สำหรับภารกิจตามติดอาชีพช่างภาพครั้งนี้ เรียกได้ว่าเป็นโอกาสดีที่เว็บไซต์ Dek-D.com ของเรา ภายใต้การบริหารของบริษัท เด็กดี อินเตอร์แอคทีฟ จำกัด มีช่างภาพฝีมือเยี่ยมอยู่! และที่ดียิ่งกว่าคือเขาคนนี้ยินดีแบ่งเวลาว่างจากตารางคิวที่แน่นเอี๊ยดมาให้สัมภาษณ์ และอนุญาตให้ติดตามชีวิตการทำงานได้อย่างใกล้ชิดในชนิดที่ว่าเปิดหมดเปลือกกันเลยทีเดียว พูดไปเดี๋ยวจะหาว่าสปอยล์เปล่าๆ เราไปพบกับเขากันเลยดีกว่า!!!

เส้นทางอาชีพช่างภาพของพี่หนึ่ง เริ่มนับหนึ่งจากความสนใจด้านการถ่ายภาพและวิดีโอ เป็นชีวิตจิตใจตั้งแต่เริ่มเรียนชั้น ม.1 เลยล่ะ ซึ่งนั่นก็ทำให้ผู้ชายคนนี้ได้รับตำแหน่งนักเรียนช่วยงานฝ่ายโสตทัศนศึกษามาโดยตลอด จนเมื่อเรียนจบในระดับมัธยมศึกษา พี่หนึ่งของเราก็นำพาเอาประสบการณ์ในการใช้กล้องและอุปกรณ์ถ่ายภาพต่างๆ มาต่อยอดความรู้เพิ่มเติมในระดับมหาวิทยาลัย ด้วยการตัดสินใจเรียนต่อในหลักสูตรนิเทศศาสตร์เกษตร ที่มีการเรียนการสอนถ่ายภาพและทำสื่ออื่นๆ ควบคู่กับความรู้ด้านการเกษตรไปในตัว

เมื่อรู้จักตัวเองและสั่งสมประสบการณ์ในการถ่ายภาพมาจนได้ที่ ก็เป็นเวลาที่พอเหมาะพอดีกับช่วงปี 4 ที่พี่หนึ่งของเราต้องออกไปฝึกสหกิจศึกษา และแน่นอนว่าคนที่มีใจรักการถ่ายภาพแบบนี้ ไม่มีทางพลาดที่จะฝึกงานในตำแหน่งช่างภาพไปได้ โดยพี่หนึ่งได้เลือกฝึกงานกับเว็บไซต์ Dek-D.com เพราะเป็นเว็บไซต์ที่ชอบเข้าไปหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ มาตั้งแต่เด็ก แหม... ขอแซวพี่หนึ่งสักหน่อยได้มั้ยว่าทำบุญมาด้วยอะไร ทำไมทุกสิ่งที่ชอบ ถึงได้ดูใช่ไปซะทุกอย่างแบบนี้คะ ไม่เคยนกเลยเหรอ? 5555555

พี่หนึ่งเปิดใจว่า ไม่เคยคาดคิดมาก่อนเหมือนกันว่าการตัดสินใจฝึกสหกิจศึกษา จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผู้ชายชอบเล่นกล้องธรรมดาๆ ได้กลายมาเป็นช่างภาพคนสำคัญของทีม NUGIRL by Dek-D.com อย่างเช่นทุกวันนี้ แต่ตลอดเวลา 4 เดือนของการเรียนรู้การถ่ายภาพนิ่งและวิดีโออย่างเข้มข้นและเต็มที่ เป็นเวลาที่เขาได้สัมผัสบรรยากาศอบอุ่นในการทำงาน กับมิตรภาพดีๆ จากพี่เลี้ยงที่คอยสอนงานและสอนการใช้ชีวิตไปพร้อมๆ กัน ซึ่งทำให้รู้สึกประทับใจและอยากทำงานกับ บริษัท เด็กดี อินเตอร์แอคทีฟ จำกัด พอเรียนจบจึงสมัครงานในตำแหน่งช่างภาพซะเลย!!! (ใครอยากมาทำงานร่วมกัน ลองเข้าไปดูตำแหน่งงานได้ที่ www.dek-d.com/job ได้เลยนะคะ อิอิ)

อ่านมาถึงตรงนี้ พี่ส้มเชื่อว่าน้องๆ คงอยากเห็นแล้วว่าการทำงานของคนรักการถ่ายภาพมาตั้งแต่เด็ก จนได้ก้าวเข้ามาเป็นช่างภาพมืออาชีพนั้นจะมีความสุขกับงานมากแค่ไหน? และใน 1 วันของอาชีพช่างภาพต้องทำอะไรบ้าง? เพื่อไม่เป็นการปล่อยให้ค้าง เราก็ตามพี่หนึ่งไปดูให้เห็นกับตาที่สตูดิโอกันเลยดีกว่า...

