เปิดใจ ม.6 เด็กศิลป์ หัวใจวิทย์ กับภารกิจ "สายศิลป์สอบแพทย์"




          สวัสดีครับ "สายศิลป์ สอบเข้าแพทย์ไม่ต่างอะไรกับงมเข็มในมหาสมุทรครับ" แต่หากเตรียมตัวมาดี ใจสู้ พร้อมมีอุปกรณ์ช่วย "การงมเข็มเจอ ก็ไม่ใช่เรื่องยาก" วันนี้ พี่ลาเต้ จะพาไปรู้จักกับเพื่อนๆ สายศิลป์ทั้ง 4 คนที่สมัครใจงมเข็มในมหาสมุทร นั้นคือ การสอบเข้าคณะแพทยศาสตร์ และคณะทันตแพทยศาสตร์ ตามที่ปีนี้ กสพท. ออกกฏว่าสายศิลป์สามารถมีสิทธิ์สมัครสอบแพทย์ได้

          ทำไมพวกเขาถึงอยากเรียนแพทย์ , แล้วทำไมถึงตัดสินใจเลือกเรียนสายศิลป์ รวมถึงความพร้อมในการสอบครั้งนี้ถึงไหนแล้ว ไปคุยกับพวกเขากันเลยครับ
 
คนที่ 1
นางสาวอรชพร จิตเพชรสกุล (ดรีม) ม.6
เรียนแผนการเรียนศิลป์-ภาษาฝรั่งเศส โรงเรียนมารีย์วิทยา

"อยากเรียนแพทย์ แต่เพราะป่วย เลยทำให้ต้องถอนตัวจากสายวิทย์"
 

 
ทำไมถึงอยากเรียนแพทย์ ?
           ตั้งแต่เด็กคุณพ่อคุณแม่ปลูกฝังว่าอาชีพหมอเป็นอาชีพที่มีเกียรติ มีคนนับหน้าถือตา เป็นอาชีพที่ได้บุญเยอะ ได้ช่วยเหลือคนมากมาย มันเหมือนกับว่าเราโดนปลูกฝังเกี่ยวกับเรื่อง
นี้มาตั้งแต่เด็กๆ โตมาเวลามีคนถามว่า อยากเรียนอะไรอาชีพหมอเลยเป็นอาชีพเดียวที่อยู่ในหัว พอตอนประมาณ ม.3 ที่โรงเรียนมีสอบเลือกสาย ก็เลือกสายวิทย์ ครูก็บอกให้คิดดีๆ ว่าเราอยากเรียนอะไร อยากเป็นอะไร ลองจินตนาการว่าอีก 10 ปีข้างหน้า เราจะกำลังทำอะไร ตอนนั้นในหัวมีแต่ภาพตัวเองใส่เสื้อกาวน์สีขาว กำลังใช้สเตทฟังเสียงหัวใจคนไข้ เหตุผลตอนนั้นมันไม่ใช่แค่ถูกพ่อแม่ปลูกฝังมาแบบนั้น แต่เป็นความต้องการที่่จะช่วยเหลือคนจริงๆ

ทำไมถึงเลือกเรียนสายศิลป์ ?
           ตอนแรกเรียนสายวิทย์ค่ะ เรียนไปเรื่อยๆ ก็เริ่มป่วยออดๆ แอดๆ ไปหาหมอหมอบอกว่าเราป่วยเป็นโรค SLE (โรคแพ้ภูมิตัวเอง) โรคนี้ต้องหลีกเลี่ยงความเครียด เพราะความ
เครียดจะไปกระตุ้นให้โรคกำเริบ พอรู้ก็เครียดไปก่อนเลยว่าอย่างงี้จะเรียนหมอได้มั้ย เพราะหมอเรียนหนัก ตอนนี้เราเรียนแค่สายวิทย์ยังเหนื่อยเลย แต่ตอนนั้นก็ทน เพราะอยากเป็นหมอ พยายามไปโรงเรียนทุกวันทั้งๆ ที่ตัวเองเหนื่อยมาก สุดท้าย..ร่างกายไม่ไหวค่ะ คุณแม่ก็เลยบอกแกมบังคับให้ย้ายไปเรียนสายศิลป์ ก็เลยดร็อปเรียนปีนึงแล้วปีถัดมาก็ไปเรียน ม.4 สายศิลป์- ฝรั่งเศส

รู้สึกยังไงที่ กสพท. เปิดให้สายศิลป์สอบแพทย์ได้ ?
           รู้สึกดีค่ะ 5555555 ตอนที่ย้ายมาเรียนสายศิลป์นี่คิดหนักเลยว่าจะเรียนอะไรต่อ จบไปจะเป็นอะไรเพราะทั้งชีวิตที่ผ่านมาอยากเป็นอยู่อย่างเดียวคือหมอ พอ กสพท.เปิดให้สาย
ศิลป์สอบแพทย์ได้ก็เลยรู้สึกว่ามันเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ลองทำตามฝันของตัวเอง ถึงแม้ว่าโอกาสที่จะติดนั้นมีน้อยมากจบแทบไม่มีเลยแต่อย่าง น้อยๆเราก็ได้ลองแล้ว :)

วางแผนเตรียมตัวสอบแพทย์อย่างไร ?
           ภาษาอังกฤษ/ไทย/สังคม/ชีวะนี่อ่านเองค่ะ ส่วนเลขนี่ให้พี่ชายช่วยสอน ฟิสิกส์เคมีชีวะให้เพื่อน/รุ่นพี่ช่วยติวให้ แล้วก็ลองทำพวกข้อสอบเก่า  อย่างวิชาความถนัดแพทย์อาศัย
ดาวน์โหลดแนวข้อสอบเก่ามานั่งทำค่ะ

4 อันดับที่จะเลือกใน กสพท. คืออะไร ?
           อันดับ 1 แพทยศาสตร์ รามาฯ ม.มหิดล
           อันดับ 2 แพทยศาสตร์ ม.นเรศวร
           อันดับ 3 แพทยศาสตร์ ม.ขอนแก่น
           อันดับ 4 แพทยศาสตร์ ม.เชียงใหม่

คิดว่าอะไรคือ จุดได้เปรียบ และเสียเปรียบของสายศิลป์ในการสอบเข้าแพทย์ ?
           จุดที่สายศิลป์ได้เปรียบนี่หนูว่าน่าจะไม่มีนะคะ 55555 ถ้าจะมีก็อาจจะเป็นเรื่องของภาษาอังกฤษ/ไทย/สังคม ทีสายศิลป์จะมีชั่วโมงเรียนวิชาพวกนี้ค่อนข้างเยอะ ส่วนจุดเสีย
เปรียบคงเป็นเรื่องที่สายศิลป์ไม่ได้เรียนฟิสิกส์/เคมี/ชีวะ/เลขแน่นเท่าสายวิทย์ ทำให้ความรู้ของสายศิลป์มีน้อยกว่า รวมไปถึงน้ำหนักคะเเนนของวิชาวิทยาศาสตร์ที่มีถึง 40% ด้วยค่ะ สุดท้ายก็อยากฝากให้เพื่อนๆ สายศิลป์ที่อยากเป็นหมอลองสอบดูนะ อย่าไปคิดว่าตัวเองทำไม่ได้ ให้คิดว่าไปลองทำดู ทำให้ดีที่สุด ได้หรือไม่ได้ยังไงอย่างน้อยเราก็ทำดีที่สุดแล้ว สู้ๆ ค่ะทุกคน

คนที่ 2
นางสาวรสสุคนธ์  ปานขาว (ขวัญ) ม.6
เรียนแผนการเรียนศิลป์-คำนวณ โรงเรียนสุราษฎร์ธานี

"อีก 2 เดือนขยันสุดตัว เพื่อฝันสอบ กสพท."

 
อยู่สายศิลป์ ทำไมถึงอยากเรียนแพทย์ ?
             ตั้งใจจะสมัครสอบ กสพท. เพราะมีความฝันที่อยากจะช่วยเหลือคน อยากรักษาผู้ที่ป่วยให้หาย คือ เหมือนเวลาเราไปโรงพยาบาล เราเห็นผู้อื่นป่วย เจ็บ ทรมาน เราก็อยากจะช่วย
เหลือเขาให้หาย ความจริงก็ตั้งใจจะเรียนสายวิทย์-คณิต ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่เราพลาดโอกาสในการสอบเข้าตอน ม.4 เพราะได้โควตาโรงเรียนเข้ามาเรียนในสายศิลป์-คำนวณ จึงทำให้เราพลาดโอกาสที่จะได้เรียนแพทย์ พอรู้ว่าปีนี้สายศิลป์สอบแพทย์ได้ รู้สึกดีใจมาก บอกไม่ถูกเลยว่าความรู้สึกตอนนั้นเราตื่นเต้น ดีใจ แฮปปี้ขนาดไหน (นี่ขนาดยังไม่ได้ติดนะ) ถือเป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่เราจะต้องไขว่คว้ามันมาให้ได้ อยากจะขอบคุณ กสพท ที่ให้โอกาสพวกเราสายศิลป์ได้มีสิทธ์ เข้าสอบ

วางแผนเตรียมตัวสอบแพทย์ถึงไหนแล้ว ?
             ต่อจากนี้ไปอีก 2 เดือนที่เหลือต้องขยันอ่านหนังสือ ทบทวนบทเรียน ฝึกทำข้อสอบบ่อยๆ ฝึกจำ ฝึกท่อง ให้ได้ทุกวัน ไม่ได้เรียนพิเศษคะ ตั้งใจว่าจะพยายามอ่านหนังสือ ฝึกทำ
โจทย์ทุกวัน แค่นั้นก็พอแล้ว ยังไงเราที่เรียนสายศิลป์ก็ต้องเสียเปรียบอยู่แล้ว เพราะสายวิทย์ได้เปรียบตรงที่มีพื้นฐานของการเรียนวิชาที่เกี่ยวข้องกับการสอบเข้าแพทย์โดยตรงแต่จะทำให้เต็มที่ค่ะ ได้ไม่ได้ยังไม่คิด ขอทำให้เต็มที่พอ

พูดอะไรถึงเพื่อนๆ สายศิลป์ที่มีความฝันอยากเป็นแพทย์ ?
             ก็อยากให้เพื่อนๆที่มีความฝันแบบเรา อย่าปล่อยโอกาสหลุดมือเราไป ถ้าเราสามารถคว้ามันได้ เราก็ควรจะไขว้คว้ามันมา เพื่อให้เราได้ทำตามความฝันของเราได้เต็มที่อย่างที่ตั้งใจ
ถึงแม้เราจะพลาดโอกาสในการเรียนสายวิทย์ แต่เราก็ยังพอมีหวังที่จะได้เป็นในสิ่งที่เราต้องการได้ แล้วก็ถ้าเป็นไปได้เราไม่อยากให้เพื่อนๆ พลาดโอกาสที่ดีๆ แบบนี้ เราอยากให้เพื่อนๆ ตั้งใจ อย่าปล่อยทิ้งเวลาให้ผ่านพ้นไปวันๆอย่างไร้ค่า เพราะเราจะไม่สามารถย้อนเวลากลับไปได้อีก เราต้องอ่านหนังสือ แล้วก็ฝึกทำโจทย์บ่อยๆ เพราะนี้เป็นโอกาสสุดท้ายของเราแล้ว สู้ๆ นะคะ

คนที่ 3
นายสมรักษ์ เชยรัมย์ (แสนแสบ) ม.6
แผนการเรียนศิลป์-คำนวณ โรงเรียนหนองเสือวิทยาคม จ.ปทุมธานี

"ไฟในการอยากเป็นแพทย์ถูกจุดมาอีกครั้ง หลังมอดไปตอน ม.4"


 
อยู่สายศิลป์ ทำไมถึงอยากเรียนแพทย์ ?
             คือว่าแพทย์เป็นอาชีพที่ใครๆ หลายคนก็ใฝ่ฝันตอนเด็กๆ (เด็กๆ โตขึ้นอยากเป็นอะไร // หมอ,พยาบาล,ทหาร,ตำรวจ,คุณครู ครับ/ค่ะ) เพราะแม่กับพ่อเคยบอกว่า “เลือกเรียน
อะไรก็ได้ ที่จบแล้วมีอาชีพรองรับ ไม่ต้องดิ้นรนกระเสือกกระสนหางานทำให้วุ่นวาย ไม่ต้องแข่งขันแย่งงานกับเพื่อนๆ ในสาขาวิชาอื่น”  คือผมขอยอมรับว่าเกิดจากการไม่ได้ตั้งใจ -//- เหตุมันเกิดตอนกรอกใบสมัครเข้าเรียนต่อ ม.4 ผมตั้งใจจะเรียนสายวิทย์ แต่ดันกรอกใบสมัครผิดจากสายวิทย์เป็นศิลป์-คำนวณ เลยส่งผลให้ไปเรียนแผนศิลป์-คำนวณแทน

             แต่พอถึงเวลาเรียนเข้าจริงๆ ก็รู้สึกว่าเราไปได้ค่อนข้างดีกับแผนนี้ ตอนนั้นก็ละทิ้งความต้องการจะเป็น หมอ หรือ บุรุษพยาบาล ได้แล้ว (แต่ก็ยังมีแอบฝันอยู่) พอปี
นี้มารู้ว่าสายศิลป์สอบแพทย์ได้ คือยิ้มเลยครับ ดีใจมาก เพราะไอ้เส้นทางที่วันนั้นมันมืดดับไปแล้ว แต่ในวันนี้มันมีแสงสว่างๆ (เหมือนหน้าจอมือถือที่แบตใกล้หมด) เส้นทางนั้นมันอาจก้าวเดินไปต่อได้ แม้จะมีเสียงวิจารณ์มาว่า "สมองเด็กศิลป์ จะไปเรียนแพทย์" คือยอมรับว่าเป็นความจริง แต่ที่จริงกว่า คือ เด็กวิทย์ "บางคน" ก็ไม่ได้ตั้งใจจะอยากเรียนต่อในแนวทางนี้ เท่าที่ผมถามเพื่อนๆ สายวิทย์มา ก็เห็นแต่จะมีแต่ จะเรียน อักษร,นิติ,รัฐศาสตร์,บริหาร,ศึกษาศาสตร์ เป็นส่วนใหญ่ มีเหลือไป วิศวะบ้าง พยาบาลไม่กี่คนที่เลือกเรียนวิทย์กัน เพราะเลือกเรียนต่อได้หลายคณะ

วางแผนเตรียมตัวสอบแพทย์ถึงไหนแล้ว ?
             ผมอ่านเอง และหาโจทย์มาลองทำดูครับ.. ใจจริงก็อยากจะไปกวดวิชา แต่มันติดที่ว่าไม่มีค่อยมีเวลาเท่าไหร่ เทอม 2 กิจกรรมเยอะมาก แล้วอีกอย่างคือ ถ้ามีโอกาสเรียนพิเศษจริงๆ
ก็อยากจะเรียนในวิชา คณิตศาสตร์ หรือ ภาษาอังกฤษมากกว่า เพราะจะให้ไปเรียนฟิสิกส์ เคมี ชีวะ เอาตอนนี้ เห็นทีจะยาก... เด็กวิทย์ เรียนมาจนถึงขนาดนี้ ถามจริ๊ง รู้เรื่องไหม? (สำหรับบางคนนะ) แต่บางคน นี่ก็เก่ง ถึงขั้นกู้โลกได้เลยก็มี #นับถือๆ แต่เอาจริงๆ ก็ต้องมีแอบไปติวดูบ้าง อ่านเองคงไม่กระจ่างขึ้นมาได้ ไปเรียนรู้เทคนิคนิดๆ หน่อยๆ

              อย่าง
วิชาความถนัดแพทย์ ก็ศึกษาว่าต้องสอบอะไร ยังไง เท่าที่ดูรายละเอียดมันก็ค่อนข้างจะวัดคุณสมบัติของการเป็นแพทย์ เพราะมีทดสอบวิธีคิดวิเคราะห์ การมีวิจารณญาณ การมองแบบมิติสัมพันธ์  แบบทดสอบจริยธรรม แบบทดสอบความคิดเชื่อมโยง ประมาณนี้ ... เอาง่ายๆ ถ้าวิเคราะห์ตามชื่อวิชา “ความถนัดแพทย์” ถ้าเราถนัดในด้านนี้ มันก็คงผุดขึ้นมาในโซนประสาทส่วนกลางบ้าง ว่าควรจะตอบแนวไหน คาดว่า เราเลือกในข้อที่เราคิดว่าใช่ ก็คงไม่เสียหาย เพราะข้อสอบมันวัดไอคิว การคิดวิเคราะห์ การตัดสินใจ

