อาการและทางแก้ "Student PM" ภาวะเด็กการบ้านเยอะ จนหมดไฟสอบเข้ามหาลัย

         สวัสดีค่ะ ช่วงเวลาสอบเข้ามหาวิทยาลัยกับช่วงเวลาสอบปลายภาค มักจะอยู่ช่วงเดียวกัน จึงไม่แปลกใจที่ช่วงนี้นักเรียนไทยจะต้องรับผิดชอบหลายๆ อย่างในเวลาเดียวกัน หนังสือต้องอ่าน การบ้านต้องส่ง เกรดก็ต้องไม่ลง ซึ่งสถานการณ์นี้อาจส่งผลให้เด็กไทยหลายคนเกิดภาวะโหลด จนหมดไฟในหลายๆ อย่าง เราเรียกอาการนี้ว่า "Student PM"

          อาการ "Student PM" จะสูบพลังกาย จะพลังใจเราไปหมด จนหมดไฟที่จะทำอะไรหลายอย่าง อาทิ การสอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว เราสามารถแก้ไขอะไรได้จากอาการเหล่านี้

 

อยู่กับปัจจุบัน
         
การอยู่กับปัจจุบัน คิดว่าตอนนี้เราควรจะทำอะไรกันแน่ อาจเริ่มจากการแยก หรือเรียงลำดับความสำคัญของงาน อันไหนเป็นสิ่งที่ต้องส่งก่อน พอเราแยกแล้ว เราจะเห็นสิ่งที่ต้องทำเป็นภาพรวมมากขึ้น จากนั้นแบ่งต่อ เช่น งานนี้ต้องทำให้เสร็จภายในวันนี้ อาจจะเอาขึ้นกระดานที่โต๊ะเพื่อเป็นการย้ำเตือน ว่าต้องทำอะไร การตั้งเป้าหมายแบบอยู่กับปัจจุบันจะช่วยทำให้เราเห็นภาพ ช่วยลดการกังวล และเบื่อหน่ายลงไปได้ เพราะเราจะเห็นชัดเจนขึ้นว่ามันมีวันเสร็จสิ้น ไม่ใช่ลากยาวให้เหนื่อยแบบไร้จุดจบ เราจะรู้สึกอีกแค่นิดเดียวก็จะถึงเป้าหมายแล้วนะ

แบ่งเวลาให้สมดุล ทำ VS พัก
         
สิ่งที่ดีที่สุดเวลาเราเหนื่อย เราล้า คือ การพักค่ะ อาจจะเป็นการพักผ่อนนอนหลับ หรือไปทำในสิ่งที่ชอบ สิ่งที่อยากทำก่อน การพักไม่ใช่การอู้งานนะคะ แต่เป็นการ heal กายใจให้มีแรงสู้ต่อไป เราอาจจะพักสัก 10-15 นาที เพื่อให้ร่างกายได้ผ่อนคลาย แล้วค่อยกลับมาทำต่อก็ได้ ยกตัวอย่างเช่นวิธีง่ายๆ เขียนให้กำลังใจตัวเอง ติดไว้ตรงที่อ่านหนังสือ หรือตรงประตูห้อง หรือบางคนอาจจะหลบไปดูไอดอล ศิลปินที่เราชอบ เวลาเหนื่อย แล้วไปมองรูปที่เขายิ้มแค่นี้ก็มีความสุขแล้ว หรือว่าหาอะไรใหม่ๆ ทำให้ชีวิตมีสีสันบ้าง เช่น ออกกำลังกาย เดินเล่นบ้าง หรือให้รางวัลตัวเอง เมื่อทำงานเสร็จแล้ว จะไปกินบุฟเฟต์ ประมาณนี้ค่ะ

 

เผชิญหน้าและมองโลกแง่ดีไปพร้อมกัน
         
เคยได้ยินประโยคนี้ไหมคะ "ถ้าคิดว่าทำได้ เราก็จะทำได้" ใช่แล้วค่ะ เมื่อเราเจอกับปัญหา หากเราเอาแต่คิดว่าเราจะผ่านมันไปได้ไง งานเยอะขนาดนี้ ไม่อยากทำแล้ว พอแล้ว เราก็จะหมดแรง หมดไฟในการทำเรื่องต่างๆไปด้วย ลองคิดอีกมุมเราจะเผชิญหน้าสู้กับมัน ไม่ยอมแพ้ ไม่ใช่เราคนเดียวที่มีงานต้องทำ เพื่อนก็ทำ รุ่นพี่ที่เขาจบไปเข้ามหาวิทยาลัยได้ก็เคยผ่านมาแล้ว แล้วทำไมเราจะผ่านไปไม่ได้ เราต้องผ่านไปได้สิ การคิดแบบนี้เป็นการเผชิญหน้ากับความจริงและมองโลกในแง่ดีไปพร้อมกัน เป็นการให้กำลังใจตัวเอง เพราะทุกอย่างอยู่ที่ตัวเรา เหมือนที่หลายคนเขาพูดกัน "ถ้าใจเราสู้ ทุกอย่างก็กล้วย ๆ ไปเลยจ้า"

งานไหนเสร็จให้ขีดออกทันที
           
86% ของคนที่ทำ survey จากเว็บไซต์ gdtthailand บอกว่า สูตรนี้ช่วยให้ชีวิตดีขึ้น รวมถึงมีรุ่นพี่หลายคนแนะนำมาค่ะว่า ได้ผลดีมาก มันคือการจัดเตรียมวางแผนตัวเองล่วงหน้าว่า วันนี้ต้องทำอะไร วันต่อๆ ไปต้องทำอะไร เหมือนกับตอนน้องๆ วางแผนไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ว่าจะไปที่ไหน ไปอย่างไร ไปเมื่อไหร่กันดี โดยเราจะลิสต์ใส่ในสมุด Planner ไว้ใช้ติดตัว เขียนออกมาเป็น to-do list  ว่าสิ่งที่เราต้องทำทั้งหมดตอนนี้ หรือช่วงนี้มีอะไรบ้าง โดยเรียงลำดับความสำคัญของงาน งานไหนสำคัญจำเป็นต้องเสร็จก่อนก็จะอยู่ข้อแรกๆ และเมื่อทำงานไหนเสร็จแล้วก็ให้ติ๊ก หรือขีดฆ่าออก เป็นการเช็คว่างานนี้ทำไปแล้วเพราะเหมือนกับว่าเรามีจุดหมายไม่ไร้ทิศทาง เคลียร์ไปเรื่อยๆ ที่ละเรื่อง ที่ละงาน และวันหนึ่งทุกอย่างก็สำเร็จไปได้

 

เล่าหรือกอด คือการระบายที่ได้ผล
           
การพูดคุย การระบายนี่แหละช่วยเราได้จริงๆ อาจเป็นการปรึกษาพูดคุยกับเพื่อน กับพ่อแม่ หรือคนที่เราไว้ใจ หรือสูตรนี้ พี่เฟิร์น ว่าใช้ได้เลยนะคะ น้องๆ เคยได้ยินคำว่า "พลังกอด" ไหมคะ Dolores Krieger R.N. Ph.D. ผู้เชี่ยวชาญในสาขาการบำบัดด้วยการสัมผัส แห่ง New York University เคยกล่าวไว้ว่า "ผู้ที่ได้รับการกอด หรือกอดผู้อื่น จะช่วยกระตุ้นการทำงานของร่างกาย ส่งผลให้ออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ ทำให้รู้สึกสดชื่นกระปี้กระเปร่า" ซึ่งหากตอนนี้น้องๆ กำลังรู้สึกท้อแท้ หมดไฟในการทำอะไรต้องการกำลังใจจากคนใกล้ชิดอย่างที่สุด แนะนำให้ "กอด" กับพ่อแม่ คนในครอบครัวหรือเพื่อน เพราะพลังของการกอดมีผลไปถึงจิตใจ ช่วยผ่อนคลาย ลดความวิตกกังวล และช่วยลดความเครียดให้เราได้โดยไม่รู้ตัว ไม่เชื่อลองลองดูกันนะ

            
เป็นไงกันบ้างคะ ลองนำไปปรับใช้สู้กับอาการหมดไฟดูนะคะ อย่างไรก็ตาม พี่เฟิร์น ก็ขอเป็นกำลังให้กับน้องๆ ทุกคนที่กำลังจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยกันนะคะ พี่เฟิร์น เองก็ผ่านมาเหมือนกัน ขอให้น้องสู้ๆ หากผ่านได้เราก็จะสอบติดคณะมหาวิทยาลัยที่หวังไว้อย่างแน่นอน หากใครที่กำลังอยู่ในสถานการณ์นี้อยู่ก็มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้นะคะ
พี่ใบเฟิร์น

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น