9.00 - 10.00 น.

เมื่อเริ่มต้นวันใหม่ที่สดใสด้วยการเข้างานในเวลา 9 โมงเช้า พี่หนึ่งของเราก็จัดแจงเตรียมวางแผนถ่ายภาพทันทีเลยค่ะ โดยโจทย์วันนี้เป็นการถ่ายแบบแฟชั่นในสตูดิโอ ซึ่งช่างภาพจะต้องปรึกษากับสไตลิสต์ ช่วยกันดู Reference (ภาพอ้างอิง) ที่หามาเป็นตัวอย่างของภาพที่อยากได้ ว่าต้องการแสงประมาณไหน อารมณ์ภาพเป็นยังไง สไตล์ของภาพเป็นไปในทิศทางใด เมื่อตกลงกันได้แล้วช่างภาพก็ต้องมีแผนในใจขึ้นมาอัตโนมัติว่าจะต้องใช้อุปกรณ์ถ่ายภาพอะไร ใช้เท่าไหร่ และใช้ยังไงบ้าง?

10.00 - 10.15 น.

แพลนกันแล้วว่าต้องใช้กล้องแบบไหน ใช้เลนส์อะไร ถึงจะได้ภาพตามที่ต้องการ พี่หนึ่งก็ยกกระเป๋าอุปกรณ์เดินออกมากาง หยิบของที่จำเป็นต้องใช้มาเช็กสภาพว่าแต่ละชิ้นไม่มีการบุบสลาย แบตเตอรี่เต็มพร้อมใช้งาน 100 เปอรเซ็นต์ ทยอยบรรจุลงไป เช็กจำนวนอีกครั้ง เพื่อความแน่ใจว่าไม่ลืมอะไร แล้วก็หิ้วกระเป๋าเดินเข้าห้องสตูดิโอไปอย่างคล่องแคล่วเลยจ้า

10.15 - 12.00 น.

เมื่อมาถึงห้องสตูดิโอเรียบร้อย พี่หนึ่งก็จัดการเอาอุปกรณ์ที่หอบหิ้วมาในกระเป๋าออกมา หยิบชิ้นนั้นต่อชิ้นนี้ เรียงไว้ในสภาพที่พร้อมใช้งาน หลังจากนั้นก็เดินไปยกขาไฟออกมากาง ลากฉากหลังออกมาขึง ปรับองศานิด เพิ่มพร็อพหน่อย แล้วหยิบกล้องถ่ายรูปคู่ใจออกมาถ่ายภาพดูก่อนเพื่อเช็กว่าแสงที่ได้นั้นเป็นไปตามแบบที่ได้วางแผนไว้หรือยัง เพื่อเซ็ตทุกอย่างไว้ให้อยู่ในสภาพที่พร้อมถ่ายค่ะ

13.00 - 15.00 น.

พักเที่ยงชาร์จพลังกันมาเรียบร้อย ก็ถึงเวลานัดกับนางแบบพอดี!! ซึ่งในระหว่างที่นางแบบกำลังเช็กความพร้อมของเสื้อผ้าหน้าผม พี่หนึ่งก็ต้องเข้าประจำหน้าเซ็ตเพื่อเช็กแสงอีกครั้ง เพื่อความชัวร์ด้วย เมื่อทุกฝ่ายพร้อม การถ่ายภาพแฟชั่นก็เริ่มต้น ณ บัดนาว!!!

จากที่พี่ส้มนั่งสังเกตการณ์อยู่ตลอดเวลานี่ต้องขอบอกเลยว่า บรรยากาศการทำงานของพี่หนึ่งนี่เป็นอะไรที่อยากกดว้าวให้สักร้อยครั้งเลยค่ะ เพราะช่างภาพต้องใส่ใจรายละเอียดของภาพทุกภาพที่ได้กดถ่ายไป เช่น ผมบังหน้านางแบบมั้ย ปัดแก้มเบาไปรึเปล่า โพสต์ท่าไหนถึงจะดูสวยดูแพง หรือถ้าได้ภาพที่นางแบบดูอวบเกินความจริง ก็ต้องวิ่งไปเปลี่ยนเลนส์เพื่อให้งานออกมาดูดีที่สุดนั่นเอง ทุ่มเทสุดๆ ไปเลยนะเนี่ย

15.00 - 15.30 น.

เมื่อได้รูปตามที่วางแผนไว้ครบเสร็จสรรพ ส่งนางแบบกลับบ้านแล้ว ก็เข้าสู่ขั้นตอนของการเคลียร์สตูดิโอ และเก็บอุปกรณ์ทุกชิ้นให้อยู่ในสภาพเดิม ตลอดจนดูแลความสะอาดและความเรียบร้อยด้วยค่ะ ใครที่มองว่าช่างภาพเป็นคนติสท์แตกไม่เน้นระเบียบนี่ต้องคิดใหม่นะ เพราะอาชีพนี้ต้องรักษาระเบียบวินัยทั้งเรื่องเวลาและการใช้สถานที่อย่างเคร่งครัดเชียวล่ะ ^^

15.30 - 16.00 น.

จบงานในห้องสตูดิโอแล้ว แต่งานของช่างภาพในวันนี้ยังไม่หมดนะคะ เพราะจะต้องจัดการนำไฟล์ภาพที่ถ่ายมาให้ทีมงาน ที่มีทั้งอาร์ตไดเร็กเตอร์และสไตล์ลิสต์ ช่วยกันเลือกว่าต้องการใช้ภาพไหน หรือแต่ละภาพต้องตกแต่งหรือแก้ไขเพิ่มเติมยังไงบ้าง ซึ่งถ้าหากว่าพบความผิดพลาดหรือข้อดีในขั้นตอนนี้ ก็ต้องเก็บไว้เป็นประสบการณ์และบทเรียนในการทำงานในวันต่อๆ ไป บางทีก็ได้มาค้นพบเทคนิคถ่ายภาพเจ๋งๆ เพิ่มกันซะตอนนี้นี่แหละ

16.00 - 18.00 น.

หลังจากเลือกภาพกันเรียบร้อย พี่หนึ่งก็จะใช้ช่วงเวลาท้ายสุดของวันในการนั่งแต่งภาพด้วยการปรับแสง ปรับสี และรีทัชจุดตำหนิต่างๆ เสร็จแล้วก็ทำการส่งให้ทีมงานได้นำไปใช้ต่อไปค่ะ ขั้นตอนนี้เรียกว่าทำได้แบบเพลินๆ แต่ต้องไม่เกินเดดไลน์นะจ๊ะ ส่วนถ้าวันไหนคิวงานเสร็จไวหรือมีงานถ่ายวิดีโอด้วย พี่หนึ่งก็จะใช้เวลาช่วงนี้ในการตัดต่อคลิปวิดีโอด้วยเช่นกันค่ะ เป็นคนละเอียด มีวินัย แถมยังมีความสามารถหลายด้านจริงๆ นะเนี่ย เยี่ยมจริงๆ (ซ้ำx3)

ได้รู้เรื่องราวชีวิตและการทำงานของพี่หนึ่งกันไปแล้ว คราวนี้เรามาลงลึกในสายอาชีพ ช่างภาพกันบ้างดีกว่า พี่ส้มเชื่อว่าตอนนี้คงมีหลายคนมีคำถามคาใจว่า "งานถ่ายภาพเป็นสิ่งที่ใครก็สามารถทำได้ ขอแค่เพียงมีทักษะและความชำนาญในการใช้กล้องและอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการถ่ายภาพ แล้วเราจำเป็นต้องเรียนด้านถ่ายภาพมาโดยตรงด้วยเหรอ?" เอาล่ะ! ในเมื่อช่างภาพมือโปรนั่งอยู่ตรงหน้าแล้ว ก็ต้องถามถึงประเด็นกันสักนี้หน่อย...

แต่การทำงานในวงการอาชีพช่างภาพนั้น ไม่ว่าจะเรียนจบมาตรงสายหรือไม่ ก็ยังไม่สำคัญเท่าการเรียนรู้แบบไม่มีที่สิ้นสุดหรอกนะคะ เพราะเสน่ห์ที่แท้จริงของอาชีพช่างภาพ คือการได้พบเจอสิ่งใหม่ๆ อยู่ทุกวัน พี่หนึ่งเล่าว่าทุกครั้งที่ได้ลองถ่ายภาพใหม่ ฉากใหม่ นางแบบใหม่นั้น ทำให้เขาต้องคิดสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ อยู่เสมอ ซึ่งทุกการวางแผนและการครีเอตจะสะท้อนอยู่ในผลงานที่เปรียบเสมือนเป็นตัวตนของช่างภาพแต่ละคน ช่างภาพมือโปรของเราเลยยึดถือคติ "อย่าทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้ว" ไว้ประจำใจ เพราะทุกครั้งที่ต้องเจองานใหม่ๆ สิ่งแรกที่ต้องทำให้ดีที่สุดก็คือการหาความรู้ หาข้อมูลใหม่ๆ มาพัฒนาฝีมือตัวเอง เพื่อให้ได้ผลงานที่น่าประทับใจมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นเองค่ะ ว่าแต่พูดเรื่องฝีไม้ลายมือมาก็เยอะ ใครที่อ่านแล้วชักอยากจะเห็นผลงานภาพถ่ายในสไตล์ของพี่หนึ่งขึ้นมา ก็สามารถแวะไปเยี่ยมเยียนได้ที่แฟนเพจ 1ST FRAME Photographer ได้เลยนะคะ พี่หนึ่งบอกว่ายินดีต้อนรับเสมอจ้า ^^

ใครที่ได้อ่านเรื่องราวของพี่หนึ่งแล้วรู้สึกว่า "สักวันฉันจะต้องเป็นช่างภาพบ้างให้ได้!" ก็ไม่จำเป็นต้องรอสิ่งใดๆ มาเริ่มฝึกฝนตัวเองจากเทคนิคง่ายๆ ที่พี่หนึ่งเคยใช้มาตั้งแต่เด็กจนได้เป็นช่างภาพมือโปรกันเถอะ ขอบอกว่าเริ่มได้ตั้งแต่วินาทีเป็นต้นไปเลยนะจ๊ะ ^^

• 

  หมั่นเรียนรู้ - สร้างแรงบันดาลใจ : อัปเดตเทคโนโลยีเกี่ยวกับการถ่ายภาพอยู่ ดู Reference การถ่ายภาพสไตล์ใหม่ๆ อยู่เสมอ

• 

  ใช้อุปกรณ์ที่มีให้ชำนาญ : ถ่ายภาพอยู่บ่อยๆ เพื่อให้คุ้นเคยกับอุปกรณ์ และได้ใช้ไอเดียในการจัดองค์ประกอบภาพอยู่เสมอ

• 

  สร้างโอกาสให้ตัวเอง : อยากออกไปฝึกงาน รับจ้างถ่ายภาพ อยู่ห้องโสตฯ ก็ลุยโลด ไม่จำเป็นต้องรอฝึกงานตามหลักสูตรหรือเรียนจบแล้วค่อยเริ่มแต่อย่างใด

ได้อยู่กับช่างภาพฝีมือเยี่ยมตัวจริงเสียงจริงกันแล้ว จะสัมภาษณ์อะไรก็ต้องไปให้สุดทางค่ะ ไหนๆ ก็ปูทางเรื่องการเตรียมตัวเป็นช่างภาพไปแล้ว มาต่อกันที่เคล็ดลับความสำเร็จในสายอาชีพกันเลยดีกว่า รับรองเลยว่าถ้าใครมีทักษะครบทั้ง 3 ข้อนี้ เอาดีกับงานช่างภาพได้แน่นอน!!!

• 

  ยิ่งกล้าคิดอะไรใหม่ๆ ยิ่งได้เปรียบ : เปิดมุมมองที่ไม่สิ้นสุด อย่าหยุดอยู่กับที่ ถ้าครีเอตอะไรใหม่ๆ ออกมาได้ก่อน ผลงานของเราจะกลายเป็นจุดสนใจ

• 

  หาประสบการณ์เพิ่มเติมอยู่ตลอด : ค้นหาเทคนิคใหม่ๆ ในการเลือกมุมถ่ายภาพ การตรีเอตแสงที่ช่วยให้อารมณ์ของภาพออกมาสมบูรณ์แบบมากที่สุดอยู่เสมอ

• 

  คิดวางแผนได้ ใช้เหตุผลเสมอ : การทำงานของช่างภาพ ต้องทำงานร่วมกับทีมงานหลายฝ่าย จึงต้องรักษาวินัยและมารยาทในการทำงาน ด้วยการวางแผนเป็นขั้นตอน และรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่นและได้ผลงานที่ทุกฝ่ายพึงพอใจ

     ห้ามพลาด!! งานทอล์คโชว์แนะแนวการศึกษา สุดฮาแถมมีสาระ กับ Dek-D's On Stage Special  6 พฤษภาคม 2560 (รอบ 16.00-18.00 น. สำหรับน้องๆ ที่อยากเข้าคณะสายศิลป์ยอดนิยม) บัตรเริ่มต้นที่ 250-320 บาทเท่านั้น ซื้อบัตรได้ที่ 7-11 ทุกสาขาหรือ www.allticketthailand.com จัดที่ไบเทคบางนา (BTS สถานีบางนา) มาพบกันให้ได้นะคะ!