เปิดเคล็ดลับการอ่านฉบับ "ก๊อต" ให้สอบติดแพทย์ตั้งแต่รอบแรก!


          สวัสดีค่ะ เรียกได้ว่าเป็นฤดูกาลของการสมัครสอบรับตรงของเด็ก ม.6 เต็มรูปแบบแล้วนะคะ เพราะแต่ละมหาวิทยาลัยก็เริ่มปล่อยระเบียบการออกมาเรื่อยๆ เหลือเวลาในการอ่านไม่มากแล้ว ยิ่งใครที่สนใจสนามสอบของคณะแพทยศาสตร์ บอกเลยว่ายิ่งต้องเตรียมตัวเร็วกว่าเพื่อน เพราะสนามสอบของคณะนี้ มักจะเปิดรับเร็วกว่าคณะอื่นค่ะ
 

           วันนี้พี่อีฟเลยขอพาน้องๆ มารู้จักกับ Admission Idol และพูดคุยถึงเคล็ดลับการสอบให้ติด คณะแพทยศาสตร์ ม.ขอนแก่น (MD02) ที่บอกเลยว่าเป็นสนามสอบแรกๆ ของคณะนี้เลย มาดูกันว่า สอบเร็วขนาดนี้ พี่ก๊อต ภาณุพงศ์ รัตนศรีสร้อย มีวิธีเตรียมตัวยังไง ให้ติดแบบเป็นอันดับ 1 ! พร้อมด้วยเคล็ดลับการเรียนให้ได้ 4.00 ด้วย เก่งรอบด้านขนาดนี้ เราไปดูเคล็ดลับการอ่านของพี่ก๊อตกันเลยดีกว่าค่ะ

แนะนำตัวให้น้องๆ รู้จักกันหน่อยค่ะ
          สวัสดีครับ ผมชื่อ นายภาณุพงศ์ รัตนศรีสร้อย ชื่อเล่น ก๊อต ตอนนี้เพิ่งเปิดเทอมเลยครับ เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น สอบติดเข้ามาในรอบ MD02 ครับ ก่อนหน้านี้ เรียนจบชั้นมัธยมปลาย จากโรงเรียนอุดรพิทยานุกูล จ.อุดรธานี แผนการเรียนวิทย์-คณิต ห้องเรียนพิเศษ

มีสองคณะในใจ แต่ตัดสินใจเลือกหมอ
          มันเป็นช่วงเวลาตัดสินใจ ตอนจะขึ้น ม.6 ครับ เรารู้สึกว่าตอนนั้น เราต้องตัดสินใจเลือกแล้ว ว่าอยากจะเรียนอะไร จะได้วางแผนในการจะเตรียมตัวสอบแบบจริงจังๆ ก่อนหน้านี้เคยอยากเรียนสายนิเทศศาสตร์ เพราะชอบสื่อบันเทิง ชอบดูหนัง แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจ ก็ถามตัวเองมาตลอดว่า มีอย่างอื่นที่ชอบอีกไหม แล้วก็มาค้นพบว่า สุดท้ายลึกๆ เราอยากเป็นหมอด้วย เพราะเป็นคนที่ค่อนข้างเป็นห่วงคนอื่นมาก เช่น เราจะห่วงเพื่อนแบบอยากช่วยติวเพื่อน อยากช่วยคนนั้นคนนี้ตลอด แล้วก็มองถึงอนาคตว่าเป็นสายงานที่มั่นคง ก็มีสองคณะในใจแล้ว ตอนนั้นสองคณะก็ไม่ได้สอบพร้อมกันด้วย แพทย์ มข. จะสอบก่อน (โครงการ MD02 น่าจะเป็นสนามสอบแรกเลย) ก็เลยสอบแพทย์ก่อนครับ ปรากฏว่าเราสอบติด พอเราสอบติดแล้ว ความลังเลมันก็ลดลง เพราะคณะนี้ก็เป็นอีกคณะในใจเราเหมือนกัน เลยตัดสินใจยืนยันสิทธิ์ แล้วก็เลือกคณะนี้เลยครับ

ถ้ามีน้องมาปรึกษา เรื่องการค้นหาตัวเอง จะแนะนำยังไงบ้าง
          อยากให้น้องๆ ลองดูที่นิสัย ความคิด ความถนัดของตัวเองก่อน ให้ถามตัวเองก่อนว่าอยากเรียนสิ่งนั้นจริงๆ ไหม อย่าพยายามให้ความคิดคนอื่นมาครอบงำหรือกดดันเรา เอาสิ่งที่เราโอเคที่สุดครับ เพราะมันจะเป็นอนาคตของเราไปอีกยาวเลย จริงๆ ผมก็ไม่ปฏิเสธนะว่าเรื่องค่านิยมของแต่ละคณะมันก็มีอยู่จริงๆ ที่ผมเจอมาเลย ก็มีเพื่อนบางคนที่พ่อแม่ปลูกฝังเลยว่าให้เป็นหมอ แต่ส่วนตัวก๊อตก็ไม่ได้ยึดติดกับค่านิยมมากเท่าไหร่ เลือกตามที่ตัวเองอยากทำจริงๆ คงจะแนะนำให้น้องเลือกสิ่งที่เป็นตัวเองที่สุดครับ

คุยกับพ่อแม่ยังไงบ้าง กับคณะที่เราสนใจ
          พ่อแม่ก๊อตก็จะถามบ้างตั้งแต่เด็กๆ ครับ ว่าเราอยากเป็นอะไร ตอนเด็กๆ ก็ตอบเปลี่ยนไปหลายอย่างตามสไตล์เด็กเลยครับ 55555 อยากเป็นนั่น อยากเป็นนี่ พอเราโตแล้ว จะต้องเลือกแล้วก็ต้องพูดกันจริงจัง ตอนก๊อตบอกพ่อแม่ว่าอยากสอบหมอนะ พ่อกับแม่ก็ถามว่า อยากเป็นจริงๆ ใช่ไหม  งานมันหนักนะ จะไหวไหม สอบยากนะ พ่อกับแม่ก๊อตไม่เคยบังคับให้เป็นอะไร หรือบังคับให้เรียนอะไรเป็นพิเศษอยู่แล้วครับ อยากเรียนอะไรต่อหรือสนใจอะไร ก็สามารถปรึกษาหรือถามความคิดเห็นกับพวกท่านได้ตลอด ถือว่าโชคดีที่พ่อแม่ให้เราตัดสินใจด้านการเรียนได้เต็มที่ครับ
 

รับตรงแพทยศาสตร์ ม.ขอนแก่น เป็นยังไงบ้าง
          ก๊อตเข้ามาด้วย MD02 ครับ ซึ่ง MD02 คือ โครงการผลิตแพทย์ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา เป็นเหมือนรับตรงแพทย์โควตาพิเศษของ ม.ขอนแก่น ครับ ให้สิทธิ์เฉพาะเด็กภาคอีสาน เกรดเฉลี่ย 4 เทอม 3.00 ขึ้นไป ถึงจะมีสิทธิ์สอบครับ ถือว่าเป็นสนามสอบแพทย์และสนามสอบรับตรงสนามแรกๆ เลย ปีที่แล้วสอบประมาณต้นตุลา รับ 76 คนครับ 

ข้อสอบเป็นยังไงบ้าง วิชาไหนง่ายสุด วิชาไหนยากสุด
          MD02 สอบ 7 วิชาครับ ภาษาไทย สังคมศึกษาฯ ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา โดยทุกวิชาต้องคะแนนเกิน 30 คะแนน แล้วก็เฉลี่ยทุกวิชาต้องเกิน 50 คะแนน แล้วค่อยไปวัดอันดับกันต่อ ข้อสอบเป็น 5 ตัวเลือกครับ ซึ่งผมก็ตกใจเหมือนกัน ตอนแรกนึกว่า 4 ตัวเลือก ส่วนข้อสอบขอแบ่งพูดเป็นรายวิชานะครับ
          - คณิตศาสตร์ ก็ค่อนข้างยากครับ แต่จะทำไม่ทันมากกว่า 40 ข้อ 90 นาที ก๊อตนี่ทำไม่ทันเลย 5555 ปกติไม่ค่อยถนัดวิชาคำนวณอยู่แล้วด้วย เลยตั้งใจเข้าไปทำให้เกินคะแนนขั้นต่ำ ที่กำหนดก็พอ
          - ฟิสิกส์ สำหรับผมคือ ยากสุดเลย เหมือนเขาเพิ่งปรับให้คณิตฯ ง่ายลง (แต่ตอนนี้ก็ไม่ง่ายแล้ว) ให้ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ ยากขึ้น พี่ๆ ปีก่อนๆ บอกมาว่าฟิสิกส์นี่ง่ายๆ แทนสูตรตอบ พอมาเจอของปีนี้มันแบบ ยากมากๆๆๆ ก๊อตลนมาก เพราะไม่ได้เตรียมมาว่ามันจะยากขนาดนี้ เป็นวิชาแรกของวันแรกด้วย ทำเสร็จนี่ท้อเลย (ตอนนั้นกลัวตกคะแนนขั้นต่ำมาก)
          - เคมี ก็ค่อนข้างยากครับ แบ่งสัดส่วนของแต่ละบทเท่าๆ กัน
          - ชีววิทยา ต้องตีโจทย์ให้ออกครับ เพราะโจทย์จะไม่ใช่แบบมองเห็นโจทย์แล้วตอบได้เลย แต่จะมีหลายตัวเลือก แล้วถามข้อไหนถูก ข้อไหนผิด โชคดีที่ก๊อตถนัดวิชานี้ ก็เลยโอเคครับ ได้ประมาณ 80 คะแนน
          - ภาษาอังกฤษ ก๊อตคิดว่าไม่ยากมากนะ ถ้าเทียบกับสนามอื่นๆ เป็นแนวข้อสอบโควตามข. เก่าครับ ถ้าเราเคยฝึกทำก็จะทำได้ ค่อนข้างแฮปปี้วิชานี้ ได้ประมาณ 82 คะแนนครับ
          - ภาษาไทย กับ สังคมศึกษาฯ ก็จะเป็นแนวข้อสอบโควตา ม.ขอนแก่น ครับ ไทยจะมีบทความให้อ่าน ให้เราได้วิเคราะห์เยอะๆ แต่โดยรวมก็โอเคครับ ไม่ยากจนทำไม่ได้ แต่เราก็ยังกลัวจะไม่ถึงคะแนนขั้นต่ำในบางวิชา


การอ่านหนังสือทุกวันคือเคล็ดลับสำคัญ
          ใช่ครับ ก๊อตเริ่มจริงจังก็ตอนปิดเทอมใหญ่ขึ้น ม.6 ครับ ช่วงปิดเทอม เราก็ลงเรียนพิเศษเพิ่ม แล้วก็เริ่มทำสรุปเนื้อหาแต่ละวิชา จนเปิดเทอม ก็เริ่มอ่านหนังสือจริงจัง อ่านทุกวันครับ จะแบ่งเวลา ถ้าวันไหนงานเยอะก็จะอ่านน้อยหน่อย อ่านเท่าที่มีเวลาว่าง ถ้าวันไหนว่างมาก ก็จะอ่านได้มาก แล้วแต่วัน แต่ต้องอ่านทุกวันครับ ก๊อตเป็นคนอ่านเยอะๆ อัดๆ กันไม่ได้ เลยต้องทยอยอ่าน ให้ติดเป็นนิสัย ช่วงนั้นก็ยังเป็นคนที่ชอบเที่ยว ชอบดูหนัง แต่ก็ลดลงกว่าเดิม และถ้าดูหนังเสร็จ หรือเที่ยวเสร็จ กลับมาก็ต้องกลับมาอ่านต่อครับ แล้วก็ทำโจทย์หลังอ่านเสร็จหมด จับเวลาทุกครั้งด้วยครับ จะได้รู้ว่าตัวเองทำได้จริงๆ ทำได้แค่ไหน

สอบรับตรงที่อื่นอีกไหมคะ สอบที่ไหนบ้าง
          ถ้าเป็นคณะแพทยศาสตร์ ก็ไม่ได้สอบเลยครับ เพราะโครงการนี้เป็นโครงการแรก ถ้าติดแล้วมอบตัว จะตัดสิทธิ์ที่อื่นหมดเลย มีสมัครรับตรงแพทย์ ม.บูรพา ไว้ครับ แต่จำได้ว่าตอนนั้นผลสอบ MD02 ออกก่อนวันสอบ แพทย์ ม.บูรพา 1 วัน ก็เลยรีบวกรถกลับไปเลยครับ 55555 แต่ก็สอบ GAT PAT แล้วก็มีสอบโควตา ม.ขอนแก่น ครับ

ได้ยินมาว่าติดเข้ามาเป็นอันดับ 1 ของ MD02 ด้วย
          ใช่ครับ MD02 จะคิดคะแนนเป็นสัดส่วน คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา วิชาละ 15% ภาษาไทย สังคมศึกษาฯ วิชาละ 10% และภาษาอังกฤษ 20 % โดยแต่ละวิชาต้องเกิน 30 คะแนน แล้วก็คะแนนรวมเฉลี่ยต้องเกิน 50 คะแนน ตอนประกาศผล ก็ไม่ได้เรียงตามลำดับคะแนนครับ ตอนแรกก็ไม่รู้ว่าตัวเองได้อันดับไหน แต่หลังจากประกาศผล มันจะมีตารางคะแนนสูงสุด-ต่ำสุด ในแต่ละปีตามออกมา แล้วพอไปดูคะแนนสูงสุดก็ตรงกับคะแนนเฉลี่ยตัวเอง ก็ดีใจและตกใจมากๆ ครับ 5555

แนะนำวิธีฟิตคะแนนภาษาอังกฤษ กับชีววิทยา ที่เราทำได้คะแนนดี
          ตอน ม.ปลาย เราชอบชีววิทยาอยู่แล้วครับ ชอบจำนู่นจำนี่ มันเป็นวิชาที่ต้องอ่าน ต้องรู้ให้หมดถึงจะทำข้อสอบได้ เพราะข้อสอบจะถามอะไรก็ได้ ไม่มีแนวข้อสอบตายตัว เริ่มต้นก็จะอ่านหนังสือก่อนประมาณ 2 รอบ แล้วก็ทำโจทย์ ถ้าตรงไหนผิด ก็กลับไปอ่านซ้ำ ส่วนภาษาอังกฤษ เราก็ชอบมาตั้งแต่เด็กๆ ครับ เน้นทำโจทย์เยอะๆ ท่องศัพท์ ดูแนวของข้อสอบเก่าๆ ครับ
 

เทคนิคการอ่านหนังสือในแบบของก๊อตเป็นแบบไหน
          ถ้าในส่วนของการอ่าน เคล็ดลับของก๊อต คือ ต้องอ่านให้เข้าใจจริงๆ ครับ อย่าคิดแค่ว่าจะอ่านให้จบๆ ไป แต่ต้องอ่านจนกว่าจะเข้าใจ เหมือนเรื่องที่อ่าน เราต้องอ่านแล้วเคลียร์ให้ได้มากที่สุด ส่วนโจทย์ทำโจทย์ถ้าตรงไหนพลาดก็กลับมาทำซ้ำ หาโจทย์มาทำเรื่อยๆ ไม่คิดว่าที่อ่านอยู่พอแล้ว อ่านเพิ่มหรืออ่านซ้ำไปถ้ามีเวลาเหลือครับ

ประสบการณ์การสอบสัมภาษณ์เป็นยังไงบ้าง
       สอบสัมภาษณ์ จะมี 2 วัน ครับ วันแรกตอนเช้าจะได้ทำแบบทดสอบสภาพจิตใจ เหมือนเช็กว่าเราไม่ได้มีปัญหาทางจิตนะ ส่วนตอนบ่ายเป็นตรวจร่างกายทั่วๆ ไปครับ วันที่สองค่อยเป็นการสอบสัมภาษณ์จริงๆ โดยจะแยกสอบทีละคนในห้องเดี่ยว จะมีอาจารย์ 2-3 ท่าน ต่อเด็ก 1 คน คำถามก็จะเป็นคำถามทั่วๆ ไป เกี่ยวกับตัวเราก่อน แล้วต่อมาก็จะมีคำถามหลัก ให้เราจับสลากคำถามเพื่อตอบ ของก๊อตได้เกี่ยวกับการแชร์เรื่องราวลงโซเชียลมีเดียครับ เหมือนอาจารย์ต้องการรู้ทัศนคติของเราเฉยๆ ครับ ไม่เครียดมาก และอาจารย์ก็ใจดีด้วยครับ

สนามสอบ O-NET เป็นยังไงบ้าง เราเตรียมตัวแบบไหน
          สนาม O-NET ก็โอเคนะครับ เฉลี่ยรวม 79.3 คะแนน ที่ได้คะแนนดีๆ ก็จะมีคณิตศาสตร์ที่ได้ 95 คะแนน ซึ่งผมว่าคณิตฯ ง่ายนะครับ มันไม่ซับซ้อน และเน้นออกพื้นฐาน ช่วงการเตรียมตัวก่อนสอบ O-NET ต้องบอกว่า ผมแทบจะไม่ได้อ่านก่อนเลยครับ จริงๆ แล้วเหมือนถ้าเราตั้งใจอ่านให้จบตั้งแต่แรก ไม่ว่าจะสนามไหน เราก็จะมีความรู้พร้อมสอบอยู่เสมอครับ ผมเตรียมตัวจริงจังตั้งแต่ก่อนสอบ MD02 แล้ว และตลอดทั้งปีก็จะมีสอบตลอดให้เราทบทวนความรู้ตลอด เช่น สอบ GAT/PAT สอบปลายภาคในโรงเรียน ฯลฯ ทำให้ช่วงก่อนสอบ O-NET เราก็เลยอ่านผ่านๆ เน้นทบทวน และช่วงนั้นเป็นช่วงใกล้เรียนจบมัธยมฯ งานเยอะ กิจกรรมเยอะ เลยไม่ได้เตรียมตัวอะไรมากครับ

เกรดเฉลี่ย 4.00 มีเคล็ดลับการเรียนอะไรบ้าง
          สำหรับเกรด ถ้าที่สำคัญๆ เลย คือ ก๊อตจะพยายามส่งงานให้ทัน ส่งงานให้ครบ และพยายามสอบให้ผ่านทุกครั้งครับ คะแนนส่วนใหญ่ก็มาจากงานนี่แหละ ก๊อตจะแบ่งเวลาทำงานตลอด จะไม่ทิ้งเด็ดขาด เหมือนเราเคยได้เกรด 4.00 มาครั้งหนึ่ง ก็เราก็อยากรักษามันไว้ให้ได้นานๆ เลยกลายเป็นว่า เราก็ตั้งใจทำ ไม่ทิ้งเกรด ไม่ทิ้งการเรียนในห้อง จนเรียนจบชั้น ม.ปลาย เลยครับ

สุดท้ายฝากกำลังใจและการเตรียมตัวถึงน้องๆ
           ม.6 เป็นปีสุดท้ายของการเป็นนักเรียนแล้วนะครับ เป็นปีที่หนักที่สุดเลย อาจมีท้อบ้าง เครียดบ้าง เหนื่อยบ้างเป็นปกติ แต่ต้องตั้งใจครับ อยากเรียนอะไร ก็ตั้งเป้าไว้แล้วทำให้ได้ตามเป้าหมาย ความรู้สึกหลังสอบติด มันคุ้มมากสำหรับความพยายามครับ สู้ๆ นะครับน้อง :)
 

          เป็นยังไงกันบ้างคะกับเรื่องราวของพี่ก๊อต ที่การเรียนในห้องก็ไม่ทิ้ง ความฝันที่ตั้งเป้าหมายไว้ก็พยายามไปให้ถึง น้องๆ คนไหนที่มีความฝันเดียวกับพี่ก๊อต ก็อย่าลืมตั้งใจทำความฝันให้เป็นจริงนะคะ เหลือเวลาอีกไม่นานแล้วกับสนามสอบแรกของน้องๆ พยายามเท่านั้นนะคะ ถึงจะสำเร็จ สัปดาห์หน้าจะเป็นใคร อย่าลืมติดตามนะคะ
 
พี่อีฟ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

กำลังโหลด

4 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด