![](https://image.dek-d.com/contentimg/2015/moji/a-day-in-life/ep4/head.png)
สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com ... เจอกับ พี่เป้ และสกู๊ปพิเศษ A day in life ที่ที่จะพาน้องๆ ไปตามติดหนึ่งวันชีวิตการทำงานของอาชีพในฝัน มาดูดีกว่าว่าคราวนี้ เป็นอาชีพอะไรนะ
![](https://image.dek-d.com/contentimg/2015/moji/a-day-in-life/ep4/pic1.jpg)
หนึ่งอาชีพที่เป็นอาชีพในฝันของเด็กไทยคือ "ครู" ไม่ว่าจะกี่ปีผ่านไป ถ้ามีทำโพลอาชีพในฝันเมื่อไหร่ อาชีพครูติดอันดับท็อปๆ ตลอดเลยค่ะ เพราะฉะนั้นวันนี้เราจะไปบุก โรงเรียนหญิงล้วนชื่อดังย่านฝั่งธน เพื่อตามติดชีวิตของอาจารย์ท่านหนึ่งว่า ในหนึ่งวัน อาชีพครูต้องทำอะไรบ้าง?? ถ้าอยากรู้ก็ตามมาเลย
![](https://image.dek-d.com/contentimg/2015/moji/a-day-in-life/ep4/p1.png)
![](https://image.dek-d.com/contentimg/2015/moji/a-day-in-life/ep4/profile.png)
ชลทิพย์ บุนรังศรี(ปลื้ม)
มัธยมศึกษา : โรงเรียนสตรีอัปสรสวรรค์
ปริญญาตรี : คณะครุศาสตร์
สาขาการสอนสังคม
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ปริญญาโท : วิทยาลัยการจัดการ
สาขาการจัดการทรัพยากรบุคคล
มหาวิทยาลัยมหิดล
ปัจจุบัน : อาจารย์ประจำหมวดสังคมศึกษา
โรงเรียนศึกษานารี
เรามีนัดกันตั้งแต่เช้าที่โรงเรียนศึกษานารี(พี่เองก็จบที่นี่ล่ะ) กับอาจารย์ชลทิพย์ หรือ ครูปลื้ม^^ โดยครูปลื้มเป็นครูประจำหมวดสังคมศึกษา สอนวิชาประวัติศาสตร์ไทย และวิชาศาสนาเปรียบเทียบ นอกจากนี้ก็ยังเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของนักเรียนชั้น ม.4/8 ด้วยค่ะ
![](https://image.dek-d.com/contentimg/2015/moji/a-day-in-life/ep4/pic2.jpg)
![](https://image.dek-d.com/contentimg/2015/moji/a-day-in-life/ep4/inspired.png)
ครูปลื้มเล่าว่า ทั้งคุณพ่อและคุณแม่ต่างก็เป็นครูเหมือนกัน จึงรู้สึกคุ้นเคยกับการรับราชการครู แถมส่วนตัวก็ชอบเรียนวิชาสังคมอยู่แล้ว ตอนแอดมิชชั่นก็เลยเลือกครุศาสตร์เป็นอันดับ 1 เลย
![](https://image.dek-d.com/contentimg/2015/moji/a-day-in-life/ep4/pic3.jpg)
การเรียนในคณะครุศาสตร์จะใช้เวลา ทั้งหมด 5 ปี โดยในปี 5 จะต้องออกไปฝึกสอน ตลอดทั้งปี ครูปลื้มได้ไปสอนสังคมที่โรงเรียน สาธิตฯ จุฬาฯ ในสัปดาห์หนึ่งก็จะได้สอน ประมาณ 8 คาบ โดยจะมีครูพี่เลี้ยงคอยดูแล ประกบตลอดเวลาที่ทำการสอน ซึ่งในช่วงที่ ทำการฝึกสอนเนี่ยแหละ ครูปลื้มก็เริ่มรู้สึกว่า การควบคุมเด็กไม่ง่ายอย่างที่คิด! ความยากของการเป็นครูคือ จะพูดยังไงเพื่อที่จะจูงใจ ให้เด็กเชื่อฟังเราได้ ถ้าเด็กดื้อหรือซน จะทำยังไงให้เค้าหันมาสนใจเรียน (นั่นสินะ) นี่คือความยากที่เจอ
![](https://image.dek-d.com/contentimg/2015/moji/a-day-in-life/ep4/pic4.jpg)
![](https://image.dek-d.com/contentimg/2015/moji/a-day-in-life/ep4/pic5.jpg)
![](https://image.dek-d.com/contentimg/2015/moji/a-day-in-life/ep4/pic6.jpg)
หลังเรียนจบปี 5 จะได้ "ใบประกอบวิชาชีพครู" ซึ่งหากใครจบหลักสูตรเรียนครู 5 ปี ก็จะได้ใบนี้มาครอบครองโดยอัตโนมัติ (หากจบคณะอื่น ก็ต้องไปสอบกันเองนะ) และ 70% ของคนที่เรียนจบครู ก็เลือกที่จะเป็นครูกันแทบทั้งนั้น ครูปลื้มได้สมัครเป็น "ครูอัตราจ้าง" สอนสังคมที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา (ครูอัตราจ้างจะสมัครเข้าทำงานกับทางโรงเรียน โดยตรงเมื่อโรงเรียนเปิดรับสมัคร ไม่ได้ผ่านการสอบตามระบบราชการ) โดยการพิจารณาเพื่อรับเข้าสอนก็จะคล้ายๆ กับการสมัครงานตามบริษัท คือดูเกรดเฉลี่ย ดูประวัติ มีการพูดคุย สัมภาษณ์ ทดลองสอนให้ดู ครูปลื้มได้สอนอยู่ที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาประมาณ 1 ปีครึ่ง ก่อนจะลาออกมา
จากนั้นก็ถึงเวลาของการ "สอบบรรจุเพื่อรับราชการเป็นครู" โดยจะเป็นการสอบเจาะลึกถึงเนื้อหาของวิชาเอกที่เรียนจบมา อย่างครูปลื้มก็สอบวิชาสังคม เมื่อสอบผ่านจะมีขั้นตอนประมาณนี้
ทางโรงเรียนต่างๆ จะแจ้งมายังสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ว่าต้องการครูหมวดใดเพิ่มบ้าง
สมมติในเขตที่ไปสอบ มี 5 โรงเรียนยื่นความจำนงมาว่าต้องการครู 5 คน ทาง สพฐ. ก็จะเรียกตัวผู้ที่สอบได้ 5 อันดับแรกมา โดยคนที่สอบได้ที่ 1 ก็จะได้เลือกโรงเรียน ก่อนว่าอยากไปโรงเรียนไหน ไล่ลงมาเรื่อยๆ สมมติเราได้ที่ 5 แต่ดันเหลือโรงเรียนที่เราไม่ค่อยสะดวกที่จะไปสอน เราก็ต้องรอสอบใหม่เลย ไม่มีการนำโรงเรียนอื่นๆ มาให้เลือกนะจ๊ะ (เหมือนต้องแอบพึ่งดวงด้วยนิดนึง)
![](https://image.dek-d.com/contentimg/2015/moji/a-day-in-life/ep4/pic7.jpg)
ส่วนอันดับอื่นๆ ที่ยังไม่ถูกเรียกตัว ก็จะอยู่ในสถานะ "รอเรียก" จะมีการเรียกเป็นรอบๆ โดยคะแนนสอบเก็บไว้ได้ 2 ปี หากภายใน 2 ปีไม่ถูกเรียกตัว ก็ต้องสอบใหม่
ส่วนครูปลื้มถูกเรียกตัวในรอบที่ 2 และเลือกได้โรงเรียนศึกษานารี
ในการทำงาน 2 ปีแรก จะอยู่ในตำแหน่งครูผู้ช่วย เมื่อครบ 2 ปี จะมีการประเมินการสอน หากผ่าน ก็จะได้เลื่อนขึ้นเป็นครูและบุคลากรทางการศึกษา 1 หรือ ครู คศ.1 และจะมีการเลื่อนขึ้นเรื่อยๆ ตามผลงานจนถึง ครู คศ.5
![](https://image.dek-d.com/contentimg/2015/moji/a-day-in-life/ep4/pic8.jpg)
สำหรับ "วิชาที่จะได้สอน" นั้น หลักๆ ก็จะดูว่า ขาดครูหรืออาจารย์ในวิชาใด เราก็จะได้สอนวิชานั้นๆ เพราะตามหลักการแล้ว หากเรียนจบเอกการสอนสังคมมา ก็จะสอนได้ทุกวิชาที่เกี่ยวข้องกับสังคมศึกษาอยู่แล้ว ส่วนในปีการศึกษา 2559 ครูปลื้มรับหน้าที่สอน 2 วิชาคือ ประวัติศาสตร์ไทย และ ศาสนาเปรียบเทียบ ของระดับชั้นมัธยมปลาย
![](https://image.dek-d.com/contentimg/2015/moji/a-day-in-life/ep4/aday.png)
![](https://image.dek-d.com/contentimg/2015/moji/a-day-in-life/ep4/pic9.jpg)
หน้าที่ใน 1 วันของครูปลื้ม เริ่มต้นที่การมาถึงโรงเรียนประมาณ 7 โมงเช้า ในบางวันจะมีเวรเป็นครูประจำที่ประตูหน้าโรงเรียนเพื่อตรวจความเรียบร้อยของนักเรียนที่เพิ่งมาถึง
โรงเรียนจะเรียกนักเรียนเข้าแถวตอนประมาณ 7.30 น. พอเข้าแถวเสร็จ ก็จะมีการโฮมรูมกันเล็กน้อย สำหรับวันนี้ ครูปลื้มมีสอน 4 คาบ คือ คาบเช้า 2 คาบ คาบบ่าย 1 คาบ และคาบประชุมระดับ ม.4 อีก 1 คาบ ส่วนคาบไหนที่ไม่มีสอน ก็จะเตรียมการสอนไปเรื่อยๆ
หน้าที่ทุกๆ วัน ก็จะคล้ายๆ ประมาณนี้ ถึงแม้จะไม่ได้หวือหวามาก แต่ถือเป็นงานไม่มี ความกดดัน ไม่มีการแข่งขันให้เครียด นี่คือหนึ่งในเสน่ห์ของอาชีพครู
![](https://image.dek-d.com/contentimg/2015/moji/a-day-in-life/ep4/pic10.jpg)
เรื่องหนึ่งที่หลายคนสงสัยมากคือ "เงินเดือน" หากเป็นครูที่บรรจุในระบบราชการ ตอนนี้เงินเดือนเริ่มต้นที่ 15,000 บาท เงินเดือนจะขึ้นทุกปี ปีละประมาณ 1,000- 2,000 บาท ส่วนครูตามโรงเรียนเอกชน อาจได้เริ่มต้นที่ 20,000 บาทขึ้นไป แต่อย่าลืมว่า หากเป็นครูในระบบราชการ ก็จะได้รับสวัสดิการต่างๆ เหมือนข้าราชการนั่นเอง ตอนเกษียณก็ได้เงินบำนาญด้วย
![](https://image.dek-d.com/contentimg/2015/moji/a-day-in-life/ep4/pic11.png)
![](https://image.dek-d.com/contentimg/2015/moji/a-day-in-life/ep4/pic12.jpg)
![](https://image.dek-d.com/contentimg/2015/moji/a-day-in-life/ep4/pic13.jpg)
![](https://image.dek-d.com/contentimg/2015/moji/a-day-in-life/ep4/pic14.jpg)
![](https://image.dek-d.com/contentimg/2015/moji/a-day-in-life/ep4/pic15.jpg)
![](https://image.dek-d.com/contentimg/2015/moji/a-day-in-life/ep4/pic16.png)
ครูปลื้มบอกว่า ส่วนมากคนที่เป็นครูในระบบราชการ ก็จะชินกับชีวิตในโรงเรียน คือวันๆ หนึ่งแทบไม่ต้องใช้เงินอะไรมากมาย อาหารโรงเรียนก็จานละ 20-25 บาท บางวันใช้เงินแค่ 60-70 บาทก็เพียงพอ เสื้อผ้าก็ไม่จำเป็นต้องซื้อตามแฟชั่น ดังนั้นด้วยหน้าที่งานต่างๆ จะทำให้ครูส่วนมากไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้จ่ายฟุ่มเฟือยอะไรมากเป็นพิเศษอยู่แล้ว เงินเดือนระดับนี้ถือว่าพอใช้สบายๆ
![](https://image.dek-d.com/contentimg/2015/moji/a-day-in-life/ep4/pic17.jpg)
![](https://image.dek-d.com/contentimg/2015/moji/a-day-in-life/ep4/pic18.jpg)
![](https://image.dek-d.com/contentimg/2015/moji/a-day-in-life/ep4/pic19.jpg)
![](https://image.dek-d.com/contentimg/2015/moji/a-day-in-life/ep4/pic20.jpg)
อีกคำถามที่หลายคนอยากรู้คือ ปิดเทอม ต้องมาทำงานมั้ย? หากเป็นปิดเทอมเล็กช่วงเดือนตุลาคม ครูจะได้หยุดประมาณ 2 สัปดาห์ ส่วนปิดเทอมใหญ่จะทำงานถึง 30 มีนาคม จากนั้นจะได้หยุดแทบทั้งเดือนในเดือนเมษายน พอเข้าเดือนพฤษภาคมก็ต้องเริ่มมาทำงานบ้าง เช่น เตรียมการสอน ทำความสะอาดห้อง เพื่อเตรียมต้อนรับเปิดเทอม ซึ่งในช่วงที่หยุดนั้นก็ได้เงินเดือนตามปกติด้วยนะ
![](https://image.dek-d.com/contentimg/2015/moji/a-day-in-life/ep4/pic21.jpg)
![](https://image.dek-d.com/contentimg/2015/moji/a-day-in-life/ep4/qualification.png)
เอาใจใส่และมีความห่วงใยนักเรียน ในวันๆ หนึ่งนักเรียนอยู่โรงเรียนนานพอๆ กับอยู่บ้าน ครูจึงแทบจะเหมือนแม่อีกคน เวลาเด็กมีปัญหาอะไร ก็จะนึกถึงเราเป็นคนแรก "ครูคะ หนูโดนน้ำร้อนลวก ครูพกยาสีฟันมั้ย?" "ครูคะ เพื่อนทะเลาะกัน ไปดูให้หน่อย" แถมสมัยนี้เด็กก็กล้าพูดคุยกล้าสนิทกับครูมากขึ้นกว่าแต่ก่อน ดังนั้นเด็กๆ จะไลน์มาปรึกษานั่นนี่บ่อยมาก เราจึงต้องพร้อมที่จะดูแลและติดตามนักเรียนของเราอยู่เสมอ
อัพเดตข้อมูลใหม่ๆ เพื่อให้ทันเด็กยุคใหม่ ให้ทันสังคม จะได้คุยกับเด็กรู้เรื่อง มีลูกล่อลูกชนให้เด็กสนใจในสิ่งที่เราจะสอน
ตรงต่อเวลา เพราะงานต่างๆ จะเป็นตารางเวลาที่กำหนดไว้แล้ว เช่น เข้าสอนตอน 10.20 น. ก็ต้องตรงเวลาตามนั้น ไม่ควรสาย
![](https://image.dek-d.com/contentimg/2015/moji/a-day-in-life/ep4/pic22.jpg)
![](https://image.dek-d.com/contentimg/2015/moji/a-day-in-life/ep4/pic23.jpg)
พร้อมที่จะสอนหรือปรับความคิดให้นักเรียนคิดเป็น เช่น เห็นเด็กเล่นโทรศัพท์มือถือ ระหว่างที่กำลังสอน เราจะพูดยังไงให้เด็กคิดได้ ให้เขาหันกลับมาสนใจสิ่งที่ครูพูด
พร้อมที่จะพัฒนาตัวเอง ครูปลื้มบอกว่า แต่ก่อนครูปลื้มเป็นคนที่ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง แค่ออกไปยืนพูดหน้าห้องก็เหงื่อแตกแล้ว แต่เมื่อใจรักในอาชีพนี้ ก็ต้องปรับตัวเป็นการใหญ่ จนมีความมั่นใจมากขึ้น กล้าพูดหน้าชั้นในฐานะครูได้อย่างไม่ตื่นเต้นอีกแล้ว
![](https://image.dek-d.com/contentimg/2015/moji/a-day-in-life/ep4/pic24.jpg)
ปิดท้ายด้วยการถามครูปลื้มว่า อะไรคือเสน่ห์ของอาชีพครู? ครูปลื้มตอบว่า "นักเรียน" โดยเฉพาะเด็กๆ ในวัยมัธยมเป็นวัยที่กำลังน่ารักสดใส เด็กทุกคนจะมีความน่ารักในตัวเอง เวลาเห็นแล้วทำให้เรารู้สึกสดชื่น อยากจะสอนเขา และพอเวลาผ่านไป เราจะเห็นการ เปลี่ยนแปลง เห็นการพัฒนาของนักเรียนที่เราสอน เห็นเขาประสบความสำเร็จหรือได้ดี ครูอย่างเราจะยิ่งรู้สึกภูมิใจมากๆ เลย
![](https://image.dek-d.com/contentimg/2015/moji/a-day-in-life/ep4/pic25.jpg)
![](https://image.dek-d.com/contentimg/2015/moji/a-day-in-life/ep4/pic26.jpg)
เป็นยังไงบ้างคะ A day in life of Teacher หลายคนคงเข้าใจถึงบทบาทอาชีพครู มากขึ้น แม้จะดูเป็นงานที่ไม่มีความซับซ้อนและคนส่วนมากก็มองออกว่าครูมีหน้าที่อะไร แต่พอได้ไปสัมผัสเองจริงๆ ก็รู้สึกว่าเป็นอาชีพที่มีเกียรติมากและต้องทุ่มเทเวลาให้กับ นักเรียนมากจริงๆ ทางเว็บไซต์์ Dek-D.com ต้องขอขอบพระคุณทางโรงเรียนศึกษานารี และอาจารย์ชลทิพย์ บุนรังศรี ที่ให้โอกาสทีมงานได้เข้าไปถ่ายทำภายในโรงเรียน ส่วนตอนหน้า A day in life จะพาไปติดตามชีวิตใน 1 วันของอาชีพอะไร ต้องรอติดตามจ้า
![](https://image.dek-d.com/contentimg/2015/moji/a-day-in-life/ep3/past.png)
![](https://image.dek-d.com/contentimg/2015/moji/a-day-in-life/ep4/banner.jpg)
![](https://image.dek-d.com/contentimg/2015/moji/a-day-in-life/ep4/foot.png)
48 ความคิดเห็น
ผมก็แอดครูไป 4 อันดับเรามีความฝัน อยากเป็นครู เพราะชอบสอนเด็ก รู้สึกว่าถ้าสังคมมีคนอยากเป็นครูเยอะๆก็ดี เราถือคติที่ว่าครูดี 1 คนเปลี่ยนชีวิตเด็กไดัเป็นหมื่น เพราะฉะนันไม่มีเหตุผลใดๆ ที่ผมจะไม่รักอาชีพนี้..... hamezazaza@gmail.com
เคยเรียนกับครูปลื้ม ตอนที่ครูปลื้มสอนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาค่ะ
ถ้าจำไม่ผิด ตอนนั้นน่าจะเรียนชั้นม. 5
คุณครูน่ารักมาก ๆ ใจเย็น ใจดี และเป็นกันเอง ใจเย็นเสียจนเวลาเราดื้อ หรือเกเร เราจะรู้สึกเกรงใจครูปลื้มเอง โดยที่ครูปลื้มยังไม่ทันตำหนิเลย
ตอนเรียนกับครูสนุกและก็ตลกมาด้วย 5555
ครูปลื้มน่ารักมากค่ะเป็นครูที่ปรึกษาเราตอนม.4 ครูปลื้มใจดีไม่ดุ มีเหตุผลในการพูดกับนักเรียนทุกคน เป็นเหมือนพี่สาว มีไรปรึกษาครูปลื้มได้ทุกเรือ่งค่ะ จริงตอนนี้ก็ดูครุศาสตร์ไว้เหมือนกันค่ะ เอกสังคม เหมอืนครูปลื้มเลย![เยี่ยม](https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/bb-01.png)
![แน่นอน](https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/bb-02.png)
![เย้](https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/bb-06.png)
ผมแอดครูสี่อันดับเลยครับ 55 ผมว่าอาชีพนี้เหมือนจะง่าย แต่ก็ไม่ง่ายเลยครับ การที่เราต้องสอนเด็กหลายสิบคนในเวลาเดียวกัน ถ้าเราถ่ายทอดความรู้ผิดไปนิดเดียว นิดเดียวที่ผิดของเรา เท่ากับทั้งชีวิตของเด็กหลายสิบคนนั้นเลย ครูที่รร.เคยถามผมว่า สอบได้คะแนนน้อยขนาดนี้ จะเป็นครูได้หรอ ผมก็ตอบไปว่า แค่เป็นครูเอง ทำไมต้องเก่งขนาดนั้น โดนตอบกลับมาว่า "ก่อนที่จะสอนคนอื่นได้ เอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะ ไม่ใช่แค่รอดแบบหวุดหวิด แต่ต้องมั่นใจว่าเรารู้จริง อธิบายได้ " บอกตรงๆว่าประโยคนี้ทำให้ผมอ่านหนังสือแบบข้ามวันข้ามคืนเลย killerkater46@gmail.com
คืออยากเป็นครูภาษาอังกฤษนะค่ะ แต่ก็สงสัยว่าเป็นครูนี่ต้องทำอะไรบ้าง มีการสอบอะไร พอมาอ่านถึงจะคนละเอกวิชาสอนนะค่ะ แต่พออ่านแล้วเข้าใจหายสงสัยเลยค่ะ มีความมั่นใจในการที่จะสอบเป็นครูมากขึ้นค่ะ
ตอนนี้ก็อยากเป็นครูค่ะ อีกสามปี จะเข้าครูให้ได้! รู้สึกว่าอาชีพครูเป็นอาชีพที่มีเกียรติ เป็นเหมือนกับพ่อแม่คนที่สอง ทุกวันนี้เจอหน้าครูบ่อยกว่าพ่อแม่อีกค่ะ5555 เห็นครูแต่ละท่านตั้งใจถ่ายทอดความรู้ให้นักเรียน เพื่อให้มีอนาคตดีดี เลยคิดอยากเป็นครู เพราะอยากช่วยให้เด็กๆได้ประสบความสำเร็จ ได้ทำตามความฝัน Mei.mei.jiong@gmail.com
เราอยากเป็นครูมาตั้งแต่เด็กๆ เหมือนตอนนั้นเราคิดได้แค่ว่า เราอยากจะเล่นกับเด็ก และครูยังได้ตีเด็กด้วย เราก็เลยอยากเป็นครูตลอดมา แต่แล้วพอเราเริ่มโตขึ้น แล้วก็อาเราเป็นครูก็เลยมีโอกาสไปช่วยอาบ้างบางครั้ง ช่วงซัมเมอร์ ทำให้เราเปลี่ยนความคิดไป ว่าาคนเป็นครูไม่ได้มีหน้าที่เเค่ดูแลเด็ก แต่ต้องทำหน้าที่เป็น "พ่อและแม่" ของเด็กด้วย และคนเป็นครูไม่ใช้ทำหน้าที่แค่แปดโมงเช้าจนโรงเรียนเลิก แต่ต้องทำงานไปตลอด24ชั่วโมงเลยและครูยังต้องเป็นบุคคลที่มีความพร้อมและความทุ่มเท ที่จะทำให้ชีวิตของเด็กคนหนึ่งเดินไปในทางที่ถูกต้องอีกด้วย
ตอนนี้ เป็นนักศึกษาครูปี4 บอกได้เลยว่า ไม่ใช่ใครก็เป็นครูได้ ต้องหล่อหลอมมาตลอดระยะเวลา5ปี ทั้งจิตใจ ความรู้ เทคนิคการสอน กระบวนการทางวิชาการ ฉะนั้นความมุ่งหวังอยากจะเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเด็ก ไม่ใช่เพียงแค่สอนหนังสือให้ความรู้ แต่มันคือทุกอย่าง เด็กนักเรียนจะมองครูเป็นเหมือนต้นแบบดังคำว่าแม่พิมพ์จริงๆ อยากให้น้องๆม.ปลายที่อยากจะเข้าคณะสายครูที่อยากเป็นครูได้ลองสำรวจตัวเอง ถ้าชอบ ถ้าคิดว่าใช่ เราจะเป็นคนวางรากฐานที่ดีให้กับเด็กเอง
อ่านกระทู้แล้วรู้สึกมีความมั่นใจในตัวเองมากๆเลยค่ะ^^เพราะคิดไม่ผิดเลยจิงๆที่อยากจะเรียนครู เพราะเราเองก็อยากเป็นครูมาตั้งแต่ป.1