'พี่อาย' แชร์ทริคและรีวิวชีวิตการทำงานบริษัทเยอรมัน หลังจบ ป.ตรี ธุรกิจ (OVGU) → ป.โท การจัดการ (TU München) ควบงาน Working Student

สวัสดีค่ะชาว Dek-D สำหรับทีมเยอรมันที่วางแผนจะเรียนยิงยาวไปจนถึงทำงานในบริษัทสัญชาติเยอรมัน วันก่อนเรามีโอกาสชวน “พี่อาย-ยมลพรพัศ” มาแชร์ประสบการณ์ภาคต่อหลังจากเรียนจบ ป.ตรี สาขาธุรกิจจาก Otto von Guericke University Magdeburg (OVGU) และ ป.โท สาขาการจัดการที่ Technical University of Munich (TU München)  และระหว่างเรียน เธอตัดสินใจ(ถูกสุดๆ) ที่ไปทำงานเป็น  “Working Student” เพราะเป็นโอกาสได้จับงานจริง รับค่าตอบแทนอย่างถูกกฎหมาย ใช้ความรู้กับโลกการทำงานจริง  ที่สำคัญคือทำให้ CV ของเรามีปรากฎ [ประสบการณ์ทำงาน] สำคัญมากเพราะโดยทั่วไปวัยเรียนที่เยอรมันจะมีประสบการณ์ทำงานตั้งแต่เรียนแล้วค่ะ ถ้าขาดเราก็จะเสียเปรียบไปอีกหนึ่งข้อ

แล้วหลังจากเรียนจบล่ะ?

 วันนี้เราชวนพี่อายมาเม้าท์มอยชีวิตการทำงาน Full-time ในบริษัทสัญชาติเยอรมันกันต่อค่าา บอกเลยว่าเป็นวัฒนธรรมการทำงานที่ทำเอาช็อกไปช่วงแรกๆ แต่กลายเป็นชอบมากๆ ในเวลาต่อมา เลิศกว่านั้นคือเธอเจอทางเลือกที่ลงตัวสุดๆ เพราะสามารถกลับไทยมาอยู่กับคนที่เรารัก  ในขณะที่ยังทำงานในบริษัทเยอรมันที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ และมีวัฒนธรรมที่เธอประทับใจไม่ต่างกันด้วย // ถ้าพร้อมแล้ว ตามมาอ่านเรื่องราวของเธอกันเลยค่าา~

Note:  อ่านจบอยากพูดคุยและปรึกษารุ่นพี่ทุนตัวจริง 1:1 ข่าวดีคือ “พี่อาย" ให้เกียรติตอบรับคำเชิญมาประจำบูทหลักของงาน Dek-D’s Study Abroad Fair รอบตุลาคม 2024 ด้วยนะคะ (พบพี่อายได้ในวันอาทิตย์ที่ 13 ต.ค. 2024) เช็กตารางรุ่นพี่และไฮไลต์ทั้งหมดที่นี่ >> https://www.dek-d.com/studyabroadfair 

München, Deutschland
München, Deutschland
Photo by Matthias Schröder on Unsplash

1

ทักทายผู้อ่าน

สวัสดีค่ะทุกคน ชื่อ "พี่ป๊อบอาย" นะคะ เรียนจบ ป.ตรี สายธุรกิจจาก Otto von Guericke University Magdeburg (OVGU) และต่อด้วย ป.โท Technical University of Munich (TU München) หลังจบทำงานที่บริษัทเยอรมัน รวมๆ อยู่ที่นั่นประมาณ 6-7 ปี ปัจจุบันกลับไทยมาทำงานในบริษัทสัญชาติเยอรมันที่มีออฟฟิศในไทยค่ะ 

2

เริ่มหางานตั้งแต่ตอนไหน?

