สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com เช้านี้ ที่ ทปอ. มีการแถลงข่าวอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ใช่ของพี่ๆ #dek61 แล้วค่ะ เรียกว่าเป็นการแถลงข่าวครั้งแรกของ #dek62 เลยก็ว่าได้ โดยใจความสำคัญของการแถลงข่าวครั้งนี้ คือ แนวโน้มรายละเอียดเบื้องต้นของการรับนักศึกษาในปี 2562 รวมไปถึง การประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็นต่อ TCAS 62 ด้วย รายละเอียดจะเป็นอย่างไร พี่มิ้นท์สรุปมาให้แล้วค่ะ^^


     แนวทางการรับสมัคร TCAS 62 (ที่จะเปิดทำประชาพิจารณ์)
     ทปอ.จัดทำร่างดำเนินการ TCAS 62 เพื่อการประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็นในหลากหลายกลุ่ม คือ นักเรียน ผู้ปกครอง ครูแนะแนว อาจารย์มหาวิทยาลัย ฯลฯ สาระสำคัญของการเปลี่ยนแปลงในรุ่น #dek62 คือ
  
    1. ลดระยะเวลาในการคัดเลือกให้สั้นลง จาก 10 เดือน คือ ตุลาคม - กรกฎาคม เหลือ 4 เดือน คือ กุมภาพันธ์ - พฤษภาคม
      
2. รอบที่ 3 รับตรงร่วมกัน เปลี่ยนจาก 4 ตัวเลือกไม่มีลำดับ เป็น 4 ตัวเลือกมีลำดับ และประกาศผลเพียง 1 สิทธิ์ เหมือนแอดมิชชั่น
    
   3. สาขาที่เคยรวมกลุ่มในตัวเลือก กสพท จะถูกนับเป็น 1 ตัวเลือก เหมือนกับสาขาที่อยู่นอกกลุ่ม กสพท (หมายความว่า หากต้องการเลือก กสพท 4 แห่ง ก็จะกลายเป็น 4 อันดับใน TCAS รอบ 3 เลย)
      
4. เมื่อมีการยืนยันสิทธิ์แล้ว จะสละสิทธิ์เพื่อสมัครและยืนยันสิทธิ์รอบต่อไป ทำได้เพียง 1 ครั้ง เพื่อไม่ให้กระทบสิทธิ์ผู้อื่น
 
       ย้ำว่านี่เป็นเพียงแนวทางที่จะเปลี่ยนแปลงค่ะ ยังไม่ใช่ข้อสรุปจริงที่จะนำมาใช้ ซึ่งต้องผ่านการประชาพิจารณ์จากกลุ่มต่างๆ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ภายในเดือนกรกฎาคม 2561 จากนั้นจะทำบทสรุปในวันที่ 3 สิงหาคม และคาดว่าจะแถลงการรับข้อมูลปี 62 ได้ในเดือนสิงหาคมค่ะ

 

   สรุปคำถามประเด็นต่างๆ 
   1. TCAS รอบ 3 เกณฑ์ต่างกัน จะจัดแบบเรียงลำดับได้ใช่หรือไม่ เพราะรุ่น 61 ไม่สามารถทำได้
   
ตอบ จะต้องขอความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยเพิ่มเติม เพื่อให้ส่งข้อมูลที่มากกว่าเดิม อย่างปีที่ผ่านมา ข้อมูลที่ส่งกลับคือ ใครที่ผ่านการคัดเลือกบ้าง แต่ในปี 62 จะต้องเรียงลำดับผู้สมัครมาทุกคน

    2. น้องๆ #dek62 ควรเตรียมตัวอย่างไร
    
ตอบ เตรียมตัวเหมือนเดิม เพราะไม่ได้เปลี่ยนมาก แต่ถ้าใครมีความคิดเห็นอยากนำเสนอ สามารถร่วมทำประชาพิจารณ์ได้

    3. เมื่อล่นระยะเวลาการสมัครเหลือ 4 เดือน  จะเลื่อนการสอบต่างๆ หรือไม่
    
ตอบ การสมัครสอบของ กสพท สทศ. จะใกล้เคียงกับปี 61

    4. ระบบต่างๆ จะล่มอีกไหม?
    
ตอบ จะพัฒนาให้เสถียรขึ้น โดยนำปัญหาในปีที่ผ่านมาไปเป็นบทเรียน

    5. ยังมี 5 รอบเหมือนเดิมไหม
    
ตอบ มี 5 รอบเหมือนเดิม แค่ปรับระยะเวลาให้กระชับขึ้น เหลือ 4 เดือน โดยเริ่มสมัคร 1 ก.พ.62 เป็นต้นไป
 

ดู Live การแถลงข่าวครั้งนี้ ด้านล่างได้เลยค่ะ
พี่มิ้นท์
พี่มิ้นท์ - Columnist พี่สาวใจเย็น ผู้เกิดมาในแอดมิชชั่นยุคแรก แต่เข้าใจ TCAS มากกว่า

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

เด็กหัวร้อน ผปคหมดเงิน 6 ก.ค. 61 18:54 น. 8

ทำไมต้องสอบอะไรหลายอย่าง 9 วิชาสามัญ กับ O-NET น่าจะเหลือแค่อย่างเดียวพอ จะได้ยุบรวมกันเลยรอบ 3 กับ 4 ย่นเวลาขึ้นเด็กเครียดน้อยลง

1
KHWANNATE Member 15 ก.ค. 61 09:33 น. 8-1

เห็นด้วยค่ะ วิชาหนึ่งๆต้องไปสอบทั้ง onet วิชาสามัญ gat pat อังกฤษพิเศษ ยุบรวมกันเลยได้มั้ย ไปทำข้อสอบให้มันดีๆ รอบ3 เป็นรอบสุดท้ายเลย

0
กำลังโหลด

29 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
เบื่อ ทปอ. 6 ก.ค. 61 14:49 น. 2

ไม่เห็นต้องแถลงเลย อ่านตามสคริปแค่นั้น แจกเอกสารให้สื่ิอมวลชนซะ ที่เรารอคือสปิริตของท่าน ว่าจะมีหรือไม่ จะขอโทษ หรือ ลาออกน่ะ มีกันไหม?

แนวทางที่จะแก้ มันก็-ข้อเรียกร้องที่เขาขอให้ท่านแก้ใน TCAS61นี่แหละ แต่ท่านดื้อด้านที่จะทำต่อ จนเกิดความเสียหาย เสียโอกาสของเด็กหลายๆคน แต่ท่านก็ยังมาลอยหน้าแถลงการณ์ ได้

2
bung1956 Member 6 ก.ค. 61 16:20 น. 2-1

เลือกได้ 4 ลำดับ นับรวม กสพท อย่างนี้คนเลือกแพทย์ใน กสพท 4 มหาวิทยาลัย ก็หมดสิทธิ์เลือกคณะอื่นนอกกลุ่ม กสพท สิ พระเจ้านี่ ทปอ เล่นตลกอะไร ทำไมไม่จัดให้กลุ่ม กสพท เลือกได้ 4 ลำดับ และนอกกลุ่ม กสพท เลือกได้อีก 3 ลำดับ ครับ ที่จริงควรแยกกลุ่ม กสพท ออกไปต่างหากเหมือนเดิมจะดีกว่าด้วยซ้ำ เพราะเขาสอบ 9 วิชาสามัญ ทปอ ไม่ควรเข้ามายุ่งด้วยในรอบรับตรงของแต่ละมหาลัย และให้นักเรียนเลือกได้มหาลัยละ 1 คณะ จะเลือกกี่มหาลัยก็ช่าง แต่มีกำหนดเวลายืนยันสิทธิ์หรือ clearinghouse ตรงกันทุกมหาวิทยาลัย ใครสมัครมากก็เสียเงินมากเป็นธรรมดา แต่นักเรียนส่วนใหญ่คงเลือก 2-3 แห่งเท่านั้น ถัดจากรอบนี้เป็นรอบ admission ทปอ จึงเข้ามาดำเนินการ เพราะอะไรก็เพราะรอบรับตรงให้แต่ละมหาวิทยาลัยดำเนินการเองให้เงินเข้ามหาวิทยาลัยนั้นโดยตรง แน่นอนมหาวิทยาลัยที่ดังมีคนสมัครมากก็ได้มากเป็นไปตามกลไกตลาด ทปอ เผือกไปรึเปล่าครับ หรือเม็ดเงินมากจึวอยากแบ่ง

0
กำลังโหลด
Blink 6 ก.ค. 61 16:33 น. 3

ถ้าเราเลือก กสพท.3ที่ รอบนอกอีก1. เราไม่เสียเปรีบยคนอื่น สอบก็เยอะกว่า แถมเลือกอะไรไม่ได้เลย เล่นอะไรกันอยู่คะ

0
กำลังโหลด
รับฟังเสียงเด็กบ้าง 6 ก.ค. 61 17:18 น. 4

ควรจะเพิ่มรอบสอบปลายเดือนต.ค.นะ สอบแค่ปลายก.พ.ไม่มีเวลาอ่านหนังสือสอบหรอกปิดเทอมก็20กว่าก.พ.แล้ว จะให้อ่านหนังสือกี่วัน

1
จากใจdek62 6 ก.ค. 61 18:16 น. 4-1

มาบอกตอนนี้เด็กจะเตรียมตัวยังไงคะ เด็กหลายๆคนเตรียมตัวมาโดยเอาปี61เป็นแบบอย่าง ถ้ามี2รอบเตรียมตัวไม่ทันค่ะ

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
เสียงเด็กสอบ 6 ก.ค. 61 17:48 น. 6

แนะนำว่าอย่างนี้ คือ

1.เพิ่มการสอบปลายเดือน ต.ค.เพื่อช่วงเวลาต.ค.เป็นปิดเทอมเล็ก ต้นเดือนเด็กจะได้มีเวลาอ่านหนังสือ

2.เมื่อมีการสอบปลาย ต.ค.จะทำให้มีเวลาตรวจข้อสอบมากขึ้น อาจจะประกาศผลคะแนน ธ.ค.ก็ได้

3.การรับเด็กเข้าเรียนต่อน่าจะเริ่มซัก ม.ค.-ก.ค. เพราะอย่างน้อยคะแนนรอบที่1ก็ประกาศมาแล้วเดือนธ.ค.

4.การสอบครั้งที่2ที่ปกติจะเกิดขึ้นปลายก.พ.ถึงกลางมี.ค.เดิม จะได้เป็นการสอบแก้ตัวอีกครั้ง เด็กๆไม่ได้อยากให้เปิดรับหลายๆรอบ แต่อยากให้สอบมากกว่า1รอบ เพื่อโอกาสได้แก้ตัว และควรจะทิ้งเวลาให้อ่านหนังสือด้วย ไม่ใช่ปิดเทอมปุ๊บสอบปั๊พ อาจจะเริ่มกลางเดือนมี.ค.

5.9วิชาสามัญจะสอบช่วงไหนก็ไม่น่ามีปัญหา อาจจะเป็นปลายต.ค.หรือธ.ค.

6.อย่าฝืนตัวเองที่ชอบพูดว่า การสอบต้องทำหลังเรียนจบ ปี61นักเรียนสอบวันปลายภาควันสุดท้ายวันที่23ก.พ.61และต้องสอบpat/gatวันแรกคือ24ก.พ.61ลองนึกถึงลูกของท่านดูว่าจะเตรียมตัวอย่างไร รีดเสื้อยังไม่ทันเลย

7.ลองกลับไปดูที่การเรียนการสอนในโรงเรียน ลองปรับวิชาหลักให้เรียนให้จบใน5เทอมแล้วเทอมที่6เป็นการสรุปก่อนไปสอบดีกว่ามั้ย การจัดรอบสอบแบบบีบเวลาไม่ได้ช่วยให้ระบบการรับเข้าดีขึ้น มันต้องไปขยับเรื่องการสอนบ้าง ไม่ได้ให้เรียน5เทอม ยังคง6เทอมแต่มีสรุปเพื่อไปสอบได้ประสิทธิภาพ

8.ขอโทษเวลาผิดพลาด คือเรื่องที่เป็นการแสดงสปิริต ทำบ้างก็ได้นะครับ มนุษย์ทุกคนมันผิดพลาดกันได้อยู่แล้ว

