สวัสดีค่ะน้องๆ หลังจากที่เรารู้จักมหาวิทยาลัยจากทางภาคใต้ และภาคกลางกันมาบ้างแล้ว วันนี้ dream campus จะพาน้องๆ ไปสืบประวัติ ตามหาความจริงกับมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งของทางภาคเหนือกันบ้างค่ะ
สำหรับมหาวิทยาลัยทางภาคเหนือแห่งนี้ เป็นอีกมหาวิทยาลัยที่ได้มีชื่อเสียงในเรื่องของบรรยากาศ สิ่งแวดล้อม และความสวยงามของพื้นที่ในมหาวิทยาลัย ครั้งหนึ่งพี่แนนนี่ได้เข้าไปสัมผัสด้วยตาตัวเอง บอกได้เลยว่าสมคำร่ำลือเลยค่ะ เพราะวิวสวยมาก บรรยากาศร่มรื่น น่าอยู่มากค่ะ
มหาวิทยาลัยของภาคเหนือที่วันนี้พี่แนนนี่จะพาน้องๆ ไปรู้จัก นั่นก็คือ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ซึ่งตั้งอยู่ที่จังหวัดเชียงราย ว่าแต่ที่นี่จะมีเรื่องน่ารู้อะไรบ้างไปดูกัน
1. เดิมมีการเรียกร้องและรณรงค์ให้จัดตั้งสถาบันการศึกษาระดับสูงขึ้นที่จ.เชียงราย โดยมีหลากหลายแนวทาง เช่น เป็นวิทยาเขตของม.เชียงใหม่ ยกฐานะสถาบันราชภัฏขึ้นเป็นมหาวิทยาลัย หรือจัดตั้งมหาวิทยาลัยขึ้นใหม่ สุดท้ายได้ข้อสรุปให้จัดตั้งมหาวิทยาแม่ฟ้าหลวงขึ้น
2. เนื่องจากสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือสมเด็จย่า ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่ออาณาประชาราษฎร์ โดยเฉพาะจ.เชียงรายที่ทรงใช้เป็นสถานที่สร้างพระตำหนักและทรงริเริ่มโครงการพัฒนาดอยตุง และเพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดี และเป็นอนุสรณ์รำลึก จึงได้จัดทำโครงการเสนอให้จัดตั้งมหาวิทยาลัยที่จังหวัดเชียงราย
3. ตราสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัย มาจากอักษรพระนามาภิไธยย่อของสมเด็จย่า ส.ว. เป็นเครื่องหมายแห่งความจงรักภักดีของประชาชน บุคลากร และนักศึกษา และมีเลข ๘ และ ๙ ประดิษฐานภายใต้ฉัตรเจ็ดชั้น ซึ่งหมายถึง สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงเป็นพระราชชนนีของพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 8 และ 9 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์
4. การเรียกชื่อคณะของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จะเรียกเป็น สำนักวิชา เช่น สำนักวิชาศิลปศาสตร์ สำนักวิชานิติศาสตร์ สำนักวิชาพยาบาลศาสตร์ สำนักวิชาทันตแพทยศาสตร์ เป็นต้น ส่วนสาขาวิชาที่แยกมา ยังคงเรียกเป็นสาขา
5. การเรียนการสอนของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงจะเป็นภาษาอังกฤษเกือบทุกวิชา แม้จะเป็นมหาวิทยาลัยไทย และนักศึกษาทุกคนจะต้องเรียนภาษาจีนด้วย (เป็นหนึ่งในวิชาบังคับ) เรียกได้ว่าจบไปทุกๆ คนจะได้ทั้งภาษาอังกฤษ และภาษาจีนค่ะ
6. น้องๆ นักศึกษาใหม่ หรือเฟรชชี่ปี 1 จะต้องอยู่หอในทุกคน ไม่ว่าจะเป็นคนในจังหวัดเชียงราย หรือเดินทางมาจากมุมไหนของโลกก็ตาม โดยทางมหาวิทยาลัยจะสุ่มให้ 1 ห้อง มีรูมเมทที่คละสำนักวิชากัน แต่แยกชาย-หญิงนะคะ แล้วก็ไม่ต้องห่วงว่าจะเหงา เพราะจะมีกิจกรรมให้เข้าร่วมมากมาย
7. นอกจากกิจกรรมมากมายหลายของนักศึกษาที่อยู่หอแล้ว ยังมีน้องๆ หลายคนเปิดกิจการในหอ ซึ่งก็มีหลายหลายรูป เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่สามารถใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ได้ (อ่านเพิ่ม: คลิก)
8. หลังจากสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรของแต่ละสาขาวิชาแล้ว นักศึกษาของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงจะต้องทำการทดสอบวัดระดับทางภาษาอังกฤษ ถ้าคนไหนไม่ผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้ จะถือว่าไม่จบการศึกษา
9. เป็นอีกมหาวิทยาลัยที่มีสวัสดิการนักศึกษาค่อนข้างครบครัน ทั้งในเรื่องของการให้บริการ ให้คำปรึกษาและให้ความช่วยเหลือ ตั้งแต่เรื่องการเรียน การใช้ชีวิต ครอบครัว การเงิน หรือแม้แต่ยานพาหนะส่วนตัว ก็สามารถเรียกใช้บริการได้ (อ่านเพิ่ม:คลิก)
10. นักศึกษาที่นี่ส่วนใหญ่ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ทางมหาวิทยาลัยจึงมีกฎให้ทุกๆ คนต้องใส่หมวกกันน็อกในขณะขับขี่ หากไม่ใส่ หรือลืมนำมาจะมีการหักคะแนน และบทลงโทษต่อไป
11. สำหรับที่นี่หน้าหนาวจะอุณหภูมิประมาณ 17 องศา ซึ่งอุณหภูมิต่ำสุด หรือที่หนาวสุด ก็เป็นเลขตัวเดียว 2-3 องศา บนผิวน้ำกลายเป็นน้ำแข็งบางๆ ใส่เสื้อขนเป็ดมาเรียน ฤดูร้อนได้ยินเสียงขับกล่อมของจั๊กจั่น
ขอบคุณรูปภาพจาก มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
12. อีกไม่นานนี้ มหาวิทยาลัยจะมีต้นซากุระกว่าหมื่นต้น หลากสายพันธุ์ ทั้งจากไทย จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีบานสะพรั่งเต็ม 7 ยอดดอย นอกจากนี้ยังมีดอกไม้สายพันธุ์อื่นๆ ในมหาวิทยาลัยสลับกันบานสะพรั่งตลอดทั้งปี เช่น “ต้นเหลืองเชียงราย” จะบาน 3 ครั้งต่อปี แต่ละครั้ง จะบานแค่ 1-3 วันเท่านั้น
13. ด้านหน้าอาคารเรียนรวม จะมี “ลานดาว” ซึ่งก็คือสวนที่ตกแต่งเป็นดาว 12 แฉก ออกแบบอาคาร-สวนเชื่อมกัน ตัวอาคารเป็นกลุ่มดาว ลานดาวจึงเปรียบเสมือนแผนที่ดวงดาวที่ท้องพระโรงพระตำหนักดอยตุง เพราะสมเด็จย่าทรงโปรดดาราศาสตร์ ลานดาวเด็กมักจะมาแก้บนด้วยการวิ่ง หลังจากขอพรกับอนุสาวรีย์สมเด็จย่า เพื่อให้สอบผ่าน นอกจากนั้นยังมีถวายดอกกุหลาบ หรืออาจจะแก้บนด้วยไข่ต้ม
14. ด้านหลังอาคารเรียนรวม จะมองเห็นดอยแง่ม ซึ่งมีลักษณะเหมือนแท่นวางพู่กัน ด้านหน้าอาคารมีสระน้ำวงรี เปรียบเสมือนน้ำหมึก ซึ่งมีความหมายว่า “ในอนาคตที่นี่จะสร้างนักปราชญ์เลยเหมาะกับการก่อตั้งสถานศึกษา
15. มีศูนย์ภาษาและวัฒนธรรมจีนสิรินธร และสถาบันขงจื่อ ที่รัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนได้จัดสร้างและให้การสนับสนุน โดยโครงสร้างบางส่วนนำมาจากจีน เช่น กระเบื้องมุงหลังคา อุปกรณ์ตกแต่ง รวมไปจัดหาอาจารย์มาจัดการเรียนการสอน และร่วมพัฒนาหลักสูตรด้วย
16. อาคารในมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ จะสร้างตามไหล่เขา (เพราะไม่ตัดหน้าดิน) บางทีอยู่ ชั้น 2 ตึกนี้ อาจจะชั้น 1 อีกตึกนึงก็ได้ Signature ของมฟล. คือ ปี 1 หลงทุกราย จำชั้น จำชื่อตึก ยากกว่าเรียนอีก
17. มีความเชื่อเรื่อง ตึก C4 ว่า นักศึกษาแม่ฟ้าหลวง จะได้เข้าแค่ 2 ครั้ง คือปฐมนิเทศ กับ รับปริญญาเท่านั้น
18. อุโมงค์ที่ช่วงรับน้องเด็กปี 1 จะต้องเดินผ่านไปทำกิจกรรมต่างๆ มีความเชื่อว่าถ้ากลั้นหายใจพร้อมกับนึกคำอธิษฐานในใจ แล้วเดินลอดจนผ่านประตูได้ คำขอนั้นจะเป็นจริง
19. เป็นมหาวิทยาลัยที่มีนักศึกษาต่างชาติแบบ Full time เรียนเหมือนคนไทยปกติ (4 ปี) และนักศึกษาแลกเปลี่ยน มาระยะสั้น 1 เดือน 1 เทอม 1 ปี
20. มีการเก็บชั่วโมงความดีและหักคะแนนความผิด โดยเฉพาะช่วงสอบมีสุ่มตรวจ ถ้ามีความผิด เช่น ไม่สแกนบัตรเข้าหอ แต่งกายผิดระเบียบ ไม่ใส่ชุดนักศึกษา ลืมนำหมวกกันน็อกมา ต้องไปบำเพ็ญประโยชน์ตามที่ต่างๆ อย่างต่ำคือ 10 ชั่วโมง เช่น ช่วยอาจารย์เรียงเอกสาร ช่วยงานที่ร้านค้าสวัสดิการ แล้วคนที่ดูแลหน่วยงานนั้นก็จะเซ็นให้ว่านักศึกษามาทำงานชดใช้ความผิดแล้ว ถ้าติดชั่วโมงความผิดจะฝึกงาน (ที่สาขากำหนด) ไม่ได้
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงมีเรื่องราวน่าสนใจมากมายเลยค่ะ เผื่อไว้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกให้น้องๆ โดยเฉพาะสำหรับใครที่อยากฝึกภาษา แอบกระซิบบอกเลยว่า ที่นี่นักศึกษาต่างชาติเยอะจริงๆ ค่ะ
2 ความคิดเห็น
พี่ึคะ หากหนูอยากเข้าธุรกิจจีนแต่มีพื้นฐานอยู่แล้ว เรายังต้องลงเรียนพร้อมกับเพื่อนๆที่เริ่มใหม่ไหมคะ
ขอบคุณ