สวัสดีค่ะ สิ่งที่ได้ยินจากน้องๆ #dek60 ช่วงนี้คือ "รู้คะแนน GAT PAT แล้ว สมัครไม่ได้หลายคณะเลยอะ คะแนนไม่ถึง" ได้ยินแบบนี้พี่มิ้นท์ก็ตกใจ รีบถามคะแนนกลับทันที ปรากฏว่าจริงๆ แล้ว คะแนนของน้องๆ สามารถสอบรับตรงได้ตามปกติ แต่ที่ผิดปกติคือ น้องๆ ไม่เข้าใจคำว่า "สัดส่วนคะแนน" พาลเข้าใจว่าเป็นตัวกำหนดว่าต้องได้คะแนนเท่าไหร่ พอไม่ถึงก็เลยตกใจ!
"สัดส่วนคะแนน" = "องค์ประกอบคะแนน"
สัดส่วนคะแนน มีความหมายเดียวกับองค์ประกอบคะแนน คือ เป็นตัวที่บอกว่า ในอัตราส่วน 100% ของคณะนั้นๆ ใช้คะแนนวิชาอะไรและใช้กี่ส่วน จากนั้นจะนำไปแปลงเป็นคะแนนอีกทีค่ะ ถ้ายังไม่เห็นภาพ ให้นึกถึงด้านหลังซองขนมค่ะ จะมีบอกว่าขนมแต่ละซองมีส่วนประกอบอะไรบ้าง เช่น แป้งสาลี 50% น้ำตาล 10% เป็นต้น
ยกตัวอย่าง คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ โครงการรับตรง (ปกติ) ใช้สัดส่วน GAT 20% + PAT1 20% + PAT3 60% เท่ากับว่า ใน 100 ส่วน คณะวิศวกรรมศาสตร์ใช้ GAT 20 ส่วน PAT 1 20 ส่วน และ PAT3 60 ส่วน
"สัดส่วนคะแนน" = "องค์ประกอบคะแนน"
สัดส่วนคะแนน มีความหมายเดียวกับองค์ประกอบคะแนน คือ เป็นตัวที่บอกว่า ในอัตราส่วน 100% ของคณะนั้นๆ ใช้คะแนนวิชาอะไรและใช้กี่ส่วน จากนั้นจะนำไปแปลงเป็นคะแนนอีกทีค่ะ ถ้ายังไม่เห็นภาพ ให้นึกถึงด้านหลังซองขนมค่ะ จะมีบอกว่าขนมแต่ละซองมีส่วนประกอบอะไรบ้าง เช่น แป้งสาลี 50% น้ำตาล 10% เป็นต้น
ยกตัวอย่าง คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ โครงการรับตรง (ปกติ) ใช้สัดส่วน GAT 20% + PAT1 20% + PAT3 60% เท่ากับว่า ใน 100 ส่วน คณะวิศวกรรมศาสตร์ใช้ GAT 20 ส่วน PAT 1 20 ส่วน และ PAT3 60 ส่วน
ซึ่งรับตรง (ปกติ) จุฬาฯ มีคะแนนเต็ม 30,000 คะแนน ดังนั้นถ้าแปลงสัดส่วนคะแนนเป็นคะแนนดิบ จะได้ดังนี้
- GAT 20% = มีคะแนนเต็มในส่วนของ GAT 6,000 คะแนน
- PAT1 20% = มีคะแนนเต็มในส่วนของ PAT1 6,000 คะแนน
- PAT3 60% = มีคะแนนเต็มในส่วนของ PAT3 18,000 คะแนน
ประโยชน์ของการรู้สัดส่วนคะแนน ก็เพื่อจะได้รู้ว่าใช้คะแนนไหนเป็นหลัก และเตรียมตัววิชานั้นได้เต็มที่นั่นเอง
ทีนี้น้องๆ ก็คงรู้แล้วว่า สัดส่วนคะแนน เป็นแค่ตัวบอกว่าใช้คะแนนอะไรเท่าไหร่ ไม่ใช่การกำหนดคะแนนขั้นต่ำ ดังนั้น มีคะแนนอยู่ในมือเท่าไหร่ ก็สมัครได้ ลุยเลย!
Note: คำที่มีความหมายเหมือน "สัดส่วนคะแนน" ยังมีอีกหลายคำ เช่น "องค์ประกอบคะแนน" "ค่าน้ำหนักร้อยละ" "เกณฑ์การตัดสิน" ฯลฯ
1 ความคิดเห็น
อ้ออออออย่างงี้นี้เอง