9.ผมเป็นเด็กลาดกระบังคนนึง ผมก็อยากมีอธิการบดีที่ผมภูมิใจ สามารถพูดได้ว่า นี่อธิการ ม.ของผมเอง บางทีก็อยากให้ฟังศิษย์เก่าคนนี้บ้าง เมื่อพี่เป็นใหญ่ในสังคมเสียงเล็กอาจจะไม่ได้ยินถึงพี่ น้องจึงมีหน้าที่ต้องบอกพี่ ให้พี่ยังเป็นพี่ที่ดี

5
จากใจdek62 6 ก.ค. 61 18:17 น. 6-1

ขอร้องว่าอย่าสอบ2รอบค่ะ เด็กส่วนใหญ่เตรียมตัวมาแบบสอบรอบเดียวคือช่วงปลายกพ.-มีค.แล้วค่ะ

0
กำลังโหลด
12347 6 ก.ค. 61 18:06 น. 7

"รอบที่ 3 รับตรงร่วมกัน เปลี่ยนจาก 4 ตัวเลือกไม่มีลำดับ เป็น 4 ตัวเลือกมีลำดับ และประกาศผลเพียง 1 สิทธิ์ เหมือนแอดมิชชั่น"

มีข้อสงสัยว่า แล้วเด็กจะไปหาข้อมูลคะแนนต่ำสุด(เปรียบได้กับความยาก-ง่ายในการเข้าศึกษา)มาจากไหนครับ?? เมื่อเด็กไม่มีข้อมูลตรงนี้เลย แล้วเด็กจะเอาอะไรมาเป็นข้อมูลในการพิจารณาหรือตัดสินใจเลือกลำดับ??

เกิดเด็กเอามหาวิทยาลัยที่เข้ายาก(ยากในแง่เมื่อคิดคะแนนตามเกณฑ์ของมหาวิทยาลัยนั้น ๆ แล้วตัวเด็กไม่ติดหรือเสี่ยงมาก ๆ)ไปใส่ไว้ในอันดับ 3 4 จะทำอย่างไร สรุปคือเด็กจะไม่มีทางรู้เลยว่าอันดับของตัวเองนั้น เหมาะสมมากน้อยเพียงใด ตรงนี้คือสิ่งที่แตกต่างจากแอดมิชชั่นที่ใช้เกณฑ์เหมือนกันในสาขาวิชาเดียวกันอย่างสิ้นเชิง เพราะแอดมิชชั่นสามารถเปรียบเทียบคะแนนได้ง่าย

ยกตัวอย่างเช่น คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬา กับ ม.เกษตร ในรอบ 3 ของปี 2561 เกณฑ์ของจุฬาคือ GAT 20% PAT1 20% PAT3 60% คิดเป็นคะแนนเต็ม 30000 แล้วของม.เกษตรล่ะ? นี่แหละปัญหาใหญ่ของการจัดอันดับในรอบ 3 ซึ่งเกณฑ์แต่ละมหาวิทยาลัยไม่เหมือนกัน

ปล.ไม่ได้มีเจตนาในการดิสเครดิตมหาวิทยาลัยที่ยกตัวอย่าง มีวัตถุประสงค์เปรียบเทียบเพื่อให้เห็นภาพเท่านั้น

0
กำลังโหลด
เด็กหัวร้อน ผปคหมดเงิน 6 ก.ค. 61 18:54 น. 8

ทำไมต้องสอบอะไรหลายอย่าง 9 วิชาสามัญ กับ O-NET น่าจะเหลือแค่อย่างเดียวพอ จะได้ยุบรวมกันเลยรอบ 3 กับ 4 ย่นเวลาขึ้นเด็กเครียดน้อยลง

1
KHWANNATE Member 15 ก.ค. 61 09:33 น. 8-1

เห็นด้วยค่ะ วิชาหนึ่งๆต้องไปสอบทั้ง onet วิชาสามัญ gat pat อังกฤษพิเศษ ยุบรวมกันเลยได้มั้ย ไปทำข้อสอบให้มันดีๆ รอบ3 เป็นรอบสุดท้ายเลย

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
แม่คนหนึ่ง 6 ก.ค. 61 20:10 น. 10

รอบ port ข้อกำหนดว่าต้องได้เกรด4 ในวิชาสาขาวิทยาศาสตร์ แต่ละ รร ข้อสอบไม่เหมือนกัน ทำให้รุ้สึกว่าไม่มีความยุติธรรม ไม่มีความเท่าเทียมกัน (หากใช้ข้อสอบทุก รร เหมือนกันหมด พอเข้าใจได้) ส่วนตัวคิดว่าข้อกำหนดนี้ควรตัดออกไปค่ะ



0
กำลังโหลด
เด็กโง่คนหนึ่ง 6 ก.ค. 61 20:51 น. 11

-รอบ1 พอร์ตอ่ะไม่ควรมีจำกัดเกรดขั้นต่ำและพวกเด็กโอลิมปิกและนักกีฬาอ่ะควรไม่ควรมีสิทธิ์เข้ารอบพอร์ตควรย้ายไปอยู่รอบโควต้าเพราะยังไงเด็กธรรมดาเดินดินต้องยื่นพอร์ตสู้กับเด็กพวกนี้จะเอาอะไรไปสู้เหมือนคุณเลือกนักบอลระหว่าง นายดำ เตะบอลไม่เป็น กับ คริสเตียโน โรนัลโด อ่ะคุณจะเลือกใคร?

-ควรย้ายกสพท ไปอยู่รอบ2 เพราะถ้าเด็กคะแนนไม่ถึงแพทย์นั้นเท่ากับตัดสิทธิ์เด็กที่ควรจะติดคณะอื่นไปเลย -รอบ3ติดแบบไม่เรียงอันดับอ่ะดีแล้ว แต่แค่เพิ่มเป็นรอบ3.2เพื่อเลื่อนลำดับขึ้นมาเหมือนปี61ก็ดีอยู่แล้ว เด็กไม่เสียหายอะไรเลย(หรือว่ากลัวว่าจะกินงบได้น้อยลง) ปล.ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย ทปอ.กับ ปญอ. นี่อันเดียวกันรึป่าว แล้วคือที่ออกมาเป็นแนวโน้มนี่ผ่านกระบวนการคิด วิเคราะห์ และไตร่ตรองแล้วหรอ ทำไมเราถึงรู้ว่า ปล.2 ไม่อยากจะเชื่อว่าเรามีผู้ใหญ่ที่มีความคิดได้แค่นี้กำลังบริหารงานอยู่ ปล.3 ถ้ามีปัญญาแค่นี้-ลาออกไปให้หมดเถอะจะได้ไม่เป็นภาระลูกหลาน จะได้ไม่ต้องได้ชื่อว่าเป็นคนๆหนึ่งที่ทำลายระบบการศึกษา ทำลายชีวิตของเด็กหลายหมื่นหลายแสนคน ทำลายประเทศชาติ ปล.4 เราเชื่อว่าเรื่องแค่นี้ ทปอ.สามารถทำได้ และสามารถลบคำสบประมาทของทุกๆคนได้

1
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Ticha 6 ก.ค. 61 22:47 น. 13

1) tcas ปี 62 ทำแบบปี 61 ไปก่อนดีกว่า ถ้าไม่อยากเห็นเด็กเป็นบ้าหรือทำร้ายตนเอง


2) ส่วนที่จะปรับใหม่นั้น เอาไว้ไปใช้ในปี 63 หรือ 64 เพราะการเปลี่ยนแปลงนึ่ เด็กปี 62 คงปรับตัวไม่ทัน

3) tcas ปี 62 ขอแบบเดิม ปี 61 ตามตารางเวลาเดิม เพียงเปลี่ยนเงื่อนไขสมัครใหม่. แต่กำหนดระยะเวลาแบบเดิม

การร่นเวลาน้อยลง มัน rush ทั้งเด็กและผู้ทำหน้าที่คัดเลือก

การจะปรับเวลาใหม่ ควรจะทดสอบประสิทธิภาพก่อน ไม่ใช่ใด้เด็กๆ เป็นหนูทดลอง


4) ปรับเปลี่ยนเงื่อนไขในบางรอบใหม่ ให้มีความสมเกตุสมผลมากขึ้น โดย


รอบแรก Portfolio นั้นควรเป็นผลงานจริง บวกสอบวิชาตามที่กำหนด ไม่ควรให้สิทธื เด็กโควตาภูมิภาค ช้างเผือกฯลฯมาสอบรอบนี้. กำหนดการเหมือนเดิม เริ่ม ต.ค.


รอบ 2 โควตา ภูมิภาค ช้างเผือก ฯลฯ น่าจะเอาพวก กสทพ มาไว้ตรงนี้เลย กำหนดสอบตามตารางเดิม


รอบ 3 รับตรงร่วมเหมือนเดิม เลือก 4 คณะ ไม่มี กสพท 

หากผลสอบออกมา อาจติด 4 คณะ ยืนยันสิทธิ์ได้คณะเดียว

โดยจัดให้มีรอบ 3.1 และ 3.2 เช่นเดิม


รอบ 4 Admision


รอบ 5 รับตรง




1
กำลังโหลด
Jinpitak Member 6 ก.ค. 61 23:06 น. 14

การสอบของนักเรียนในรอบกสพทควรแยกออกจากรอบ3นะคะ และให้เด็กเคลียร์ริ่งเฮาท์ให้เสร็จก่อนรอบ3 เพราะถ้าเด็กพลาดเค้าก็ยังมีคณะดีๆที่สามารถเลือกเรียนได้ ทำให้ลดการเสียใจและกดดันของนักเรียนซึ่งส่วนใหญ่ที่ยังตัดสินใจไม่แน่นอนว่าความสามารถของตนจะถึงคณะที่ต้องการมั้ย แต่ถ้าต้องไปรอบ4เลยอาจจะทำให้เด็กได้คณะที่ไม่ต้องการมากขึ้น ทำให้เกิดการซิ่ว การดร็ปเรียนมากขึ้น

0
กำลังโหลด
Jinpitak Member 6 ก.ค. 61 23:28 น. 15

การทำประชาภิจารณ์ควรให้เข้าถึงเด็กและผู้ปกครองให้มากที่สุด ว่าเด็กต้องการอะไร เราจะแก้ปัญหาอย่างไรให้เด็กได้รับความยุติธรรม และสบายใจไม่เครียดจนเกินไป อย่าเปลี่ยนแปลงระบบให้มากเกินไปเด็กจะรับได้ยากและเกิดการสับสน ในปีหน้าก็แค่แยกกาพ.ท.ออกจากรอบ3และในรอบ3มีการจัดลำดับ ก็น่าจะแก้ปัญหาได้ในระดับหนึ่งแล้วนะคะ ไม่ควรทำอะไรให้ซับซ้อนและยุ่งยากเกินไป เด็กจะเครียดนะคะ ในอดีตสมัยที่ดิฉันเอ็นทรานที่มีการใส่ลำดับก็โอเคนะคะ บางอย่างถ้าสิ่งที่ทำมาในอดีตดีอยู่แล้วเราก็ควรนำมาใช้นะคะ ลดความยุ่งยากซับซ้อนลงบ้างจะดีมากคะ เพราะน้องๆและผู้ปกครองรู้สึกเครียดแทนกับระบบที่ซับซ้อน แค่น้องๆอ่านหนังสือเตรียมสอบก็เครียดพออยู่แล้วนะคะ

0
กำลังโหลด
Chatchai 7 ก.ค. 61 07:00 น. 16

รอบ1 เด็กโควต้า และข้างเผือกยื่นพอร์ต ดูคะแนนขั้นต่ำ ก็น่าจะเป็นการสกรีน เด็กอย่างโรนัลโด้ และมีคะแนนที่น่าจะมีศักยภาพเรียนได้ แต่เด็กที่เล่นบอลไม่เป็น แต่มีผลงานด้านอื่นๆที่ชัดเจนทำพอร์ตได้ ก็น่าสนับสนุน แต่ไม่ใช่ในฐานะนักฟุตบอล


ปัญหาที่เกิดชัดเจนของ ปี61 คือเด็ก กสพท. ที่ตามระเบียบการรับตรงร่วมกันรอบสาม มากกกว่า ที่ควรจะแก้ปัญหาให้ตรงจุด ไม่ใช่เหวีายงไปกระทบเด็กส่วนอื่นๆ

จริงๆสภาพสังคมการศึกษาที่ตัดสินกันด้วย..การสอบ.. เป็นคือสังคมที่ยอมรับว่า ระบบ winner takes all อยู่แล้ว ฉะนั้น หากให้เด็กที่เก่ง มากๆ มาเลือกรวมกับเด็กส่วนใหญ่ ผลคงไม่ต้องเดา

การแก้ปัญหาควรเริ่มที่จุดนี้


ส่วนการนำคะแนน ของชั้นม.ปลาย มาร่วมในการพิจารณารับเด็ก อันนี้ ต้องยอมรับความจริงที่ว่า ..มาตรฐาน..แต่ละรร. ไม่เท่ากัน อย่างชัดเจนครับ และมันเป็นเรื่องจริง ที่ครูทุกรร.ทราบ แต่จะยอมรับได้หรือไม่ เด็กที่มาจาก รร.ดังๆ 5-10 อันดับแรก ย่อมรู้ดีว่า คะแนนได้ยากขนาดไหน


การปรับเวลาสอบ และการเรียนในรร. ต้องสัมพันธ์กัน ให้เด็กมีเวลาทบทวน และเตรียมตัว

ย่อมต้องน่วมมือกัน ทั้ง ทปอ. กระทรวง และสพฐ. หากต้องการให้ระบบ work ไม่ควรทำงานแบบแยกกัน คนนึง invent อีกคน implement


บอกตรงๆว่าการสอบ GAT PAT 9 วิชาสามัญ และโอเน็ต มันเยอะ และซ้ำซ้อนกันเกินไปไหม วัตถุประสงค์จะวัดเด็ก หรือวัดรร. ก็คงพอทราบกันดีอยู่ครับ

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Tiyatiya 7 ก.ค. 61 09:17 น. 18

ควรกลับไปสอบระบบเดิมดีที่สุด

เด็กจะได้มีเวลาไปทำงานเสริมมีเวลาอ่านหนังสือ. สอบจบครั้งเดี่ยวรู้เรื่อง ไม่ต้องรอให้วุ่นวายครอบครัวไม่ต้องด่าว่าไม่ทีที่เรียนสักที รอบมองไม่ควรเกิดขึ้น กลับไประบบเดิมเถอะค่ะ

1
กำลังโหลด
Suthrees. 7 ก.ค. 61 23:25 น. 19

ก่อนอื่นต้องขออนุญาตทุกๆคนรวมทั้งทปอ. ด้วยนะครับ ไม่ได้มีจุดประสงค์ดูถูกหรืออะไรทั้งนั้น เเต่ความเห็นนี้เป็นเเค่ข้อคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้นครับ

1.ลดเวลาจาก 10 เดือน เป็น 4 เดือน

ข้อนี้ผมไม่ค่อยเห็นด้วยนะครับ เพราะ จาก TCAS61 ระยะเวลา 10 เดือนก็เกือบจะไม่พอเลย เเต่ปี62 กลับมาลดเวลารับสมัคร TCAS 5 รอบ + จำนวนนร. ที่สมัครเเละการยืนยันตัวตน ส่วนตัวผมคิดว่าระยะเวลา 4 เดือนไม่น่าจะพอ เเล้วก็ผมยังกังวลว่าเว็บจะล่มเหมือน TCAS61 อีกมั้ย เเละอีกอย่างการรับสมัครเเต่ละรอบเวลาจะไม่กระชั้นชิดไปหน่อยหรอครับ เป็นการกดดันเด็กเพิ่มอีกหรือเปล่า?


0
กำลังโหลด
แม่เด็ก 8 ก.ค. 61 13:01 น. 20

สำรอง ควรมีไหม?


เด็กไม่ผ่านสัมภาษณ์ ?ไปอย่างไรต่อ


ประกาศผลสัมภาษณ์? สัมพันธ์กับรอบต่อไปแบบไหน

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด