เด็ด!! ชีวิต 2 รุ่นพี่ เมื่อเรียนจบ "จุลชีววิทยา"

      สวัสดีค่ะน้อง ๆ ทุกคน ขอต้อนรับปลายปีด้วยอีกหนึ่งบทความของ คณะในฝัน จุลชีววิทยา โดยคราวนี้ พี่แป้ง ได้ไปตามสัมภาษณ์พี่ ๆ ที่จบไปแล้วมาเป็นตัวอย่างค่ะ ว่าชีวิตนอกรั้วของแต่ละคนเป็นอย่างไรบ้าง พร้อมกันหรือยังเอ่ย??? ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลยค่ะ

.

พี่เปิ้ล
หัวหน้าภาควิชาจุลชีววิทยา
คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา

พี่แป้ง : สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นแนะนำตัวเองเลยค่ะ
พี่เปิ้ล : สวัสดีค่ะ พี่ชื่อ ปริยา นุพาสันต์ค่ะ เด็กๆจะเรียกว่า อ.เปิ้ล ค่ะ เรียนจบปริญญาตรีจากภาควิชาชีววิทยา (ตอนนั้นยังไม่มีภาควิชาจุลชีววิทยา) คณะวิทยาศาสตร์ ม.บูรพา ปริญญาโท จากภาควิชาจุลชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ ปริญญาเอกที่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ค่ะ


พี่แป้ง : อยากให้เล่าประสบการณ์ตอนสมัยเอนทรานซ์ให้ฟังหน่อยค่ะ
พี่เปิ้ล : สมัยก่อนมีเเต่เอนทรานซ์ กับสอบตรง (โควต้า) ไม่มีเเอดมิชชั่น  พี่สอบตรงครั้งเเรกที่ม.บูรพา ก็สอบได้ที่คณะวิทยาศาสตร์ เลยไม่สอบอะไรอีกเลย เลือกเรียนที่คณะวิทยาศาสตร์ ม.บูรพา เลยค่ะ พอเรียนจบปริญญาตรี แล้วก็สอบเรียนต่อป.โทเลยค่ะ ไม่ได้ทำงาน




พี่แป้ง : ตอนเรียนจบใหม่ ๆ เริ่มทำงานที่ไหน มีการสัมภาษณ์เข้างานอย่างไร ยากมั้ย? ตอนนั้นเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
พี่เปิ้ล : พอเรียนจบปริญญาตรี ก็ได้ทุนจากคณะวิทยาศาสตร์ ม.บูรพา ให้ไปสอบเรียนต่อ เเละสอบได้เรียนปริญญาโทที่ ม.เกษตรศาสตร์ เรียนจบปริญญาโทก็ ก็กลับมาสอนหนังสือ  ที่คณะวิทยาศาสตร์ ม.บูรพา ภาควิชาจุลชีววิทยา เพื่อใช้ทุนค่ะ ตั้งเเต่ ปีพ.ศ. 2539 เคยเเต่สัมภาษณ์ตอนจะรับทุนเพื่อเรียนต่อ ปริญญาโท ก็เตรียมตัว หาความรู้เรื่องการทำงานและการเตรียมการสอน 



.
พี่แป้ง : การเรียนภาคจุลชีววิทยาให้อะไรบ้างคะ? แล้วสามารถนำความรู้ที่เรียนมาไปใช้ประยุกต์อย่างไรบ้าง
พี่เปิ้ล : จริงๆเเล้วการเรียนจุลชีววิทยา เป็นอะไรที่ใกล้ตัว และมีประโยชน์ต่อผู้เรียนมากค่ะ เอาไปประยุกต๋ใช้กับชีวิตประจำวันได้เยอะมาก เช่น จุลินทรีย์ชนิดไหนที่ก่อโรค จุลินทรีย์ชนิดไหนที่มีประโยชน์ การระวังรักษาตัว หรือระวังการปนเปื้อนของจุลินทรีย์ชนิดต่างๆ


พี่แป้ง : เรียนเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตที่มองไม่เห็นได้ด้วยตาเปล่าเคยกลัวบ้างไหมคะ?
พี่เปิ้ล : ไม่กลัวนะคะ จุลินทรียมีอยู่ทั่วไปอยู่เเล้ว ทั้งบนผิวหนังในร่างกายคนเรา ในอาหาร แม้กระทั่งในอากาศที่เราหายใจเข้าไป เป็นส่วนนึงของเราแต่แค่เราไม่รู้แค่นั้นเองค่ะ


พี่แป้ง : อาชีพที่ทำตอนนี้คืออะไร และ ทำเกี่ยวกับอะไรบ้างคะ?
พี่เปิ้ล : ตอนนี้เป็นหัวหน้าภาควิชาจุลชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ ม.บูรพา ก็สอนหนังสือมาตลอด ตั้งเเต่ปี 2539 แต่ก็ลาไปเรียนปริญญาเอกประมาณ 4 ปีค่ะ


พี่แป้ง : สมัยเรียนภาคจุลชีววิทยา ได้เคยร่วมทำกิจกรรมอะไรบ้างคะ?
พี่เปิ้ล : สมัยเรียนทำกิจกรรมทุกอย่างค่ะ เป็นนักกีฬา ขึ้นเเสตนด์ เเปลอักษร อย่างเดียวที่ไม่ได้เป็นคือ ลีดเดอร์ ประมาณว่าหน้าตาไม่เข้าข่าวเป็นลีดเดอร์ค่ะ ฮ่า ๆ ๆ ๆ


พี่แป้ง : การทำแล็บของภาคจุลชีววิทยามีความยากง่ายอย่างไรบ้าง และเรื่องอะไรที่ต้องระวังเป็นพิเศษบ้าง?
พี่เปิ้ล : การทำ lab จุลชีววิทยา ต้องใช้ความอดทนมากๆ และใช้ความรู้ความละเอียดรอบคอบ  เพราะการทำ  lab แต่ละครั้งใช้เวลานานมาก เพราะต้องเตรียมอาหารเลี้ยงเชื้อ ฆ่าเชื้ออาหารเลี้ยงเชื้อ ฆ่าเชื้อเตรื่องเเก้วและ เครื่องมือที่จะใช้ กว่าจะทำได้แต่ละ lab มีหลายขั้นตอนเละใช้เวลาเวลานาน ประกอบกับเชื้อจุลินทรีย์มีขนาดเล็ก และเชื้อเเต่ละชนิดก็ต้องการสภาวะที่ใช้เลี้ยงแตกต่างกัน ต้องระวังเรื่องการปนเปื้อนของเชื้อ ทั้งปนเปื้อนมาอยู่ในการทดลองของเรา และปนเปื้อนออกไปสู่สิ่งเเวดล้อมภายนอก เนื่องจากเชื้อบางชนิดเป็นเชื้อก่อโรค ซึ่งต้องระวังมากเป็นพิเศษ


พี่แป้ง : สุดท้าย อยากให้แนะนำอะไรดี ๆ ถึงน้อง ๆ ชาวเด็กดีที่อยากเรียนภาคจุลชีววิทยาค่ะ
พี่เปิ้ล : การเรียนจุลชีววิทยาเป็นอะไรที่ ค่อนข้างยาก เเละท้าทาย เเต่ว่าก็สนุกนะคะ เเละเรียนจบไปก็มีงานรองรับอยู่หลายสาขา หลายตำเเหน่งที่รับนักจุลชีววิทยา เรียกว่ายังเป็นที่ต้องของตลาดเเรงงานอยู่ค่ะ

พี่คี้
ปริญญาโทชีวสารสนเทศและชีววิทยาระบบ
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

พี่แป้ง : สวัสดีค่ะแนะนำตัวเองก่อนเลยค่ะ
พี่คี้ : สวัสดีครับ พี่แป้ง และน้องๆ ที่กำลังอ่านคอลัมภ์ใน Dek-D ทุกคน พี่ชื่อ ธัชวนนทน์ นันทนรานนท์ ชื่อเล่น คี้ (แต่เพื่อนส่วนใหญ่จะเรียกว่า คีย์) เพิ่งเรียนจบ ปริญญาตรี สาขาจุลชีววิทยา ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ตอนนี้กำลังเรียนปริญญาโท อยู่ที่หลักสูตรชีวสารสนเทศและชีววิทยาระบบ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ครับ


พี่แป้ง : อยากให้เล่าประสบการณ์ตอนสมัยแอดมิชชั่น ว่าสอบยังไงคะ?
พี่คี้ :  พี่ก็ไปนั่งสอบตามวิชาที่พี่ลงไว้ (O-NET, A-NET) แต่คะแนนไม่ได้ยื่นครับ เพราะเส้นทางที่พี่เข้ามาเรียนสาขาจุลชีววิทยา นั้นไม่ได้มาจากการสอบตรง หรือแอดมิชชั่น แต่เป็นการยื่นโควต้าเข้าศึกษาต่อครับ โดยต้องย้อนไปตอน ม.4 พี่มีโอกาสได้เข้าค่าย 2B-KMUTT (พี่แป้งก็ได้เข้าครับ หลังจากพี่ 1 ปี ใครสนใจถามพี่แป้งได้ครับ)
        2B-KMUTT เป็นโครงการที่ทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีจัดขึ้นเพื่อให้โอกาสเด็กมัธยมนั้นได้เข้ามาลองทำโครงงานทางวิทยาศาสตร์ที่สนใจเป็นระยะเวลา 3-4 อาทิตย์ครับ ซึ่งตอนนั้นพี่ก็มีความสนใจที่จะเข้าสาขานี้มาแต่แรกแล้วละ อันเนื่องจากอาจารย์เป็นคนแนะนำ แล้วพี่ก็ชอบทำ Lab ด้วย วันๆ ตอนนั้นถ้าว่างก็ไปอยู่ห้อง Lab พอตอนอยู่ค่าย 2B-KMUTT พี่ทำเกี่ยวกับโรคธาลัสซีเมีย หลังจากจบพี่เลยขอยื่นโควต้าเข้าศึกษาต่อที่สาขานี้เลยครับ และก็ได้เข้าศึกษาตามที่สนใจ


พี่แป้ง : พอเรียนจบแล้ว เรียนต่อหรือทำงานคะ? 
พี่คี้ : คำถามแรกเรียนต่อหรือทำงาน พี่เรียนต่อครับ แต่ถ้าถามว่าทำไมถึงเลือกเรียนต่อหรอ เออ อันนี้อธิบายยากอะ ^^” คือ ตอนแรกพี่ก็มีลังเลระหว่างเรียนต่อ กับ ทำงานด้วย โดยในใจก็อยากเรียนต่อ แต่ก็มีบางคนอยากให้ทำงาน แต่ในที่สุดพี่ก็ตัดสินใจเรียนต่อเพราะกลัวว่าหลังไปทำงานแล้ว จะหมดพลังในการเรียน เพราะมุ่งทำงาน แต่มันก็อีกเหตุผลนะครับคือว่าถ้าเราดูในปัจจุบันสาขานี้คนจบมาก็เยอะเหมือนกัน แต่งานที่รองรับก็ไม่ได้มีเยอะเพราะส่วนใหญ่คนจบสาขานี้มาก็นักวิทยาศาสตร์ตามโรงพยาบาล ตามสถาบันวิจัย สถาบันการศึกษา โรงงานฯลฯ ซึ่งก็หาได้ยากอยู่ เลยเอาว่าเรียนลึกเฉพาะทางลงไปเพื่อเพิ่มโอกาสให้ตัวเอง 


พี่แป้ง : การเรียนภาคจุลชีววิทยาให้อะไรบ้างคะ? แล้วสามารถนำความรู้ที่เรียนมาไปใช้ประยุกต์อย่างไรบ้าง
พี่คี้ : ก็ให้เยอะนะครับ ก็สอนให้เราอดทน ตั้งใจเรียน มานะพยายาม เพราะเรียนสายนี้มันเรียนกับเชื้อแบคเรีย ไวรัส ยีสต์ ซึ่งบางครั้งเราก็ต้องจดจำชื่อเชื้อที่มันแปลก ๆ คุณสมบัติบ้าง ประมาณนี้ นอกจากนั้นยังสอนในเรื่องของการทำงานที่จะต้องคอยระวังเป็นพิเศษอย่าให้มีการปนเปื้อนเกิดขึ้น เพราะเมื่อไรที่มีการปนเปื้อน ย่อมทำให้เชื้อที่เราทำงานอยู่นั้นเกิดการปนเปื้อนตาม ซึ่งถ้าเป็นเชื้อไม่ก่อโรคก็ไม่มีผลอะไรแค่ฆ่าเชื้อทิ้งแล้วทำใหม่ แต่ถ้าเชื้อตัวนั้นก่อโรคขึ้นมา แล้วยิ่งปนเปื้อนก็ยิ่งเพิ่มโอกาสความเสี่ยงเกิดขึ้น
       นำความรู้ที่เรียนมาไปใช้ประยุกต์อย่าไงบ้าง ก็สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้หลากหลายด้านเช่น ทำให้เรารู้ว่าผลิตภัณฑ์ บางประเภท อย่างเช่น เบียร์ ไวน์ มันมาจากการหมักด้วยยีสต์ และบางครั้งเราอาจจะสามารถนำเชื้อที่เราสนใจมาทำการเลี้ยงเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ในสิ่งที่เราสนใจได้ 


พี่แป้ง : ทราบมาว่าภาคจุลชีววิทยา เรียนเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตที่มองไม่เห็นได้ด้วยตาเปล่า อย่างนี้ก็ต้องมีการเรียนประมาณว่า เชื่อนี้เกิดโรคอะไร ทำไมถึงเป็นสิว ฝุ่น ละออง กับการใช้ชีวิต เชื่อโรคในอาหาร แบคทีเรียตามที่ต่าง ๆ เคยกลัวบ้างไหม?
พี่คี้ : ถูกต้องตามที่พูดครับ ที่ภาคจุลชีววิทยาก็เรียนเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตที่มองไม่เห็นได้ด้วยตาเปล่า เรียน lecture ก็ประมาณว่า เชื่อนี้เกิดโรคอะไร ทำไมถึงเป็นสิว ฝุ่น ละออง กับการใช้ชีวิต เชื้อโรคไรบ้างที่อยู่ในอาหาร แบคทีเรียตามที่ต่าง ๆ มีคุณสมบัติอย่างไร ลองส่องกล้องดูลักษณะสัญฐานวิทยา ถามว่ากลัวไหมก็มีนิดๆๆ นะครับ ตอนเริ่มแรก แต่หลังๆ ก็ไม่ละครับ เพราะเหมือนคุ้นชินกับมัน แต่ทั้งหมดนี้ก็ต้องยึดอยู่บนพื้นฐานของสมาธิตลอดอ่าครับ เพราะถ้าไม่มีสมาธิก็ย่อมอาจทำให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่น่าจะเกิดได้


พี่แป้ง : อะไรคือความแตกต่างระหว่างการเรียนปริญญาตรีกับปริญญาโท?
พี่คี้ : อันที่น่าจะเห็นได้ชัดที่สุดคือ น่าจะเป็นเรื่องเนื้อหาที่อาจลึกขึ้นจากปริญญาตรี แล้วอีกเรื่องคือลักษณะการเรียนการสอนที่ในปริญญาตรีส่วนใหญ่จะเป็นการนั่งในห้อง lecture ฟังอาจารย์สอนเนื้อหาตามชีท ทำงานส่ง สอบ แต่ในปริญญาโทนอกจากเรียนแล้ว มันจะมีแบบว่าค้นคว้าด้วยตัวเองแล้วนำความรู้ที่เราได้มานำเสนอหน้าห้องเรียนให้เพื่อนและอาจารย์ฟังเป็นการฝึกการนำเสนอด้วยในตัว


พี่แป้ง : สมัยเรียนภาคจุลชีววิทยา ได้เคยร่วมทำกิจกรรมอะไรบ้าง จะเป็นในภาคหรือ นอกภาคก็ได้ค่ะ (แลดูจะเยอะนะ 555)
พี่คี้ : ก็ไม่เยอะเท่าไรหรอกครับ 5555 โดยร่วมทำกิจกรรมเท่าที่จะทำได้ ซึ่งการเข้าร่วมนั้นก็ต้องไม่กระทบกับการเรียนของเรา พูดง่ายๆ คือทำทั้งสองอย่างให้ดี ส่วนใหญ่จะเป็นในภาคมากกว่านอกภาค โดยกิจกรรมในภาคที่เข้าร่วมก็มีแบบกิจกรรมประชุมเชียร์ กิจกรรมทำบุญภาค วันไหว้ครู แล้วก็อาจมีการแข่งขันคัดเลือกไปแข่งตามกีฬา Colony (กีฬาของมหาวิทยาลัยที่มีสาขาจุลชีววิทยาอยู่) ทั้งหมดประมาณนี้ครับ


พี่แป้ง : การทำแล็บของภาคจุลชีววิทยามีความยากง่ายอย่างไรบ้าง และเรื่องอะไรที่ต้องระวังเป็นพิเศษบ้าง?
พี่คี้ : การทำ LAB ของภาควิชาจุลชีววิทยามีความยากง่ายอย่างไร ก็ต้องบอกว่าบางอย่างก็ง่ายแค่ไม่กี่ขั้นตอนก็เสร็จ แต่บางอย่างก็ยากต้องอาศัยเทคนิคเฉพาะ ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ต้องอาศัยการฝึกฝน การตั้งใจ การมีสมาธิระหว่างการทำงาน แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็ต้องระวังเรื่องของการปนเปื้อนที่น่าจะสำคัญที่สุด เพราะถ้าปนเปื้อน ย่อมทำให้เชื้อเกิดการปนเปื้อนได้


พี่แป้ง : สุดท้าย อยากให้แนะนำอะไรดี ๆ ถึงน้อง ๆ ชาวเด็กดีที่อยากเรียนภาคจุลชีววิทยาค่ะ
พี่คี้ : ก็ไม่มีอะไรมากครับ พี่ก็อยากให้น้องๆ ชาวเด็กดีที่อยากเรียนภาควิชาจุลชีววิทยาทุกคนนั้น ตั้งใจเรียน มานะพยายาม อดทน อย่าท้อนะครับ อ่อ แล้วก็ข้อความเดียวกันฝากถึงน้องๆ ทุกคนด้วยเช่นกันครับ และก็อย่าลืมทำตามสิ่งที่ตัวเอง ชอบ ตัวเองรัก อย่าบังคับตัวเองครับ และที่สำคัญที่สุดก็เป็นลูกที่ดีของคุณพ่อคุณแม่ด้วยครับ

    

    

.
2 สาขาล่าสุดใน "คณะในฝัน"