Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

review การเรียนภาษาเกาหลี 1 ปี กับคะแนน PAT เกาหลี 219 คะแนน

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

สวัสดีค่ะทุกๆคน นี่เป็นกระทู้แรกที่เราได้เขียน เราอยากจะมารีวิวการเรียนภาษาเกาหลีตลอด 1 ปีที่ผ่านมาพร้อมกับแนะนำหนังสือที่เราใช้ เราเป็นเด็กสายวิทย์มา และเป็น #dek61 ได้คะแนน PAT ภาษาเกาหลี 219 คะแนน จริงๆในใจเราคิดว่ามันยังน้อย ยังไม่ถึงความคาดหวังของเรา แต่เราก็ภูมิใจที่เราได้ทำเต็มที่ที่สุดแล้วค่ะ 5555 ตอนนี้เรายังไม่ติดที่ไหนนะคะ เพราะรอยื่นรับตรงรอบ 3 เดือนหน้าค่ะ

 

 

 

 

 

 

ตอนแรกเลยเราเริ่มเรียนภาษาเกาหลีด้วยตัวเองตั้งแต่ประมาณม.4 เทอม 2 พื้นฐานความรู้คือเป็นศูนย์ เรียนเองที่ว่าก็คือเปิดในเน็ตดูนี่แหละค่ะ ว่าตัวอักษร สระมีอะไรบ้าง อ่านยังไง พอเริ่มประสมตัวได้ อ่านได้ เริ่มรู้ศัพท์ขึ้นมานิดหน่อย แล้วเราก็เริ่มมาดูเรื่องไวยากรณ์ บอกตรงๆว่าอาจจะด้วยเราเป็นคนเข้าใจยาก ฮือ พออ่านในเน็ตแล้วก็ยังไม่เข้าใจซักที จนไปถามพี่ที่เคยเรียนภาษาเกาหลีว่าเนี่ย พึ่งเริ่มเรียนเกาหลีค่ะ คืออยากหาหนังสือมาอ่าน พอจะมีหนังสือเล่มไหนแนะนำมั้ยคะ แล้วพี่เขาก็แนะนะเล่มนี้มาค่ะ นั่นก็คือ ภาษาเกาหลีเรียนง่าย 1 ของอ.ฮัน ซองอิล

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


เล่มนี้เป็นเล่มที่อ่านง่าย เหมาะสำหรับคนที่พึ่งเริ่มอย่างแท้จริง สำหรับเรา เราคิดว่ามีเนื้อหางงๆบ้างตอนสอนเรื่องการออกเสียง เพราะมีพยัญชนะตัวสะกดบางตัวที่พอไปเจอพยัญชนะต้นอีกพยางค์ที่เป็นกฏของมัน แล้วจะออกเสียงไม่เหมือนเดิม ข้อสอบแพทเกาหลีมีเรื่องการออกเสียงด้วยนะ ตั้งข้อนึง แต่อย่ากังวลไปค่ะ ถ้าเรียนไปเรื่อยมันก็จะชินกับการออกเสียงเอง 5555 แล้วที่สำคัญคือเล่มนี้มีแบบฝึกหัดท้ายบทให้ทำด้วยค่ะ เป็นการวัดเราไปในตัวหลังจากที่เราอ่านแล้ว หนังสือเล่มนี้มีทั้งหมด 20 บทนะคะ เริ่มตั้งแต่สระ พยัญชนะ กฎการออกเสียง ตัวเลข และไปจนถึงบทสนทนาพื้นฐานต่างๆที่ใช้ในชีวิตประจำวัน แต่ยังไม่ลงลึกมาก และที่สำคัญจริงๆค่ะคุณผู้ชมมมมม หนังสือเล่มนี้มี CD กรี๊ดป่ะ เราสามารถฟังแล้วออกเสียงตาม CD ไปด้วยได้ไปอีก หนังสือราคา 235 บาทแต่ตอนนี้ไม่รู้เท่าไหร่แล้ว เราคิดว่ามันคุ้มนะคะ ใครอยากเริ่มเรียนชิลล์ๆก็ลองเล่มนี้เลย หาซื้อได้ตามร้านหนังสือทั่วไปค่ะ ซีเอ็ด นายอินทร์ ฯลฯ (นี่ไม่ได้ค่าโฆษณาใดๆนะคะ รีวิวจากสิ่งที่มีล้วนๆ)
 

 

 

 

 

 

 

 

พอเราเริ่มขึ้นม.5 เราก็มาคิดละว่าอ่านเองไปเรื่อยๆแบบนี้มันจะไหวหรอวะ รู้สึกค่อยๆก้าวไปทีละนิดนะ แต่คือมันไปช้ามาก แล้วด้วยความคิดที่เราคิดว่าม.6 ต้องไม่ทันแน่ๆ พอดีกันกับที่เราไปเจอทวิตของพี่คนนึงที่เราฟอลอยู่นานมาก แล้วเขาเก่งเกาหลีมาก รับสอนภาษาเกาหลี อ่ะเราก็ไปสมัครเรียนกับเขา พี่เขาพอรู้แล้วว่าเราพออ่านได้เขียนได้ เขาก็เริ่มสอนที่ไวยากรณ์ง่ายๆเลย พี่เขาใช้หนังสือเรียนของม.โซล สอนนะคะ เป็นของระดับต้น มีทั้งหมด 30 บท ตอนนี้ไฟล์หนังสือก็ยังอยู่ในคอมอยู่เลย 55555 แล้วคือเราเรียนกับพี่คนนี้ได้แค่ 2 ครั้ง ไม่ถึง 5 บท แล้วพี่เขาก็บอกว่าไม่ว่างสอนแล้ว เราก็เลยต้องเลิกเรียนไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เส้ามั่ยเส้า

 

 

 

 

 

 

 

 

 

         แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะ เราก็เข้าสู่โหมดกลับมาเรียนเองเหมือนเดิม เพราะว่าพี่ที่สอนเราได้ให้ไฟล์หนังสือที่เหลือไว้ แล้วเวลาเราไม่เข้าใจอะไรก็ยังถามพี่เขาได้ตลอด ดีตรงนี้ เราว่าของม.โซลถ้าเรียนจบของระดับต้นแล้วเราว่ามันก็ยังไม่พออยู่ดี 55555 มันได้พื้นฐานมาก็จริง แต่มันก็ยังไม่พอสำหรับที่จะต้องไปสอบแพท แล้วข้อสอบแพทก็ยังไม่ได้รู้ด้วยว่าเป็นยังไงตอนนั้น ไวยากรณ์มันประมาณแบบเราสามารถใช้พูดกับเพื่อนได้ ซื้อของได้ ถามเรื่องพื้นฐานได้ไรงี้อ่ะค่ะ แล้วท้ายบทก็มีแบบฝึกหัดให้ทำด้วยนะคะ เริ่ดๆ หน้าปกหนังสือในไฟล์เราหน้าตาเป็นแบบนี้นะคะ เราไม่รู้ว่ามีขายที่ไหนอะไรยังไง เพราะเราได้จากพี่มา ขอโทษด้วยค่า

 

 

 

 

 

 

 

 

          

 

 

 

 

 

 

แล้วพอเราเรียนเล่มนี้จบ เราก็รู้สึกเคว้งอีกครั้ง ชีวิตสุดเหงา ไม่รู้จะไปต่อหรือพอแค่นี้ ไม่มีอะไรทำแล้ว จุดเปลี่ยนมันอยู่ตรงที่เราได้ทำงานแนะแนวตอนม.5 โดยการไปสัมฯรุ่นพี่ที่เรียนเกี่ยวกับคณะที่ตัวเองสนใจค่ะ แล้วเราก็สนใจเอกเกาหลี มศวมาก เราก็เลยได้สัมฯพี่คนนึง พี่เขาแนะนำดีมาก ตอบคำถามเราละเอียดทุกอย่าง จนทำให้เราสนใจเอกนี้มากขึ้นไปอีก แต่ตอนม.5 เราเหมือนทิ้งช่วงสำหรับเกาหลีไปซักพักนึง เพราะตอนนั้นไปทุ่มเทกับภาษาอังกฤษเว่อร์ 5555 จนมาปิดเทอมม.6 เราก็เริ่มอยากเรียนภาษาเกาหลี (แบบที่มีคนสอน) อีกรอบละ เราก็เลยไปถามพี่ที่เราเคยสัมฯว่าเพื่อนพี่พอจะมีคนที่รับสอนพิเศษมั้ยคะ แล้วพี่เขาแนะนำมาให้ แล้วเราก็ได้เรียนกับเพื่อนพี่คนนี้มาจนถึงสอบแพทเลย ซึ่งแบบได้คะแนนแพทเกาหลีขนาดนี้ นอกจากพ่อแม่ที่ส่งให้เรียนก็ต้องขอบคุณพี่ทั้งสองคนนี้จริงๆค่ะ

 

 

 

 

 

 

 

เนื้อหาที่พี่เขาสอนเราก็เป็นแกรมม่าในระดับต้นก่อนทั้งหมดเลย คือมีมากกว่าและละเอียดกว่าในหนังสือของม.โซล ในการเรียนคือพี่เขาทำชีทเองขึ้นมาทั้งหมดนะคะ ก็เลยไม่มีหนังสือมาบอกจ้า 555 ไวยากรณ์ที่เราเรียนมีทั้งหมด 20 บทตลอด 1 ปี บางคนอาจจะงงมันใช้เวลานานขนาดนั้นเลยหรอ ไม่ค่ะ ตลอด 1 ปีคือมีการติวแทรกข้อสอบ topik เพื่อใช้เป็นแนวเพิ่มเข้ามาด้วย โว้ย เดี๋ยว เอาทีละอย่างก่อน เรื่องไวยากรณ์นะคะ ตัวอย่างไวยากรณ์ก็จะมีเป็นพวกแบบ ก่อนที่จะ.... , หลังจาก..... , ตอนที่...... , สามารถ.... , กำลัง......อยู่ , เคย…. , ไม่เคย…. ฯลฯ ซึ่งพี่บอกว่าพี่เขายึดตามหนังสือ ไวยากรณ์ภาษาเกาหลี ระดับต้น ของ ผศ.สิทธินี ธรรมชัยค่ะ หน้าตาหนังสือเป็นอย่างนี้

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ราคาหนังสืออยู่ที่ 175 บาทนะคะ เราไม่มีเล่มนี้ แต่ว่าพี่คนที่สอนเราทำชีทมาจากเล่มนี้ให้ เราคิดว่าดีมากๆ ได้รู้ไวยากรณ์เยอะขึ้น ละเอียดขึ้น เราว่าสำหรับเล่มนี้มันช่วยในข้อสอบแพทได้ระดับนึงเลยแหละค่ะ คือถ้าอ่านจนแน่น บอกเลยว่ามีโอกาสรอด แล้วนอกจากเล่มนี้พี่ที่สอนเราก็ยังดึงไวยากรณ์บางอันในหนังสือ ไวยากรณ์ภาษาเกาหลี ระดับกลาง ของ ผศ.สิทธินี ธรรมชัย มาสอนเช่นกัน เพิ่มระดับความยากเข้าไปอีกหน่อย เพื่อความปลอดภัยในการทำข้อสอบค่ะ 5555

 

 

 

 

ที่เราเรียนคือในแต่ละบทจะมีไวยากรณ์ แล้วก่อนเลิกเรียนพี่เขาทำแบบฝึกหัดศัพท์จากบทนั้นมาให้เราทำด้วยค่ะ คือเขียนคำแปลภาษาไทยไว้ แล้วให้เราเขียนศัพท์ภาษาเกาหลีลงไป เราว่าดีมากๆๆ เราจะได้ได้รู้คำศัพท์มากขึ้นไปอีกในทุกครั้งที่เรียน

 

 

 

 

 

 

แล้วที่บอกไปก่อนหน้านั้นคือพี่เขาติวข้อสอบ topik เพิ่มเข้ามาด้วย ติวทั้ง topik I และ topik II เลยค่ะ ถ้าถามว่าสำหรับเราข้อสอบแพทเกาหลีมันแรงเบอร์ไหน เราว่าเอนมาทาง topik I มากกว่า คือยากกว่า topik I นิดนึง แต่ไม่ยากถึงขนาด topik II อ่ะค่ะ งงไม่งง 55555 ก็คือพี่เขาจะเอาข้อสอบมาให้ทำ แล้วก็เฉลยให้ แปลศัพท์ในบทความ จดไวยากรณ์ที่มีในบทความนั้น สำหรับถ้าใครที่จะฝึกทำข้อสอบเองนะคะ ลองโหลดข้อสอบมาทำเลยค่ะ จับเวลาทำ แล้วเฉลย คำศัพท์ไหนที่เราไม่รู้ให้จดแยกออกมาเลยค่ะ จดใส่กระดาษแยกพร้อมหาคำแปลและหน้าที่ของคำ แล้วพอวันต่อไปก็เอามันมาท่องใหม่ จดไปเรื่อยๆ รวมถึงไวยากรณ์ด้วยค่ะ อันไหนที่เจอใหม่ก็เอามาจดแยก แล้ววันต่อไปก็เอามาอ่าน อ่านแล้วอ่านอีกไป เดี๋ยวจะจำขึ้นใจเองค่ะ ตอนฝึกทำข้อสอบถ้าได้คะแนนน้อยในตอนแรกๆก็อย่าพึ่งท้อนะคะ เราก็เป็น แต่พอเราสะสมความรู้ แล้วเราวนกลับมาทำใหม่ คะแนนเราจะดีขึ้นแน่นอนค่ะ

 

 

 

นี่คือศัพท์ที่เราทำข้อสอบแล้วจดเรื่อยๆ เยอะไม่หยุด แต่พอถึงวันสอบเอาจริงๆก็ท่องไม่หมดหรอกค่ะ แต่ก็ยังดีที่ได้ท่องไปบ้าง 55555 ไม่ได้จดเป็นหมวดหมู่ใดๆ เพราะเจออะไรก็จดค่ะ


 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


แล้วสำหรับแพทเกาหลี ที่ขาดไม่ได้คือเนื้อหาสังคมวัฒนธรรมของเกาหลีค่ะ เป็น 10 ข้อสุดท้ายในข้อสอบเลย สำหรับที่เราไปสอบเราว่าถ้าได้อ่านมาบ้างมันไม่ยากจนเกินไปนะคะ แต่ต้องเข้าใจในโจทย์และแปลโจทย์ให้ออกค่ะ 5555 สำหรับปีนี้เท่าที่เราจำได้คือมีการถามชื่อเต็มประเทศเกาหลี คนในแบงค์หมื่นวอนคือใคร ในมารยาทการกินอาหารของคนเกาหลีทำอะไรไม่ได้ ถ้าไปเกาหลีเดือน 7 ทำอะไรไม่ได้ (ข้อนี้เราผิดเพราะนึกไม่ถึงว่าเดือน 7 เล่นสกีไม่ได้ค่ะ เจ็บใจมาก) มีอะไรที่ไม่ได้ทำในวันขึ้นปีใหม่ ฯลฯ ในส่วนสังคมวัฒนธรรมเราก็ได้เรียนจากพี่ที่สอนเราเช่นกันค่ะ พี่เขาสอนเพิ่มให้ด้วยเพราะเรารีเควส น่ารักมาก แง พี่เราสอนตั้งแต่มารยาทบนโต๊ะอาหาร การเคารพผูใหญ่ ประเพณีขึ้นบ้านใหม่ วันสำคัญ การเมืองของเกาหลี (เกี่ยวกับประธานาธิบดี) ประวัติศาสตร์เกาหลีแบบเบื้องต้น สังคมเกาหลีโดยภาพรวม เศรษฐกิจแบบเบื้องต้น ธนบัตรเกาหลี รวมไปถึงส่วนประกอบชุดฮันบกเลยค่ะ ดักทุกทาง แต่เป็นประโยชน์มาก เพราะเป๊ะสุด
 

 

 

 

 

 

 

 

เรามีหนังสือเล่มสุดท้ายอีกเล่มนึงที่อยากจะแนะนำคือ คำบ่งชี้เกาหลี ของ ผศ.สิทธินี ธรรมชัยเราว่าหนังสือทุกเล่มของท่านดีมากๆเลยค่ะ เขียนละเอียดเข้าใจง่าย อ่ะสำหรับเล่มนี้จะเป็นการพูดถึงคำบ่งชี้ หรือที่เราเรียกตัวชี้กันนั่นแหละค่ะ ตัวชี้เกาหลีมีเยอะมาก ชี้ประธาน ชี้สถานที่ ชี้ผู้ให้ ชี้ผู้รับ บลาๆๆ ซึ่งถ้าไม่ได้ใช้บ่อยๆก็อาจจะหลงลืมได้ ซึ่งเราก็เป็น หรือถ้ามันหน้าตาคล้ายกันมากก็อาจจะงงว่าเอ๊ะ มันต้องใช้ตัวไหน หรือสองตัวนี้เหมือนกันเลย ใช้ตัวไหนดี หนังสือเล่มนี้มีบอกไว้หมดเลยค่ะ แต่ก่อนที่จะอ่านเล่มนี้ เราว่าควรมีพื้นฐานไวยากรณ์มาบ้าง แล้วจะอ่านเข้าใจยิ่งขึ้นค่ะ หน้าตาหนังสือเป็นแบบนี้เลย ราคา 160 บาท

