ความจริงที่ต้องรู้! 10 นิสัยที่ทำให้ซิ่วไม่ติด (ไม่อยากนกควรอ่าน)

         สวัสดีน้องๆ เด็กซิ่วที่น่ารักทุกคนนะคะ อย่างที่รู้กันว่าเส้นทางของการซิ่วไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ อาจจะโดนหนามเกี่ยวหนามตำบ้าง บางคนล้มลุกคลุกคลานแต่ก็ฝ่าฟันจนสำเร็จ บางคนเจ็บน่วมไปทั้งตัวแต่ผิดหวังก็มี วันนี้ "เติมไฟเด็กซิ่ว" จึงขอชวนน้องๆ มาดู "10 นิสัยที่ทำให้ซิ่วไม่ติด" กัน เผื่อว่าจะจุดไฟให้น้องๆ ที่กำลังรู้สึกมืดมนถึงทางตันได้สู้ต่อนะ ^^


 
1. ไม่รู้กำลังตัวเอง
         น้องๆ อาจไม่เคยรู้ว่าการซิ่วติดหรือไม่ติดมันขึ้นอยู่กับพื้นฐานของเราด้วยนะคะ เคยประเมินกำลังตัวเองกับคณะที่ตั้งเป้าไว้รึเปล่าว่าสู้ไหวไหม? ที่พูดแบบนี้ไม่ได้จะให้น้องๆ ท้อหรือเลิกล้มการซิ่ว แต่การรู้กำลังตัวเองทำให้รู้ว่า "เราควรเตรียมตัวแบบไหน" ยิ่งคณะที่จะซิ่วนั้นยากสำหรับเรา น้องๆ ก็ยิ่งต้องมีเวลาทุ่มเทให้กับสิ่งนี้อย่างเต็มที่ ไม่ใช่อยากซิ่วแต่ไม่มีเวลาอ่านหนังสือหรือฝึกทำโจทย์สักนิด แบบนั้นก็ทำให้เราเตรียมตัวไม่พอ จนเกิดการซิ่วไม่ติดอะไรเลยขึ้นมา  

2. สะเพร่าเป็นงานหลัก
         ซิ่วไม่ติดเพราะเหตุจากความสะเพร่านี้มีกันมาหลายรุ่นแล้วค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของระเบียบการนี่แหละ น้องๆ อ่านระเบียบการไม่ละเอียด ถ้าเป็นเรื่องสะเพร่าเล็กๆ น้อยๆ ยังพอแก้ไขทันก็เช่น คิดว่าตัวเองไม่มีโอกาสสอบรับตรง แต่ความจริงสอบได้ เลยทำให้เตรียมตัวช้าจนอาจซิ่วไม่ติด เป็นการตัดโอกาสตัวเองไปหลายราย ทั้งที่เด็กซิ่วยังสามารถสอบรับตรงได้บางสนามนะคะ อย่าคิดว่าถูกตัดสิทธิ์ไปทั้งหมด เรื่องสะเพร่าที่หนักสุดคือ "คุณสมบัติไม่ผ่าน แล้วเผลอยื่นคะแนนไป" อันนี้ตกม้าตายและสร้างความเจ็บช้ำน้ำใจให้กับหลายๆ คนเลยค่ะ บางคนคะแนนผ่านเกณฑ์ทุกอย่าง เหลือแค่จัดการตัวเองให้ถูกต้องตามคุณสมบัติที่กำหนดก็สอบติดแล้ว T T

3. คิดว่ายาก เทซะเลย!


 
         ตัดสินใจเท ก็ซิ่วไม่ติดสิคะ ส่วนใหญ่น้องๆ เด็กซิ่วจะมีความกลัวอยู่แล้วว่า "มันยาก เราต้องพลาดแน่ๆ" เรื่องจริงคือถ้าอ่านอย่างจริงจัง ไม่มีอะไรยากเกินความสามารถเราเลยค่ะ ความกลัวเป็นสิ่งที่สร้างขึ้นมาเองทั้งนั้น รุ่นพี่เด็กซิ่วที่สอบติดทุกคนกล้าพูดเลยนะคะว่า มีเวลาเตรียมตัวเพิ่มอีกหนึ่งปีเต็ม! เรื่องที่เคยยาก เคยไม่เก็ท ทำไม่ได้ เราสามารถทำให้มันง่ายขึ้นมาได้จากการฝึกฝน ดังนั้น ช่วงเตรียมสอบอาจมีจังหวะที่ท้อบ้าง แต่ห้ามเทเด็ดขาด ควรใช้ทุกวินาทีให้คุ้มค่านะ 

4. คิดว่าง่าย ชะล่าใจ!
         สำหรับข้อนี้คือตรงกันข้ามกับข้อ 3 เลยค่ะ น้องๆ ประมาท คิดว่าตัวเองแม่นแล้ว รู้ทุกเรื่อง จึงไม่อ่านหนังสือทบทวนอะไรเลย = =" แบบนี้เรียกว่า "ตกม้าตาย" สูญเสียน้ำตากันมาเท่าไหร่แล้ว T T ดังนั้น ต้องอ่านหนังสือนะคะ ต่อให้รู้สึกว่าเรื่องนี้เราเป็นเซียน หรือเนื้อหานี้ไม่ค่อยสำคัญมากแค่ไหน ก็ต้องทบทวนให้ผ่านตาผ่านสมอง เราก็รู้กันดีว่าข้อสอบสมัยนี้ชอบมาเหนือเมฆ พลิกแพลงนิดเดียวก็จู่โจมได้แล้ว น้องๆ ไม่มีทางรู้หรอกว่าเราอ่านตรงจุดรึยัง ฟิตอ่านหนักไว้ก่อนเถอะ

5. ไม่มีเทคนิคติดตัวเลย
         การจะซิ่วให้ติด น้องๆ ต้องมีวิทยายุทธส่วนตัวด้วยค่ะ ไม่ใช่แค่อ่านหรือฝึกทำข้อสอบไปเฉยๆ คำแนะนำจากรุ่นพี่เด็กซิ่ว รวมถึงเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ แต่ละรุ่นที่ชอบมาเขียนรีวิวแก้บนไว้ในบอร์ดแอดมิชชั่นนั้นมีประโยชน์มาก! เพราะจะทำให้เราได้รู้เทคนิคเด็ดๆ มากมายว่า "คนที่สอบติดทำยังไงให้ดวงดี เอ้ย! มีทริกในการรับมือกับข้อสอบยังไง" อ่านแล้วก็ทำตามเขาไปนั่นแหละค่ะ เพราะประสบการณ์มีไว้ให้เรียนรู้ ไม่ว่าจะได้รับมาจากคนอื่นหรือตัวเองก็ล้วนแล้วแต่ช่วยชีวิตเราได้ทั้งนั้น!

6. อ่านหนังสือไปเรื่อยๆ


 
         อ้าว! อ่านหนังสือไปเรื่อยๆ ก็ดีไม่ใช่เหรอ? ดีกว่าไม่อ่าน - -" ความจริงนั้นถูกส่วนหนึ่งค่ะ แต่การอ่านหนังสือไปเรื่อยๆ แบบตามใจฉัน มันจะทำให้น้องๆ อ่านไปอย่างสะเปะสะปะ ความรู้กระจัดการจายมากจนหยิบใช้อะไรไม่ได้เลย ทางที่ดีควรจะวางแผนนะคะว่า "เรามีความพร้อมมากแค่ไหน? ควรจัดตารางอ่าน+ทำโจทย์ยังไง? วิชาอะไรบ้าง? เหลือเวลาเตรียมตัวกี่วัน?" แล้วทำตามแผน โดยพยายามปรับและระวังไม่ให้ล่มค่ะ อ่านหนังสืออย่างเป็นระบบช่วยเพิ่มโอกาสติดได้เยอะ

7. แบ่งเวลาไม่เป็น
         การแบ่งเวลาอ่านหนังสือก็เป็นสิ่งสำคัญนะคะ ที่ผ่านมาเคยเห็นน้องๆ มาตั้งกระทู้ในบอร์ดเด็กซิ่วอยู่บ่อยๆ ว่า "ซิ่วอยู่บ้านหรือซิ่วไปเรียนไป แบบไหนมีโอกาสสอบติดมากกว่า?" ความจริงแล้วการสอบติดไม่ได้ขึ้นอยู่กับ 2 สิ่งนี้ทั้งหมดหรอกค่ะ มันขึ้นอยู่กับตัวของน้องๆ เองมากกว่า ถ้าเราแบ่งเวลาถูกว่าแต่ละวันจะทำอะไรบ้าง ยังไงก็ซิ่วติดแน่นอน ดังนั้น จัดการตารางชีวิตตัวเองให้ดีนะคะ น้องบางคนละเลยมากไปจนเตรียมตัวไม่พอ บางคนหักโหมเกินไปก็สมองน็อกอีก ต้องรู้ขีดความสามารถของตัวเอง และแบ่งเวลาอ่านกับเวลาพักให้เหมาะสมค่ะ

8. ติดเล่นตลอดเวลา
         สารภาพมาซะดีๆ ว่านิสัยนี้ทุกคนเป็นบ่อย แล้วก็เลิกยากซะด้วย! มันคือการติดเล่นนั่นเอง น้องๆ เด็กซิ่วมักจะคิดว่าตัวเองมีเวลาเยอะเลยมักจะชิลล์ๆ อย่างคนที่ซิ่วอยู่บ้าน ต้องยอมรับว่ากิเลสเยอะมากค่ะ เดี๋ยวก็อ่านนิยาย ดูซีรียส์ นอน ฯลฯ -*- ส่วนน้องๆ ที่ซิ่วไปเรียนไป ก็อาจจะเผลอสนุกกับกิจกรรมจนไม่มีเวลาอ่านหนังสือ กลายเป็นว่าเตรียมตัวไม่ทันน่ะสิ จงนึกไว้เสมอนะคะ อยากเล่นก็แค่เล่นให้เป็นเวลา หรือรอให้สอบติดก่อนค่อยสนุกเต็มที่ก็ได้ โอกาสไม่ได้มาหาเราบ่อยๆ นะ  

9. พารานอยด์เป็นวันๆ


 
         พารานอยด์คืออาการจิตตก หวาดระแวง ชอบคิดไปในทางที่เลวร้าย ประมาณว่ากลัวตัวเองล้มเหลวจนไม่กล้าที่จะลุกขึ้นมาทำอะไร แล้วพอปล่อยให้เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ สิ่งที่ตามมาก็คือเราฟุ้งซ่านจนไม่ได้ลงมืออ่านหนังสือสักทีไง สุดท้ายความคิดแง่ลบก็จะดึงน้องๆ ตกลงไปพบกับความผิดหวัง ดังนั้น แทนที่จะนั่งนอยด์ ลุกมาลงมือทำทุกวันให้ดีที่สุดดีกว่าค่ะ เรื่องที่ยังมาไม่ถึง ก็ยังไม่ต้องไปคิดถึงมัน พี่เมก้าเชื่ออยู่อย่างหนึ่งว่า "ถ้าเราตั้งใจทำเต็มที่ ผลที่ตามมาจะต้องออกมาดี"

10. ความอดทนต่ำมาก
         ทุกอย่างต้องค่อยเป็นค่อยไปและอาศัยเวลานะคะ การซิ่วก็ต้องอาศัยความพยายามเช่นกันค่ะ ส่วนใหญ่ที่ซิ่วไม่ติด ไม่ใช่เพราะน้องๆ ไม่เก่งนะ แต่ใจเรายังไม่แกร่งพอ หลายคนล้มเลิกไปกลางทาง ความฝันก็ไกลห่างออกไปอีก ดังนั้น เวลาเตรียมสอบอย่าใจร้อน อย่าเพิ่งวิ่งหนีอุปสรรคที่เข้ามา อดทนและสู้อย่างมีความหวัง แล้วน้องๆ จะผ่านไปได้! ท่องไว้นะคะ "นี่แค่จุดเริ่มต้น" วันข้างหน้าเรายังต้องเจออะไรที่หนักกว่านี้อีก ถ้าวันนี้ยอมแพ้ อนาคตไปไม่รอดแน่นอน T T สู้ๆ ค่ะ   

         สิ่งที่พี่เมก้าอยากให้น้องๆ เด็กซิ่วมีมากๆ คือความคิดบวกและใจที่สู้ค่ะ อย่าสู้แค่ตอนเริ่มแล้วค่อยๆ แผ่วจนหมดไฟในตอนท้ายนะ งานนี้มีพังแน่ๆ ขอเอาใจช่วยให้ทุกคนสอบติดใน "คณะที่ใช่-มหา'ลัยที่ใจปรารถนา" นะคะ โอมเพี้ยง!
พี่เมก้า
พี่เมก้า - Columnist นักข่าวสายการศึกษา ที่มีความสุขกับการแต่งฟิค อ่านฟิค เพ้อถึงยัมมี่ฟู้ดไปวันๆ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น