เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการแชร์ข้อความลงใน Social Media ในลักษณะที่ว่า "ม.ธรรมศาสตร์ อนุมัติข้อบังคับให้นักศึกษาสามารถแต่งกายเพศกำเนิดหรือเพศสภาพได้" ซึ่งนับว่าเป็นหนึ่งในการเคลื่อนไหวเรื่องความเท่าเทียมทางเพศที่ทรงพลังอย่างมากในช่วง Pride Month ในไทยเลยก็ว่าได้นะคะ มีเพื่อนๆ ชาว Dek-D คนไหนแชร์ข่าวนี้กันบ้างคะ
และในวันนี้ถือได้ว่าเป็นอีกวันที่พิเศษเช่นกันค่ะ เพราะพี่นุกนิกไม่ได้จะมานำเสนอข่าวที่น่าสนใจนี้ให้กับน้องๆ อย่างเดียวเท่านั้นนะคะ แต่พี่นุกนิกยังได้รับเกียรติอย่างสูงในการร่วมพูดคุยกับทาง ผศ.ดร.อดิศร จันทรสุข ขณะกำลังดำรงตำแหน่งรองอธิการบดี ฝ่ายการนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ถึงประเด็นที่ถูกพูดถึงในครั้งนี้กันค่ะ
Fact
- ม.ธรรมศาสตร์ อนุมัติข้อบังคับการแต่งกายของนักศึกษาตามเพศกำเนิดและเพศสภาพเป็นครั้งแรก หลังจากเป็นเพียงแค่ระเบียบ แนวปฏิบัติทั่วไป
- ข้อบังคับมีลักษณะคล้ายกับข้อกฎหมายในมหาวิทยาลัย
- อธิการบดี ม.ธรรมศาสตร์ เคยออกประกาศมาตั้งแต่ปีที่แล้วในเรื่องการแต่งกายของนักศึกษาตามเพศสภาพ
- ข้อบังคับนี้รวมไปถึงการแต่งกายด้วยชุดสุภาพ ไม่ใช่เพียงแค่เครื่องแบบนักศึกษาเท่านั้น
มธ. อนุมัติข้อบังคับ นศ. สามารถแต่งกายด้วยเครื่องแบบตามเพศสภาพหรือเพศกำเนิด
จากการที่ทาง ผศ.ดร.อดิศร ได้โพสต์ข้อความลงบน Facebook ส่วนตัวในกรณีที่ทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อนุมัติข้อบังคับให้นักศึกษาสามารถแต่งกายตามเพศกำเนิดหรือเพศสภาพได้ นอกเหนือจากประกาศของอธิการบดีที่เคยประกาศออกมา ทำให้เกิดการแชร์ข้อความต่อกันจำนวนมากถึงข่าวดีนี้จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในการขับเคลื่อนเรื่องความเท่าเทียมทางเพศให้เกิดขึ้นในสังคม เพราะนับได้ว่าเป็นหนึ่งในจุดเริ่มต้นที่ดีในสถานศึกษาไทยค่ะ ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไร เราไปดูกันเลยค่ะ
"เรากำลังสื่อสารให้กับสังคมได้รู้ว่า นี่คือเรื่องที่เราให้ความสำคัญกับการไม่เลือกปฏิบัติและควรบรรจุเรื่องนี้เป็นกฎหมาย เพราะว่าเราต้องการคุ้มครองทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะเป็นเพศใดก็ตาม และเราก็หวังว่า จุดเริ่มต้นนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นที่กำลังสื่อสารกับสังคมว่า ควรทำเรื่องนี้ให้กลายเป็นเรื่องปกติ ใครอยากจะแต่งกายแบบไหน ต้องให้ความเคารพต่อการตัดสินใจของเขา ตราบใดที่เขาอยู่ภายใต้กติกาเดียวกัน นั่นคือแต่งกายให้สุภาพเรียบร้อย เหมาะสมกับสถานที่เท่านั้นเอง"
หนึ่งในการให้คำสัมภาษณ์จาก ผศ.ดร.อดิศร ในกรณีที่พูดถึงการที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้อนุมัติข้อบังคับเกี่ยวกับการแต่งกายนักศึกษาที่เกิดขึ้น
ลักษณะข้อบังคับใหม่ที่เกิดขึ้น
ลักษณะข้อบังคับใหม่ที่เกิดขึ้น ถือว่ามีเนื้อหารายละเอียดที่มากพอสมควร โดยหากน้องๆ ที่สนใจในประเด็นนี้ อาจจะต้องรอประกาศอย่างเป็นทางการจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์อีกครั้งนะคะ แต่อ้างอิงจากการที่ ผศ.ดร.อดิศร ได้ให้สัมภาษณ์ มีรายละเอียดว่า ตามข้อที่ 9 ที่ระบุเอาไว้ว่า การแต่งกายนักศึกษาสามารถเลือกแต่งกายได้ตามเพศกำเนิดหรือเพศสภาพ รวมไปถึงการที่นักศึกษาสามารถเลือกแต่งกายได้ทั้งชุดนักศึกษาหรือชุดสุภาพ โดยทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ให้ option แก่นักศึกษา เพราะไม่จำเป็นต้องเป็นชุดนักศึกษาเท่านั้น อาจจะเป็นชุดสุภาพที่ใส่ออกไปนอกห้องเรียน โดยนักศึกษาสามารถเลือกได้ว่า จะให้ตรงกับเพศกำเนิดหรือเพศสภาพก็ได้ เพื่อป้องกันการถูกเลือกปฏิบัติค่ะ
จุดเริ่มต้นจากการขับเคลื่อนข้อบังคับนี้
ทาง ผศ.ดร.อดิศร ได้ให้สัมภาษณ์กับทางเว็บเด็กดีว่า ย้อนไปถึงเบื้องหลังที่ผ่านมาเกี่ยวกับข้อกำหนดการแต่งกายของนักศึกษา เมื่อก่อนจะอยู่ในลักษณะที่เป็นกฎเกณฑ์หรือแนวปฏิบัติทั่วๆ ไป ไม่ได้ถูกยกขึ้นเป็น ข้อบังคับ ซึ่งถ้าถูกยกให้เป็นข้อบังคับ จึงนำไปประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา ที่อยู่ภายใต้ พรบ. ของมหาวิทยาลัย เพราะฉะนั้นข้อบังคับนี้ก็จะกลายเป็นกฎหมายภายในของมหาวิทยาลัย โดยหมายความว่า "ทุกคนต้องปฏิบัติตาม"
ส่วนตัวเนื้อหาที่ผ่านมาในระเบียบยังไม่ได้มีการพูดถึงของการอนุญาตให้นักศึกษาแต่งกายตามเพศสภาพ เรื่องนี้ถูกหยิบยกขึ้นมาในปีที่แล้ว ที่เคยมีการออกประกาศของอธิการบดี ที่ให้นักศึกษาสามารถแต่งกายตามเพศสภาพได้ โดยสามารถถ่ายรูปชุดครุยปริญญาปีที่แล้ว แต่ก่อนหน้านี้ จริง ๆ ก็มีนักศึกษาแต่งกายด้วยเพศสภาพ เพราะระเบียบการแต่งกายจริง ๆ ไม่เคยถูกกำหนดว่าต้องแต่งกายให้ตรงกับเพศกำเนิดเท่านั้น แต่พอไม่มีการกำหนดออกมาก็กลายเป็นว่า ถ้านักศึกษาจะแต่งกายก็แล้วแต่นักศึกษา แต่อาจารย์จะสามารถบังคับให้เขาแต่งกายตามเพศกำเนิดได้ โดยก่อนหน้าที่ตัวประกาศของอธิการบดีปีที่แล้วออกมาอนุญาต ก็เคยใช้วิธีที่ว่า ถ้านักศึกษาต้องการแต่งกายข้ามเพศ ต้องไปทำเรื่องให้ทางโรงพยาบาลออกใบ รับรองให้ ซึ่งจริง ๆ แล้ว การที่ให้เขาไปขอกระบวนการรับรอง ทาง ผศ.ดร.อดิศร มองว่ายังเป็นการเลือกปฏิบัติอยู่ดี เพราะทำไมต้องให้เขาขอเป็นกรณีพิเศษ ทั้งๆ ที่เขามีสิทธิ์แต่งกายตามเพศสภาพที่เขาเลือก
จึงเป็นประเด็นในแง่ที่ว่า ถ้าเป็นเพียงการเป็นประกาศของอธิการบดี มันหมายความว่า ถ้าเปลี่ยนผู้บริหาร อาจจะมีการประกาศให้นักศึกษาต้องแต่งกายตามเพศกำเนิดก็ได้ (อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับนโยบายการบริหาร) เพราะเราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่การที่เรายกระดับระเบียบให้กลายเป็นข้อบังคับ โดยมีสถานะเป็นกฎหมายภายในของมหาวิทยาลัย ไม่ว่าจะเปลี่ยนคณะผู้บริหารชุดไหนก็ตาม ก็ยังคงต้องปฏิบัติตามภายใต้ข้อบังคับนี้ ซึ่งการที่เรานำเข้าไปไว้ในข้อบังคับของมหาวิทยาลัยก็หมายความว่า "เราให้ความคุ้มครองกับนักศึกษาในแง่สิทธิ์ที่สามารถเลือกแสดงออก มีเสรีภาพในการแต่งกายตรงกับความประสงค์"
กระแส Feedback ที่เกิดขึ้น
สำหรับกระแสที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับการพูดถึงประเด็นนี้ จะเห็นได้ว่าส่วนใหญ่จะไปในทิศทางบวกจากจำนวนยอดแชร์ เพราะสังคมของเราเริ่มให้ความสำคัญเกี่ยวกับความเท่าเทียมทางเพศ และยังตระหนักต่อการกดขี่ทางเพศมากขึ้น ทำให้เกิดการสนับสนุนประเด็นนี้กัน ซึ่งทางด้าน ผศ.ดร.อดิศร กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า
"นับว่าเป็นความหวังที่ดีต่อสังคม ที่เราเริ่มต้นเห็นสิ่งที่ดีในด้านบวกมากขึ้น หวังว่าจะเป็นการจุดประกายให้กับองค์กรหรือว่าสถาบันการศึกษาอื่นๆ ที่เห็นว่า ถ้าทำเรื่องนี้ไม่ได้ทำให้สังคมเสื่อมเสียศีลธรรม แต่เราทำให้กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า ดำรงชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรี และสังคมให้การเชิดชู เคารพความหลากหลาย ไม่ทำให้เขารู้สึกแย่ที่โดนดูถูก หรือไม่ถูกยอมรับในสังคม ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องเพศเพียงเท่านั้น แต่รวมไปถึงเรื่องอื่นๆ อีกด้วย"
โครงการอื่นๆ ที่สนับสนุนประเด็นความเท่าเทียมทางเพศ หรือ ความเท่าเทียมกันด้านอื่นๆ ภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
สำหรับโครงการในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่สนับสนุนและเคลื่อนไหวเกี่ยวกับความเท่าเทียมทางเพศ ในขณะนี้มีกลุ่มนักศึกษาจำนวนมาก ที่กำลังขับเคลื่อนเรื่องนี้ เช่น โครงการ TU Changemaker ที่ได้รับการสนับสนุนจาก UN Women โดยเมื่อปีที่แล้วได้ร่วมจัดงานเกี่ยวกับความเท่าเทียมทางเพศ เพื่อสร้างการตระหนักในนี้ทั้งในและนอกมหาวิทยาลัย อีกทั้งยังมีกลุ่มนักศึกษาที่กำลังขับเคลื่อนเกี่ยวกับการแจกผ้าอนามัยฟรีให้กับนักศึกษาหญิงในมหาวิทยาลัยอีกด้วย ทั้งหมดนี้ล้วนเกี่ยวข้องกับการสร้างความเท่าเทียมทางเพศ ซึ่งเป็นสิ่งที่มหาวิทยาลัยให้ความสำคัญมาโดยตลอด
ขอขอบคุณข้อมูลจากเป็นยังไงกันบ้างคะน้องๆ กับประเด็นข้อบังคับที่เกิดขึ้นนี้ ถ้าน้องๆ คนไหนสนใจในประเด็นนี้ อย่าลืมติดตามข่าวสารต่อไปนะคะ เพราะว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจเกี่ยวกับการสนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศที่พวกเราหลายคนให้ความสำคัญค่ะ ถ้าน้องๆ มีข่าวไหนน่าสนใจ มาแชร์กันได้นะคะ
ผศ.ดร.อดิศร จันทรสุข ขณะดำรงตำแหน่ง รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ฝ่ายการนักศึกษา https://www.facebook.com/615091915/posts/1015781545312691https://tu.ac.th/attractions
17 ความคิดเห็น