใจด้านนี้ ก็เลยเลือกเรียนต่อสาขา International Human Resource Development ที่ National Taiwan Normal University ซึ่งมหาวิทยาลัยนี้ขึ้นต้นด้วย National ที่หมายถึง "มหาวิทยาลัยรัฐ" เรามั่นใจได้เลยว่าคุณภาพอยู่ในระดับ Top Tier ของไต้หวันแน่นอน
- เมืองที่ไปอยู่ สภาพแวดล้อมที่ไหนใช่เราที่สุด เช่น จ๋าเลือกไทเปเพราะชอบสีสันและบรรยากาศแบบในเมือง
- ตรวจสอบว่าหลักสูตรและมหาวิทยาลัยนั้นๆ อยู่ในลิสต์ที่ทุน TaiwanICDF ครอบคลุมหรือไม่
. . . . . . . . . .
สรุปความน่าสนใจของทุน TaiwanICDF
เรียนฟรี ดูแลดี มีผู้ช่วยให้อุ่นใจ!
รู้จักทุน TaiwanICDF [อัปเดตปี 2024]โครงการโดย “กองทุนเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ” ของไต้หวัน (International Cooperation and Development Fund; ICDF) แต่ละปีจะมอบให้ผู้ที่สนใจเรียนต่อ ป.โท หรือ ป.เอก ในลิสต์หลักสูตรกับมหาวิทยาลัยที่กำหนด ทุกหลักสูตรจัดการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษ มูลค่าทุน & สิทธิประโยชน์
*บทความสรุประเบียบการทุน TaiwanICDF ประจำปี 2024 (ปิดรับสมัครไปเมื่อ 15 มี.ค. 2024) |
จริงๆ นอกจากเรียนฟรีมีค่าขนมให้ จ๋ารู้สึกประทับใจการช่วยเหลือของทุน TaiwanICDF อีกหลายเรื่อง เช่น มี Scholarships Manager คอยช่วยอำนวยความสะดวกเกี่ยวกับธุระต่างๆ ช่วยให้ชีวิตในไต้หวันง่ายขึ้น อย่างตอนจ๋าไปถึงคือช่วงโควิด-19 แล้วต้องกักตัวก่อน ก็มีผู้ช่วยที่จัดการเรื่องบัตร ARC (Alien Resident Card) หรือบัตรประชาชนของชาวต่างชาติที่พำนักในไต้หวัน
และที่พิเศษคือจะมีกิจกรรมสำหรับนักเรียนทุน TaiwanICDF จากชาติต่างๆ หนึ่งในนั้นคืองานแข่งกีฬา TICA Cup จัดขึ้นที่ต่างจังหวัดหรือต่างมหาวิทยาลัย มีโอกาสได้เปิดหูเปิดตากับหาเพื่อนใหม่ไปในตัว~
. . . . . . . . . .
รีวิวเรียนต่อ ป.โท หลักสูตรอินเตอร์
National Taiwan Normal University
การปรับตัวช่วงแรกๆ
หลักๆ ปรับตัวเรื่องการใช้ชีวิต ทุน TaiwanICDF จะจัดให้เราอยู่กับนักเรียนทุนรุ่นปีเดียวกันจากหลายประเทศ ไลฟ์สไตล์อาจไม่ได้เข้ากันแบบ 100% ต้องใช้เวลาค่อยๆ ปรับตัวค่ะ ส่วนเรื่องภาษาจีน ถ้าถามว่าจำเป็นต้องสื่อสารได้ไหม ถ้าขาดก็อาจจะเข้าไม่ถึงบางอย่าง (แต่ก็พอเอาตัวรอดได้) เช่น ไปร้านอาหารแล้วใช้ Google Translate บ้าง เปิดรูปให้ หรือให้เพื่อนช่วยไต้หวันช่วยสั่งอาหารหน่อย
ข้อดีของทุน TaiwanICDF คือนักเรียนทุนสามารถเรียนเสริมภาษาจีนได้ (เป็น add-on) ช่วง 2-3 เดือนหลังเปิดเทอม สัปดาห์ละประมาณ 2-3 ชั่วโมง อาจไม่มากแต่ทำให้เรามีพื้นฐานไว้ใช้ชีวิตง่ายขึ้น และเรียนต่อยอดให้เชี่ยวชาญจีนได้ ทำให้จากตอนแรกที่ไปเริ่มแบบงูๆ ปลาๆ จ๋ามีเทกคลาสภาษาจีนมาเรื่อยๆ ตอนฝึกงานได้ยินทุกวันก็มีซึมซับมาบ้าง แล้วทุนมีให้สอบภาษาจีน TOCFL ก่อนจบ แล้วพบว่าพัฒนาขึ้นจนได้ A2 เกือบ B1 เป็นโบนัสเล็กๆ จากการไปเรียนโทที่ไต้หวัน
ข้อดีของ NTNU
- ตั้งอยู่กลางเมือง เดินทางสะดวก ไทเปจะมีทั้งรถบัสกับ MRT ไปไหนง่าย วางแผนเชีวิตแต่ละวันได้ ไม่ต้องกังวลว่านัดแล้วจะไปสายหรือรถติด นอกจากนี้ยังมีบัตรรายเดือนประมาณ $1,200 NTD ใช้บริการขนส่งสาธารณะได้ทุกอย่างทั้งรถบัส จักรยาน รถไฟฟ้า MRT
- กิจกรรมสุดเปิดโลก เช่น English Chat Room หรือกิจกรรมแนวแลกเปลี่ยนภาษาและวัฒนธรรมระหว่างคนไต้หวันกับต่างชาติ โดยผู้เข้าร่วมอาจจะได้ของขวัญเล็กๆ น้อยๆ เป็น Gift Voucher ขึ้นอยู่กับกิจกรรม
- ทรัพยากรและสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อม นอกจากห้องสมุด NTNU อีเมลนักศึกษาของเรายังสามารถใช้เข้าระบบห้องสมุดที่อื่นได้, มีโปรแกรมช่วยทำ Research หรือ Analyze Data ให้ใช้ฟรี, ฟิตเนสราคานักศึกษา เป็นต้น
- มีความร่วมมือด้านวิชาการระหว่าง 3 มหาวิทยาลัยรัฐชั้นนำของไต้หวัน ซึ่งจะมีแชร์วิชาเรียนและทรัพยากรให้นักศึกษาเข้าใช้ได้
มหาวิทยาลัยในกลุ่มประกอบด้วย
- มหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน (ไถต้า 台灣大學 National Taiwan University)
- มหาวิทยาลัยครูแห่งชาติไต้หวัน (ซือต้า 台灣師範大學 National Taiwan Normal University)
- มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติไต้หวัน (ไถเคอต้า 台灣科技大學 National Taiwan University of Science and Technology)
สาขานี้เหมาะกับใครบ้าง?
การเรียน ป.โท International Human Resource Development ที่ NTNU เหมาะกับคนที่สนใจ “การพัฒนาคน” ทำยังไงถึงจะดึงศักยภาพของเขามาออกได้ และ “สนใจสภาพแวดล้อมที่เป็นนานาชาติ” ในคลาส 50% เป็นเด็กอินเตอร์จากเวียดนาม ไทย ฟิลิปปินส์ อเมริกา ไปจนถึงประเทศฝั่งแคริบเบียน ฯลฯ
(อัปเดตโครงสร้างหลักสูตรจากเว็บมหา'ลัย)
https://www.ihrd.ntnu.edu.tw/index.php/en/courses-2/
ยกตัวอย่างวิชาเรียน
โปรแกรมนี้เป็น Project-based มีโปรเจ็กต์แทบทุกวิชา (เดี่ยว/กลุ่ม) ภาพรวมคืออ่านเยอะ อ่านหนัก โดยเฉพาะช่วงสอบปลายภาคที่จะรวมทุกบทตั้งแต่แรก บางวิชาตอนสอบอาจจะให้ open book แบบสับๆ ช่วง 30 นาที พอได้ข้อสอบมาต้องวางแผนดีๆ เจอจุดที่เราติดก็ทำ tag ไว้ว่าต้องไปหาหัวข้อนี้มานะ ระทึกดีค่ะ! 5555
ส่วนตัวจ๋าประทับใจหลายวิชามาก ขอยกตัวอย่างประมาณนี้เพื่อให้พอเห็นภาพค่ะ
- Intercultural Communication วิชานี้ที่ช่วยให้เข้าใจเรื่องการสื่อสารข้ามวัฒนธรรม เข้าใจธรรมชาติของคนที่มี background แตกต่างกัน ความพิเศษคือทางมหาวิทยาลัยทดลองเปิดสอนวิชานี้เป็นแบบออนไลน์ 100% เราสามารถจัดการเวลาเรียนแต่ละสัปดาห์ได้ มีโปรเจ็กต์เดี่ยวและกลุ่ม (เน้นเดี่ยว) การนำเสนอออนไลน์ ทำวิดีโอสรุปสาระสำคัญ และยกตัวอย่างกรณีศึกษาเพิ่มเติม
- Studies in Leadership and Talent Development Practices อาจารย์ที่ทำงานใน บริษัทผลิตชิปรายใหญ่ของโลก อย่าง ‘TSMC’ เข้ามาสอน ได้ฝึกปฏิบัติจริงเก็บ Practical Experience มีให้นั่งจับกลุ่มในคลาส แล้วอาจารย์จะชวนดิสคัสเพื่อหาทางออกหรือพูดคุยกัน วิชานี้เราจะได้ Tools กลับไปเพื่อทำความเข้าใจและรู้วิธีเข้าหาคนแบบต่างๆ
- Social Innovation วิชานวัตกรรมทางสังคม จ๋าข้ามไปลงของคณะจัดการเทคโนโลยี NTUST ค่ะ เค้าจะสอนเรื่องเครื่องมือ ตัวอย่างกรณีศึกษา ซึ่งค่อนข้างแตะเรื่อง ESG เยอะ และมีเชิญวิทยากร (Speaker) จากบริษัท KPMG ไต้หวันมาให้ความรู้เรื่อง ESG และคนที่ทำบริษัท Start-Up ค่ะ
- Global Marketing and Negotiation Skills เป็นวิชาที่ข้ามไปลงของ NTU วิธีสอนที่น่าสนใจมาก เรากับเพื่อนจะรับบทเป็นพาร์ตเนอร์ของบริษัท มีเหตุการณ์ที่ต้องเจรจาต่อรอง (Negotiation) เทคนิคที่จ๋าใช้คือจดโน้ต ทำตารางสรุปออกมาว่าเพื่อนแต่ละคนสไตล์ไหน เรียนอะไร สนใจอะไรบ้าง พอถึงเวลาพูดคุยกันก็จะง่ายขึ้นเพราะมี topic ช่วยเชื่อมให้
- Human Resource Development สอนเรื่องการบริหารจัดการเวลา มีเลกเชอร์และทำโปรเจ็กต์ ดีไซน์การนำเสนอ ครบกระบวนการเทรนนิ่ง
Learn hard, play harder
and enjoy life hardest.
งาน TA ที่ให้อะไรมากกว่าค่าขนม
จ๋าสนิทกับรุ่นน้องทุกคนเพราะไปเป็น TA (Teaching Assistant) หลายวิชา ได้คอนเน็กชันทั้งคนไต้หวันและคนต่างชาติ ตอนทำงานต้องคอยเมเนจ ตอบคำถาม จัดการแพลตฟอร์ม ใช้ Tools ของมหาวิทยาลัย ส่วนตัวเราว่ามาเรียนรู้ได้ ไม่เกินความสามารถของทุกคน
ส่วนช่วงที่เหนื่อยสุดก็คือปีที่ใกล้จบ แล้วต้องปิดเล่มธีสิส ระหว่างนั้นมีไปฝึกงาน เป็นช่วง 2 เดือนที่ทำหลายอย่างมากกก เครียดจนกินชานมไข่มุกอิ่มจุกๆ ก็ไม่ช่วยเลยค่าาา
ประสบการณ์ฝึกงานแบบข้ามสาย ท้าทายสุดๆ!
อีกข้อดีของทุน TaiwanICDF คือมีคอนเน็กชันกับโปรแกรมฝึกงาน เช่น เปิดรับสมัครจำนวน X ตำแหน่ง มีการคัดเลือกอีกทีว่าเราจะได้ไปฝึกที่ไหนค่ะ
ด้วยความที่จ๋าสนใจเรื่อง ESG ตัวย่อนี้มาจาก Environmental (สิ่งแวดล้อม) Social (สังคม) และ Governance (ธรรมาภิบาล) เป็นแนวคิดเกี่ยวกับพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืนค่ะ หลายบริษัทที่ไต้หวันจะใส่ใจเรื่องนี้มากๆ และสายไฟแนนซ์เองก็มีโปรเจ็กต์ที่ทำเรื่องนี้ด้วย จ๋าก็ได้เข้าไปทำคือดูแลเรื่อง House loan ซึ่งเค้าเองก็มีการปล่อยสินเชื่อสีเขียวสำหรับตึก บ้าน หรือรถที่ลดการปล่อยก๊าซ CO2
ความท้าทายคือ Finance ไม่ใช่ด้านที่เราถนัดเลยยย จ๋าได้มาเรียนรู้ใหม่ทั้งหมด มีปูพื้นฐาน 3 วันแรก ความยากคือถ้าไม่ได้ภาษาจีนด้วยก็จะยิ่งท้าทายไปใหญ่ เพราะเวลาคนพูดภาษาจีนมาเราอาจฟังไม่รู้เรื่อง แต่ถึงบางคนไม่ได้ Fluent ภาษาอังกฤษ เขาก็ช่วยเหลือเราอย่างดี และเราก็มีตัวช่วยเป็น Google Translate ด้วย
สรุปว่าเป็นการฝึกงานที่ไม่ง่าย แต่รู้สึกขอบคุณตัวเองที่ลองยื่นสมัครดู ได้ลองว่าจะชอบหรือไม่ชอบด้านนี้ ตอนที่ฝึกมีโอกาสไป Head Quarter ของบริษัท และ rotate หมุนเวียนไปดูงานสาขาต่างๆ เพื่อดูว่าจะเอามาพัฒนาระบบงานที่เขามีได้ยังไงบ้าง
อย่างไรก็ตาม ตลาดงานที่ไต้หวันเปิดกว้างมากโดยเฉพาะกับตำแหน่งวิศวกร ถ้าพูดจีนได้ด้วยโอกาสหางานยิ่งเยอะ จ๋ามีเพื่อนต่างชาติที่ได้เข้าไปเป็น HR บริษัทด้านไฟแนนซ์ด้วยเหมือนกัน
สีสันนอกคลาส
- ไต้หวันมีจัดเทศกาลบ่อย จ๋าเคยไปมาทั้ง Pride Parade, งานโชว์, ดนตรีแจ๊ส, งานไฟ-งานพลุ ฯลฯ แล้วเรามีความสุขกับการเดินเล่น Museum มาก เขาเปิดให้นักศึกษาเข้าได้ในราคาพิเศษ ถูกมากๆ บางที่เข้าฟรีด้วยซ้ำ
- มีโอกาสเที่ยวสำรวจหลายๆ เมือง เห็นเมืองในต่างมุม เช่น ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ฯลฯ ถ้าไปต่างจังหวัดหน่อยๆ จะมีวัฒนธรรมชนเผ่าพื้นเมืองเยอะค่ะ เค้ามีภาษาของตัวเอง เราไปถึงก็ได้ลองแต่งชุดพื้นเมือง ชิมอาหารพื้นเมือง ถึงไม่ได้ลงลึกแต่อย่างน้อยก็ได้สัมผัส
. . . . . . . . . .
#รีวิวไต้หวัน แบบจุ่มๆ
ว่าด้วยคุณภาพชีวิตและสวัสดิการเจ๋งๆ
- Environmental Friendly การทิ้งขยะของเขาเป็นระบบมากๆ อย่างที่ไทเปมีแยกชัดเจนว่าเป็นขยะทั่วไป หรือขยะรีไซเคิล และใช้ถุงขยะที่จัดให้โดยเฉพาะ
- Public Space ไต้หวันจัดการพื้นที่สาธารณะได้ดีมากๆ และเป็นการส่งเสริมให้คนหันมาใช้บริการรถสาธารณะไปในตัว ไม่ว่าจะเป็นฟุตบาธกว้างๆ สวนสาธารณะเยอะ หรือทางเดินระหว่างแม่น้ำที่บางช่วงจะเปลี่ยนเป็นที่ปั่นจักรยาน เป็นต้น
- Disaster Management มีวิธีการจัดการที่มีประสิทธิภาพเพื่อรับมือกับภัยพิบัติ สมมติมีแผ่นดินไหว เขาจะส่งข้อความเข้ามือถือทุกคน พวกโครงสร้างบ้านเรือน อาคาร ตึก หรือรถไฟ ก็มีปรับโครงสร้างให้รองรับเหตุการณ์เหล่านี้ อย่างเช่นมีแม่น้ำ ถัดจากนั้นมีที่รับน้ำ สร้างเชื่อนเพิ่ม แล้วช่วงที่ไม่เสี่ยงน้ำท่วมก็จะปรับเป็นสวนสาธารณะแทน เราประทับใจวิธีจัดการของเขามากค่ะ
- ระบบประกันสุขภาพแห่งชาติ (National Health Insurance – NHI) ทุกคนต้องทำประกัน ซึ่งทุน TaiwanICDF ก็ครอบคลุมส่วนนี้ค่ะ พอมีประกันก็ทำให้ค่ารักษาเป็นมิตรสุดๆ สมมติตีเป็นเงินไทย ค่าขูดหินปูนก็ 100-200฿ ป่วยก็ 200฿ หาหมอผิวหนัง 400฿ ได้ยากลับมาเยอะมากก สามารถเลือกหมอและเข้าถึงการรักษาที่คลินิกหรือโรงพยาบาลใหญ่ๆ ได้ด้วย หรือส่วนใหญ่ที่คนใช้บริการกันเยอะคือคลินิก มีเวลาให้เข้าไปจอง เสียบบัตร รอเรียกตามคิว
- หวยใบเสร็จ สมมติซื้อของกับร้านที่ลงทะเบียนกับรัฐบาล เค้าจะมีใบเหมือนล็อตเตอรี่มาให้ ได้ลุ้นทุก 2 เดือน หรือถ้าขี้เกียจตรวจก็จะมีแอปฯ ที่ยื่นให้ร้านสแกนเข้าได้เลย แล้วหวยก็จะไปอยู่ในระบบ ครบสองเดือนมาเช็กว่ามีใบไหนถูก รางวัลมีหลากหลายระดับ จ๋าไม่ได้ถูกบ่อยขนาดนั้นก็แต่ก็รู้สึกสนุก เป็นกิมมิกเล็กๆ ให้ได้ลุ้นๆ แบบไม่ต้องเสียเงินอะไร
Culture Shock ที่อาจไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่เตรียมใจไว้ว่าจะเจอ
- มีตารางวันและเวลาทิ้งขยะชัดเจน ถ้าวันไหนมี รถจะมาตามเวลา (บางวันไม่มี) และเราต้องกลับบ้านให้ทันก่อนรถขยะจะผ่านเราไป ซึ่งก็ต้องวิ่งให้ทันนะคะเพราะแต่และจุดอยู่ไม่นาน และต้องแยกขยะด้วย ใช้ถุงพลาสติกของเค้าด้วย แต่ถ้าเป็นหอก็อาจจะอนุโลมให้นิดๆ หน่อยๆ
- ถ้าเข้าห้องน้ำที่ต่างจังหวัด อาจเจอแบบนั่งยองๆ
- ที่ไต้หวันคู่รักมักจะแสดงความรักในที่สาธารณะกันแบบชัดเจน
- ร้านอาหารในไทเปมีเยอะ หรือถ้าอยากลองอาหารท้องถิ่นของไต้หวัน ก็จะเป็นแนวแป้งๆ มันๆ เยอะหน่อยค่ะ
0 ความคิดเห็น