เล่าก่อนว่าปกติแล้ว หลังจากจบ ป.ตรี, ป.โท หรือ ป.เอก นักเรียนต่างชาติจะมีสิทธิ์ขอ Germany Job Seeker Visa ให้เราพำนักและหางานที่เยอรมนีได้อีก 18 เดือน ระหว่างนี้ก็คือทำงานไปด้วยได้ (พาร์ตไทม์ก็ได้นะ) เพื่อนบางคนก็มีทริคคือถึงได้งานแล้ว ก็ยังไม่เปลี่ยนเป็น Work Visa แต่ยังถือ German Seeker Visa ก่อนเพื่อทดลองทำงานว่าชอบไหม เนื่องจาก Work Visa มีระบุเฉพาะเลยว่าสำหรับทำงานนี้ที่บริษัทนี้เท่านั้น ไม่สามารถถือวีซ่านี้แล้วทำงานได้ทุกบริษัทในเยอรมนี กรณีลาออกจะต้องทำวีซ่าใหม่ ซึ่งมีเวลาหางานใหม่ได้สูงสุด 12 เดือนเท่านั้น (แนะนำให้ได้งานบริษัทใหม่ก่อนออกที่เก่าค่ะ)

ส่วนตัวอายคือหว่าน Resume ตั้งแต่ ป.โท เทอมสุดท้าย ช่วงนั้นเหนื่อยมากกก ทำ 4 อย่างพร้อมกันคือ เรียน, เขียนธีสิส, Working Student และหางานกับสัมภาษณ์งาน เพราะเราอยากรีบได้งานแล้วถือ Work Visa เพราะมองว่าถ้าเป็น Germany Job Seeking Visa จะต้องใช้เอกสารแสดงยอดเงินในบัญชีขั้นต่ำ  €11,904 ต่อปี (อ้างอิง https://www.germany-visa.org/banking-germany/blocked-account)  แต่เราอยากเก็บเงินก้อนนั้นไว้กับตัว แล้วไม่อยากยุ่งยากตอนไปเปลี่ยนวีซ่าหางานหมดอายุด้วย ก็เลยอยากรีบทำตั้งแต่ตอนนี้

และหลังจากเหนื่อยไป 2-3 เดือน ในที่สุดเราก็ได้ Offer ก่อนส่งธีสิสค่ะ! เล่าถึงตรงนี้ อายอยากเป็นตัวแทนของคนที่พูดภาษาเยอรมันได้ในระดับงูๆ ปลาๆ มาเรียนหลักสูตรอินเตอร์ แถมยังจบสาขา Business ที่ไม่ใช่สายที่กำลังขาดแคลนในตลาดงานเยอรมันด้วย ปัจจัยพวกนี้ทำให้มันยากขึ้น แต่อย่าท้อใจค่ะ มันเป็นไปได้ รีบเตรียมพร้อมตั้งแต่เนิ่นๆ ดีที่สุด

3

หางานที่ไหน?

ปกติอายชอบเข้าไปส่องใน LinkedIn เพราะเป็นแพลตฟอร์มที่คนเยอรมันนิยมติดต่อกันเรื่องงาน หรือถ้าใครมาสายวิชาการ แนะนำให้เข้าไปที่ University Job Portal จะมีงานแนวๆ ทำวิจัย สอนหนังสือ ทำงานในมหาวิทยาลัย

4

สมัครงานที่เยอรมนี 
จริงใจเข้าไว้ สำคัญมาก!

  • แนะนำว่าควรมี Cover Letter แนบด้วย และ Resume ควรเป็นแบบ German Style นะคะ ตอนแรกอายเองไม่รู้ ก็เลยใช้รูปแบบเดิมที่เคยทำไปยื่น ปรากฏว่าโดนปัดตกทุกที่  ไม่เคยไปถึงรอบสัมภาษณ์เลยค่ะ จนตอนหลังเพิ่งมารู้หลังจากมีเพื่อนคนเยอรมันบอก  
ดูเพิ่มเติม: German-Style Resume
  • เขียน Resume แบบจริงใจ หยิบประสบการณ์ที่เกี่ยวกับงานมาเล่า ไม่เน้นข้อความแบบการตลาด (Marketing Message)
     
  • สัมภาษณ์งานก็เน้นตอบแบบจริงใจ เท่าที่เคยเจอเขาจะไม่ได้คาดหวังให้เราเป็นแนว ‘I can do everthing’ แต่อยากให้มีขอบเขตของตัวเอง ถูกจ้างมาทำหน้าที่ไหน ก็จะทำตรงนั้นให้ดีที่สุด รู้ว่าตัวเองมีจุดอ่อนหรือยังขาดอะไร แล้วเราจะทำยังไงเพื่อพัฒนาหรือเติมเต็มส่วนนั้นให้สมบูรณ์ขึ้น ซึ่งควรเป็นสิ่งที่ต้องเกี่ยวกับงานด้วย ให้เตรียมไปดู Job Description แล้วเทียบกับประวัติของเรา สำคัญคือต้องเน้นตอบแบบจริงใจค่ะ
München, Deutschland
München, Deutschland
Photo by Walter Martin on Unsplash

5

[ข้อควรรู้] การแข่งขันหางานแสนเดือด
เด็กจบใหม่ต่างชาติเตรียมพร้อมยังไงดี?

ความท้าทายสำหรับเด็กต่างชาติแบบเราๆ คือปกติเยอรมนีก็มักจะ prioritize คนเยอรมันก่อน ถัดมาคือคนจากประเทศในสหภาพยุโรป แล้วถึงจะพิจารณาเราที่เป็นชาวต่างชาติกลุ่ม Non-EU (ถ้าจะรับแปลว่าเขาต้องเห็นศักยภาพจริงๆ ว่าต้องคนนี้เท่านั้น เพราะบริษัทจะมีขั้นตอนไปดำเนินเรื่องเพื่อสปอนวีซ่าเขาต้องเห็นศักยภาพจริงๆ เพราะบริษัทต้องไปดำเนินเรื่องเพื่อสปอนเซอร์วีซ่าให้)

  • ภาษาเยอรมันสำคัญมากกก ช่วยให้โอกาสของเราไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แค่ในบริษัทอินเตอร์ที่ใช้สื่อสารด้วยภาษาอังกฤษเพียงภาษาเดียว
  • คนส่วนใหญ่ที่เรียน ป.ตรี/ป.โท มักจะทำงาน Working Student ทำให้มีประสบการณ์กันมาก่อนทุกคน ดังนั้นแนะนำว่าถ้าไม่ติดอะไร ทำเถอะ ไม่งั้นเราจะเสียเปรียบส่วนนี้ไป
  • โอกาสจะมากขึ้นถ้าเราเป็นแรงงานทักษะเฉพาะทางที่กำลังขาดแคลน
  • ถ้าถามว่าชื่อมหาวิทยาลัยมีผลไหม เยอรมันเป็นประเทศที่เคลมว่าทุกมหาวิทยาลัยคุณภาพเดียวกันทั้งประเทศ ส่วนตัวรู้สึกเป็นแบบนั้นจริงๆ ไม่มีใครเหยียดใคร เข้าไปถึงไม่มีใครสนใจเลยว่าจบจากไหน

6

รีวิวเริ่มงานแรกในชีวิต
กับบริษัทให้บริการด้าน Finance ชื่อดัง

  • อายได้งานแรกตำแหน่ง IT & Technology Consultant ของบริษัทที่ให้บริการด้านการเงินและประกันชั้นนำระดับโลก สำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงมิวนิก (Munich) เมืองหลวงเยอรมันค่ะ รู้สึกเป็นงานสนุก~ ท้าทายและทำให้โตเร็วมากในเวลาสั้นๆ ในทีมมี 9 คน อยู่ไม่ถึงครึ่งปีแตะไปแล้ว 2 โปรเจ็กต์ระดับ Global งานนึงเป็นแนวๆ ทดสอบซอฟต์แวร์ และอีกงานคือการวิเคราะห์เพื่อหาเครื่องมือ (Tools) ที่ตอบโจทย์ลูกค้าที่เป็นบริษัท
     
  • บรรยากาศอินเตอร์ มีทั้งคนในยุโรปอย่างเยอรมัน อิตาลี อังกฤษ  และคนเอเชียก็มีเยอะมาก เช่น จีน เกาหลี เวียดนาม ฯลฯ และใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารเป็นหลัก ถึงแม้การประชุมนั้นจะมีคนเยอรมันทั้งห้องยกเว้นเรา เขาก็ Respect ไม่พูดภาษาเยอรมันเลยตลอดการประชุม เพื่อไม่ให้เรารู้สึกแปลกแยกหรือถูกกันออกจากบทสนทนา
     
  • เรื่องที่ชอบสุดขอยกให้กับวัฒนธรรม Direct Feedback  ปกติคนที่นี่จะคอมเมนต์งานอย่างตรงไปตรงมาทั้งบวกและลบ แต่ไม่ใช่การด่าหรือใช้คำที่บั่นทอนจิตใจเลย เพื่อนร่วมงานหรือหัวหน้าเขาจะชี้ให้เห็นจุดที่พัฒนาได้อีก และเสนอแนวทางแก้ไขให้ 

    สารภาพเลยว่าแรกๆ ฟังแล้วก็แอบใจบางนะเพราะยังไม่ชิน 5555 แต่ตอนหลังคือชอบเพราะเข้าเรื่องเร็ว ตรงจุด ได้คำแนะนำไปพัฒนาตัวเองตลอด และเราเองก็สามารถเป็นฝ่ายให้ Direct Feedback นี้กับคนอื่นได้แม้จะเป็นหัวหน้าเราก็ตาม เพราะเขาเองก็อยากเห็นมุมมองจากคนรุ่นใหม่ๆ เพื่อนร่วมงานทุกคนก็รับฟังหมด
     
  • ประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องความตรงต่อเวลาและมี Work-Life Balance อย่างบริษัทแรกของอาย เข้างาน 9:00AM ออก 5:00PM แบบนี้เป๊ะๆ เน้นคุณภาพงานและเสร็จทันกำหนด แม้จะเป็นงาน Consult ที่ค่อนข้างหนักก็ตาม (ฝั่งลูกค้าของเราเขาก็เลิกงานตรงเวลาเหมือนกัน ไม่อยู่ให้เราคุยต่อนะคะ 555)

    Note: ในสังคมเยอรมัน ไม่ได้เชิดชูการทำงานล่วงเวลา (OT) แถมอาจถูกมองว่าบริหารเวลาไม่ดีพอหรือเรียนรู้งานช้าด้วยค่ะ สมมติส่งเมลตอนตีสอง วันต่อมาอาจถูกหัวหน้าเรียกไปคุยด้วยความเป็นห่วงว่าเรากำลังเจอปัญหาอะไรอยู่ไหม เพราะมันไม่ใช่เหตุการณ์ปกติทั่วไป
     
  • เงินเดือนที่ทำงานแรกของอายสูงกว่าค่าเฉลี่ย มีเงินไปเที่ยวต่างประเทศ ทำกิจกรรมที่อยากทำ กินอาหารอร่อยๆ แล้วยังมีเงินเหลือเก็บ สวัสดิการก็ดี หนึ่งในนั้นคือวันลาวันพักร้อนเยอะมาก (เยอรมนีมีกฎหมายว่าทุกบริษัทต้องมีวัน Paid Holiday ขั้นต่ำ 24 วัน) 
     
  • มีนโยบายให้ทำงานจากต่างประเทศได้ ส่งเสริมเรื่องคอร์สกับเวิร์กชอปพัฒนาทักษะ บางครั้งมีเชิญคนภายนอกมาคุยเรื่องสุขภาพจิต การพัฒนาตัวเอง Soft Skills ต่างๆ ด้วยค่ะ

7

รีวิวงานที่สอง บริษัทสัญชาติเยอรมัน
ทั้งทีมอยู่นู่น แต่เราอยู่ไทยค่ะ!

ตอนนี้อายทำงานบริษัทสัญชาติเยอรมัน แต่อยู่ไทยเพราะมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงเทพฯ ค่ะ คราวนี้เราออกจาก Consult มาเป็น Digital Transformation Specialist และยังคงประทับใจมากๆ เนื่องจากยังมี Work-life Balance และยังให้ Direct Feedback เหมือนบริษัทเยอรมันที่แรกที่อายทำ

(งานประมาณไหน?) เป็นแนวๆ Project Management ในทีม Global ที่ต้องวางแผนทั้ง Strategy และ Timeline เช่น เราจะทำยังไงให้สำนักงานในแต่ละประเทศขององค์กรนี้ สามารถใช้ IT System เดียวกันได้อย่างเสถียร หรือจะทำยังไงให้ทุกคนในองค์กรยอมเปลี่ยนมาใช้อีกเทคโนโลยีนึงที่ไม่ชิน แต่เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและติดต่อสื่อสารกันในองค์กรมากกว่าค่ะ

8

#รีวิวเยอรมัน

  • ประเทศที่เท่าเทียม กฎหมายเข้มงวด คนที่นี่มีเสรีภาพในการคิด ในขณะเดียวกันคือทุกคนเคารพกฎหมาย และเคารพซึ่งกันและกัน
  • คนเยอรมันจริงใจ พูดตรง และขึ้นชื่อเรื่องตรงต่อเวลา ส่วนหนึ่งเพราะสภาพแวดล้อมเอื้อให้สามารถวางแผนชีวิตแล้วทำได้จริง การเดินทางสะดวกสบาย ไม่แน่นจนต้องรอหลายขบวน
  • ไม่มีรถส่วนตัวก็ใช้ชีวิตได้ไม่ลำบาก  คนนิยมเดินทางโดยรถไฟ รถบัส รถแทรม นอกจากนี้คนจะชอบเช่าสกูตเตอร์ (Scooter) เพราะมีเลนสำหรับจักรยานและสกูตเตอร์โดยเฉพาะ เห็นเพื่อนๆ ปั่นจักรยานมาเรียนและทำงานเป็นปกติ
Panorama of Marienplatz in Munich, Germany
Panorama of Marienplatz in Munich, Germany
Photo by Andrey Omelyanchuk on Unsplash

9

TikTok @yourmomolive
อยากเรียนต่อเยอรมนีติดตามไว้!

ใน TikTok @yourmomolive ส่วนมากจะเน้นลงประสบการณ์เรียนและการทำงานที่เยอรมนี มีแชร์ Tips & Tricks ช่วยประหยัดสำหรับคนจะไปเรียนต่อ เพราะประเทศนี้ดังเรื่องมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ไม่เรียกเก็บค่าเทอม เหมาะกับคนที่อยากเรียนต่อประเทศที่มาตรฐานการศึกษาดีในงบที่ประหยัดขึ้น 

นอกจากนี้อายก็จะแนะนำมหาวิทยาลัย หลักสูตรต่างๆ พาไปรู้จักเมือง แล้วถ้าน้องๆ คนไหนสนใจอยากเรียนต่อ ทักมาปรึกษาได้ฟรีได้ค่ะ

พี่กุ๊กไก่
พี่กุ๊กไก่ - Columnist มนุษย์เบ้าหน้าจีน หวีดนักร้องไทย คลั่งไคล้ซีรี่ส์เกาหลี คลุกคลีกับอาหารญี่ปุ่น

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น