เจาะลึก! การรับคณะแพทยศาสตร์ TCAS64 รอบ Portfolio คุณสมบัติเป็นยังไง เช็กเลย!

เมื่อนึกถึงการรับคณะแพทยศาสตร์ หลายคนอาจจะคิดว่าต้องสอบเข้าผ่านรอบโควตา หรือ ไม่ก็รอบ 3 (กสพท) อย่างเดียว รอบ Portfolio คงไม่มีหรอก! ใครคิดแบบนี้อยู่ คิดผิดนะคะ เพราะหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต มีเปิดรับรอบพอร์ตฟอลิโออยู่หลายแห่งเลยทีเดียว แต่ต้องเตรียมตัวมากกว่ารอบอื่นๆ เพราะคุณสมบัติและเกณฑ์คะแนนที่ใช้ ถือว่าโหดพอตัว

วันนี้พี่มิ้นท์ได้รวบรวมการรับคณะแพทยศาสตร์ รอบ Portfolio มาไว้ให้แล้ว จะมีที่ไหนบ้าง และเงื่อนไขการรับสมัครเป็นอย่างไร  ไปดูกันเลยค่ะ

เจาะลึก! การรับคณะแพทยศาสตร์ TCAS64 รอบ Portfolio
เจาะลึก! การรับคณะแพทยศาสตร์ TCAS64 รอบ Portfolio

ส่องเกณฑ์การรับคณะแพทยศาสตร์ รอบ Portfolio

1. แพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

  • โครงการคัดเลือกนักเรียนที่มีความถนัดทางภาษาอังกฤษ
  • สถานะ ปิดรับสมัคร
  • แพทยศาสตร์ จุฬาฯ เป็นคณะแรกๆ ของ TCAS64 ที่ออกระเบียบการออกมาให้น้องๆ ได้ดูกัน และชิงรับสมัครกันไปตั้งแต่เดือนกันยายน 2563 ค่ะ
  • การรับสมัครแพทย์ ของจุฬาฯ จะรับทั้ง ม.6 หลักสูตรไทยและระบบอเมริกัน/อังกฤษ และเด็กซิ่วที่จบมาไม่เกิน 1 ปี
  • ขึ้นชื่อว่าเป็นโครงการที่คัดนักเรียนที่มีความถนัดทางภาษาอังกฤษ จึงต้องมีผลสอบวัดความสามารถในด้านการสื่อสารภาษาอังกฤษ (อย่างใดอย่างหนึ่ง) ด้วย ไม่ว่าจะเป็น TOEFL ไม่ต่ำกว่า 100 หรือ IELTS ไม่ต่ำกว่า 7.0 หรือ CU-TEP&Speaking ไม่ต่ำกว่า 110
  • เกณฑ์การคัดเลือก จะใช้ผลสอบ BMAT ที่จัดสอบโดย Cambridge Assessment แห่งสหราชอาณาจักร
  • ใช้ Portfolio ด้วย โดยจะต้องเป็นผลงานในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ในด้านจิตสาธารณะ การวิจัยหรือกิจกรรมวิชาการอื่นๆ

2. คณะแพทยศาสตร์ ม.ขอนแก่น

  • ม.ขอนแก่น เปิดรับคณะแพทยศาสตร์ 2 โครงการ คือ 
    • โครงการความสามารถพิเศษทางวิชาการและภาษาอังกฤษ (MDX) 
    • โครงการผลิตแพทย์เพิ่มร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (MD02)  
  • สถานะ : รับสมัครถึง 18 ธ.ค. 63
  • ทั้ง 2 โครงการ มีคุณสมบัติเฉพาะที่เหมือนกัน คือ ต้องมีผลการสอบวัดความรู้ทางภาษาอังกฤษ ตั้งแต่ช่วงคะแนนที่ 1 ขึ้นไป และต้องมีผลสอบ BMAT  part 1 และ part 2 รวมกันเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 4.5 ส่วน part 3 ไม่กำหนดเกณฑ์ขั้นต่ำ
คุณสมบัติเฉพาะ คณะแพทยศาสตร์ รอบ  Portfolio ม.ขอนแก่น
คุณสมบัติเฉพาะ คณะแพทยศาสตร์ รอบ  Portfolio ม.ขอนแก่น
  • คุณสมบัติที่ต่างกันของ 2 โครงการนี้ ก็คือ ถ้าเป็นโครงการ MDX รับ ม.6 ทุกโรงเรียนในประเทศไทย มี GPAX ไม่ต่ำกว่า 3.00 หรือผลการเรียนเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 70% หรือเทียบเท่า  หรือ เป็นนักเรียนไทยที่เรียนชั้นปีสุดท้ายของ ม.ปลาย หรือ เทียบเท่าในโรงเรียนต่างประเทศ หรือ จบแล้วแต่ไม่เกิน 6 เดือนจนถึงวันสุดท้ายของการรับสมัคร และมี GPAX ไม่ต่ำกว่า 3.00 หรือผลการเรียนเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 70% หรือเทียบเท่า
  • ส่วนโครงการ MD02 จะรับ ม.6 เฉพาะนักเรียนในโรงเรียนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และมี GPAX ไม่ต่ำกว่า 3.00 หรือมีผลการเรียนเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 70% หรือเทียบเท่า
  • มี Portfolio หรือรางวัลการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่แสดงทักษะพิเศษด้านวิชาการ สังคม ความคิดสร้างสรรค์ ความสามารถพิเศษ จิตสาธารณะ และความเป็นผู้นำ

3. คณะแพทยศาสตร์ ม.เทคโนโลยีสุรนารี

  • โครงการผลิตแพทย์เพิ่มแห่งประเทศไทย
  • สถานะ : ปิดรับสมัคร 20 ธ.ค. 63
  • เป็นโครงการที่รับจำกัด คือมีภูมิลำเนาในจังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์ เป็นนักเรียนชั้น ม.6 เทียบเท่า หรือ Gade 12 ตามระบบอเมริกัน หรือ Year 13 ตามระบบอังกฤษ GCE O-Level ตามระบบอังกฤษ ของโรงเรียนที่ตั้งอยู่ในกลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • โครงการนี้จะแบ่งคุณสมบัติย่อยออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มแพทย์เพื่อชุมชน (CPRID : Community Track) ผู้สมัคร บิดาหรือมารดาหรือผู้ปกครอง ต้องมีภูมิลำเนาในจังหวัดที่ใช้สิทธิ์ต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 5 ปี ต้องเรียน ม.ปลาย ในโรงเรียนที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ 20 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • กลุ่มลดความเหลื่อมล้ำ (CPRID : Inclusive Track) ผู้สมัคร บิดาหรือมารดาหรือผู้ครอง ต้องมีภูมิลำเนาอยู่นอกเขตอำเภอเมือง ในจังหวัดที่ใช้สิทธิ์ต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 5 ปีจนถึงวันสุดท้ายของการรับสมัคร โดยมีทะเบียนบ้านเป็นหลักฐาน และผู้สมัครต้องเป็นนักเรียนที่เรียน ม.ปลาย ตลอดหลักสูตรในโรงเรียนที่ตั้งอยู่ในจังหวัดเดียวกับภูมิลำเนาผู้สมัคร
  • ต้องมีผลคะแนนความรู้ความสามารถทางภาษาอังกฤษไม่ต่ำกว่าทีกำหนด
เกณฑ์คะแนนความสามารถทางภาษาอังกฤษ แพทยศาสตร์ รอบ Portfolio ม.เทคโนโลยีสุรนารี
เกณฑ์คะแนนความสามารถทางภาษาอังกฤษ แพทยศาสตร์ รอบ Portfolio ม.เทคโนโลยีสุรนารี
  • ใช้คะแนน BMAT ในการคัดเลือกเช่นกัน โดยมีเกณฑ์ขั้นต่ำคือ รวม 3 ตอน ไม่ต่ำกว่า 5
  • ใช้ Portfolio ที่ได้รับรางวัล หรือ เข้าร่วมกิจกรรมวิชาการ ความสามารถพิเศษต่างๆ โดยเรียงความสำคัญตั้งแต่ระดับนานาชาติ ประเทศ จังหวัด และระดับโรงเรียน พร้อมเขียนสรุปผลงานโดยรวมทุกรายการ

4. แพทยศาสตร์ ม.วลัยลักษณ์

  • โครงการผลิตแพทย์เพื่อชาวชนบทระหว่างมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์กับกระทรวงสาธารณสุข
  • สถานะ : สมัครได้ถึง 24 ม.ค. 64
  • ม.วลัยลักษณ์ จะเปิดรับเฉพาะ น้องๆ ม.6 เท่านั้น ต้องเป็นนักเรียนที่เรียน ม.ปลาย ตลอดหลักสูตร ในจังหวัด 14 จังหวัดภาคใต้  นอกจากนี้ ผู้สมัคร บิดาหรือมารดาหรือผู้ปกครองตามกฎหมาย ต้องมีภูมิลำเนาในจังหวัดกระบี่ พังงา ภูเก็ต ตรัง และนครศรีธรรมราช ต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 5 ปี จนถึงวันสุดท้ายของการรับสมัคร โดยมีทะเบียนบ้านเป็นหลักฐาน
  • และยังมีการกำหนด GPAX ขั้นต่ำด้วย 5 ภาคการศึกษา จะต้องมากกว่าหรือเท่ากับ 3.50
  • มีใช้ Portfolio กำหนดไว้ 2 ด้านคือ ด้านวิชาการ และด้านคุณธรรม จริยธรรม และมีเรียงความเรื่อง "แพทย์ที่ดีนศตวรรษที่ 21" จำนวน 1 หน้ากระดาษ A4

5. คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล

  • โครงการโอลิมปิกวิชาการ
  • สถานะ : รับสมัครถึง 25 ธ.ค. 63
  • เป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้กับน้องๆ ที่มีความสามารถและมีประวัติการแข่งขันโอลิมปิกวิชาการระดับชาติ โดยจะต้องได้รับรางวัลเหรียญทองหรือเงิน จากการแข่งขันโอลิมปิกวิชาการฯ จาก 7 สาขาวิชาคือ ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา คณิตศาสตร์ คอมพิวเตอร์ ภูมิศาสตร์ ดาราศาสตร์และฟิสิกส์ดาราศาสตร์ หรือ เป็นนักเรียนที่ผ่านการอบรมค่าย 2 สาขาวิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ ของมูลนิธิ สอวน.
  • เรื่องของ Portfolio ก็ยังมีใช้เช่นกันค่ะ จะต้องแสดงถึงกิจกรรมที่ทำในโรงเรียน ความสำเร็จด้านวิชาการหรือความสามารถพิเศษอื่นๆ เช่น ประกวดมารยาท คัดลายมือ รำไทย ดนตรีไทย เป็นต้น
  • สำหรับแพทย์ศิริราช น้องๆ จะมีต้อง Statement of Purpose / Porsonal Statement แนะนำตนเองเพื่อให้คณะรู้จักตัวตนของเรามากยิ่งขึ้น พร้อมกับเหตุผลที่สนใจเข้าศึกษา ความยาวไม่เกิน 2 หน้า A4

6. คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ม.มหิดล

  • แพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี เปิดรับรอบ Portfolio ถึง 3 โครงการ ทั้งหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต และหลักสูตรควบกับสาขาอื่น ได้แก่ 
    • โครงการหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต 
    • โครงการหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต-วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต 
    • โครงการหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต-การจัดการมหาบัณฑิต
  • สถานะ : รับสมัครถึง 25 ธ.ค. 63
  • ทั้ง 3 โครงการ รับทั้ง ม.6 และเด็กซิ่ว โรงเรียนไทยและนานาชาติ
  • ในด้านคุณสมบัติ กำหนดเรื่องผลสอบด้วย โดยเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่ต้องได้คะแนนตามกำหนด คือ
    • (1) GPAX ไม่ต่ำกว่า 3.50 และมี GPA ชีววิทยา เคมี และคณิตศาสตร์หรือฟิสิกส์ วิชาละไม่ต่ำกว่า 3.50 หรือ 
    • (2) มีผลสอบ A Level ได้ไม่ต่ำกว่า A ในรายวิชา Biology Chemistry และ Mathematics หรือ
    • (3) มีคะแนน SAT II ไม่ต่ำกว่า 700 คะแนน ในแต่ละรายวิชา คือ Biology: Molecular Chemistry และ Mathematics Level 2 หรือ Physics หรือ
    • (4) ผลการสอบ International Baccalaureate (IB) Higher Level ครบ 3 ข้อ คือ Biology ไม่ต่ำกว่า 6 Chemistry หรือ Physics ไม่ต่ำกว่า 6 และ Mathematics - Standard Level ไม่ต่ำกว่า 6 หรือ Mathematics - Higher Level ไม่ต่ำกว่า 5
  • ใช้ Portfolio ที่ประกอบไปด้วย 5 ส่วน คือ Personal Statement ความยาวไม่เกิน 5,300 ตัวอักษร, กิจกรรม/ผลงาน พร้อมรายละเอียด ไม่เกิน 15 ผลงาน, เลือกผลงานมา 3 เรื่อง ที่คิดว่ามีคุณค่าหรือมีความหมายมากที่สุด พร้อมอธิบายรายละเอียด, หลักฐานของกิจกรรม, แจ้งชื่อ นามสกุล และ E-mail ของอาจารย์ 2 ท่าน เพื่อทางคณะจะส่งอีเมลเพื่อให้อาจารย์เขียนแนะนำผู้สมัครว่ามีความเหมาะสมที่จะเป็นแพทย์
  • มีหลักฐานการสอบ BMAT ที่มีขั้นต่ำรวม 3 ตอน ไม่ต่ำกว่า 12 และ ตอนที่ 3 ไม่ต่ำกว่า C
  • แม้จะเปิดรับถึง 3 โครงการ แต่น้องๆ สมัครได้เพียง 1 โครงการเท่านั้น

7. คณะแพทยศาสตร์ ม.เชียงใหม่

  • คณะแพทยศาสตร์ รอบ Portfolio ม.เชียงใหม่ เปิดรับทั้งหมด 4 โครงการ คือ 
    • โครงการผลิตแพทย์นักวิทยาการข้อมูล
    • โครงการเรียนดีภาษาอังกฤษ
    • โครงการเรียนดีโอลิมปิก 
    • โครงการรับนักกีฬาที่มีความสามารถดีเด่นระดับนานาชาติ/ระดับชาติ และนักกีฬาตามยุทธศาสตร์
  • สถานะ : เปิดรับสมัคร 6 - 15 ม.ค. 64
  • ทั้ง 4 โครงการ มีการกำหนดคุณสมบัติ ที่ทั้งเหมือนและแตกต่างกัน จะเข้าโครงการไหน ดูให้ดีนะคะ มาดูจุดที่เหมือนก่อน ทุกโครงการ (ยกเว้นโครงการนักกีฬาฯ) จะต้องอยู่ ม.6 สายสามัญ แผนวิทย์-คณิต GPA ม.4 และ ม.5 ระดับชั้นละไม่ต่ำกว่า 3.50 และมี GPA วิชา ชีววิทยา เคมี ฟิสิกส์ คณิตศาสตร์ และภาษาอังกฤษ ใน ม.4 และ ม.5 ไม่น้อยกว่า 3.50  ส่วน Portfolio นั้น ต้องมีผลงานที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพแพทย์, ผลงานด้านวิทยาการข้อมูล และผลงานด้านอื่นๆ อีก 2 ด้าน
  • โครงการผลิตแพทย์นักวิทยาการข้อมูล ต้องผ่านการอบรมค่าย สอวน. ครั้งที่ 1 และได้รับคัดเลือกไปอบรมค่าย สอวน. ครั้งที่ 2 ในสาขาชีววิทยา เคมี ฟิสิกส์ คณิตศาสตร์ หรือ คอมพิวเตอร์ รวมทั้งยังต้องมีผลการสอบวัดภาษาอังกฤษอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่กำหนด
  • โครงการเรียนดีภาษาอังกฤษ สมัครได้ทุกโรงเรียนในประเทศไทย หรือเป็นนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในโรงเรียนนานาชาติ โดยมีเกรดเฉลี่ยตามที่กำหนด มีผลสอบ BMAT มีผลสอบรวมใน section 1 และ section 2 ไม่น้อยกว่า 9.0 หรือ มีคะแนนสอบ Advance Placement (AP) เฉลี่ยใน 3 วิชา คือ 1.ชีววิทยา 2.เคมี 3.ฟิสิกส์หรือคณิตศาสตร์ ไม่น้อยกว่า Grade 4
  • โครงการเรียนดีโอลิมปิก จะต้องเป็นผู้ผ่านการอบรมค่าย สอวน. ครั้งที่ 1 และได้รับคัดเลือกไปอบรมค่าย สอวน. ครั้งที่ 2 ในสาขาวิชาชีววิทยา เคมี ฟิสิกส์ คณิตศาสตร์ หรือคอมพิวเตอร์ และต้องมีคะแนนสอบวัดความสามารถทางภาษาอังกฤษตามที่กำหนด คือ TOEFL iBT ไม่น้อยกว่า 60 คะแนน TOEFL ITP ไม่น้อยกว่า 500 คะแนน Academic IELTS (Overall Band Score) ไม่น้อยกว่า 6.0 คะแนน
  • โครงการรับนักกีฬาที่มีความสามารถดีเด่นระดับนานาชาติ/ระดับชาติ และนักกีฬาตามยุทธศาสตร์ จะต้องอยู่ ม.6 แผนวิทย์-คณิต มี GPA ม.4 และ ม.5 แต่ละระดับชั้นไม่ต่ำกว่า 3.25 และมี GPA สาระวิชาชีววิทยา เคมี ฟิสิกส์ คณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษ ม.4 และ ม.5 ไม่น้อยกว่า 3.00 ชนิดกีฬาที่รับ ได้แก่ ครอสเวิร์ด หมากกระดาน บริดจ์

8. คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล  

  • โครงการรับด้วยแฟ้มสะสมผลงาน  
  • สถานะ : รับสมัคร 14 - 20 ธ.ค. 63
  • แบ่งการรับออกเป็น 5 กลุ่ม แยกตามประเภทของนักเรียนหรือสังกัด ต้องสมัครให้ตรง โดยจะต้องอยู่ชั้น ม.6 หรือ เทียบเท่า หรือ โรงเรียนนานาชาติ หรือ เด็กซิ่ว โดยมี GPAX ตั้งแต่ 3.00 ขึ้นไป
  • จุดสำคัญของการสมัครคณะแพทยศาสตร์ที่นี่ คือ จะต้องไม่เป็นผู้ที่กำลังศึกษาหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิตทั้งของรัฐและเอกชน
  • ใช้ Portfolio ที่มีข้อมูลบอกถึงทัศนคติหลักสูตรที่เลือกและเหตุผลที่คิดว่าผู้สมัครสมควรได้รับคัดเลือก มีเอกสารหรือหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าเป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ ทักษะที่เกี่ยวข้องกับคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาต่างประเทศ ศิลปะการแสดงหรือเทคโนโลยีสารสนเทศ เกียรติบัตรหรือประกาศนีบัตรหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการเข้าร่วมกิจกรรมที่สำคัญกับหลักสูตร รวมถึงการเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรมด้านจิตสาธารณะ

สรุป..แพทย์รอบ Portfolio เหมาะกับใคร?

จากที่น้องๆ ได้เห็นคุณสมบัติและเกณฑ์คัดเลือกในรอบ Portfolio แล้ว สิ่งที่ต้องเตรียมตัวมาให้ดี คือ ความรู้ความสามารถด้านภาษาอังกฤษ ไม่ใช่แค่ผลสอบในประเทศค่ะ เพราะในรอบนี้ ต้องใช้ผลการทดสอบระดับสากล โดยเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ให้มีคะแนนขั้นต่ำตามที่กำหนด ซึ่งการสอบนี้ น้องๆ จะต้องตามสมัครสอบเองกับหน่วยงานเอกชนที่ทำการจัดสอบค่ะ

นอกจากคะแนนสอบภาษาอังกฤษแล้ว สิ่งสำคัญที่อย่างคือ คะแนน BMAT แน่นอนว่าเป็นข้อสอบภาษาอังกฤษล้วนอีกเช่นกัน แต่ถ้าน้องๆ ได้สมัครแล้ว ก็ถือว่าใช้คุ้มอยู่นะคะ เพราะในรอบนี้ใช้กันหลายมหาวิทยาลัยเลย แต่เสียอย่างเดียวว่า ค่าสอบนั้นมหาโหดมากๆ จะอยู่ที่ราวๆ 7,000 บาท แต่ถ้าสมัครล่าช้า ค่าธรรมเนียมการสอบก็จะยิ่งแพงขึ้นไปอีกค่ะ

และที่จะขาดไปไม่ได้สำหรับรอบนี้ก็คือ การทำ Portfolio นั่นเอง ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้กำหนดพอร์ตฟอลิโอที่เว่อร์วังมาก ขอให้มีกิจกรรมในเชิงวิชาการ การทำสาธารณประโยชน์ ความเป็นผู้นำ โดยที่คัดมาเฉพาะกิจกรรมในช่วงมัธยมค่ะ รายละเอียดเชิงลึก ว่าต้องเป็นแนวไหน ทำอะไรยังไงบ้าง ให้ศึกษาจากระเบียบการของโครงการเป็นหลักค่ะ

 

น้องๆ ที่อ่านแล้ว ไม่ติดเงื่อนไขใดๆ อยากจะลองสมัครดูสักตั้ง ให้รีบตัดสินใจเลยนะคะ เพราะหลายโครงการกำลังจะปิดรับสมัครเร็วๆ นี้แล้ว และถ้าผ่านรอบ 1 ไปแล้ว เข้าสู่รอบโควตา ก็จะเริ่มเป็นรอบที่รับเฉพาะในเขตพื้นที่ของตนเอง หากไม่ได้อยู่ในเขตนั้นๆ ก็จะมีโอกาสน้อยกว่าเดิมค่ะ และถ้าผ่านรอบ 2 ไปอีกก็จะเข้าสู่รอบ Admission หรือ กสพท ซึ่งเป็นการสนามสอบใหญ่ของกลุ่มคณะแพทยศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ เภสัชศาสตร์ และสัตวแพทยศาสตร์ อยากเข้ารอบไหน  รีบวางแผนด่วนเลยนะคะ^^

 

พี่มิ้นท์
พี่มิ้นท์ - Columnist พี่สาวใจเย็น ผู้เกิดมาในแอดมิชชั่นยุคแรก แต่เข้าใจ TCAS มากกว่า

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

1 ความคิดเห็น

Waniopl 10 พ.ค. 64 22:16 น. 1

ระดับช่วงคะเเนนที่1ของเเพทย์ มข.ต้องสอบหมดเลยทั้ง6เเบบใช่ไหมคะหรือว่าเลือกสอบอย่างใดอย่างหนึ่ง


1
กำลังโหลด
กำลังโหลด