สวัสดีจ้าชาว Dek-D.com พบกันอีกเช่นเคยกับ A day in life สกู๊ปพิเศษที่จะพาทุกคน ไปตามติดชีวิต 1 วันทำงานของอาชีพในฝัน กลับมาเจอกันท่ามกลางเดือนแดดแรงแบบนี้ เห็นทีว่าพี่ส้มจะต้องพาทุกคนไปคล้ายร้อนด้วยการเกาะติดอาชีพของสาวนั่งออฟฟิศแอร์เย็นฉ่ำแต่ไม่จำเจ เพราะเธอคนนี้คือผู้สร้างภาพลักษณ์ที่ดีพร้อมกระตุ้นยอดขายให้กับหลายแบรนด์ด้วยสื่อออนไลน์ ^^
ถ้าพูดถึงอาชีพ Editor หรือ บรรณาธิการ หลายคนอาจจะนึกภาพคนที่ทำงานท่ามกลางกองหนังสือ คอยตรวจเช็กและแก้ไขต้นฉบับก่อนที่จะนำไปพิมพ์เป็นรูปเล่มเพื่อวางขาย แต่ปัจจุบัน งานบรรณาธิการก้าวเข้าสู่โลกออนไลน์ กลายเป็น "Online Editor" และมักพบอาชีพนี้ได้ใน "เอเจนซี่" ค่ะ โดย "เอเจนซี่" ก็คือบริษัทที่เป็นนายหน้าหรือตัวแทนทำธุรกิจใดธุรกิจหนึ่ง แต่เรามักคุ้นเคยกับเอเจนซี่ที่ทำด้านการตลาด ประชาสัมพันธ์ หรือโฆษณากันมากที่สุด เนื้องานคือการเป็นที่ปรึกษาและวางแผนงานเพื่อสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าที่เป็นแบรนด์ธุรกิจต่างๆ ฟังดูก็ท้าทายไม่เบา ต้องไปถามเจ้าตัวสักหน่อยแล้วว่าแต่ละวัน อาชีพ Online Editor ต้องทำอะไรบ้าง?
PROFILE :
- ภูริตา สุวรรณทัต (พี่เตย)
- มัธยมศึกษา : โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย
- ปริญญาตรี : สาขาภาษาเพื่ออาชีพ
คณะมนุษยศาสตร์ ม.ศรีนครินทรวิโรฒ - ปัจจุบัน : Senior Online Editor
แผนก Digital บริษัท Prakit Advertising
งานออนไลน์ ที่มีอะไรใหม่ๆ ให้เรียนรู้เสมอ
ก่อนที่ "พี่เตย" จะก้าวสู่งานเอเจนซี่เต็มตัวขนาดนี้ พี่เตยเคยทำงานเป็นคอลัมนิสต์ในเซ็กชัน NuGirl by Dek-D.com มาเป็นเวลา 4 ปี (หลายคนอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตา) พอเก็บแต้มประสบการณ์ด้านงานเขียนและคอนเทนต์ออนไลน์เต็มที่แล้ว ก็ได้ตัดสินใจมองหางานใหม่ในด้านเอเจนซี่ เพราะต้องการเรียนรู้การทำงานออนไลน์ในทิศทางที่หลากหลายขึ้น และดูเหมือนว่าระบบการทำงานในบริษัทใหม่จะเป็นไปตามที่คาดหวัง เพราะได้มีโอกาสนำสกิลนักเขียนที่มีมาพัฒนาต่อ ซึ่งเป็นประโยชน์มากกับหน้าที่วางแผนโปรโมตธุรกิจให้ลูกค้า คิดโฆษณา และดูแลแฟนเพจเฟซบุ๊กต่างๆ ค่ะ
งานนี้พี่เตยบอกเลยว่าเป็นปลื้มกับระบบการทำงานมาก เพราะสนุกกับโจทย์งานใหม่ๆ อยู่ทุกวัน แถมเพื่อนร่วมงานและหัวก็เปิดกว้างให้ออกไอเดีย ระดมสมอง ยินดีคอมเมนต์และรับฟังกันอย่างตรงไปตรงมาอีกด้วยล่ะค่ะ
1 วัน ของอาชีพ Online Editor
8.30 - 9.00 น.
กลายเป็นภาพชินตาของคนในบริษัทนี้ไปซะแล้วว่าทุกๆ เช้า จะเห็นพี่เตยนั่งประจำโต๊ะทำงาน แล้วไล่เช็กอีเมลอย่างขะมักเขม้น เพื่อตรวจดูว่ามีใครส่งอีเมลประสานงานเข้ามาหรือไม่ เพื่อจัดการตามงานให้เป็นไปตามขั้นตอนโดยไม่ให้ใครต้องรอค่ะ เช่น ลูกค้าส่งอีเมลมาขอแก้งานที่ส่งไปเมื่อวาน ก็ต้องรีบตอบกลับโดยเร็วที่สุด
11.00 - 12.00 น.
มีปฏิสัมพันธ์กับคอมพิวเตอร์กันแล้ว ก็หันมาคุยกับเพื่อนร่วมงานต่อ โดยช่วงสายๆ พี่เตยจะต้องบรีฟรายละเอียดงานกับฝ่าย Account Executive (AE) หรือคนที่รับบรีฟงานมาจากบริษัทลูกค้าว่าต้องการอะไรบ้าง (เสมือนเป็นตัวกลางระหว่างลูกค้าและทีมอื่นๆ ในเอเจนซี่) ซึ่งพี่เตยต้องรับโจทย์มาคิดวางแผนการโปรโมตต่างๆ ที่ส่วนใหญ่มักรวมมาเป็นแพ็คเกจสื่อออนไลน์พร้อมกับบริการเป็นแอดมินในโซเชียลมีเดีย แล้วส่งกลับไปให้ AE พรีเซนต์งานกับลูกค้าว่าชอบมั้ย? จะได้ตัดสินใจว่าจ้างกันต่อไป
ถ้าใครยังนึกไม่ออกว่าแผนโปรโมตเป็นยังไง พี่ส้มจะยกตัวอย่างให้เห็นภาพแล้วกันนะคะ สมมติว่ามีลูกค้าที่เป็นบริษัทน้ำผลไม้ให้โจทย์กับพี่เตยมาว่า อยากให้ผู้บริโภคจำภาพแบรนด์นี้ได้ว่า ดื่มแล้วสดชื่นดับกระหาย โดยตกลงซื้อแพ็คเกจโปรโมตที่เป็นแฟนเพจเฟซบุ๊กพร้อมภาพนิ่งโฆษณาผลิตภัณฑ์ พี่เตยต้องทำหน้าที่ออกแบบว่าสื่อจะออกมาในทิศทางไหน เช่น นำขวดน้ำผลไม้มาวางเรียงตกแต่งด้วยรูปผลไม้คร่าวๆ ให้ได้อารมณ์สดชื่น พร้อมตัวอักษรประกอบเป็นคำคล้องจอง เพื่อให้ลูกค้าพอเห็นภาพว่าถ้าโปรโมตลงแฟนเพจเฟซบุ๊ก จะได้ภาพผลิตภัณฑ์สวยๆ ที่สื่อถึงอารมณ์สดชื่นแบบนี้ค่ะ
13.00 - 17.00 น.
พักกลางวันชาร์จพลังกันให้เต็มที่แล้ว พี่เตยของเราก็กลับมาลุยงานต่อ โดยได้นำ โจทย์งานของลูกค้าที่ว่าจ้างให้ดูแลแฟนเพจมาคิดคอนเทนต์ไว้เป็นล็อตๆ เพื่อส่งไปให้ลูกค้าตรวจดูล็อตละ 8 หรือ 15 คอนเทนต์ก่อนเผยแพร่จริง 2 สัปดาห์ ซึ่งแต่ละคอนเทนต์จะต้องประกอบด้วยเนื้อหาที่เป็นข้อความและภาพประกอบ พร้อมคำบรรยายสั้นๆ ที่เป็นหัวเรื่องชวนให้คนอ่าน โดยถ้าลูกค้าไม่ฟีดแบ็กมาให้แก้ไขอะไรก็จะนำมาโพสต์ลงในแฟนเพจของลูกค้าที่พี่เตยดูแลต่อไปค่ะ
แต่งานที่ต้องแก้ไขนั้นจะถูกแบ่งหน้าที่ออกเป็นสองส่วน โดยพี่เตยเล่าว่าถ้าเป็นส่วนที่เกี่ยวกับข้อความต่างๆ จะเป็นหน้าที่หลักของพี่เตย แต่ถ้าเป็นภาพและการออกแบบต่างๆ จะเป็นหน้าที่ของกราฟิกดีไซน์เนอร์ ซึ่งจะต้องมีการเช็กความถูกต้องของงานทั้งสองส่วน อีกครั้ง ก่อนส่งกลับไปให้ลูกค้าค่ะ
17.00 - 18.00 น.
นอกจากจะต้องรับผิดชอบงานเขียนต่างๆ แล้ว พี่เตยยังมีอีกหนึ่งหน้าที่หลักในการคิด Online Acitvity หรือกิจกรรมร่วมสนุกออนไลน์ในโซเชียลมีเดียอีกด้วย ซึ่งเธอเอ่ยปากเลยว่าขั้นตอนนี้มีรายละเอียดยิบย่อยเยอะมาก เพราะต้องคิดให้ถูกใจคนเล่น และเป็นไปตามความต้องการของลูกค้าด้วย แก้กลับไป-มาก็หลายรอบอยู่
18.00 - 19.00 น.
หลังจากที่คิดๆ เขียนๆ กันมาทั้งวันแล้ว ก็ถึงเวลาช่วงท้ายของวันที่พี่เตยจะต้องเข้าไปดูความเรียบร้อยในแฟนเพจเฟซบุ๊กอีกครั้ง จัดการเอาคอนเทนต์ลูกค้าตรวจผ่านแล้วมาตั้งเวลาใน Schedule Post ให้เรียบร้อย แล้วก็เก็บของกลับบ้านจ้า
มีห้องทำงานเป็น "โลกออนไลน์" แม้ไม่ได้ออกไปไหน ก็ไม่เคยน่าเบื่อ
อย่างที่ทราบกันดีว่า การออกไอเดียของคนทำงานและคนจ้างงานมักเป็นความเห็นที่ขัดกันอยู่บ่อยครั้ง พี่เตยเลยต้องมีแผนการทำงานแบบไม่ใช่แผนเดียว เพราะเมื่อไอเดียที่หนึ่งถูกตีตกไป เราก็ต้องแก้ไขหรือคิดสร้างสรรรค์สิ่งใหม่ที่โดนใจลูกค้าให้ได้ในเวลาที่กำหนด ซึ่งแน่นอนว่าเราจะต้องพัฒนาตัวเองและหาความรู้ใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา นี่แหละค่ะเหตุผลของความท้าทายที่ทำให้งานนั่งโต๊ะไม่น่าเบื่อเลย ^^
เคล็ด(ไม่)ลับ ขยับสู่ความสำเร็จของ Online Activity
อย่างที่บอกไปว่าหน้าที่คิดกิจกรรมออนไลน์ เป็นจ็อบที่ยุ่งหัวปั่นสุดๆ แต่แม้จะยากสักเท่าไหร่ พี่เตยก็ไม่มีการหวงวิชาแต่อย่างใดค่ะ เพราะยินดีบอกเคล็ดลับที่ทำให้กิจกรรมออนไลน์ได้กระแสตอบรับที่ดี
-
กิจกรรมต้องสร้างสรรค์ แปลก แหวกแนว ไม่เหมือนใครๆ ทำกันทั่วไป
-
อย่าคิดกิจกรรมให้ยากเกินไป เดี๋ยวคนไม่สนใจเล่น
-
ให้ความสำคัญกับของรางวัล ต้องดึงดูดใจคนเล่น มีมูลค่า หรือหาซื้อไม่ได้ง่ายๆ
ทักษะที่ต้องเตรียมพร้อมให้มี สู่เส้นทาง Online Editor มือโปร!
อ่านมาถึงตอนนี้ มีใครรู้สึกว่าตัวเองคู่ควรกับอาชีพนั่งออฟฟิศแล้วสนุกกับการคิดและเขียนแบบพี่เตยบ้าง? ถ้าคิดจะเอาดีทาง Online Editor แล้วล่ะก็ เตรียมพัฒนาทักษะ 4 ด้านนี้ไว้ให้พร้อมเลยจ้า ^^
-
เขียนได้ดี : สามารถถ่ายทอด เล่าเรื่องราวให้น่าอ่าน รู้จักจับประเด็น มีความรู้ด้านการใช้ภาษา
-
คิดอย่างสร้างสรรค์ : ช่างสังเกต พอกพูนความรู้รอบตัว อัปเดตเทรนต์ต่างๆ อยู่เสมอ
-
ปรับตัวเข้าหาสังคม : เอเจนซี่ทำงานแบบทีมเวิร์ค และมีลูกค้าหลากหลายกลุ่ม
-
รับผิดชอบ : เราไม่ได้ทำงานแค่ให้เสร็จตามที่ลูกค้าต้องการ แต่เราต้องดูแล ภาพลักษณ์ให้แบรนด์เขาด้วย
0 ความคิดเห็น