อยากเรียนเภสัชฯ รู้ยัง? เรียนคณะนี้ ต้องเจอวิชาคณะตัวไหนบ้าง

   
         น้องๆ เคยได้ยินกันมั้ยว่า คณะเภสัชศาสตร์ เป็นอีกหนึ่งคณะที่วิชาคณะโหดมาก เพราะเรียนเคมีและวิชาที่เกี่ยวกับยาล้วนๆ ไม่ได้พักหายใจกันเลย วันนี้ก็เลยหยิบหนังสือกว่าจะเป็นเภสัชกร มาลองเปิดรายวิชาเรียนดูว่าโหดจริงอย่างที่ใครเขาว่ากันหรือเปล่า ไปดูกันว่ากว่าจะเรียนจบปี 6 เพื่อออกมาทำงานเป็นเภสัชกรที่มีคุณภาพ ผ่านวิชาอะไรกันบ้าง ต้องเรียนหนักกันขนาดไหน อ่านแล้วคิดภาพตาม จะรู้สึกสนุกและน่าเรียนมากเลยจ้า


วิชาเคมีของยา
         ว่ากันว่าคณะนี้เรียนเคมีโหดมากๆ เชื่อเค้าได้เลยค่ะ เพราะขนาดวิชาที่เกี่ยวกับยา ยังมีวิชา "เคมีของยา" โดยเฉพาะด้วย รายละเอียดวิชาก็ตามนั้น เพราะในยาแต่ละเม็ด แต่ละหยด มีโครงสร้างทางเคมีอยู่ ซึ่งมีผลต่อกลไกการออกฤทธิ์ว่า โครงสร้างทางเคมีแบบนี้ เมื่อเข้าไปในร่างกายแล้วอะไรทำปฏิกิริยาอะไรในร่างกาย น้องๆ คงอาจจะเคยได้ยินจากรุ่นพี่ว่า คณะนี้มอง "ยา" ไม่เหมือนคนทั่วไป เพราะมองเห็นเป็นโครงสร้างเคมีเลย
         ดังนั้นวิชานี้ ความยากของมันก็หนีไม่พ้นการรู้และเข้าใจโครงสร้างเคมีของยาทุกกลุ่มนั่นเอง

วิชาเภสัชการ
         เอ๊ะนี่ชื่อวิชาหรือชื่อวิชา มันคือชื่อคณะ เราจะมาปูพื้นฐานเกี่ยวกับเภสัชศาสตร์ในวิชานี้ เพราะว่าด้วยเรื่องทฤษฎีการเตรียมยาและพัฒนาตำรับยาว่ามีขั้นตอนยังไงบ้าง ในยา 1 เม็ดต้องใส่อะไรลงไปบ้าง หลักการผสม การแบ่งสาร ใช้อะไรแทนแป้ง แทนน้ำตาลได้บ้าง แต่ไม่ใช่แค่ยาเม็ดเท่านั้น ยังมียาน้ำ ยาครีม ยาแคปซูล ยาเหน็บ ได้เรียนรู้ยาทุกประเภท  จึงเป็นวิชาที่เรียนตั้งแต่ปี 2 ถึงปี 4 ยาวๆ ไปเลยจ้า เพราะมีประเภทยาที่ต้องรู้เยอะมากๆ

วิชาเภสัชวิเคราะห์
         เรียนรู้วิธีการผลิตยาไปแล้วในวิชาเภสัชการ แต่กว่าจะผลิตยาออกมาได้แต่ละตำรับ ต้องวิเคราะห์ ทดสอบกันมาอย่างหนัก วิชานี้เป็นการปูพื้นความรู้เรื่องการวิเคราะห์สารต่างๆ ในการผลิตยา ซึ่งสำคัญมาก ในส่วนของวิธีวิเคราะห์ในช่วงปีแรกๆ จะใช้การวิเคราะห์แบบแฮนด์เมดคือ ทำด้วยมือ พอขึ้นปีสูงๆ จะใช้การวิเคราะห์โดยเครื่องมือและมีเทคนิคการวิเคราะห์ขั้นสูงมากขึ้น วิชานี้จึงเป็นวิชาที่เภสัชกรต้องรู้ เพื่อควบคุมคุณภาพของยา

วิชาเภสัชวิทยา
         วิเคราะห์แล้ว ผลิตออกมาเป็นยาแล้ว ก็ต้องรู้ด้วยว่ายานำไปใช้รักษากลุ่มโรคต่างๆ ได้ยังไงบ้าง ยาแต่ละตัวมีกลไกการออกฤทธิ์ของยาเพื่อรักษาโรคแต่ละโรคแบบไหน รวมถึงเรียนรู้ข้อบ่งใช้ ซึ่งยาที่ใช้รักษาโรคแต่ละกลุ่มก็มีเยอะมากเลยทีเดียว เช่น ยาที่ใช้รักษาเบาหวาน ยาที่ใช้รักษาโรคหัวใจ กลุ่มยาที่ใช้รักษาโรคติดเชื้อ ยาที่ใช้รักษาโรคเกี่ยวกับทางเดินอาหาร เป็นต้น อาจจะฟังดูไม่ยากเพราะแบ่งกลุ่มมาแล้ว แต่ความโหดอยู่ที่ยามีหลายกลุ่ม กลุ่มละหลายตัว กลไกการออกฤทธิ์ก็ต่างกันด้วย

วิชาชีวเภสัชและเภสัชจลศาสตร์
         เป็นอีกวิชาที่สำคัญมากนะคะ เป็นเภสัชกรทั้งที ต้องรู้ด้วยว่า เมื่อกินยา ดื่มน้ำตามเข้าไปแล้ว ยาจะมีกระบวนการอะไรเกิดขึ้นบ้าง เช่น เกิดการดูดซึมที่ไหน ดูดซึมแล้วเหลือเท่าไหร่ กระจายยาในร่างกายยังไง มีการขับออกยังไง ถ้าได้เรียนวิชานี้แล้ว จะทำให้เรียนวิชาอื่นๆ อย่างเภสัชวิทยา เข้าใจมากขึ้นด้วย

วิชาพิษวิทยาคลินิก
         อ่านชื่อวิชาแล้วอย่าเพิ่งตกใจว่าทำยาพิษนะคะ วิชานี้ว่าด้วยเรื่อง พิษของยา ซึ่งอาจจะเกิดจากการกินยาเกินขนาด หรือ ผลข้างเคียงจากยา หรือสารเคมีจากสิ่งต่างๆ รอบตัว เช่น ยาฆ่าแมลง พืชที่เป็นพิษ สัตว์ที่มีพิษ เมื่อรู้ว่าพิษเกิดจากอะไร กลไกการพิษเป็นยังไง และจะต้องรักษาแบบไหน

วิชาเภสัชบำบัด
         เป็นวิชาที่เรียนแบบรอบด้าน ต้องเอาความรู้ทั้งหมดที่เรียนไม่ว่าจะเป็นเรื่องระบาดวิทยา พยาธิสรีรวิทยา กลไกการเกิดโรค การวินิจฉัยโรค มาประยุกต์ใช้กับการดูแลผู้ป่วย หมายความว่า เข้าใจเรื่องโรคไปแล้ว ก็ต้องมาวางแผนการรักษาให้เหมาะสมนั่นเอง ซึ่งในการรักษาก็จะรวมไปถึงขั้นตอนการซักถามประวัติผู้ป่วย การวิเคราะห์ใบสั่งยา วิธีการจ่ายยาให้ผู้ป่วย รวมถึงการเจาะลึกวางแผนรักษาในกลุ่มโรคต่างๆ ด้วยยา

วิชากฎหมายและจรรยาบรรณทางเภสัชกรรม
         ในทุกๆ วงการก็มีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายอยู่แล้ว อย่างในแวดวงเภสัชฯ ก็มีเรื่องยา ที่เป็นเรื่องสำคัญ เพราะยาเกี่ยวข้องกับชีวิตของคน ยาบางตัวเป็นอันตราย ยาบางตัวเป็นสารเสพติด รวมทั้งผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพต่างๆ ก็ต้องมีกฎหมายมาเพื่อควบคุม จะได้ไม่มีปัญหาว่าไปทำอันตรายกับใคร อย่างร้านขายยาเองก็มี พ.ร.บ.ควบคุมด้วยนะ ดังนั้นเภสัชกรจึงต้องเรียนรู้กฎหมายไว้

วิชาเภสัชกรรมปฏิบัติ
         เป็นวิชาที่นำความรู้ด้านเภสัชฯ มาใช้ทำงานจริงๆ โดยมีกรณีศึกษามาเพื่อฝึกทักษะของคนที่จะเป็นเภสัชกร จะมีตั้งแต่ทักษะพื้นฐาน เช่น สัมภาษณ์ผู้ป่วย การสอบถามอาการเบื้องต้น การวิเคราะห์ใบสั่งยา การเลือกยาให้เหมาะสมกับผู้ป่วย และจะมีการวิเคราะห์ไปถึงปัญหาเกี่ยวกับยาด้วย ซึ่งจะต้องเอาความรู้ทั้งหมดที่เรามีออกมาวิเคราะห์กันเลยทีเดียว
 
นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งของวิชาที่น้องๆ ต้องเรียน ยังมีอีกหลายวิชาที่น่าสนใจและท้าทาย รอน้องๆ เข้าไปเรียนอยู่นะ มาอยู่จุดนี้แล้ว ไม่ไหวก็ต้องไหว ถ้าความฝันคือเภสัชกร ผู้ที่เชี่ยวชาญเรื่องยามากที่สุด ก็ต้องสู้กับมันให้เต็มที่ค่ะ แต่ถ้าใครยังไม่รู้ว่าตัวเองเหมาะกับคณะนี้จริงหรือเปล่า ก็ลองมาค้นหาตัวเอง ทำความรู้จักคณะนี้ให้มากขึ้น หนังสือ กว่าจะเป็นเภสัชกร เล่มนี้ มีข้อมูลให้น้องๆ ครบทุกอย่าง ลองไปหาอ่านกันดูนะคะ ^^

พี่มิ้นท์
พี่มิ้นท์ - Columnist พี่สาวใจเย็น ผู้เกิดมาในแอดมิชชั่นยุคแรก แต่เข้าใจ TCAS มากกว่า

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น