สวัสดีน้องๆ Dek-D ที่น่ารักทุกคนนะคะ ตอนนี้น้องเฟรชชี่ก็คงตบเท้าเดินขบวนพาเหรดเข้ามหา'ลัยในฝัน (ที่กลายเป็นความจริง) กันเป็นที่เรียบร้อยแล้วเนอะ ^^ เปิดเทอมใหม่ เป็นยังไงกันบ้างเอ่ย? เข้าเรียนไปกี่คาบแล้ว ช่วงเริ่มต้นนี้ พี่เมก้าขอบอกว่าเป็นระยะที่ต้องปรับตัวกันยกใหญ่จริงๆ


 
         เรื่องหนึ่งที่เชื่อว่าน้องๆ แอบหวั่นในอกก็คือไม่รู้จะเข้าทางอาจารย์มหา'ลัยยังไง รุ่นพี่ก็แอบขู่มาทุกรุ่นว่าต่างจากครูมัธยมโดยสิ้นเชิง เกิดทะเล่อทะล่าไปตีซี้แบบไม่รู้ทิศทาง มีหวังโดนตะเพิดออกมาแน่ เพื่อไม่ให้เสียเวลา ตามไปดู 7 วิธีปรับตัว เมื่อเจออาจารย์มหา'ลัย 7 รูปแบบ กันเลยดีกว่า!

รูปแบบที่ 1 อาจารย์สายโหด
         ช่วงอาทิตย์แรกของการเรียน น้องๆ เคยสังเกตมั้ยคะว่า เรามักจะได้เจอรุ่นพี่บ่อยกว่าอาจารย์ซะอีก (ความจริงก็เริ่มมาตั้งแต่รับน้องแล้ว^^) แถมเวลาเจอรุ่นพี่แต่ละครั้งก็มีเรื่องมาให้เสียวสันหลังได้ตลอดๆ โดยเฉพาะเรื่องเรียน รุ่นพี่มักจะแอบกระซิบ "ระวังวิชาขุ่นแม่ในตำนานนะ โหดมาก ปล่อย F ระนาว!" อื้อหือ! กิตติศัพท์เลื่องลือมากค่ะ ยิ่งพอได้มาเรียนมาเจอสายตาพิฆาตและเสียงฟ้าฟาดด้วยตัวเอง อุแม่เจ้า! ใจหล่นไปอยู่ตาตุ่ม

          อยากบอกว่าฟังคำขู่ไว้บ้างก็ดี แต่อย่าเชื่อไปซะทั้งหมด บางทีอาจารย์อาจจะไม่ได้โหดเหมือนข่าวที่ลือกันก็ได้นะ อย่างพี่เมก้าก็เคยเรียนกับอาจารย์ที่รุ่นพี่ร่ำลือว่าดุมากกก ให้คะแนนโหดมากกก แต่พอได้มาเรียนกับอาจารย์แล้วใจดีมากกก ก.ไก่ล้านตัว คืออาจารย์แค่หน้าดุ พูดจาฉะฉาน แล้วก็ไม่ค่อยยิ้มค่ะ น้องๆ ลองมาเจอของจริงก่อนแล้วค่อยกลัวดีกว่า อาจารย์สายโหดที่แท้จริง คือดุจริงจังค่ะ วิธีปรับตัวคือให้ไฟต์เลย ไม่ใช่ไฟต์แบบก้าวร้าวนะคะ ให้ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด รู้ว่าอาจารย์ให้คะแนนโหดก็ตั้งใจเรียนในห้อง ส่งงานให้ดีและครบ อ่านหนังสือหนักๆ เก็บ A มาได้แน่นอน!


รูปแบบที่ 2 อาจารย์สายฮา
         นิยามของอาจารย์สายฮา คืออาจารย์สอนสนุก ปล่อยมุกกระจาย เรียนแล้วพลินมากเลยค่ะ นั่งอยู่ในห้องเรียนแต่บรรยากาศเหมือนนั่งอยู่ในคาเฟ่ 555 อาจารย์จะให้ความเป็นกันเองกับนิสิตนักศึกษามาก จนเรารู้สึกว่าอาจารย์น่ารักจังเลย เหมือนครูมัธยมฯ ที่หนักยิ่งกว่านั้นคือ เหมือนเพื่อนรุ่นเดียวกันเลย O[]O! เพราะความคิดแบบนี้นี่แหละค่ะที่น่ากลัว คืออาจารย์มหา'ลัยก็คุยเล่นกับเราได้ แต่! ก็ไม่ใช่เล่นไปซะทุกเรื่องค่ะ ตีซี้มากไป เดี๋ยวจะกลายเป็นว่า "อาจารย์เป็นเพื่อนเล่นเธอเหรอ?"  มีสิทธิ์โดนอบรมยาวๆ ได้

         เรื่องปรับตัวเข้าหาอาจารย์สายฮา ความจริงพี่เมก้าไม่ค่อยกังวลเท่าไหร่นะคะ น้องๆ เข้าถึงอาจารย์ได้ง่ายอยู่แล้ว เพียงแต่อยากให้ระวังเกี่ยวกับการเล่นมากเกินไปเท่านั้นเอง อยากให้น้องๆ ลองคิดว่าตอนนี้เราโตขึ้นแล้วนะ เรียนจบก็เป็นผู้ใหญ่ต้องออกไปทำงาน หาประสบการณ์ชีวิตด้วยตัวเองแล้ว เราอยากจะกวนอารมณ์ แซวอาจารย์เล่นบ้าง บางทีท่านก็ไม่ได้ถือสาอะไรหรอกค่ะ เหมือนครูมัธยมฯที่ก็ออกแนวเอ็นดูเราเนอะ แต่ถ้าเล่นแรงไป พอมาคิดดูอีกทีก็ไม่สมควร ดังนั้น อย่าลืมให้เกียรติอาจารย์ด้วยนะคะ 


รูปแบบที่ 3 อาจารย์สายเนี้ยบ
         คล้ายว่าเรากับอาจารย์สายเนี้ยบจะมีเส้นกั้นบางๆ ระหว่างกันอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าน้องๆ เป็นคนไม่ค่อยเรียบร้อยสักเท่าไหร่ ยิ่งรู้สึกเหมือนเข้าไม่ถึงอาจารย์เลยค่ะ คืออาจารย์ระเบียบจัดมาก มากขนาดที่ว่า พฤติกรรมของนิสิตนักศึกษาทุกคนต้องดีงามทุกกระเบียดนิ้ว งานทุกชิ้นต้องทำอย่างเป็นจริงเป็นจัง สั่งแล้วต้องทำได้พร้อมส่ง เพราะอาจารย์ไม่มีทางมานั่งโทรศัพท์ทวงงานเราซ้ำซากแน่นอน ถึงกำหนดไม่ส่งงานก็เด็ดขาดถึงขั้นไม่มีสิทธิ์สอบ สอบตกก็ไม่มีตามแก้ค่ะ เรียกว่าเนี้ยบรองจากฝึกทหารเลย TOT  


 
         วิธีปรับตัวเข้าหาอาจารย์สายเนี้ยบคือ น้องๆ ต้องเลิกเกร็งก่อนค่ะ งัดมารยาทงามๆ ขึ้นมาใช้เลย พูดเพราะอ่อนหวาน เวลาขอคำปรึกษาจากอาจารย์ก็มือไม้อ่อน อ่อนน้อมถ่อมตนนิดหนึ่ง แล้วก็ "คิดก่อนพูดค่ะ" อาจารย์จะเอ็นดูเรามากขึ้น (แต่อย่าคิดนานนะ! ^^' เดี๋ยวอาจารย์รู้ว่าเรากลัวจนหงอ) ส่วนเรื่องงานกับสอบ ถ้ารู้ว่าอาจารย์เนี้ยบ น้องๆ ก็ต้องให้ความสำคัญกับงานกับการอ่านหนังสือสอบมากขึ้นค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ได้หมายความว่าให้ตั้งใจทำแค่วิชานี้นะคะ วิชาอื่นก็สำคัญ แต่เคสนี้ขอให้ตั้งใจเป็นพิเศษนิดหนึ่งค่ะ

รูปแบบที่ 4 อาจารย์สายธรรม
         อาจารย์สายธรรมคืออะไร? นิยามนี้พี่เมก้าได้มาจากตอนเรียนเลยค่ะ คือบุคลิกของอาจารย์จะมีความน่าเคารพเลื่อมใสมาก เรียกว่ามาทางสายธรรมะเลยค่ะ เวลาสอนมีความใจดีใจเย็น น้ำเสียงนุ่มนวล เนิบๆ เรียกนักศึกษาว่าลูกทุกคำ ไม่ฮาร์ดคอร์มากมาย ซึ่งพอได้ยินแบบนี้แล้ว น้องๆ ก็อาจจะงงใช่มั้ยคะว่า ต้องมีอะไรให้ปรับตัวอีก? ความจริงเรื่องปรับตัวก็มีอยู่นิดหนึ่งค่ะ แต่ที่สำคัญเลยคือน้องๆ ต้องรู้วิธีวางตัวให้เป็นศิษย์ที่น่ารักของอาจารย์

         เรื่องที่ต้องปรับตัวเป็นอย่างแรกคือเวลาเรียนเลยค่ะ ส่วนใหญ่พอน้องๆ เห็นว่าอาจารย์มาแนวน่ารักนุ่มนิ่ม สอนเรื่อยๆ เราก็มักจะชิลล์เกินไป จนหลับไปเลย ผลคือเรียนไม่รู้เรื่อง ดังนั้น เวลาเจออาจารย์สายธรรม พยายามกระตุ้นตัวเองขึ้นมาให้ตั้งใจเรียนมากขึ้น อาจารย์ใจดีอยู่แล้ว ยิ่งเห็นนิสิตนักศึกษาตั้งใจเรียน ยิ่งอยากปล่อย A ให้ทุกคนเลยค่ะ นอกจากปรับตัวรับวิธีการสอนของอาจารย์แล้ว เวลาขอคำปรึกษาให้คงความมุ้งมิ้งไว้ด้วยค่ะ อย่าเผลอพูดกระโชกโฮกฮาก "จารย์ๆ" เด็ดขาด! เดี๋ยวท่านจะตกใจเอา TT__TT  


รูปแบบที่ 5 อาจารย์สายเหวี่ยง
         อาจารย์สายเหวี่ยงนี้ ค่อนข้างเป็นขั้วบวกขั้วลบกับอาจารย์สายธรรมอยู่เยอะเลยค่ะ เพราะอาจารย์ค่อนข้างจะอารมณ์แปรปรวนนิดหนึ่ง (- -') ประมาณว่าเข้าห้องเรียนมาคาบแรกก็แจ็กพอต เจออาจารย์เหวี่ยงเลยค่ะ เหวี่ยงสภาพการจราจรทั่วฟ้าเมืองไทย เหวี่ยงฝนฟ้าอากาศ มาจนถึงเหวี่ยงพวกเรานิสิตนักศึกษาที่นั่งเรียนอยู่จนเฟลไปเลย คือทุกอย่างดูจะเป็นเรื่องใหญ่สำหรับอาจารย์

         ก่อนอื่นพี่เมก้าอยากให้น้องๆ แยกแยะเลยว่า ถึงอาจารย์จะเหวี่ยงนู่นนี่นั่น แต่อาจารย์คงไม่กล้าเหวี่ยงคะแนนเราไปช่อง A B C D หรือ F ตามใจชอบ โดยที่ไม่ดูคะแนนเราแน่นอนค่ะ (ถ้าทำอย่างนั้นมีหวังโดนคณะกรรมการตรวจสอบ งานเข้าอีก!) ที่สำคัญอาจารย์ท่านก็มีจรรยาบรรณวิชาชีพนะคะ ลองให้โอกาสตัวเองได้ทำความเข้าใจอาจารย์ก่อน เรียนไปเรื่อยๆ พอจับสไตล์อาจารย์ได้แล้ว น้องอาจจะรู้ก็ได้ว่าที่จริงแล้ว อาจารย์เป็นคนปากร้ายแต่ใจดีค่ะ ทุกคำบ่นขอให้คิดว่าอาจารย์กำลังสอนเราอยู่ จะได้ไม่ปวดหัวมากค่ะ     


รูปแบบที่ 6 อาจารย์สายหัวใจวัยรุ่น
         พอเห็นอาจารย์รูปแบบที่ 6 น้องๆ ก็คงจะยิ้มออกมากว้างๆ เลย เพราะอาจารย์มีหัวใจวัยรุ่นมากกก มีปัญหาชีวิต เรียนตรงไหนไม่รู้เรื่อง ปรึกษาอาจารย์ได้ตลอดๆ อาจารย์ไม่เคยทิ้งเราไว้กลางทางเลยค่ะ ยิ่งอาจารย์สายหัวใจวัยรุ่น เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของเรา ยิ่งมีแต่จะฟินยิ่งๆ ขึ้นไปเพราะนั่นหมายความว่าชีวิตเฟรชชี่ของน้องๆ ไม่มีทางโดดเดี่ยวเดียวดาย! อาจารย์พร้อมเป็นที่ปรึกษาที่ดีให้เราเสมอ ดูแล้วไม่น่าเป็นห่วงเรื่องการปรับตัวเข้าหาอาจารย์เลยใช่มั้ยคะ


 
         แต่ความจริงแล้ว ยิ่งอาจารย์ให้ความเป็นมิตรกับเรามาก น้องๆ ยิ่งต้องรู้ขอบเขต ต้องเกรงใจอาจารย์ให้มากเลยค่ะ อย่างบางคนเห็นว่าอาจารย์เข้าถึงง่าย ให้พื้นที่ปรึกษาได้ตลอด ก็เกิดรุกล้ำเข้าพื้นที่ส่วนตัวแบบมากเกินไป ประมาณว่าเที่ยงคืนก็โทรไปแล้ว "ฮือออ หนูเครียดเรื่องเรียนค่ะ" โอ้โห! อาจารย์ไม่ใช่แมคโดนัลด์ All Day All Night เปิดตลอด 24 ชั่วโมงนะคะน้องๆ แบบนี้ไม่น่ารักเลย อาจารย์อาจจะอึดอัดมากก็ได้ ทำอะไรอย่าลืมคิดถึงใจอาจารย์ด้วยเน่อ  

รูปแบบที่ 7 อาจารย์สายปรมาจารย์
         เรียกว่ายกขึ้นหิ้งเลยค่ะ สำหรับอาจารย์สายปรมาจารย์ เป็นสุดยอดอาจารย์ชั้นเอกของคณะ เป็นอาจารย์ที่มีความรู้เชิงลึกในสาขาวิชามากกกจนถึงแก่นเลยค่ะ โดยวิชาเรียนของน้องๆ จะได้เรียนกับอาจารย์ระดับเทพเพียงไม่กี่คาบเท่านั้น แต่เป็นคาบเรียนที่เรามักจะนั่งตามองตรง หลังตรง ไม่กล้าขยุกขยิกตัวไปไหนเลย (โอกาสจะได้เรียนกับอาจารย์ไม่ได้เข้ามาง่ายๆ ^^) แม้น้องบางคนจะบอกว่าเรียนไม่รู้เรื่องเลย เนื้อหาล้ำลึกเกินกว่าที่สมองจะรับไหว ฯลฯ วิธีปรับตัวเข้าหาอาจารย์ก็ตามนี้เลยค่ะ  

         ถ้ามีชีทหรือหนังสือควรอ่านมาก่อนเข้าเรียนเลย ตรงไหนเรียนไม่เข้าใจ อาจารย์เปิดช่องให้ถามเมื่อไหร่ ก็รีบถาม พยายามตักตวงความรู้ให้ได้มากที่สุด หรือถ้าน้องๆ ต้องการเข้าพบอาจารย์นอกรอบ เผื่ออยากปรึกษาเรื่องเรียน พี่เมก้าไม่แนะนำให้เดินตรงแน่วไปเคาะประตูห้องพักอาจารย์เลยนะคะ ปกติในประมวลรายวิชาจะให้ข้อมูลติดต่อของอาจารย์ไว้ จะเป็นเบอร์โทรศัพท์หรืออีเมล ถ้าอาจารย์สะดวกทางไหน เราก็เลือกใช้ทางนั้นค่ะ อย่างคณะที่พี่เมก้าเรียน ส่วนใหญ่อาจารย์จะสะดวกให้ส่งข้อความไปนัดเวลาก่อนเข้าพบทุกครั้ง ^^             
         
         อาจารย์มหา'ลัยอาจจะมีมาดต่างจากครูมัธยมฯ เพราะนิสิตนักศึกษาโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ต้องรับผิดชอบตัวเองได้ ต้องมีวินัยในตัวเอง โดยที่อาจารย์ไม่ต้องคอยดูแล น้องๆ ก็เลยคิดไปว่าอาจารย์กำลังสร้างช่องว่างระหว่างกันอยู่ ทั้งที่ความจริงก็เป็นเรื่องของการปรับตัวเนอะ เป็นตัวของตัวเองและคำนึงถึงกาลเทศะเข้าไว้ ทุกอย่างจะดีเองค่ะ

 
พี่เมก้า
พี่เมก้า - Columnist นักข่าวสายการศึกษา ที่มีความสุขกับการแต่งฟิค อ่านฟิค เพ้อถึงยัมมี่ฟู้ดไปวันๆ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น