สวัสดีค่ะน้องๆ ที่น่ารักทุกคน .......... เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับการก้าวเข้าสู่รั้วมหา’ลัย สมกับที่ตั้งใจไว้หรือเปล่าเอ่ย??? ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม พี่แป้ง ขอเป็นกำลังใจให้น้องๆ ทุกคน สู้ๆ และทำให้เต็มที่นะคะ ^_^ (หน้ายิ้ม)
เมื่อไม่นานมานี้ พี่แป้ง ไปเจอมาข่าวหนึ่งเกี่ยวกับการซิ่ว และการรีไทร์ถึงกับตะลึง และตะลึง เพราะ ทปอ.ได้สรุปยอดเด็กซิ่ว หรือรีไทร์ พบว่าโดยประมาณแล้วมีมากถึง 10,000 คนต่อปี คิดเป็น 5-12% ของจำนวนเด็กแอดมิชชั่นทั้งหมด
โดยแค่ ม.สงขลานครินทร์ แห่งเดียวมีมากถึง 3 พันคน โดยทางอธิการบดี มอ. ได้ออกมาให้ข้อมูลว่าปี 2555 ที่ผ่านมามีนักศึกษามารายงานตัวเพื่อเรียนเพียง 9,000 คนเท่านั้น ทั้งๆ ที่จริงแล้วสามารถสอบแอดมิชชั่นติดเข้ามาได้สูงถึง 12,000 ที่นั่ง
โอ้ววว เป็นยอดที่ไม่ใช่น้อยๆ เลยนะเนี่ย!!! โดยข้อมูลนี้ทางท่านอธิการบดีของจุฬาฯ ได้ให้ข้อมูลเสริมมาว่าการที่นิสิตซิ่ว หรือรีไทร์นั้นเป็นปัญหาที่แก้ได้ยากมาก เพราะว่าเมื่อพวกเขาได้คณะหรือมหา’ลัยที่ดีกว่า อยากเรียนมากกว่า ก็พร้อมที่จะสละสิทธิ์จากที่เดิม ซึ่งทางมหาลัยห้ามไม่ได้
ส่วนประธาน ทปอ. แสดงความเห็นว่าการที่เป็นแบบนี้ เพราะว่า มีม.รัฐหลายแห่งที่เปิดรับตรงรอบหลังแอดมิชชั่น ทำให้เด็กที่ติดรอบแอดมิชชั่นพากันสละสิทธิ์ และไปสมัครสอบตรงหลังแอดฯแทน ซึ่งทำให้รัฐเสียงบประมาณในการสนับสนุนการศึกษาไปมาก
อ่านข่าวนี้ทำให้รู้ว่าทางหน่วยงานการศึกษาก็ไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องของการที่มีเด็กซิ่ว-รีไทร์ เพราะว่ามันมีแต่เสียกับเสียทั้งสองฝ่าย น้องๆ เองก็คงไม่มีใครอยากซิ่ว-รีไทร์จริงไหม??? .....แต่บางทีการที่ได้เรียนในที่ที่ไม่อยากเรียนมันก็อึดอัดเหมือนกันดังสุภาษิตที่ว่า “คับที่อยู่ได้ คับใจอยู่ยาก” ต่างคนต่างมุมมอง แล้วน้องๆ คิดว่าอย่างไรกันบ้างคะ เล่าให้ฟังบ้างนะ
ขอขอบคุณ ข่าวมติชน
32 ความคิดเห็น
1 มหาลัยในไทยหลายมหาลัย ยังไม่สามารถทำให้ตัวเองมีชื่อเสียงที่เพียงพอได้
2 คนไทย (ไม่ใช่แค่เด็ก) มีค่านิยมดูที่ใบวุฒิมากกว่าความสามารถ (ภาควิชาชีพเลยขาด)
3 เด็กไทย ถูกจับให้นั่งแต่เพียงหน้าโต๊ะเรียน เลยไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไรกันแน่
4 จากข้อบน... ทำให้คิดว่าสิ่งที่ชอบแบบฉาบฉวยคือสิ่งที่ใช่และชอบจริงทั้งที่มันไม่ใช่
5 จากข้อ 3 ทำให้คิดว่าสิ่งที่เห็นคือทุกอย่าง หาได้รู้ว่าแท้จริงมีความลำบากอยู่เบื้องหลัง
ทั้งที่จริงๆ ส่วนใหญ่มันก็มาจากระบบการศึกษาไทยนะค่ะ
ไม่ใช่มหาลัยเปิดก่อนหรือหลัง หรือ อะไรทั้งนั้น
สาเหตุน่าจะมาจากระบบการศึกษาไทยและค่านิยมของคนไทย
ถ้าไม่จบมหาลัยรัฐดังๆ พอไปสมัครสู้กับเขา
ฝีมือพอๆกัน คนก็คงเลือกมหาลัยดังๆ ทั้งๆที่ฝีมืออาจจะสู้สีกัน
แต่เดียวนี้เด็กไทยเก่งกว่าที่คิดนะค่ะ
ไม่ว่าจะจบจะจากที่ไหนก็อยู่ที่ตัวเองแหละค่ะ
แต่ผู้ใหญ่ชอบมาลิขิตเรา แล้วจะให้เราทำยังไงละค่ะ??
ถ้าไม่เอาก็อย่ามาสอบเลยตั้งแต่แรก
รู้ไหมว่ามันทำให้ฉัน.......
.....ไม่มีหลานรหัสโว้ย!!!!!!.........
อยากรู้ว่าถ้าจะซิ่วมาคณะเดิม แต่ต่างสถาบัน โอนหน่วยกิจมาได้มั้ย
เลยตัดสินใจซิ่วครับ ตอนนี้ก็ไม่ได้เรียนเเล้ว กลับมาาอยู่บ้าน
################
จาก คห.8 น่ะครับ
ผมว่าใช่เลยหล่ะ การที่เราเรียน ม.ปลาย น่ะ มันเหมือนปิดกรอบ ให้ตัวเองอ่ะ
ไม่ได้ รู้อะไรมากมาย แต่ พอมาอยู่มหาลัย เราถึงได้รู้ว่า
อ้อ จริงๆ แล้วคณะนี้ มันคืออย่างงี้น่ะ เรียนอย่างงี้ อะไรอย่างนี้
ทั้ง ๆ ที่ทุกวันนี้โลกออนไลน์มันดีกว่าสมัยก่อนมาก น้องไม่หาข้อมูลกับรุ่นพี่ ๆ ไม่หาข้อมูลจาก
พ่อแม่พี่น้องลุงป้าน้าอากันหรือเปล่า
ไม่ได้โทษว่าเด็กซิ่วเป็นคนไม่ดี ไม่ใช่เลย แต่อยากให้เห็นใจคนที่อยากเรียนแต่ไม่มีที่เรียนกันบ้าง
โดยเฉพาะเด็กต่างจังหวัดไกล ๆ ที่เรียนดี
เราเองก็พร้อมใจจะเป็นเด็กซิ่วในปีนี้ เด็กซิ่วมีทุกปี และสาเหตุที่บางคนไม่มีที่เรียนก็ไม่ได้มากจากเด็กซิ่ว
หลายมหาลัยไม่ให้เด็กซิ่วมีสิทธิ์เข้าสอบตรงด้วยซ้ำ
ถ้าคุณเก่งจริง มหาลัยพร้อมจะอ้าแขนรับคุณอยู่แล้ว ไหนจะภาคพิเศษหลังแอด พูดก็พูดเถอะรอบนี้เปิดมาเพื่อให้มหาลัยหาตัง
จบมหาลัยต่างกัน คุณภาพก็ต่างกันแล้ว จบราชภัฎคะแนนส่งงานก็เกือบครึ่งแล้วคะแนนสอบก็อีกนิดก็ผ่าน
จบจุฬาทำแบบนั้นได้หรอ ไม่ต้องมหาลัยปิดหรอก จบรามส่งงานแล้วผ่านได้หรอ มีแต่สอบๆ
ก็ไม่แปลกที่คนเค้าจะดูมหาลัยเป็นอย่างแรก เด็กซิ่วที่เค้าซิ่วไม่มีใครอยากซิ่วหรอก ถ้ามันไม่เหลือจะทน
คิดว่ามันดีหรอทีต้องไปยกมือไหว้รุ่นเดียวกัน รุ่นน้องบางคนก็มีความคิดแบบนั้นแหละว่าเด็กซิ่วมาแย่งที่
พูดไปก็ไม่มีใครเข้าใจ ถูกกดดันจากหลายทาง มันไม่แปลกเลยที่คณะไรนะ หมอ หรือ เภสัชปีนี้มีแต่ซิ่ว
เพราะพวกเขาถูกแรงกดดัน พวกเขาผ่านความเจ็บปวด แต่ก็พร้อมจะก้าวไปข้างหน้า
เมื่อเลือกได้แล้ว จะไม่เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเองหรือ?
เด็กแอดปีนี้ขอให้ตั้งใจ คุณไม่ไม่ทางรู้หรอกว่าผ่านแล้วมันผ่านเลย ทำได้อีกทีก็คือกลายมาเป็นเด็กซิ่ว
มหาวิทยาลัยไม่ได้ทำให้นักศึกษามีชื่อเสียง
แต่นักศึกษาต่างหาก ที่จะทำให้มหาวิทยาลัยมีชื่อเสียง
ปล.เห็นใจทั้งเด็กซิ่ว และเด็กแอด
บางคนอยากไปไกลๆ เพราะไม่ชอบสังคมใกล้ๆ แต่ติดที่ใกล้ๆ เลยซิ่ว
บางคนโดนพ่อแม่บังคับ พอไปเรียนจริงเรียนไม่ได้ เรียนไม่ไหว ไม่ชอบเลยโดด ถูกไทร์ออกมา
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 27 มิถุนายน 2555 / 19:18