คิดว่าอะไรคือ จุดได้เปรียบ และเสียเปรียบของสายศิลป์ในการสอบเข้าแพทย์ ?
             ง่ายมากครับ สำหรับคำถามนี้... แน่นอน ความรู้พื้นฐานที่ได้เรียนรู้มา ความคุ้นเคยกับทฤษฎีหรือแนวข้อสอบ นี้คือข้อเสียเปรียบใหญ่ๆ เลย ส่วนจุดที่เด็กสายศิลป์จะได้เปรียบก็
คือ ... คือ เอิ่มมมมมม!! (มีหรอ-*-) อาจจะเป็นการที่ไม่เคยสัมผัสกับ เนื้อหาที่แน่นขนาดนั้น ไม่เคยเจอกับ ข้อสอบ แบบนั้น มั้งครับ!! (ได้เปรียบแล้วหรอ) ที่บอกแบบนั้นคือ มุมมองเดิมๆ ที่เด็กวิทย์เคยเรียนรู้มา มันอาจไม่ตรงกับความต้องการที่คนออกข้อสอบมา ก็เป็นได้ กล่าวคือ เด็กศิลป์ อาจมีจินตนาการเปิดกว้างในการคิดวิเคราะห์ กล้าที่จะเลือกคำตอบที่เราคิดว่าใช่ เพราะอาจไม่รู้ว่า ที่เราคิดว่าใช่มันไม่ใช่ คือ ไม่เคยเจอข้อสอบแบบนั้นมาก่อนไง ตอบยังไงก็ได้ เอาตัวเราสบายใจไว้ก่อน (เออ ข้อนี้ ตอบอันนี้ *–กา- ) ไม่ใช่กังวลว่าจะไม่ใช่ เครียดกับการที่คิดว่า ใช่แต่ไม่ใช่ ลังเลจนหมดเวลา ( #พูดเข้าข้างตัวเราเองไว้ก่อน ใครจะเป็นถึงขนาดนั้น)

ฝากอะไรถึงเพื่อนๆ สายศิลป์ที่มีความฝันอยากเป็นแพทย์หน่อย ?
            เอาตามความคิดผมเลยนะครับ คือ อันที่จริงมันก็ไม่ได้จำเป็นมากนะครับ สำหรับความคิดที่ว่า "เหมาะสำหรับ เด็กสายวิทย์ เท่านั้น!!" ผมก็มองแค่ว่า ไม่เห็นจะต้องเป็นเด็กสายวิทย์เลย แค่มีความรู้ไปสอบ สอบผ่าน ได้เรียน ก็จบ ไหนๆ ก็คงต้องเรียนใหม่อยู่ดี เพราะสายวิทย์ก็ไม่ได้เปรียบเหมือนกับว่า แผนการเรียนสาธิตแพทย์ หรืออะไรทำนองนั้น ก็แค่ใช้ความรู้พื้นฐานบ้างนิดหน่อยหรืออาจจะมากเลยก็ว่าได้ ที่ความรู้นั้นมันต้องเรียนรู้ในสายวิทย์ ในเมื่อ กสพท. เขาเปิดโอกาสให้สายศิลป์อย่างเราสมัครสอบได้ แม้มันจะดูเหมือนว่า สอบไปก็เท่านั้น (โดนลอกเอาเงินค่าสมัคร) แต่ถ้ามีฝันมันก็ต้องลองตามฝัน ไม่ใช่หรอ

            หรือว่าเป็น พวกได้แต่ฝัน ในเมื่อเราฝันที่อยากจะเป็นแล้ว ลองตามฝันให้ถึงที่สุด
ดีกว่าไหม?  เผื่อวันข้างหน้าลูกเรามันถามว่า "ทำไม พ่อ/แม่ ไม่เป็นหมอหละ" (สมมติว่าตอนนั้นเราเป็นครูแล้วกัน) ก็คงตอบได้แค่ว่า ก็พ่อ/แม่เป็นครูไง เลยไม่ได้เป็นหมอ หากไม่ได้ลองตามฝัน ... แต่ถ้าเราได้ลองทำแล้ว ถึงที่สุดแล้ว ถ้าลูกมันถาม   ก็จะได้ตอบไปว่า "พ่อ/แม่ เคยทำแล้ว วิธีที่จะเป็นหมอ แต่ว่ามันไม่ใช่ทางของ พ่อ/แม่ จริงๆ "หรืออย่างน้อย ถ้าลูกมันไม่ถาม อย่างน้อยตอนเราป่วยไปหาหมอ อาจจะนึกขึ้นได้ว่า //หมอนี่เก่งนะ ทั้งๆที่ก็ไม่รู้หรอกว่าเก่งขนาดไหน แต่อย่างน้อยมันก็เก่งที่สอบเข้าไปเรียนได้

           อีกอย่างเพื่อนๆ
สายวิทย์เขาไม่ได้กินเมล็ดถั่วเขียวที่มาจากต่างดาวหรอก ถ้าเขาทำได้เราก็(อาจจะ)ทำได้ เราก็ไม่ได้คาดหวังอะไรสูงหรอกนะ แต่ถ้าได้สอบ มันก็ต้องติด สุดท้ายใครจะว่าพวกเรายังไง ก็ชั่งเขาเถอะ เราก็แค่ใช้สิทธิ์ของเรา ที่เขาหยิบยื่นให้พอ

คนที่ 4
อธิป คุณานนท์วรกุล (หมู) ม.6
เรียนแผนการเรียนศิลป์-ภาษาจีน โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า จ.นครราชสีมา

"ฝันสูงๆไว้ ตกลงมามันเจ็บ แต่มันก็ไม่เจ็บเท่ากับที่เราไม่ฝันอะไรเลย"


 
อยู่สายศิลป์ ทำไมถึงอยากเรียนแพทย์ ?
            เริ่มมาจากตอนเด็กๆ รู้สึกว่าอยากช่วยเหลือคนอื่น แล้วอยากมียศด้วย ก็เลยอยากเรียนแพทย์ทหาร แต่กลับมามีจุดเปลี่ยนตรงขึ้น ม.ปลาย เพราะลังเลว่าจะตามฝันกับคณะแพทย์
หรือเรียนด้านภาษาดี เพราะส่วนตัวเป็นคนที่ชอบภาษามากกกกก รู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่ ได้รู้ภาษาใหม่ๆ แต่ตอนนั้นก็ตัดสินใจเรียนสายภาษาไป พร้อมกับตัดใจทิ้งความฝันในการเป็นหมอ แต่พอมารู้ข่าวว่า กสพท.เปิดให้สายศิลป์สอบแพทย์ โคตรดีใจเลยครับ มีความรู้สึกว่าเท่าเทียมดีมากๆ เลย ให้โอกาสกับทุกคน

4 อันดับที่จะเลือกใน กสพท. คืออะไร ?
            อันดับ 1 แพทย์ พระมงกุฏฯ
            อันดับ 2 แพทย์ ม.ธรรมศาสตร์
            อันดับ 3 ทันตฯ จุฬา
            อันดับ 4 ทันตะ มอ.


พูดอะไรถึงเพื่อนๆ สายศิลป์ที่มีความฝันอยากเป็นแพทย์ ?
           หากมีความฝันอยากเป็นหมอ ให้สมัครเลยครับ ถึงจะอยู่สายศิลป์ แต่ภาษาอังกฤษ และคณิตศาสตร์ก็ยังได้อยู่นะ สายวิทย์ อาจจะมีความรู้มากกว่า ทางด้าน ฟิสิกส์ เคมี ชีว แต่
พวกเราก็มีอังกฤษ และคณิตศาสตร์อยู่ เราทุกคนมีโอกาส ถึงแม้ จะไม่ใช่สายตรงของเราก็ตาม ยังไงก็ช่าง "ฝันสูงๆไว้ ตกลงมามันเจ็บ แต่มันก็ไม่เจ็บเท่ากับที่เราไม่ฝันอะไรเลย"

            พี่ลาเต้ ขอเอาใจช่วยแบบเต็มกำลังสูบเลยนะครับ ถึงแม้ความพร้อมเรื่องการสอบอาจจะยังไม่เต็มที่ แต่เชื่อว่าความฝันที่มีอยู่ในตัวของน้องๆ ทุกคน จะส่งผลให้น้องงมเข็มในมหาสมุทรได้แน่นอน จำไว้ๆ "ความฝันไม่เคยทิ้งเรา มีแต่เราที่ถอดใจทิ้งความฝันซะเอง" สู้ๆ

             ลาเต้ลิขิต : มาแล้ว!! ระบบแจ้งข่าวรับตรง - แอดมิชชั่นผ่าน SMS คลิกที่นี่ เลย
พี่ลาเต้
พี่ลาเต้ - Columnist นักข่าวสายการศึกษา เกาะติดทุกข่าวแทนน้องๆ ตัวถีบ ตัวดันให้ ม.6 สอบติด

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

แม่อีบริท Member 4 พ.ย. 56 18:49 น. 12

แหม บางคอมเม้นเห็นแล้วต้องแอบเบ้ปากใส่รัวๆ อ่ะค่ะ 

งั้นพวกหล่อนเรียนสายวิทย์ก็ไม่ต้องสาระแนมาสอบสายศิลป์นะยะ จะได้ไม่ต้องเหนื่อยฟรี

ใช้ความรู้ให้คุ้มค่าหน่อย กรั่ก ๆๆ

9
กำลังโหลด
กำลังโหลด
gdsf 4 พ.ย. 56 20:23 น. 22
มันเอาอะไรมาวัดว่าสายวิทย์ต้องเป็นคนฉลาด สายศิลป์ต้องเป็นคนโง่ เลิกซักทีเถอะอีตรรกกะแบบนี้อะ รำคาญ
0
กำลังโหลด
พิม 4 พ.ย. 56 20:33 น. 25
สายศิลป์จะเรียนก็ไม่เห็นแปล เห็นเด็กสายวิทย์บางคนยังไปเรียนนิติได้เลย อย่าปิดกั้นเด็กสายศิลป์ สายไหนก็เหมือนแค่มุ่งมันและตั้งใจยังไงความฝันก็เป็นไปได้ ไม่มีอะไรวัดได้หลอกว่าคุณภาพเด็กสายวิทย์จะเยอะกว่าเด็กสายศิลป์ในการเรียนหมอ เดี๋ยวนี้ติวเตอร์ออกจะเยอะ ถ้าเด็กสายศิลป์ตั้งใจก็มีคุณภาพเหมือนกัน อยากวัดคุณค่าเด็กที่สายการเรียน เรื่องนี้ก็เจอเหมือนกันเคยโดนว่าว่าเรียนไม่เก่งเลยต้องเรียนสายศิลป์ แต่บอกเลยทุกวันนี้ก็ตั้งใจเรียนทำตามความฝันจนต้องนี้ได้เรียนมหาลัยดีๆแล้วเหมือนกัน
0
กำลังโหลด
PDToxine Member 4 พ.ย. 56 18:09 น. 8

เป็นกำลังใจให้ทุกคนฮะ แต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าถ้าสายศิลป์สอบได้ แล้วจะมีสายวิทย์ - สายศิลป์ไปทำไม อย่างนี้กวดวิชาคงรวยเละน่าดู

สงสารพี่คนแรกจัง แต่ไม่ชอบประโยคที่ว่า อาชีพหมอเป็นอาชีพที่มีเกียรติ มีคนนับหน้าถือตา

เหหห แล้วอาชีพอื่นไม่มีเกียรติ ไม่มีคนนับหน้าถือตาหรอคะ -.-

อมยิ้ม

เป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ สู้ๆ

3
กำลังโหลด

103 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
Fiore_maybee Member 4 พ.ย. 56 15:44 น. 2

อ่านเเล้วเหมือนจะจุดประกายความฝันขึ้นมาเล็กๆ เพราะเราอยู่สายศิลป์เหมือนกัน อยากจะเป็นหมอเเต่ชอบเรียนด้านภาษามากกว่าเลยไม่ได้เลือกวิทย์คณิต เลยทิ้งความฝันไป(เเอบเสียดายอยู่นะ T^T) 

พอทราบว่ามีข่าวดีๆเเบบนี้คือไฟในตัวลุกอีกครั้ง คงจะต้องลองสู้ดูค่ะ !! 555 (เเม้โอกาสที่จะติดจะน้อยหรือน้อยที่สุดcrying)

ปล. ส่วนทั้ง 4 คนก็สู้ๆนะคะ พยายามให้ถึงที่สุดค่ะ ไฟท์ติ้ง !!

ตั้งใจ

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
ออออ 4 พ.ย. 56 16:25 น. 4
อยากรู้ว่าก่อนที่จะประกาศว่า ศิลป์สอบแพทย์ได้ พวกเค้ามีจุดมุ่งหมายคณะอะไรกัน... คงเปลี่ยนไปเยอะมากแน่เลย.
0
กำลังโหลด
JBeyhive Member 4 พ.ย. 56 17:23 น. 5

แล้วคุณพี่คนที่หนึ่งพอไปเรียนจะไม่เครียดหรอครับ

แล้วพี่อีกคนที่กรอกใบสมัครเลือกสายผิด อู้หู้วววว มีแบบกรอกเลือกสายผิดด้วย

ยังไงก็สู้ๆน่ะครับผม กรั่กๆ รักเลย

1
Dooooo 12 มิ.ย. 63 19:24 น. 5-1

เราเป็นนะ รร.เปลี่ยนแผนใหม่ก็ยังงงๆตอนเข้าม.4 ความผิดตัวเองล้วนๆแหละโทษใครไม่ได้ ไม่ยอมถามเองไม่ยอมเปลี่ยนแต่แรก ก็ต้องเรียนสายศิลป์-จีนไป ถ้าได้อธิบายคงยาว555แต่มันจริงอ่ะเลือกสายพลาดเพราะไอความไม่รู้ของตัวเอง ว่าแผนไหนสายอะไรเพราะเค้าตั้งชื่อแผนแบบแพทย์ วิศวะ คณิตคอม บัญชี นิติ ศิลป นิเทศ คนส่วนใหญ่เค้ารู้หมดคงมีเราคนเดียว5555

0
กำลังโหลด
afsft 4 พ.ย. 56 17:23 น. 6
บางครั้งความยุติธรรมและเท่าเทียม ก้ไม่ได้มาซึ่งคุณภาพที่แท้จริง ถ้าคุนทำได้ คิดถูก เรียนได้ ก้ดีใจด้วย แต่ถ้าคุนเข้าไปแล้ว เท่ากับไปฆ่าตัวเอง นั้นมันก้เรื่องของคุน เพราะคุนเลือกของคุนเอง ไม่ได้มีไคบังคับคุน
1
กำลังโหลด
Rainbow_flair Member 4 พ.ย. 56 17:59 น. 7

สายการเรียนแต่ละสายมีคุณค่าและลักษณะเด่นที่แตกกันจุดมุ่งหมาย เพื่อมุ่งผลให้การวางพื้นฐาน ความสามารถในสายอาชีพที่ต่างกัน ถ้าเปิดโอกาสให้สายอะไรจบมาแล้วมีโอกาสเหมือนกันก็ไม่ต้องมีสายการเรียนก็ได้มั้งคะ รับรองธุรกิจกวดวิชารุ่งเรืองเปิดทั่วประเทศแน่ๆ ตั้งใจ

4
กำลังโหลด
PDToxine Member 4 พ.ย. 56 18:09 น. 8

เป็นกำลังใจให้ทุกคนฮะ แต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าถ้าสายศิลป์สอบได้ แล้วจะมีสายวิทย์ - สายศิลป์ไปทำไม อย่างนี้กวดวิชาคงรวยเละน่าดู

สงสารพี่คนแรกจัง แต่ไม่ชอบประโยคที่ว่า อาชีพหมอเป็นอาชีพที่มีเกียรติ มีคนนับหน้าถือตา