 

 

 






 

 

 

 

 

 



*** จากที่เรารีวิวไป เราเริ่มต้นจากการเรียนภาษาเกาหลีเอง แต่เราว่าสิ่งที่ทำให้เราพื้นฐานดีมากกว่าเดิมมากๆก็คือการเรียนพิเศษตัวต่อตัวกับพี่นิสิต มศวนะคะ คือเรียนเองบางทีเราอาจจะไม่ทราบว่าเรายังมีความบกพร่องตรงไหน แล้วเรารู้สึกว่าเอ๊ะ เราควรเรียนถึงจุดไหนนะ แต่พอได้มีคนสอนคนคอยชี้แนะ พี่เขาก็จะคอยเสริมในสิ่งที่เราขาด คอยชี้แนะสิ่งที่เรายังไม่รู้ อีกทั้งยังเป็นกำลังใจอย่างดีให้เราด้วยค่ะ***



สุดท้ายแล้วค่ะ อย่าพึ่งเบื่อกัน 5555 ก็คืออยากจะแนะนำว่าน้องๆคนไหนที่สนใจจะเข้าเอกภาษาเกาหลี อย่างเช่นเรา ให้เริ่มเรียนภาษาเกาหลีตั้งแต่ตอนนี้เลยค่ะ จะเรียนเอง เรียนตัวต่อตัว หรือตามสถาบันก็แล้วแต่สะดวกเลย แต่สำหรับเรา เราเรียนตัวต่อตัวมา เราเลยประทับใจในการเรียนตัวต่อตัวมาก เพราะเรียนลึก ละเอียด แล้วเราสามารถรีเควสบางอย่างได้ 555 แต่รวมๆแล้วราคาก็ค่อนข้างแรง แต่ผลที่ออกมาคุ้มจริงๆค่ะ อยากให้น้องๆขยันท่องศัพท์ เก็บศัพท์เยอะๆ เพราะศัพท์มันช่วยเราได้มากๆ เรียนไปมันก็จะยากขึ้นตามระดับ แต่อย่าพึ่งเป็นลม อย่าพึ่งตาย อย่าพึ่งท้อกันนะคะ ความพยายามไม่เคยทรยศใครค่ะ หวังว่าที่เรามาเขียนรีวิวนี้จะเป็นประโยชน์แก่น้องๆไม่มากก็น้อย เราไม่ได้ได้คะแนนสูง แต่เราก็อยากมาแบ่งปันวิธีการเรียนการอ่านหนังสือให้น้องๆ สู้ๆนะคะน้องๆรุ่นต่อไปทุกคน เรียนๆไปอาจจะยาก แต่อย่าพึ่งท้อ อย่าพึ่งตายนะคะ ความพยายามไม่เคยทรยศใครค่ะ

        


 

 

 

 

 

ถ้าใครมีสงสัยอะไรหรือมีคำถาม อยากปรึกษาอะไรสามารถ DM มาในทวิตเราได้เลยนะคะ @pinchtk หรือ ask.fm @Pin_Chutikarn ค่ะ ยินดีตอบทุกคำถามค่ะ และเราขอแจ้งนะคะว่าตอนนี้เราขออนุญาตงดแจกไฟล์หนังสือแล้วนะคะ ส่วนใครที่จำศัพท์ไม่ได้หรือไม่รู้จะท่องตรงไหนดี ตอนนี้เราได้รวบรวมศัพท์ทำเป็นชีทศัพท์ 6 หน้าขึ้นมาเพื่อการสอบแพทเกาหลีหรือ Topik I โดยเฉพาะ หากใครสนใจสามารถ DM มาสั่งซื้อไฟล์ชุดคำศัพท์ได้เลยนะคะ

 

 

 

 

 

 

 

 








 

แสดงความคิดเห็น

>

8 ความคิดเห็น

Pinnnnnn 9 เม.ย. 61 เวลา 16:05 น. 1-1

ขอบคุณมากๆเลยนะคะ เพราะเป็นแพทเกาหลีปีแรกด้วย เราเลยสู้แบบสุดไว้ก่อนค่ะ ;_;

0
Pinnnnnn 9 เม.ย. 61 เวลา 16:04 น. 2-1

ตัวเอง DM อีเมลล์มาในทวิตเราได้เลยค่ะ

0
Pinnnnnn 9 เม.ย. 61 เวลา 19:25 น. 3-1

สู้ๆนะคะ สักวันต้องเก่งได้แน่นอนค่ะ :D

0
phukan 10 เม.ย. 61 เวลา 09:32 น. 4

สุดยอดเลยค่ะ เราก็เรียนด้วยตัวเองเหมือนกัน เข้าใจเลยว่าการพาตัวเองขยันภาษาในขณะที่ต้องเรียนคณิตวิทย์ไปด้วยนี่วุ่นวายมากค่ะ55555555555 ขอให้ติดด้วยกันนะคะ เราก็รอรอบ 3 เหมือนกัน สู้ไปด้วยกันค่ะ

1
Pinnnnnn 10 เม.ย. 61 เวลา 14:38 น. 4-1

ใช่มั้ยคะ เราทรมานกับการสู้วิทย์คณิตมาก ยังไงก็ติดไปด้วยกันนะคะ สู้ๆค่ะ

0
85224 10 เม.ย. 61 เวลา 20:40 น. 5

ทำไมต้องใช้ขนาดตัวอักษรเล็กบ้างใหญ่บ้าง อ่านลำบากมาก โดยเฉพาะตัวเล็ก ขนาดใส่แว่นแล้วนะ

ก็เลยไม่อานละ รำคาญสายตานิดๆ5555

0
Panguin 11 เม.ย. 61 เวลา 01:47 น. 6

เราเคยเรียนที่โรงเรียนสมัยม.3 แต่เรียนแค่ 4 เดือน หรือ 1 เทอม

ซอนแซงนิมค่อนข้างวัยรุ่นและนางติดเกมส์ เวลาสอนก็จะสอนไม่เข้าใจ แต่ด้วยความที่เราติ่งมากถึงมากที่สุด พยายามเข้าใจนาง จนตอนนี้ก็ได้แค่พื้นฐาน อ่านออก เขียนได้ ฟังได้บ้าง แปลได้บ้าง ไม่ได้บ้าง

แกรมม่าหรือไวยากรณ์ เราไม่ได้เลย

เคว้งสุด 55555555555555555


ไม่มีทุนด้านซื้อหนังสือมาอ่าน แต่ก็หาในเน็ตถูๆไถๆไปเหมือน จขกท.บ้าง

แต่ส่วนตัวชอบไปหยิบหนังสือห้องสมุดมาอ่าน มีน้อยมาก หายาก แรร์


ปีนี้เราเลยตัดสินใจยื่นโควต้าเข้าเรียนเอกเกาหลี

หวังว่าจะไม่ทำให้ความตั้งใจในการอยากเรียนล่มลง


ขอบคุณที่มาแชร์ประสบการณ์นะคะ ขอให้ จขกท.สมหวัง

1
Pinnnnnn 11 เม.ย. 61 เวลา 15:00 น. 6-1

สู้ๆค่า เราเชื่อว่าคุณจะสมหวังกับสิ่งที่ตั้งใจค่ะ ขอให้ติดในคณะที่หวังเช่นกันนะคะ

0
fernnyzii 13 เม.ย. 61 เวลา 11:52 น. 7

เก่งมากก ขอถามหน่อยค่ะ รอบ 4 ถ้าเราไม่สอบPatเกาหลีเราจะยื่นได้มั้ยอ่า เราอยากเข้าเอกเกาหลีเหมือนกัน จขกท.จะเข้าที่ไหนคะ

1
Pinnnnnn 13 เม.ย. 61 เวลา 20:50 น. 7-1

สำหรับรอบ 4 เราจะยื่นเอกเกาหลี มศวค่า ต้องใช้ pat เกาหลีในการยื่นนะคะ เพราะมีอยู่ในเกณฑ์ที่ต้องใช้ยื่นค่ะ สำหรับเอกเกาหลีแทบทุกม.เลย

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

เว็บไซต์ Dek-D.com ขอสงวนสิทธิ์ในการงด โพสต์ข้อความซื้อ/ขาย/แลกเปลี่ยน/โฆษณา สินค้าทุกชนิดในเว็บบอร์ด เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนผู้ใช้งานท่านอื่น