"ยิ่งใกล้ ยิ่งท้อ" ประโยคนี้เหมาะกับน้องๆ ม.6 ตอนนี้มากที่สุด เพราะเหลือเวลาอีก 2 อาทิตย์ ก็จะได้จับดินสอเข้าไปฝนข้อสอบ GAT/PAT แล้ว บางคนไม่อยากให้ถึงวันนั้น ด้วยเหตุผล ยังอ่านหนังสือไม่จบเลยพี่!, กลัวอะพี่!, ไม่ไหวแล้วว้อย เครียด! สารพัดเหตุผล ชวนคนสอบให้รู้สึกท้อแท้ เบื่อหน่าย และไม่อยากจะสอบ แต่เราหยุดเวลาไว้ไม่ได้ค่ะ เพราะฉะนั้นมีทางเดียว คือ เราต้องฮึดขึ้นมา


              บทความนี้ พี่มิ้นท์ ตั้งใจเขียนขึ้นมาเพื่อให้กำลังใจน้องๆ ที่กำลังรู้สึกเซ็งกับการสอบ GAT/PAT ที่ใกล้จะถึงนี้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม แต่ว่าการให้กำลังใจของพี่มิ้นท์ออกจะ เผ็ด ดุ ดราม่า บ้าเลือด!! นิดนึงนะ กลัวว่าถ้าออกแนวหวานซึ้ง แล้วชาว Dek-D.com จะไม่ตื่นตัวและลุกขึ้นมาอ่านหนังสือกันน่ะสิ 
              สิ่งที่พี่มิ้นท์กำลังจะบอกน้องๆ ก็คือ อยากให้เห็นความสำคัญของการสอบ GAT/PAT รอบเดือนธันวาคมให้มากๆ เพราะมันกำหนดชะตาชีวิตของเราไว้หลายอย่าง ไม่เชื่อลองดูเหตุผล 3 ข้อนี้ รับรองว่าอ่านเสร็จแทบจะปิดคอม ลุกไปอ่านหนังสือเลยทีเดียว

 

เหตุผลข้อที่ 1 : "รับตรง" ไม่มีสอบ GAT/PAT แก้ตัวครั้งที่ 2!!
              แม้ปี 55 จะประกาศรับตรงแบบใหม่ หรือที่เรียกกันหลอนหูว่า "เคลียริ่งเฮ้าส์" โดยใช้คะแนน 7 วิชาสามัญเป็นองค์ประกอบสำคัญในการคัดเลือก แต่ก็อย่าลืมว่าหลายมหาวิทยาลัยก็ยังใช้คะแนน GAT/PAT เป็นองค์ประกอบหนึ่งเหมือนกัน ในขณะที่บางมหาวิทยาลัยก็ใช้คะแนนนี้ล้วนๆ แต่วิธีการนำคะแนนมาใช้ มันไม่ใช่ "เอาคะแนนที่ดีที่สุด" มาใช้เหมือนแอดมิชชั่นน่ะสิ
              คะแนน GAT/PAT ที่เอามาใช้ในระบบรับตรง จะใช้ได้แค่คะแนนรอบแรก หรือ รอบเดือนธันวาคมนี้เท่านั้น หมายความว่า น้องๆ ไม่มีสิทธิ์เลือกเด็ดขาด ได้คะแนนเท่าไหร่ก็ต้องใช้อันนั้น ตามบุญตามกรรม คิดดูแล้วกันว่าถ้าได้คะแนนดี จะแฮปปี้แค่ไหน แต่ถ้าได้คะแนนไม่ดี ก็โดนเขี่ยตกรอบแรกตั้งแต่รับตรงแล้วนะ
              ดังนั้น ใครรู้ตัวว่าสมัครรับตรงที่ต้องใช้คะแนน GAT/PAT ยื่นด้วย ก็ทำให้เต็มที่ที่สุด ต้องคิดไว้เสมอว่า การสอบรับตรงเราจะไม่มีโอกาสแก้ตัวเรื่องคะแนน GAT/PAT เลย (หรือไม่อย่างนั้นก็ต้องรอรอบหลังแอดมิชชั่นนู่นเลยล่ะ)


 
เหตุผลข้อที่ 2 : แอดมิชชั่นกลางครั้งนี้ ติดไม่ติด อยู่ที่ GAT/PAT
              องค์ประกอบแอดมิชชั่นกลาง จะประกอบไปด้วย GPAX + O-NET = 50% ส่วนอีก 50% คือ คะแนน GAT และ PAT นั่นเอง ซึ่งบางคณะก็ใช้ GAT ล้วน บางคณะใช้ PAT เยอะกว่า อันนี้ก็แล้วแต่การกำหนดองค์ประกอบในแต่ละสาขาวิชา 
             น้องๆ ก็เห็นแล้วว่าค่าน้ำหนักของ GAT/PAT ที่ใช้คัดเลือกในแอดมิชชั่นกลาง พอเอามารวมกันแล้วใช้มากถึง 50% ไม่ใช่น้อยๆ เลยนะคะ ติดไม่ติดขึ้นอยู่คะแนนตรงนี้ก็ได้ ลองคิดดูว่า เกรดของน้องๆ สวยงามมาก ส่วน O-NET ก็ทำได้คะแนนปานกลาง แต่ GAT/PAT คะแนนต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ต้นผักชียังสูงกว่า แบบนี้จะแอดมิชชั่นติดรึป่าว??
             แต่บางคนอาจจะเถียงว่า ยังมีโอกาสแก้ตัวในครั้งที่ 2 นี่คะ? แต่พี่มิ้นท์ขอยืนยันว่ายังไงก็ควรตั้งใจทำให้ได้คะแนนดีๆ ตั้งแต่ครั้งแรกค่ะ เพราะอนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน เราจะเอาอะไรมามั่นใจได้ว่า สอบครั้งที่2 เราจะตั้งใจมากขึ้น บางทีอาจจะขี้เกียจมากขึ้นด้วยซ้ำนะ นอกจากนี้ ตัวแปรเรื่องความยากและเวลาในการอ่านหนังสือที่ไม่แน่นอน ก็มีผลต่อคะแนนทั้งนั้น ดีไม่ดี คะแนนออกมาแย่กว่าครั้งแรก แล้วจะบ่นเสียดายเวลารอบแรกไม่ได้นะ พี่มิ้นท์เตือนแล้ว หุหุ

 

เหตุผลข้อที่ 3 : คะแนนนี้เอาไว้ใช้เผื่อซิ่ว
             คุณสมบัติพิเศษของ GAT/PAT คือ มีอายุใช้งาน 2 ปี (แต่ถ้าอยากสอบใหม่ก็ได้) ถ้าเกิดว่าเราได้เข้ามหาวิทยาลัยไปแล้ว แต่เผอิญไม่ชอบคณะที่เรียน เรียนต่อไม่ไหว แล้วงอแงอยากจะซิ่ว คะแนน GAT/PAT อันเก่าก็ยังมีประโยชน์กับน้องๆ อยู่ค่ะ เพราะระบบแอดมิชชั่นจะยังไม่เปลี่ยนไปแน่นอน  ถ้าน้องๆ ทำได้คะแนนดี ก็ไม่ต้องไปสอบใหม่ ให้เสียเวลา บางทีไปสอบใหม่อาจจะสู้เด็กรุ่นใหม่ไม่ได้ ผลก็คือ ได้คะแนนแย่กว่าเดิมอีก ดังนั้นจะสอบทั้งที ก็ทำเพื่ออนาคต 2 ต่อเลย ต่อที่ 1 คือ ได้คะแนนดีก็ได้ติดคณะในฝัน ต่อที่ 2 คือ เผื่ออยากจะซิ่ว คะแนนดีๆ ที่เคยทำไว้ก็เอามาใช้ได้ สบายมาก

             อ่านจนครบเหตุผลทั้ง 3 ข้อแล้ว รู้สึกอยากอ่านหนังสือมากขึ้นบ้างมั้ย ถ้ารู้สึกตื่นตูม เอ้ย! ตื่นตัวแล้ว ก็หยิบหนังสือขึ้นมาอ่านกันเลย แต่ถ้าอ่านแล้วก็งั้นๆ ยังขี้เกียจอ่านอยู่ดี พี่มิ้นท์แนะนำให้ไปบวชเลยค่ะ ไม่ต้องสอบมันแล้ว อาการนี้ต้องละทางโลกอย่างเดียว ฮ่าๆ


            เขาว่ากันว่า "เวลา เป็นสิ่งที่ทุกคนมีเท่ากัน แต่จะต่างกันก็ตรงที่ใครรู้จักคุณค่าของมันมากกว่ากันเท่านั้น" ตอนนี้ก็ถึงช่วงเวลาที่น้องๆ จะได้ทดสอบการรู้จักคุณค่าของเวลาแล้วค่ะ พี่มิ้นท์ว่ายิ่งเวลาเหลือน้อยเท่าไหร่ คุณค่ามันจะมีมากขึ้น และจะมีค่ามากขึ้นอีก ถ้านำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ที่สุด เพราะฉะนั้นอย่าปล่อยเวลาให้ผ่านไปฟรีๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้น้องๆ ทุกคน ผ่านการสอบ GAT/PAT ครั้งนี้ไปด้วยคะแนนเต็ม 300 ทุกวิชาเลย^^ 

ติดตามข่าวแอดมิชชั่นกับพี่มิ้นท์ได้ที่

 @Mintodekd

พี่มิ้นท์
พี่มิ้นท์ - Columnist พี่สาวใจเย็น ผู้เกิดมาในแอดมิชชั่นยุคแรก แต่เข้าใจ TCAS มากกว่า

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

17 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
น้องมุก 11 ธ.ค. 54 09:38 น. 7
ไม่อยากซิ่วน่ะ ที่บ้านพ่อแม่ และก็พี่ชาย บอกว่าต้องเอาให้ได้ ถ้าไม่ได้จริงๆก็เอาที่ชอบลงมา แล้วเรียนเลย พี่ชายหนูบอกห้ามซิ่วเด็ดขาด !!
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
THE BELL ^^" Member 11 ธ.ค. 54 21:31 น. 10
รัก เว็บนี้อ่ะ มีแต่สิ่งดีดีให้ ไม่รู้หรอกนะว่าพวกพี่ๆ ได้ประโยชน์อะไรกันหรือเปล่า
แต่ขอบอกว่าทำมาเพื่อเด็กที่จะเรียนต่อจริงๆ สุดยอดๆ รักนะเด็กดี ^^ 





0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
I IN_NUKE Member 22 ธ.ค. 54 19:45 น. 16

 ขอบคูณค่ะ รักเว็บเด็กดี และเพื่อนๆเด็กดีทุกคน สู้ไปด้วยกัน สู้กับมัน สทศ ว๊ากกกกกกกกกกก อย่าได้แคร์ 

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด