เปิดรั้ว ‘Trinity College Dublin’ ม.อันดับ 1 ของไอร์แลนด์ สายสังคมก็ปัง สาย STEM ก็ดังมาก!

Dia dhuit ชาวเด็กดีทุกคนนน~~ ใครกำลังมองหาจุดหมายปลายทางสำหรับการเรียนต่อต่างประเทศ ไม่ว่าจะสายสังคมหรือสาย STEM ต้องอ่านบทความนี้ให้จบ! เพราะว่าวันนี้ พี่ธัน จะพาไปเปิดรั้วมหาวิทยาลัยชื่อดังส่งตรงจากไอร์แลนด์อย่าง ‘Trinity College Dublin’ ซึ่งล่าสุดได้ติดชาร์ตมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลกในอันดับที่ 87 และยังมงลงเป็นเบอร์ 1 ของประเทศอีกด้วย (จัดอันดับโดย QS World University Rankings 2025)

ที่ผ่านมาถ้าพูดถึง ‘ไอร์แลนด์’ หลายคนอาจนึกถึงเบียร์ดังยี่ห้อหนึ่ง หรืออาจจะเป็นภูมิประเทศที่สวยงามเหมือนหลุดออกมาจากเทพนิยาย แต่รู้หรือเปล่าว่าเรื่องการศึกษาของที่นี่ก็ไม่แพ้ชาติอื่นเลยนะ (มหา’ลัยดังๆ เยอะมากกก) ไม่รอช้าเรามาทำความรู้จักกับ Trinity College Dublin ตามไปส่องว่าที่นี่เค้าเริ่ดยังไง และมีอะไรว้าวๆ  ชวนให้เราปักหมุดเรียนต่อบ้าง เริ่มกันเลยที่ข้อแรก!

..............

ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับมหาวิทยาลัย 

หลายคนอาจไม่รู้ว่า Trinity College Dublin มีชื่อเรียกแบบทางการแบบเต็มยศว่า The College of the Holy and Undivided Trinity of Queen Elizabeth near Dublin (แค่ชื่อก็อลังการแล้ว) ตั้งอยู่ในกรุงดับลิน เมืองหลวงของประเทศไอร์แลนด์ เป็นวิทยาลัยในสังกัดของมหาวิทยาลัยดับลิน (University of Dublin) ที่ถูกจัดตั้งขึ้นโดยพระราชโองการของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 แห่งอังกฤษ (Queen Elizabeth I) ในปี 1592 

พระองค์มีจุดประสงค์ให้ Trinity เป็นเหมือนกับ ‘มารดาของมหาวิทยาลัย’ ซึ่งเลียนแบบมาจากโมเดลของม.ออกซฟอร์ด (University of Oxford) และม.เคมบริดจ์ (University of Cambridge) ที่มี College ย่อยหลายแห่ง แต่อย่างไรก็ตาม Trinity College และ University of Dublin ถูกเรียกรวมเป็นที่เดียวกันเพราะมีแค่เพียงวิทยาลัยเดียวเท่านั้น  

Trinity เป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศและ 1 ใน 7 ของมหาวิทยาลัยยุคโบราณ (Ancient universities) นอกจากนี้ยังจัดว่าเป็นวิทยาลัยพี่น้อง (Sister Colleges) ของ St. John’s College ที่เคมบริดจ์ และ Oriel College ที่ออกซฟอร์ด ซึ่งความปังคือถ้าหากใครที่จบจาก 1 ใน 3 มหาวิทยาลัยนี้ก็จะมีสิทธิ์ได้รับปริญญาจากอีก 2 แห่งแบบไม่ต้องมีการตรวจสอบอย่างอื่นเพิ่มเติม เช่นถ้าเราเรียนจบจาก Trinity เราก็ขอรับปริญญาจาก Oxford ได้ // ว้าวมากกก

รู้จักกับเมืองดับลิน (Dublin)

1. กรุงดับลินเป็นเมืองหลวงของประเทศไอร์แลนด์ แม้ขนาดพื้นที่จะน้อยแต่ก็มีประชากร 1 ใน 3 หรือราว 1.45 ล้านคนอาศัยอยู่ที่นี่
2. ชื่อของเมืองมาจากภาษา Old Irish Gaelic ที่ Dublin (Dubh Linn) แปลว่า ‘สระน้ำสีดำ’ หมายถึงทะเลสาบที่เชื่อมต่อกับแม่น้ำลิฟฟี (Liffey) ผ่านแม่น้ำสายย่อยชื่อพอดเดิล (Poddle) และชาวไวกิ้งก็ใช้บริเวณแห่งนี้เป็นท่าจอดเรือสินค้านั่นเองครับ
3. อุณหภูมิโดยเฉลี่ยของที่นี่ในเดือนมกราคมจะอยู่ที่ 5 องศาและ 17 องศาเซลเซียสในเดือนกรกฎาคม ถือว่ากำลังเย็นสบาย ไม่หนาวสั่นเหมือนประเทศอื่นในยุโรป นอกจากนี้เมืองดับลินยังเหมาะกับวัยรุ่นและคนรักการปาร์ตี้สุดๆ เพราะกว่า 50% ของประชากรเมืองมีอายุต่ำกว่า 25 ปี! ดังนั้น Study hard, Party harder ไปเลยยย
4. ข้อนี้เอาใจสายดื่มโดยเฉพาะ เชื่อว่าหลายคนคงรู้จักเบียร์ยี่ห้อ Guinness กันใช่มั้ยครับ จะบอกว่าต้นกำเนิดเขามาจากเมืองนี้นี่แหละ โดยโรงเหล้าตั้งอยู่ที่ St. James’s Gate และมันยังเป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวยอดนิยมของดับลินด้วย

5. ดับลินมีพื้นที่สีเขียวเยอะมากกกก ฉ่ำปอดไม่พอ ยังฉ่ำใจด้วย และที่ว้าวยิ่งกว่าคือ ‘Phoenix Park’ สวนสาธารณะเขตเมืองที่ใหญ่ที่สุดของยุโรปก็ตั้งอยู่ที่นี่ ครอบคลุมพื้นที่กว่า 7 ตารางกิโลเมตร แต่นอกจากจะเป็นสวนให้เดินเล่นและพักผ่อนหย่อนใจ เขายังมีสวนสัตว์ Dublin Zoo และบ้านพักประจำตำแหน่งของประธานาธิบดีของไอร์แลนด์ด้วยนะ และถ้าจัดอันดับจากทั้งโลกสวนแห่งนี้ก็เป็นรองแค่ Central Park ในนครนิวยอร์กเท่านั้น

Fun Facts เกี่ยวกับ Trinity College Dublin

1. ไม่ใช่มหาวิทยาลัยแห่งแรกของไอร์แลนด์

ถึงแม้จะเก่าแก่ที่สุดในปัจจุบัน แต่ Trinity College Dublin ไม่ใช่มหาวิทยาลัยแห่งแรกที่ก่อตั้งขึ้นในไอร์แลนด์นะครับ หากย้อนกลับไปในปี 1311 พระสันตะปาปา Clement V ได้มอบหมายให้พระอัครสังฆราชแห่งดับลินจัดตั้งมหาวิทยาลัยแห่งแรกของเมืองขึ้นชื่อว่า The Medieval University of Dublin และเปิดสอนในปี 1320 

แต่หลังประสบปัญหาทางการเงินมาต่อเนื่องกว่า 2 ศตวรรษ มหาวิทยาลัยดังกล่าวก็ได้ปิดตัวลง เป็นช่วงเดียวกับเหตุการณ์ “การปฏิรูปศาสนาฝ่ายโปรเตสแตนต์” (Protestant Reformation) จากนั้น Trinity College Dublin ซึ่งเดิมอยู่อันดับ 2 ก็ขึ้นแท่นเก่าแก่ที่สุดในประเทศตั้งแต่นั้นมาครับ

2. จุดเริ่มต้นมาจากวัด (Monastery) 

หลังจากที่กษัตริย์เฮนรีที่ 8 แห่งอังกฤษ (Henry VIII of England) ประกาศตนเป็นประมุขแทนพระสันตะปาปา และตั้งศาสนาคริสต์นิกายใหม่ขึ้น (Church of England หรือ Anglican) เขาได้ไล่กวาดล้างศาสนสถานของชาวคริสต์คาทอลิกทั่วอังกฤษและไอร์แลนด์ ซึ่งรวมถึง Trinity College ที่เคยเป็นวัดของกลุ่มนักบวชที่ชื่อว่า ‘The Augustinian Priory of All Hallows’ มาก่อนด้วย

3. หอระฆังเป็นเหตุ

“หอระฆัง” บริเวณลานด้านหน้าของมหาวิทยาลัย เป็นแลนมาร์กที่นักท่องเที่ยวนิยมเช็กอินครับ แต่สำหรับนักศึกษาต้องระวังดีๆ เพราะหากเผลอเดินลอดใต้หอคอยนี้ในช่วงที่ระฆังดัง มีความเชื่อว่าจะสอบตก! อย่างไรก็ตาม  ในวันรับปริญญาคนที่จบการศึกษาจะต้องมาเดินลอดหอคอยนี้เป็นธรรมเนียมอีกเช่นกัน

4. มีสำเนาของหนังสือทุกเล่มที่ตีพิมพ์ในสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์

ห้องสมุด Trinity ก่อตั้งขึ้นในปี 1801 มีหนังสือรวมมากกว่า 5 ล้านเล่ม โดยส่วนใหญ่จะเก็บไว้ที่นอกวิทยาเขตแต่สามารถสั่งมาอ่านได้ และยังเป็นห้องสมุดรับฝากทางกฎหมาย ทำให้มีสำเนาของสิ่งพิมพ์ทุกฉบับที่ตีพิมพ์ในไอร์แลนด์เก็บไว้ที่นี่ นอกจากนี้ยังสามารถรับหนังสือที่ตีพิมพ์ในสหราชอาณาจักรมาเก็บไว้ที่ห้องสมุดนี้ได้อีกเช่นกัน 

5. นักศึกษาอ่าน The Book of Kells ได้แบบไม่อั้น

‘The Book of Kells’ หรือ พระวรสารเคลส์ เป็นหนังสือพระกิตติคุณ (Manuscript Gospels) ต้นฉบับภาษาละตินที่ตัวเล่มตกแต่งอย่างวิจิตรงดงาม ประกอบด้วยพระกิตติคุณทั้งสี่ของพันธสัญญาใหม่ (The New Testament) 

เอกสารทรงคุณค่านี้ถูกจัดแสดงไว้ที่ห้องสมุดเก่าของมหาวิทยาลัยตั้งแต่ปี 1661 โดยคนทั่วไปต้องเสีย 9 ยูโร แต่สำหรับชาว Trinity สามารถไปเข้าชมสมบัติแห่งชาติล้ำค่าของไอร์แลนด์นี้ได้แบบฟรีๆ เลย~

6. ผลิตศิษย์เก่าที่มีชื่อเสียงมากมาย เช่น

1. Oscar Wilde – กวี นักวิจารณ์วรรณกรรม
2. Jonathan Swift – นักเขียน
3. Bram Stoker – นักเขียน ผู้แต่งนวนิยายเรื่อง ‘Dracula’
4. Samuel Beckett – นักประพันธ์บทละครเวที
5. Edmund Burke – นักปรัชญา บิดาแห่งอนุรักษ์นิยมสมัยใหม่

ส่องสาขาวิชาที่เปิดสอน

Trinity College Dublin มีทั้งหมด 3 คณะและ 23 สถาบัน เปิดสอนทั้งในระดับปริญญาตรีและปริญญาโท ปัจจุบันมีนักศึกษารวมมากกว่า 22,000 คนเลยทีเดียว โดยหลักสูตรสายสังคมที่ได้รับความนิยมที่สุดคือ กฎหมาย วรรณกรรม และมนุษยศาสตร์ ส่วนสาย STEM ก็ต้องยกให้ ชีววิทยาและวิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์ วิศวกรรม และ วิทยาการคอมพิวเตอร์ นอกจากนี้ยังมีชื่อเสียงมากทางด้านการวิจัยอีกด้วย 

Faculty of Arts, Humanities and Social Sciences

• Business (ธุรกิจ)
• Creative Arts (ศิลปะสร้างสรรค์)
• Education (ศึกษาศาสตร์)
• English (ภาษาอังกฤษ)
• Histories and Humanities (ประวัติศาสตร์และมนุษยศาสตร์)
• Languages, Literatures and Cultural Studies (ภาษา, วรรณกรรม และวัฒนธรรมศึกษา)
• Law (นิติศาสตร์)
• Linguistic, Speech and Communication Sciences (ภาษาศาสตร์และการสื่อสาร)
• Psychology (จิตวิทยา)
• Social Sciences and Philosophy (สังคมศาสตร์และปรัชญา)
• Social Work and Social Policy (สังคมสงเคราะห์ศาสตร์)
• School of Religion, Theology and Peace Studies (ศาสนา, เทววิทยาและสันติศึกษา)

Faculty of Health Sciences

• Dental Science (ทันตแพทยศาสตร์)
• Medicine (แพทยศาสตร์)
• Nursing and Midwifery (พยาบาลศาสตร์)
• Pharmacy and Pharmaceutical Sciences (เภสัชศาสตร์)

Faculty of Science, Technology, Engineering and Mathematics

• Biochemistry and Immunology (ชีวเคมีและภูมิคุ้มกันวิทยา)
• Chemistry (เคมี)
• Computer Science and Statistics (วิทยาการคอมพิวเตอร์และสถิติศาสตร์)
• Engineering (วิศวกรรมศาสตร์)
• Genetics and Microbiology (พันธุศาสตร์และจุลชีววิทยา)
• Mathematics (คณิตศาสตร์)
• Natural Sciences (วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ)
• Physics (ฟิสิกส์)

การสมัครเรียน

คุณสมบัติเบื้องต้น

• มีผลการเรียนในระดับ 2.1 Honours degree จากมหาวิทยาลัยในไอร์แลนด์ หรือเทียบเท่า (เช็กรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่)
• มีความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษในระดับดี โดยยื่นผลการทดสอบอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้
  • IELTS: 6.5 (Overall)
  • TOEFL:
  • 88 internet-based
  • 570 paper-based
  • 230 computer-based
  • CEFR: C1 หรือ C2
  • Pearson Test of English (PTE): 63 ขึ้นไป (โดยไม่มีพาร์ตไหนต่ำกว่า 59)
  • Duolingo English Test: ขั้นต่ำ 120/160 (โดยไม่มีพาร์ตไหนต่ำกว่า 105)
  • Trinity’s Centre for English Language Learning and Teaching’s Pre-Master’s Pathway Programme: คะแนนรวมขั้นต่ำ II.1
• ข้อมูลเพิ่มเติม คลิกที่นี่

ช่องทางสมัครเรียน

สมัครได้ผ่านระบบออนไลน์ ขั้นตอนดังนี้

1. ไปที่หน้า Courses และค้นหาหลักสูตรที่สนใจ
2. อ่านคู่มือการใช้งาน User Guide สำหรับการสมัครบนเว็บ my.tcd.ie
3. จากนั้นสมัครด้วยการกดปุ่ม [ Apply ] ด้านล่างรายละเอียดคอร์ส (สามารถบันทึกข้อมูลไว้สำหรับภายหลังได้)

เอกสารที่ใช้ในการสมัคร

1. ใบจบระดับปริญญาตรี
2. ผลการทดสอบภาษาอังกฤษ
3. ผลการเรียนระดับปริญญาตรี
4. จดหมายรับรอง 2 ฉบับ
5. สำเนาหนังสือเดินทาง
6. ใบเสร็จค่าธรรมเนียมการสมัคร

ค่าเล่าเรียนและทุนการศึกษา

ค่าธรรมเนียมการศึกษาสำหรับนักเรียนต่างชาติจากประเทศนอกเขตเศรษฐกิจยุโรปจะอยู่ที่ระหว่าง 4,440 EUR ไปจนถึง 49,636 EUR ต่อปีการศึกษา (หรือประมาณ 174,893 - 1,955,186 บาท) แต่หากใครมีข้อจำกัดทางการเงิน ทางมหาวิทยาลัยและรัฐบาลไอร์แลนด์ก็มีทุนการศึกษาหลายประเภทให้ยื่นสมัครได้ด้วยครับ เช่น 

1. Global Excellence Postgraduate Scholarship
2. Trinity AQ Scholarships
3. E3 - Engineering, Environment and Emerging Technologies
4. The Higher Education Authority (HEA)
   • หรือทุนรัฐบาลไอร์แลนด์ (Government of Ireland International Education Scholarship Program; GOI-IES) มอบให้แก่นักศึกษาต่างชาติที่จะเข้ามาเรียนหลักสูตรแบบเต็มเวลาระดับปริญญาโท หรือ ปริญญาเอก ณ มหาวิทยาลัยที่เข้าร่วมโครงการ ในปีการศึกษา 2023/2024 โดยจะมอบให้เป็นระยะเวลา 1 ปีและมีโควตาให้ทั้งสิ้น 60 ทุน  // มูลค่า & สิทธิประโยชน์มีรายละเอียด ดังนี้
     • ค่าครองชีพรวม 10,000 EUR (≈393,904 บาท)
     • ได้รับการยกเว้นค่าเล่าเรียนและค่าลงทะเบียนเรียน
     • ช่องทางติดต่อสอบถาม
     • อ่านคำถามที่พบบ่อย คลิกที่นี่
     • Email: goi-ies@hea.ie

…………

เป็นยังไงกันบ้างหลังจากที่ได้ไปทำความรู้จักกับ Trinity College Dublin มีสาขาวิชาเยอะมากๆ โลเคชันใจกลางกรุงดับลิน กิจกรรมเยอะ การเดินทางก็สะดวกสุดๆ น่าเรียนใช่มั้ยล่ะ~ สำหรับน้องๆ คนไหนที่สนใจสามารถเข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ของทางมหาวิทยาลัยเพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยนะครับ 

หรือในส่วนข่าวสารทุนการศึกษาก็สามารถติดตามจากทาง Study Abroad by Dek-D ซึ่งมีอัปเดตเรื่อยๆ ส่วนรอบหน้าทางเราจะพาไปเปิดรั้วม.ไหน รอติดตามกันได้เลยยย Slán agaibh!~~