เหหห แล้วอาชีพอื่นไม่มีเกียรติ ไม่มีคนนับหน้าถือตาหรอคะ -.-

อมยิ้ม

เป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ สู้ๆ

3
กำลังโหลด
คนมั่นใจ 4 พ.ย. 56 18:11 น. 9
เชียร์คนเเรกค่ะ เห็นใจ เพราะเพื่อนเราก็เป็นแบบเธอนะคะ เพื่อนเราขี่รถล้มค่ะ เข้า รพ. เรียนไม่ทันเจอยัดใส่ห้องศิลป์ค่ะ T^T คนอื่นไม่เชื่อหรอกว่าจะติด
0
กำลังโหลด
จากใจเด็กวิทย์ 4 พ.ย. 56 18:38 น. 10
ขอเป็นกำลังใจให้เด็กศิลป์ที่คิดจะสอบแพทย์ พยายามไปด้วยกันค่ะ แล้วก็ทั้งสายศิลป์และสายวิทย์ทุกคนควรจะหยุดวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆซะ หยุดท้าทายกันได้แล้วค่ะ มันไม่ใช่วิธีที่ควรจะทำเลย เราว่านะเอาเวลาที่มาท้าทายกัน ไปอ่านหนังสือจะดีกว่าอ่ะ ตัวเราไม่ได้มีปัญหาอะไรอยู่แล้วค่ะ ดีซะอีก จะได้เท่าเทียมกัน แต่เราไม่พอใจคำพูดของบางคนที่แสดงความคิดเห็น เราเข้าใจว่าอยากแสดงความคิดเห็นนะ แต่บางทีก็มากไป ด่าเละเลย เราอ่านก็ช็อคนะ เหมือนโดนเหมารวมว่าไปด่าสายศิลป์ทั้งๆที่เราอยู่เฉยๆนะ แต่เราก็ไม่ได้ตอบโต้ อยู่เฉยๆดีกว่า ไม่อยากมีปัญหา สิ่งที่เราอยากฝากไว้ให้ทั้งสายวิทย์และสายศิลป์ก็คือ พยายามทำตามฝันของเราให้ดีที่สุด อย่ายอมแพ้ สู้ๆ ปล.เราก็จะไปสอบเหมือนกัน มาพยายามด้วยกันดีกว่าเนอะ ^^
0
กำลังโหลด
ART 4 พ.ย. 56 18:42 น. 11
ไม่ค้านเรื่องสายศิลป์สอบหมอนะ อยากสอบก็สอบไปเหอะ แต่เราอ่านที่วิธีเตรียมตัวมันแปลกๆ เหมือนจะมองอะไรง่ายๆกันไปหน่อย เช่น สายศิลป์ มี เลข กับ อังกฤษ อยู่ คือ สายวิทย์ก็ให้น้ำหนักความสำคัญกับสองวิชาพอๆกับฟิสิกส์เคมีชีวะเลยนะครับ หรือ จะเป็น ไทย กับ สังคม ไอแบบนี้สายศิลป์มีมากกว่าสายวิทย์แน่นอน แต่ไอส่วนที่ข้อสอบมันออกอ่ะครับ ไทยสังคมมันไม่ได้ออกอะไรยากขนาดนัน สายวิทย์สามารถกู้สิ่งที่จำเป็นในการสอบด้วยด้วยคอสเรียนพิเศษคอสเดียวในเวลาอันสั้น แถมสองวิชานี้ถ่วงน้อยอีก ในขณะที่ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ สายศิลป์ ไม่สามารถกู้ได้ด้วยเรียนพิเศษคอสเดียว มันต้องเรียนกันมาแต่ มอสี่เป็นพื้นฐาน ยาวไปจนถึงคอสเอนท์ ถ้ามีครูมาสอนมีอะไรก็แล้วไปนะครับสำหรับเคมีชีวะฟิสิกส์ ถ้าครูคนนั้นดีพอ แต่หาได้ยากจริงๆ ไม่งั้นเด็กวิทย์จะไปเรียนพิเศษกันไปทำไมเยอะแยะ
6
Gun's LiZm Member 6 พ.ย. 56 21:55 น. 11-1
ใช่เลยค่ะ เราไม่ได้มอง ศิลป์โง่ แต่เรามองว่า คุณไม่มีพิื้นฐาน คุณจะเรียนได้จริงๆหรอ ขนาดบางคนที่ว่าเก่งๆแล้ว ยังสอบแพทย์ไม่ติดเลย คือ มันต้องปูพื้นฐานมาดีๆ คำศัพท์ หรือ วิธีการคิด มากมายนั้น ไม่สามารถ เรียนทันเองภายใน สองเดือนหรอกจ้าา ขนาดเด็กในเมือง วิทย์คณิต เค้ายังต้อง ติวทุกวัน เรียนพิเศษทุกวันอยู่เลย แต่ก็นะ สอบได้ก็สอบไปเนอะ เด๊๋ยวเรียนแล้วจะรู้เอง อีกอย่าง อยากเป็นหมอ ทำไมไม่เข้า วิทย์คณิตตั้งแต่แรก สอบให้ได้สิ สาย วิทย์ คณิดอะ ไม่ว่าอุปสรรค์จะมาไม้ไหน ถ้าคุณมีหัวใจอยากเป็นแพทย์แล้ว คุณน่าจะปูพื้นฐานให้กับตัวเอง มากกว่าที่จะมาเรียกร้องเอาทีหลัง จริงมั้ย ? ไม่งั้น เด็กวิทย์ จะเรียนวิทย์ไปทำไม .... " เขิลจุง
0
กำลังโหลด
แม่อีบริท Member 4 พ.ย. 56 18:49 น. 12

แหม บางคอมเม้นเห็นแล้วต้องแอบเบ้ปากใส่รัวๆ อ่ะค่ะ 

งั้นพวกหล่อนเรียนสายวิทย์ก็ไม่ต้องสาระแนมาสอบสายศิลป์นะยะ จะได้ไม่ต้องเหนื่อยฟรี

ใช้ความรู้ให้คุ้มค่าหน่อย กรั่ก ๆๆ

9
กำลังโหลด
Kiragi Kaira Member 4 พ.ย. 56 18:58 น. 13

ใครอยากสอบหมอให้คิดเพื่อสังคมไว้นะคะ :D 

ถ้าจิตใจเราดีเราจะสอบติดค่ะ //ได้ยินเค้าว่ามา

พยายามเข้านะเคอะตั้งใจ

0
กำลังโหลด
ทุนแคน 4 พ.ย. 56 19:01 น. 14
บอกน้องคนสุดท้ายไปเปลี่ยนการจัดอันดับด้วยนะครับ น้องเรียงผิดนะครับ รีบๆไปแก้ก่อนจะหมดเขตน้าา ด้วยความหวังดีจ้า สู้ๆครับน้องๆเยี่ยม สู้สู้
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Ywisnew Member 4 พ.ย. 56 19:27 น. 16

จากเด็กวิทย์ ตั้งใจจริงๆก็สู้ๆนะคะ

เราเรียนวิทย์ก้จริงแต่จะสอบคณะที่เกี่ยวกับภาษาจีนทั้งหมด เพราะพึ่งจะรู้ตัวเองว่าสนใจด้านนี้มากกว่า ตอนนี้ก้พยายามเรียนพิเศษภาษาอย่างหนัก 

ส่วนคนที่4ถ้าอยากติดจริงจัดลำดับใหม่นะ

0
กำลังโหลด
zaiza 4 พ.ย. 56 19:32 น. 17
สายศิลป์จะสอบก้ต้องพยายามอย่างหนักหน่วงสุดไปเลยนะ และอย่าคิดว่าสายศิลป์จะได้เปรียบเรื่อง สังคม อังกฤษ ไทย เพราะพวกเด็กวิทย์ติวเอาเป็นเอาตายทุกวิชา (เราเห็นมาจากเพื่อนเราหน่ะ) ขนาดเราที่เรียนภาษายังต้องยอมเลย ส่วนข้อสอบที่ออกก้ไม่ได้ยากอะไรขนาดนั้น พวกเด็กวิทย์ทำได้สบายอยู่แล้ว
0
กำลังโหลด
???????? 4 พ.ย. 56 19:43 น. 18
ลองสอบดูแต่คิดว่าจะมีสักกี่คนที่สอบได้ รร.กวดวิชาคงรวยยิ่งๆๆขึ้น จับปลา2 มือเสียเวลาตั้งต้นสิ่งที่ไม่เคยเรียนในห้องแต่ต้องมาเรียนที่รร.กวดวิชา อ่านเคมีก็ไม่รู้เรื่อง เรียนมาน้อยในห้องเรียน วิชาหลักที่คิดว่าได้เปรียบเช่นภาษา สังคม ก็ไม่รู้ว่าจะได้เปรียบจริงหรือเปล่า สอบได้ กะได้สอบไม่เหมือนกันนะ เลือกเอาที่ถนัดดีกว่านะพี่ว่า อย่าหลงกระแส
0
กำลังโหลด
ลูกหลานHippocrates 4 พ.ย. 56 19:55 น. 19
คนที่1แล้วตอนอ่านหนังสือเตรียมสอบ ไม่เครียดหรอคะ ไม่กลัวอาการกำเริบหรอ คนที่2อยากเรียนสายวิทย์ได้โคตาสายศิลป์ทำไมไม่สละสิทธิหล่ะจะได้มีสิทธิ์เข้าสายวิทย์ หรือว่าเกรดเธอมัน.... Oop!!! คนที่ที่3คุณขาดคุณสมบัติการเป็นหมอตั้งแต่สะเพร่าเลือกสายผิดแล้วหล่ะคะ คนสุดท้าย ลังเลแบบคุณดิฉันไม่รู้จะแสดงความคิดเห็นอะไร 555555555555 555+
11
กำลังโหลด
Gagaboo Member 4 พ.ย. 56 20:10 น. 20

เราว่าสายศิลป์มาสอบแพทย์ได้ก็ไม่มีปัญหานะ สิ่งที่ทุกคนบอกคือโอกาสติดน้อย แล้วถ้าเค้าสอบติด ก็แปลว่าเค้าเหมาะสมกับการได้เรียนแพทย์แล้วไม่ใช่หรออ? อย่าคิดอะไรเพียงผิวเผินนะ 

การที่เราเรียนสายวิทย์ที่เน้นฟิสิกส์ เคมี ชีวะ ก็ยังมีอีกหลายๆ คนที่อยากหันไปเรียนด้านภาษาแทนทั้งที่ตอนเรียนวิทย์ก็ไม่ได้เน้นภาษานี่ มองโลกในมุมกว้างๆ นะ

นี่เป็นแค่ 4 คนในเด็กศิลป์ อย่าคิดว่ามีแค่นี้สิคะ คนอีกเป็นร้อยๆ ที่เค้าก็อยากทำความฝันให้สำเร็จ เราจะปิดกั้นเค้าไปเพื่อ? คห #19 ความผิดพลาดครั้งนึง จะทำให้เราฉลาดขึ้นๆ นะคะ อย่าเอาแต่ว่าคนอื่น ถ้าตัวเองไม่เคยทำเรื่องผิดพลาดค่ะ

สู้ๆ ค่ะ เด็กศิลป์ เยี่ยม

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด