สวัสดีค่ะน้องๆ การสอบเข้ามหาวิทยาลัยในประเทศไทยก็มีขึ้นเป็นประจำทุกๆ ปี โดยมีทั้งคนที่สมหวัง ได้เรียนในสาขาวิชา ในมหาวิทยาลัยที่สนใจ หรือบางคนที่อาจจะต้องผิดหวัง สอบไม่ผ่านบ้าง หรือสาขาวิชาหรือมหาวิทยาลัยที่ใฝ่ฝันไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิดบ้าง จนต้องกลับมาต่อสู้ใหม่ สอบเข้ามหาวิทยาลัยใหม่อีกครั้งนึง
รวมทุกประเด็น "เด็กซิ่ว" ก่อนสมัคร TCAS64
สำหรับคนที่ต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยใหม่อีกครั้ง หรือเข้ามหาวิทยาลัยไม่ตรงกับรุ่นของตัวเอง เราจะกันกลุ่มนี้ว่า "เด็กซิ่ว" ซึ่งใครก็ตามที่เป็นเด็กซิ่ว ก็จะต้องติดตามข่าวสารการสอบเข้ามหาวิทยาลัยในปีนั้นๆ ให้ดี เพราะตัวระบบอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือปรับปรุงได้ รวมไปถึงไม่สามารถสมัครได้ทุกสาขาวิชา ทุกมหาวิทยาลัยเหมือนน้องๆ ม.6 แล้ว วันนี้พี่แนนนี่ก็เลยรวบรวม ประเด็นต่างๆ ที่เด็กซิ่วจะต้องรู้ และระมัดระวังในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ผ่านระบบ TCAS64 มาฝากกันค่ะ
คุณสมบัติผู้สมัคร
"ม.ไหน คณะไหนรับเด็กซิ่วบ้าง" "เด็กซิ่วสมัครรอบไหนได้บ้าง" เป็นคำถามยอดฮิตที่น้องๆ มักจะมาสอบถามในทุกๆ ปี และคำตอบก็มีอยู่หนึ่งเดียว ก็คือ "ในทุกๆ รอบของ TCAS มีมหาวิทยาลัย หรือสาขาวิชาที่เปิดรับเด็กซิ่ว แต่ไม่ใช่ทุกที่ที่จะรับ" โดยน้องๆ จะต้องเช็กข้อมูลให้ดีว่า คณะ หรือสาขาวิชาที่สนใจเปิิดรับสมัครเด็กซิ่วไหม หรือเปิดรับในรอบไหน เพราะบางครั้งในคณะเดียวกัน สาขาวิชาเดียวกัน อาจจะเปิดรับสมัครเด็กซิ่วแค่บางรอบก็ได้ ดังนั้นแนะนำให้น้องๆ ตั้งต้นจากการอ่านระเบียบการ หรือประกาศรับสมัครของมหาวิทยาลัยที่สนใจ คณะ หรือสาขาวิชาที่อยากเรียน แล้วเช็กคุณสมบัติผู้สมัครแต่ละรอบที่เปิดรับว่ามีระบุ ว่า "สำเร็จการศึกษา" เอาไว้ไหม
รอบที่ 1 Portfolio - รอบที่ 2 Quota : ถ้าระบุสำเร็จการศึกษา ก็สมัครได้เลย เพราะถ้ารับแค่น้องๆ ม.6 จะระบุไว้ว่า "กำลังศึกษา" หรือระบุปีการศึกษาที่จบ
รอบที่ 3 Admission - รอบที่ 4 Direct Admission : ส่วนใหญ่จะสมัครได้หมด แต่ถ้ารับแค่ม.6 จะระบุปีการศึกษาที่จบไว้
การลาออก
"ลาออกเมื่อไหร่" เป็นสิ่งที่น้องๆ เด็กซิ่วสงสัยมากที่สุด เพราะค่อนข้างมีรายละเอียดเฉพาะบุคคล ขึ้นอยู่กับคณะ และมหาวิทยาลัยที่จะซิ่วด้วย ซึ่งพี่แนนนี่จะขอแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม คือ
กลุ่มที่ 1 กสพท (Admission 1)
- ถ้าเป็นน้องๆ ปี 1 (ยังไม่มีสิทธิ์ลงทะเบียนเรียนในรายวิชาปี 2) ไม่ต้องลาออก สมัครได้เลย แต่ถ้าเป็นปี 1 ใน 4 สาขาวิชา (แพทยฯ ทันตฯ สัตวฯ เภสัชฯ) แล้วต้องการซิ่วเข้าสาขาวิชาเดิม (พูดง่ายๆ เปลี่ยนมหาวิทยาลัย) จะต้องลาออกก่อน 30 เมษายน 2564
- ตั้งแต่ปี 2 ขึ้นไป ต้องลาออกก่อน 16 พฤศจิกายน 2563
กลุ่มที่ 2 ซิ่วไปสมัคร Admission 2
- เฉพาะน้องๆ ที่ซิ่วจากคณะทันตแพทยศาสตร์ และเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยรัฐ ที่ต้องการซิ่วเข้าสาขาวิชาเดิม (พูดง่ายๆ เปลี่ยนมหาวิทยาลัย) จะต้องลาออกก่อน 30 เมษายน 2564
กลุ่มที่ 3 มหาวิทยาลัยรัฐ คณะอื่นๆ
- หลังจากที่ผ่านการคัดเลือก และยืนยันสิทธิ์ ในระบบ myTCAS แล้ว จึงจะไปลาออกจากมหาวิทยาลัย พูดง่ายๆ คือ ลาออกให้ทันก่อนการขึ้นทะเบียนนิสิตนักศึกษาใหม่
กลุ่มที่ 4 มหาวิทยาลัยเอกชน
ไม่ว่าจะเรียนในคณะ หรือสาขาวิชาอะไร และจะย้ายจากม.รัฐบาล ไปม.เอกชน หรือจากม.เอกชน ไปม.รัฐบาล น้องๆ ไม่ต้องลาออกก่อนการสมัคร สามารถสมัครที่ใหม่ได้เลย
การสอบและดึงคะแนนต่างๆ
- GPAX เกรดเฉลี่ยสะสม
ปกติเด็กซิ่ว มหาวิทยาลัยจะใช้ GPAX 6 เทอมในการสมัครค่ะ (น้องๆ ม.6 จะใช้ GPAX 5-6 เทอม) - O-NET
สนามที่ทุกคนต้องสอบตอนจบม.6 สอบได้แค่ครั้งเดียวในชีวิต ดังนั้นถ้าต้องใช้คะแนน O-NET เด็กซิ่วก็ไม่ต้องสอบใหม่ ใช้คะแนนเดิมได้เลย (ใช้ได้ตลอดชีวิต) แต่ถ้าใครไม่ได้ไปสอบ จะไม่สามารถสอบย้อนหลังได้ ถ้าสาขาวิชาที่สนใจกำหนดให้ใช้คะแนน ก็จะไม่สมัครไม่ได้ เพราะไม่มีคะแนนส่วนนี้ - GAT/PAT
สนามสอบที่จัดสอบปีละ 1 ครั้ง และผลคะแนนมีอายุ 2 ปี ซึ่งหมายความว่าจะสามารถใช้คะแนนได้ในปีที่สอบ 1 ปี และปีถัดไปอีก 1 ปี แต่....ต้องระวัง เพราะไม่ใช่ว่าจะใช้คะแนนเก่าได้กับทุกรอบ ทุกมหาวิทยาลัย ลองอ่านระเบียบการละเอียดๆ ว่า มีกำหนดให้ใช้คะแนนของปีนั้นๆ เท่านั้นหรือไม่ (โดยเฉพาะรอบ 3 เกณฑ์ Admission 1) ซึ่งถ้ามีระบุไว้ น้องๆ ก็จะต้องไปสอบใหม่เท่านั้น ส่วนถ้าไปสอบใหม่แล้วและสามารถใช้คะแนนเก่าได้ (อย่างในรอบ 3 เกณฑ์ Admission 2) ระบบจะดึงคะแนนครั้งที่ดีที่สุดของแต่ละวิชาออกมาใช้ (*GAT ไม่สามารถดึงแยกระหว่างเชื่อมโยงของปีนึง กับภาษาอังกฤษอีกปีนึงได้) - วิชาสามัญ
คะแนนวิชาสามัญมีอายุแค่ 1 ปีเท่านั้น หมายความว่า ถ้าเด็กซิ่วต้องการใช้คะแนน จะต้องสอบใหม่ทุกปี และจะต้องติดตามข่าวสารให้่ดี เพราะอาจะเกิดการเปลี่ยนแปลง อย่างเช่นใน TCAS64 นี้ มีการตัด 2 วิชา คือ วิชาคณิตศาสตร์ 2 และวิทยาศาสตร์ทั่วไปออกไป โดยน้องๆ ม.6 จะใช้คะแนน O-NET ยื่นแทน แต่...สำหรับเด็กซิ่ว ที่มหาวิทยาลัยยังกำหนดใช้คะแนนใน 2 วิชานี้ จะต้องลงสมัครสอบวิชาสามัญตามปกติ แต่ข้อสอบ และวัน-เวลาสอบ จะเป็นตัวเดียวกับ O-NET น้องๆ ม.6 นั่นเอง - กสพท
วิชาเฉพาะ กสพท จัดสอบปีละ 1 ครั้ง และสามารถใช้คะแนนได้แค่ปีต่อปีเท่านั้น ถ้าน้องๆ จะซิ่วเข้า 4 สาขาวิชาในกลุ่มนี้ ก็จะต้องไปสอบใหม่เท่านั้น โดยจะเปิดรับสมัครเป็นสนามแรกของทุกปี ดังนั้นแนะนำให้น้องๆ ติดตามข่าวสารให้ดีดี
การแต่งกาย
อีกหนึ่งเรื่องที่เด็กซิ่วกังวล คือเรื่องของการแต่งกายไปสอบต่างๆ มักจะมาถามกันว่า เป็นเด็กซิ่วอยู่บ้าน ใส่ชุดอะไรไปสอบได้บ้าง, ใส่ชุดนักเรียนไปสอบได้ไหม อันที่จริงน้องๆ จะใส่ชุดนักเรียน ชุดนิสิตนักศึกษา หรือชุดสุภาพไปสอบก็ได้
อย่างสนามสอบ กสพท เองก็ระบุขอบเขตของการใส่ชุดสุภาพไว้ชัดเจนว่า ชุดสุภาพตามประเพณีนิยม คือ เพศชาย สวมเสื้อมีปก มีแขน ไม่มีลวดลาย สีไม่ฉูดฉาด กางเกงขายาว สีและแบบสุภาพ งดกางเกงยีนส์ฟอก ขาดวิน หรือรัดรูป สวมถุงเท้า และใส่รองเท้าหุ้มส้น เพศหญิง ใส่เสื้อมีแขน เนื้อผ้าไม่บาง ไม่รัดรูป ไม่สวมเสื้อเอวลอย สีไม่ฉูดฉาด สวมกระโปรงยาวคลุมเข่า หรือกางเกงขายาว สีและแบบสุภาพ รองเท้าหุ้มส้นหรือมีสายรัดส้น ส่วนทางสนามสอบของ สทศ. (GAT/PAT, วิชาสามัญ) ก็ระบุไว้ว่า ชุดสุภาพตามประเพณีนิยม ห้ามเสื้อยืด กางเกงยีนส์ รองเท้าแตะ
เอกสารที่ต้องใช้
ก่อนที่จะสมัครสอบ เด็กซิ่วควรจะเตรียมความพร้อมเรื่องเอกสารให้เรียบร้อยตั้งแต่เนิ่นๆ ไม่ว่าจะค้นหาเอกสารต้นฉบับไว้ สแกนเอกสารเป็นไฟล์สกุลต่างๆ (.pdf .jpeg .png) และ/หรือถ่ายสำเนาเตรียมไว้ เพราะถ้าขาดเอกสารอะไรไป จะได้ดำเนินการขอกับทางโรงเรียนไว้ล่วงหน้า หรือหาทางแก้ไขได้ทันเวลา โดยเอกสารหลักๆ ที่จะต้องใช้ มีดังนี้
- ใบปพ. 1 : เอกสารแสดงผลการเรียน หรือ Transcript โดยจะต้องมีรายละเอียดคะแนนครบ 6 ภาคเรียน และมี 2 หน้า พร้อมตราประทับโรงเรียน
- ใบปพ. 2 : ใบประกาศนียบัตรจบการศึกษา จากกระทรวงศึกษาธิการ (ใบนี้ออกได้ครั้งเดียวเท่านั้น)
- รูปถ่าย : ควรเป็นรูปปัจจุบัน ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน ซึ่งส่วนมากจะให้ใช้พื้นหลังสีฟ้า หรือสีขาว (เด็กซิ่วถ่ายใหม่แต่ใส่ชุดนักเรียนได้ไหม ขอตอบว่าไม่แนะนำ เพราะแม้ว่าจะถ่ายใหม่ แต่ก็จะดูเหมือนใช้รูปเก่าอยู่ดี)
- ใบลาออก : บางมหาวิทยาลัย บางสนามสอบ เรียกใช้ในใบลาออก หรือใบพ้นสภาพนิสิตนักศึกษา ถ้าใครที่เคยเป็นนิสิตนักศึกษา และไม่ได้เรียนต่อแล้ว แนะนำให้ติดต่อกับทางมหาวิทยาลัยเพื่อขอหลักฐานในส่วนนี้มาเก็บไว้
- เอกสารอื่นๆ : บัตรประชาชน, ทะเบียนบ้าน, ผลการทดสอบต่างๆ (ถ้ามี) เช่น GAT/PAT O-NET IELTS TOFEL SAT CU-TEP TU-GET HSK เป็นต้น
สิ่งสุดท้ายที่อยากฝากไว้สำหรับน้องๆ เด็กซิ่ว คือ เรื่องของเกณฑ์ขั้นต่ำ และเงื่อนไขการสมัครต่างๆ เพราะไม่ว่าคุณสมบัติอื่นๆ จะครบ หรือคะแนนอื่นๆ จะสูงมาก แต่ถ้าติดเกณฑ์ขั้นต่ำบางตัว หรือเงื่อนไขบางอย่างไม่ผ่าน ก็ไม่สามารถสมัครได้ โดยเฉพาะพวกที่กลับไปแก้ใหม่ไม่ได้ อย่าง จำนวนหน่วยกิต (แผนการเรียน), เกรดเฉลี่ย หรือคะแนน O-NET ดังนั้นเช็กระเบียบการให้ดีดี
7 ความคิดเห็น
พี่คะ ถ้าเค้าอยู่ปี1 เเต่เค้าซิ่วเป็นปีที่2เเล้ว เเบบนี้เค้าต้องลาออกมั้ยคะ สาขาวิชาเค้าก็ไม่ใช่ ใน 4 สาขาวิชาที่พี่กล่าวมาค่ะ ตอบเค้าด้วยนะคะ ฮรือออออ
พี่ค่ะถ้าเราอยู่ปี1เราจะซิ่ว มหาลัยเดิมแต่คนละคณะ หนูไม่ได้ลาออก ถ้าหนูไม่ติดที่เลือกไว้ สามารถกลับไปเรียนที่คณะเดิมได้ไหมค่ะที่คณะเดิมหนูจะถูกไล่ออกหรือพ้นสภาพไหมค่ะ
ได้ค่ะ อันที่จริงสามารถสมัคร TCAS65 จนเสร็จสิ้นกระบวนการได้เลยค่ะ ถ้าผ่านการคัดเลือก ก็ค่อยไปลาออกที่เดิม แค่ลาออกก่อนขึ้นทะเบียนนักศึกษาที่ใหม่ก็พอค่ะ
สอบถามคับ พอดีจะซิ่วไปคณะบัญชี จุฬา admission 1 ใช้คะแนน gat pat ของเดิมได้รึป่าว หรือว่าต้องสอบใหม่
ตอนนี้เราเป็นเด็ก 64 ที่คิดจะสอบเข้าเภสัช66 แบบนี้ต้องลาออกก่อนใช่ไหมคะหรือลาออกเฉพาะเภสัชที่เข้ากสพท.คะ ปัจจุบันกำลังขึ้นปี2เทคนิคการแพทย์ค่ะ อยากสอบใหม่แต่ไม่ค่อยรู้ข้อมูลค่ะแง้
เป็นเด็ก 64 จะซิ่วไป 66 ต้องลาออกตอนไหนหรอครับ
ตอนนี้อยู่ปี 2 วิศวะ จะซิ่วไป สาขาเดียวกันแต่คนละคณะอะครับ ต้องลาออกตอนไหนครับ ขอบคุณ
ยืนยันสิทธิ์รอบ1 ของtcas 65ไปครับ เเต่ตอนนี้ลาออกจากม.เเล้ว สามารถสมัครรอบ1ของtcas66ได้ไหมครับ
คำถามแรก: ถ้าดรอปเรียนเทอม2 ไว้เพื่อมาซิ่วตอนปี 1 แต่สอบไม่ติด กลับไปเรียนใหม่ ปีต่อมาอยากสอบอีก ต้องลาออกใช่ไหมคะ
คำถามที่ 2 : ถ้าซิ่วครั้งแรกไม่ติดสายแพทย์ตามที่ต้องการ เลยเปลี่ยนสาขาไปเรียนปี 1 สาขาใหม่ ปีต่อมาอยากซิ่วอีก แบบนี้ต้องลาออกไหมคะ