เผยเคล็ดลับการเรียน "พี่ปาล์ม" อีกหนึ่งคนที่เท "หมอ" เพื่อแอดฯ ในคณะที่ใช่


           สวัสดีค่ะ เชื่อว่าช่วงนี้น้องหลายๆ คนยังวนเวียนอยู่กับการค้นหาตัวเอง ว่าจะเรียนอะไร จะสอบเข้าคณะไหน บางคนมีคณะในใจแล้ว แต่ก็ยังไม่แน่ใจนักว่าคณะที่เลือกใช่ในสิ่งที่อยากเป็นหรือเปล่า แต่ไม่ว่ายังไงช่วงนี้ก็ต้องเรียนไปก่อน พี่แป้งขอพาน้องๆ ไปพบกับ พี่ปาล์ม อีกหนึ่งเด็กท็อปแอดฯ 60 ที่มีเคล็ดลับการเรียนดีๆ มาฝากน้องๆ ไปพบกับพี่เขาเลยดีกว่าค่ะ

แนะนำตัวให้น้องๆ รู้จักกันหน่อยค่ะ
           สวัสดีค่ะ ชื่อ นางสาวสุชัญญา ยิ้มอยู่ เรียกว่า พี่ปาล์ม ก็ได้นะ ตอนนี้เรียนอยู่ชั้นปีที่ 1 คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาจากโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ค่ะ
 

ทั้งๆ ที่สอบติดหมอ ทำไมถึงเลือกเรียน คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ?
           ถ้าถามว่าทำไมถึงไม่เลือกเรียนหมอ ขอตอบตรงๆ นะว่า จริงๆ เราก็เป็นคนหนึ่งที่ไม่รู้จักตัวเอง ไม่รู้ว่าจะเรียนอะไร จน ม.6 สอบเสร็จแล้วก็ยังไม่รู้ ในการตัดสินใจส่วนหนึ่งคิดว่าคนเป็นหมอต้องมีใจรักหน่อยอ่ะ เพราะงานมันหนัก แต่คือนี่ไม่มีไง ไม่ใช่ว่าเรามีใจให้อย่างอื่นนะ แต่คือเราไม่มีใจให้ไรเลย คือเฉยๆ ทุกอย่าง ชีวิตเศร้าอ่ะ 55

           และอีกอย่างคือพี่ปรึกษากับพ่อแม่ คุยกันมาตลอด ก็เห็นว่าถ้าเราเรียนบัญชีก็มีดีตรงที่เรามาช่วยพ่อแม่ทำงานได้ ช่วงนั้นเราก็สับสนมาก ไปๆ มาๆ ก็เลยเลือกคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ดีกว่า อย่างน้อยก็ไม่ได้ทำร้ายใคร


ชีวิตในมหาวิทยาลัยกับชีวิตมัธยม แตกต่างกันเยอะไหม?
           เราว่าต่างกันเยอะนะ สังคมมหาวิทยาลัยมันกว้าง คนเยอะ ไม่ได้มีแบ่งเป็นห้องๆ เหมือนตอนเรียนมัธยม เลยรู้สึกว่าสนิทกันยากกว่า การเรียนก็หนักกว่า ตอน ม.ปลาย เรียนทั้งวันยังไม่เหนื่อยเท่าเรียนมหาวิทยาลัยไม่กี่ชั่วโมงเลย เนี่ยพูดละคิดถึง ม.ปลาย อยากจะร้องไห้ ฮืออออออ T_T

ได้ข่าวว่าได้เกรด 4.00 ตั้งแต่ ม.4 มีเคล็ดลับการเรียนอย่างไรบ้าง?
           ออกตัวก่อนว่าจริงๆ ไม่ได้เกรด 4.00 ทุกเทอมหรอกนะ ได้ตอน ม.4-5 มาพลาดตอน ม.6 แอบเสียดายเพราะอีกแค่คะแนนเดียวก็จะได้ละ ถ้าอยากได้ก็ต้องตั้งใจเรียน (เบื่อคำนี้ใช่ม่ะ?) เราเพิ่งเข้า บดินทรฯ ตอน ม.4 มาจากเซนต์โยเซฟคอนเวนต์ มันก็จะมีความรู้สึกแบบ ต้องแบบฟิตๆหน่อย เดี๋ยวสู้เด็กโรงเรียนนี้ไม่ได้

           เข้ามาตอน ม.4 ก็เลยจะค่อนข้างฮึกเหิมกับการเรียน อย่างอื่นก็ทำงานส่งให้ครบ คะแนนเก็บมาจากส่วนนี้เยอะ ละก็ต้องรู้จักแบ่งเวลาเรียน ทำงานกับทำกิจกรรมด้วย โดยเฉพาะ ม.5 กิจกรรมเยอะมาก แต่ก็สนุกดีนะ ทำกิจกรรมบ้าง มันเป็นความทรงจำที่ดี จะได้ไม่เบื่อเรียนด้วย

 

ได้คะแนน กสพท เยอะมาก อยากให้เล่าวิธีการเตรียมตัวสอบหน่อย
           ทั้งวิชาเฉพาะแพทย์และวิชาสามัญ เราก็มีเรียนพิเศษข้างนอก วิชาเฉพาะแพทย์นี่ค่อนข้างใช้ทักษะเฉพาะตัว หลักการมันไม่ได้มีไรมากหรอก เพราะงั้นต้องทำแบบฝึกหัดและข้อสอบเยอะๆ ส่วนวิชาสามัญ เราเน้นอ่านเรื่อยๆ อย่าหักโหม ละก็ที่เราคิดว่าเวิร์คสุดๆ ก็คือการทำสรุปอ่ะ เรียนเสร็จมาทำเองนะ ไม่แนะนำให้ไปซื้อของคนอื่นมาอ่าน มันเป็นการทบทวนไปในตัวด้วย

           เวลาสอบก็อ่านแค่สรุปของเรา เอาให้แม่นๆ จะได้จำได้แต่ส่วนที่สำคัญๆ และที่สำคัญมากเช่นเดียวกันคือการทำข้อสอบเก่า เอามาทำเยอะๆ เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้ จับเวลาจริงด้วย ทำให้เหมือนในห้องสอบ เพราะเวลาสอบจริงส่วนใหญ่ที่จะพลาดก็มาจากการทำไม่ทันเนี่ยแหละ ต้องฝึกบริหารเวลาให้เป็น


เม้าท์วิชาที่ชอบและไม่ชอบให้ฟังหน่อยสิ
           มีอยู่ 2 วิชาที่รู้สึกว่าชอบ ก็จะมีเลขกะเคมี เราว่า 2 วิชานี้มันใช้ความเข้าใจ ไม่ได้ใช้ความจำ ก็เลยรู้สึกดีเวลาเรียน ส่วนตัวเราเป็นคนความจำสั้น ฮ่าๆ แต่การที่จะเข้าใจมันก็ไม่ง่ายนะ ถ้าเข้าใจละจะชอบ

           ส่วนวิชาที่ไม่ชอบ อืมมม สำหรับเราก็ไม่มีวิชาไหนที่ไม่ชอบเป็นพิเศษนะ แต่อาจจะมีแค่บางเนื้อหาที่ไม่ชอบ เวลาเจออะไรที่ไม่ชอบก็จะพยายามอยู่กับมัน #อยู่ให้เป็น #เข้าใจให้ได้ สงสัยก็ถามคนอื่น อยู่จนเข้าใจละก็จะโอเคเอง อย่างที่บอกว่าถ้าเข้าใจไรละก็จะรู้สึกดีกับมันมากขึ้น (หรือเปล่านะ?) อย่าพยายามหนีเลยค่ะ ยังไงก็หนีไม่พ้น สู้ไปเลยดีกว่า


ถามจริงๆ ทำไมถึงไม่เรียนคณะแพทยศาสตร์ ทั้งๆ ที่สอบติดทั้ง 2 ที่
           รอบแรกที่ไปสอบแพทยฯ มข. คือแนวอยากไปทดสอบตัวเองกะสนามจริงค่ะ ตอนนั้นก็ยังไม่รู้ว่าจะเรียนไร แต่ก็ลองไปสอบดู จะได้รู้ว่าของจริงเป็นยังไง เพราะยังไม่รู้ว่าจะเรียนหมอรึป่าว พอได้ก็เลยสละสิทธิ์ไป ตอนนั้นคิดว่า สมมติว่าถ้าจะเรียนหมอจริงก็อยากเรียนใกล้ๆ บ้าน พ่อแม่ก็อยากให้เรียนในกรุงเทพมากกว่าค่ะ

           ส่วนศิริราชก็อย่างที่บอกไปว่าเพราะเราไม่รู้ความรู้สึกตัวเองเลย ไม่รู้จักตัวเองเลย เลยลองใช้เหตุผลดูละก็ปรึกษาคนในครอบครัว 4 อันดับที่เราเลือกก็มี 1.แพทยฯ ศิริราช 2.แพทยฯ รามา 3.ทันตะฯ มหิดล 4.แพทยฯ มศว ค่ะ

 

มีเคล็ดลับในการเตรียมตัวสอบ PAT 1 อย่างไรบ้าง?
           สำหรับ PAT 1 เลข ค่อนข้างสูตรเยอะ ก็เลยทำสรุปไว้อ่านอย่างที่บอก แล้วก็ทำโจทย์เยอะๆ ข้อสอบเก่าๆ ขุดมาให้หมด โจทย์บางข้อก็ยาวมาก แทบทั้งหน้า เห็นโจทย์ละก็ท้อนะ ตอนเราลองฝึกทำครั้งแรกก็ทำไม่ทัน บางข้อก็มีเทไปบ้าง แต่พอทำไปเรื่อยๆ เจอแนวเดิมบ่อยๆ ก็ได้เอง เพราะงั้นต้องฝึกทำเยอะๆ ข้อไหนที่คิดว่ายาวไป เสียเวลามากแน่ๆก็ข้ามไปก่อน ละมันก็จะมีแนวโจทย์แบบแปลกๆ อีก ก็เลยยิ่งต้องทำข้อสอบเก่าๆ จะได้เห็นแนวข้อสอบหลายๆ แบบ

อะไรคือสิ่งที่ยากที่สุดในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย
           สำหรับเรา เราว่าการค้นหาตัวเองยากที่สุด อาจเพราะว่าเราเป็นอยู่ คือถ้าน้องๆ หาตัวเองเจอมันจะมีแรงกระตุ้น การสอบเข้าในสิ่งที่น้องตั้งเป้าไว้ เราเชื่อว่าทำได้แน่นอน ขั้นตอนการสอบไม่ใช่เรื่องยากเกินความสามารถของน้องๆ ขนาดนั้น แต่ถ้าไม่มีเป้าหมายอะไรเลย ก็จะเหมือนเราหลงทาง จะรู้สึกท้อแท้ ไม่มีกำลังใจ เราเป็นเลยเข้าใจ พอจะวางแผนชีวิตในขั้นต่อๆ ไป ก็ยากไปอีก

สุดท้ายนี้อยากให้น้องปาล์มฝากกำลังใจถึงน้องๆ หน่อย :)
           ก็อยากฝากให้น้องสู้ๆ นะ ถ้าน้องตั้งใจจริงพี่เชื่อว่าทำได้อยู่แล้ว ชีวิตน้อง น้องต้องเลือกเอง เป็นในสิ่งที่อยากเป็น สู้เพื่อมัน พี่เป็นกำลังใจให้ อดทนอีกนิด นึกถึงหน้าพ่อแม่ไว้ พี่ไม่อวยพรว่าขอให้โชคดี เพราะพี่คิดว่ามันขึ้นอยู่กับตัวน้องเอง เพราะงั้นตั้งใจให้เต็มที่ เหนื่อยตอนนี้เทียบไม่ได้กับในอนาคต ในอนาคตเหนื่อยกว่าแน่ แค่นี้จิ๊บๆ ชีวิตไม่สิ้นก็ต้องดิ้นต่อไป สู้ๆ นะน้อง :)
 

           ชอบประโยคที่ว่า "พี่ไม่อวยพรว่าขอให้โชคดี เพราะพี่คิดว่ามันขึ้นอยู่กับตัวน้องเอง" ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเรา ก็มาจากการกระทำของเรานี่แหละ ถ้าเราตั้งใจและพยายาม ผลที่ได้มันต้องคุ้มค่าแน่นอน ใครจะนำเทคนิคการเรียนของพี่ปาล์มไปใช้ก็ไม่ว่ากันนะคะ ลองทำสรุปอ่านเองเป็นอีกวิธีที่ดีมาก พี่แป้งเองก็ทำตอนสมัยเรียน ส่วนตอนนี้ให้ไปเรียนก็ไม่ไหวแล้ว ฮ่าๆๆ

 
พี่แป้ง
พี่แป้ง - Columnist นักข่าวสายรับตรง พร้อมเสิร์ฟข่าวสอบเข้าทุกมหา'ลัย เติมพลังได้จากชาเย็นหวานน้อย

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น