ซิ่วยังไงให้ติดชัวร์! 5 คำถามสำคัญที่เด็กซิ่วต้องตอบให้ได้!!

          สวัสดีค่ะน้องๆ Dek-D สังเกตไหมว่าเวลาอ่านบอร์ดแอดมิชชั่นในเว็บเด็กดี กระทู้ที่ติด Top บ่อยๆเลยก็คงจะไม่พ้นกระทู้ "เด็กซิ่ว" มีทั้งแชร์ประสบการณ์ สับสน มีความสุข หลากหลายเรื่องราว วันนี้พี่อาตูจึงรวบรวมประสบการณ์รุ่นพี่ และเทคนิคการเตรียมตัว รวมถึงกำลังใจเล็กๆน้อยๆมาฝากน้องๆที่ทั้งเป็นเด็กซิ่วเต็มตัว เตรียมตัวจะซิ่ว หรือแอบคิดไว้บ้าง หากน้องตัดสินใจจะซิ่วจริงๆ "ตอบคำถามเหล่านี้ให้ได้!" ไม่ต้องตอบใคร แต่ตอบใจเราเอง พร้อมแล้ว ไปกันเลย

 

"ซิ่วเพราะอะไร?"

          คำถามแรกสำคัญที่สุด เป็นคำถามวัดใจเลยว่า เราจะซิ่ว หรือ ไม่ซิ่ว การตัดสินใจไม่จำเป็นต้องเกิดจากเหตุผผลเดียว แต่จำเป็นต้องมีเหตุผล และแน่ใจว่านั่นไม่ใช่ "ข้ออ้าง" ที่ทำให้เราหนีปัญหา น้องๆลองทบทวนสิว่า ทำไมเราถึงซิ่ว? เรามีเหตุผลอะไรในการซิ่ว? ไม่ต้องกังวลว่าคำตอบจะสวยหรูไหม หรือคำตอบจะโดนใจพ่อแม่หรือเปล่า แต่ต้องตอบให้ได้ เช่น

          - เรียนยังไงก็ไม่รอดแล้วคณะนี้ ขอซิ่วก่อนโดนรีไทร์
          - เพิ่งรู้ตัวเองจริงๆว่าอยากเป็นอะไร ถ้าไม่ซิ่วไปคณะที่ว่าเราคงเสียใจไปตลอดชีวิต
          - คณะที่เรียนอยู่มันไม่ใช่ เรียนไปก็ไร้ใจ

          ถ้าน้องๆตอบคำถามนี้ได้ และมีความมั่นใจในคำตอบของตัวเอง น้องก็จะรู้สึกได้ว่าตัวเองควรซิ่วจริงๆ และมีแรงฮึดในการเตรียมตัวสอบอีกครั้ง แต่ในทางกลับกัน หากตอบคำถามนี้ด้วยความไม่มั่นใจ น้ำเสียงแผ่วเบาเหลือเกิน ก็อาจเป็นสัญญาณว่าการซิ่วคงไม่ใช่คำตอบของเราจริงๆสำหรับปัญหานี้
 

"ซิ่วแล้วไปไหน ?"

          พี่อาตูเชื่อว่ากว่า70%ของเด็กซิ่วรู้อยู่แล้วว่า อยากซิ่วไปคณะอะไร? แต่ก็มีอีกหลายคนที่ซิ่วโดยไร้จุดหมาย หรือไม่มั่นใจในปลายทาง คำถามนี้คือการมองไปข้างหน้าหลังจากที่เราตัดสินใจซิ่วแล้วในข้อที่ผ่านมา เหมือนกับน้องถอดเสื้อที่อึดอัดออก คำถามคือแล้วเราจะใส่เสื้ออะไรที่มันเข้ากับเรามากกว่า เพราะคงไม่มีใครเดินเปลือยกายไปข้างนอกแน่ๆ เอาล่ะมาตอบคำถามในข้อนี้กันว่า ซิ่วแล้วไปไหน?...ไปยังไงได้บ้าง?
          - คณะที่จะซิ่วไปคือคณะอะไร ?
          - ทำไมต้องเป็นคณะนี้ ?  


"เตรียมตัวยังไง?" 

          การซิ่วก็คือการที่เราต้องเผชิญหน้ากับสนามสอบอีกครั้ง เตรียมตัวอีกครั้ง และลุ้นผลอีกครั้ง แต่ในครั้งนี้เรามีความหวังมากขึ้น แรงกดดันเยอะขึ้น และอาจต้องปรับเปลี่ยนแผนบ้างเพื่อให้ วันนี้พี่อาตูมีสูตรในการซิ่วมาฝาก โดยรวมๆส่วนใหญ่มักจะอยู่ใน 3 สูตรนี้

- สูตรเทหมดหน้าตัก : ทุ่มสุดตัวไม่ขอไปต่อหากไม่ได้ที่หวัง 
         สูตรนี้คือเด็กซิ่วที่ขอยุติการเข้ามหาวิทยาลัยไว้ก่อน หากไม่ได้คณะที่หวัง ซึ่งถ้าเรียกว่าเดิมพัน นับเป็นเดิมพันที่สูงมากเลยทีเดียว แต่ส่วนใหญ่ก็แลกมากับคณะที่ต้องใช้ความพยายามสูงอย่างแพทยศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ เป็นต้น 

          ข้อควรระวังสำหรับคนเลือกสูตรนี้ ต้องทุ่มเทจนสุดตัวจริงๆ ไม่อย่างนั้นเวลาที่เสียไปจะมีค่าเท่ากับศูนย์ และอย่าลืมว่าเราเลือกวิธีนี้เพื่ออะไร แน่นอนว่าไม่ใช่เพื่อการดูซีรีย์ หรือเล่นเฟสบุกแน่ๆ

- สูตรแบ่งรับแบ่งสู้ : เรียนไปด้วยซิ่วไปด้วย ได้ก็ดี ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร 
          เป็นสูตรที่เห็นได้เยอะที่สุดของเด็กซิ่วคือ ตัดสินใจซิ่ว แต่ก็ขอเรียนต่อในคณะที่สอบติดไปด้วยแล้วกัน เพื่อไม่ให้เสียเวลา เผื่อได้สังคม ได้เพื่อน ได้ประสบการ์ไม่ให้เวลาผ่านไปเฉยๆ

         
ข้อควรระวังสำหรับคนเลือกสูตรนี้ เวลาของคนเรามีเท่ากันแต่ใช้ไม่เหมือนกัน เลือกทางนี้อาจจะหนักหน่อยเพราะเป็นอารมณ์แบ่งรับแบ่งสู้ หนังสือสอบที่มหาวิทยาลัยก็ต้องอ่าน หนังสือเตรียมสอบเพื่อซิ่วก็ต้องลุย แบ่งเวลาให้ดีๆนะ

-สูตรหล่อสวยเลือกได้ :คะแนนสูงอยู่แล้วแค่เลือกผิดไปหน่อย 
          สูตรนี้ถึงจะมีไม่เยอะ แต่ก็มีสำหรับคนที่คะแนนอยู่ในระดับหล่อ สวยเลือกได้ แต่รอบที่ผ่านมาดันเลือกผิด อาจจะผิดคณะ ผิดอันดับไปหน่อย ดังนั้นในการซิ่วครั้งนี้อาจจะไม่กดดันมากด้วยคะแนนที่ดูจากสถิติแล้วไหวแน่ ได้ชัวร์

          
ข้อควรระวังสำหรับคนเลือกสูตรนี้ ให้มั่นใจว่าการซิ่วของเราตอบโจทย์ในชีวิตของเราจริงๆ ไม่ใช่เพราะเห็นว่าคะแนนสูงน่าจะเลือกคณะโน้นมากกว่าคณะนี้ และที่สำคัญคือการเตรียมตัวให้พร้อม เพราะรุ่นหลังๆอาจมีคะแนนสูงกว่าเราก็ได้ 
 

"คนรอบข้างคิดเห็นอย่างไร?"

          อีกหนึ่งคำถามสำคัญที่บางทีก็เป็นคำถามตัดสินชะตาชีวิตของเด็กซิ่วบางคน เป็นคำถามที่มีผลต่อการซิ่วเป็นอย่างมากเหมือนกัน นั่นก็คือ ในครอบครัวคิดเห็นอย่างไรกับการซิ่วของเรา? หลายคนอยากซิ่วแต่ไม่ได้ซิ่วเพราะคุณพ่อคุณแม่ไม่อนุญาต หรือบางคนก็กดดันมากเพราะที่บ้านคอยจับจ้องอยู่เสมอว่าจะรอดไหมสนามนี้  บางคนครอบครัวสนับสนุนพร้อมให้กำลังใจ บอกเลยว่าหากอยากซิ่วจริงๆต้องรู้จักเคลียทางให้เป็น คือการทำความเข้าใจกับคนในครอบครัวด้วย ว่าเรามีเหตุอะไร และผลจะเป็นอย่างไร และขอความร่วมมือให้เคารพการตัดสินใจของเรา

 


"ถ้าผลไม่เป็นอย่างที่หวัง จะทำอย่างไรต่อไป?"

          ตอบข้อนี้ได้ ก็หายห่วงเลย นี่ไม่ใช่บั่นทอนกำลังใจแต่อย่างใดนะ สิ่งที่พี่อาตูต้องการสื่อก็คือ เรามีแผนเตรียมพร้อมสำหรับทุกสถานการณ์แล้วหรือยัง? ช่วงเวลาในการซิ่วก็ยาวนาน อาจจะมีการผิดแผนขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ได้ ทั้งเตรียมตัวไม่เต็มที่อย่างที่หวัง สอบไม่ได้ตามเป้าหมาย พ่อแม่กลับลำไม่อนุญาตให้ซิ่วแล้วจะทำอย่างไร แต่บางคนก็ตอบคำถามข้อนี้ได้ดีนะ นั่นก็คือ ในเมื่อตัดสินใจซิ่วแล้ว จะไม่ยอมให้เกิดคำถามข้อนี้ขึ้นเด็ดขาด จะไม่ยอมให้ผลไม่เป็นอย่างที่หวังเด็ดขาด เยี่ยมจริงๆ

          
สรุปเลยก็คือพี่อาตูมีคติที่ว่า สิ่งไหนเกิดขึ้นแล้ว สิ่งนั้นดีเสมอ หากเราตัดสินใจแล้วก็อย่าหันหลังกลับไป เดินไปข้างหน้าให้ดีที่สุด เพราะถ้าห่วงหน้าพะวงหลัง สุดท้ายอาจจะไปไม่ถึงไหนเลยสักทาง ในเมื่อเลือกแล้วก็ต้องทำให้เต็มที่ เป็นกำลังใจให้น้องๆทุกคนที่ค้นหาตัวเองเจอ และกล้าที่จะท้าทายเพื่อไปสู่เป้าหมายนั้น ส่วนใครที่ยังสับสน ค้นหาตัวเองไม่เจอ ก็มางานนี้ได้ Dek-D Admission On Stage ตอน แผนสู้ศึก 12 คณะท๊อปฮิตวิทย์ศิลป์ เจาะลึกทุกคณะพร้อมเจอรุ่นพี่ตัวเป็นๆ ได้พูดคุยให้รู้กันไปเลยว่า ใช่ หรือ ไม่ใช่ ไม่ต้องรอซิ่ว! 
พี่อาตู

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

2 ความคิดเห็น

I_am_Kuslin Member 9 ส.ค. 58 12:59 น. 1

ตัวเองก็เป็นเด็กซิ่วนะคะ ซิ่วตอนมัธยมค่ะ คิดมาตั้งแต่เรียนอยู่อีกสายแล้วว่าอยากซิ่ว ยังไงๆ สายนี้ก็ไม่ใช่ คิดแบบที่พี่อาตูบอกทุกอย่าง ตั้งแต่หาเหตุผลว่าจะซิ่วทำไม (ก็มันไม่ใช่นี่นา ยังไงก็ไปไม่รอด คิดแบบชัดเจนมากค่ะ) อย่างที่สองคือซิ่วแล้วไปไหน (อยู่โรงเรียนเดิมค่ะ แต่ไปสายที่ใช่กว่า จะได้ไม่ต้องปรับตัวมากและที่โรงเรียนเดิม สายที่อยากเข้าก็ดีไม่แพ้โรงเรียนไหนค่ะ) เตรียมตัวยังไง? (ใช้สูตร 3 ค่ะ คะแนนทุกอย่างผ่านหมด เหลือแค่รอมอบตัวในสายใหม่เท่านั้นเอง) คนรอบข้างคิดเห็นอย่างไร (ตั้งแต่พ่อแม่ คุณครู เพื่อน พี่ รุ่นน้องทุกคนเห็นด้วยหมดค่ะ สบายเลย วันนี้ตัดสินใจซิ่ว พรุ่งนี้ก็ทำเรื่องได้เลยค่ะ ผ่านฉลุย ขอบอกว่าคนรอบข้างคิดอย่างไรก็ไม่เท่าใจตัวเองคิดหรอกค่ะ ส่วนตัวตอนจะซิ่วก็มีหลายคนบอกเหมือนกันว่าไม่ต้องซิ่วหรอก เสียเวลา แต่ตัวเองยืนกรานว่าต้องซิ่วค่ะ ก็เลยจบลงที่เรียนซ้ำชั้นอีกปีหนึ่ง) ถ้าผลที่ได้ไม่เป็นดังหวัง จะทำยังไง (ข้อนี้ไม่ได้กังวลเลยค่ะ เพราะอยู่โรงเรียนเดิม คุ้นกับคุณครูดีอยู่แล้ว เลยติดแน่นอน 100%)

ตอนนี้ซิ่วแล้วมีความสุขมาก มาเรียนกับรุ่นน้องไม่ใช่ปัญหาเลยค่ะ ปรับตัวได้สบายมาก ใครที่คิดอยากจะซิ่วอย่ากังวลเรื่องเพื่อนเลยค่ะ รุ่นน้องก็ห่างกับเราไม่กี่ปี เป็นเพื่อนสุดซี้กันได้ง่ายมาก อิอิ รักเลย

เป็นกำลังใจให้เด็กซิ่วทุกคนนะคะ สู้ๆ ค่ะ ขอให้ประสบความสำเร็จ เรียนคณะที่ใช่กันทุกคนค่ะ 

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด