คุยกับ "พี่ริว อิงครัต" กับความฝันที่อยากทำงานกับสัตว์ตั้งแต่เด็ก สู้เส้นทางคณะเทคนิคการสัตวแพทย์

สวัสดีน้องๆ ชาว Dek-D ทุกคนค่ะ เมื่อพูดถึงคณะที่เกี่ยวข้องกับสัตว์ แน่นอนว่าคณะที่จะนึกถึงอันดับแรกๆ ก็คือ คณะสัตวแพทยศาสตร์ แต่รู้มั้ยคะว่าจริงๆ แล้วก็มีคณะที่อยู่แวดวงใกล้ๆ กัน นั่นก็คือ คณะเทคนิคการสัตวแพทย์ นั่นเอง ทุกปีจะมีน้องๆ ถามเข้ามาเกี่ยวกับคณะนี้เรียนอะไร เป็นยังไง ต้องเตรียมตัวยังไง

วันนี้พี่มิ้นท์ก็เลยขอพารุ่นพี่เฟรชชี่หมาดๆ "พี่ริว" อิงครัตน์ นักแสดงวัยรุ่นมากความสามารถ ที่มีทั้งงานละคร ซีรีส์ และภาพยนตร์ ที่นอกจากงานแสดงแล้ว ด้านการเรียนก็เก่งไม่เบา เพราะกำลังเรียนอยู่ชั้นปี 1 คณะเทคนิคการสัตวแพทย์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  

Dek-D : แนะนำตัวให้เพื่อนๆ และน้องๆ ชาว Dek-D รู้จักหน่อยจ้า

สวัสดีครับ ผมชื่อริว อิงครัต ดำรงศักดิ์กุล ปัจจุบันเรียนอยู่คณะเทคนิคการสัตวแพทย์ ม.เกษตรศาสตร์ ชั้นปี 1 เป็นเด็ก 64 ครับ

Dek-D : ขอย้อนกลับไปตอนมัธยมที่ รร.เซนต์คาเบรียล หน่อยค่ะ ชีวิตตอน ม.6 ของเราเป็นยังไงบ้าง

ตอน ม.6 ของผมเป็นช่วงที่โควิดกำลังระบาดเลยครับ เทอมแรกได้ไปโรงเรียน แต่ว่าเทอมสองก็ได้เรียนออนไลน์เต็มรูปแบบ ชีวิตเปลี่ยนไปเลย เห็นความต่างชัดเจนมาก พอเรียนออนไลน์ต้องมีสติและความรับผิดชอบที่สูงกว่าการไปเรียนที่โรงเรียน เพราะเรียนที่โรงเรียน จะมีกรอบให้เราต้องตั้งใจเรียน แต่พอเรียนออนไลน์ที่บ้าน มันก็อิสระ บางคนไม่ได้เปิดกล้อง ก็ไปทำอย่างอื่นได้ ก็จะส่งผลเยอะครับ เพราะถ้าเราไม่ได้ให้ความสนใจกับเนื้อหาที่เรียน มันก็จะหลุดไปเลย แต่ว่าของผม จะมีเพื่อนๆ ที่ช่วยกันตามงานเป็นกลุ่มเลย ก็จะโชคดีหน่อยครับ

Dek-D :  เพิ่งสอบติดมาหมาดๆ เลย ทำไมถึงสนใจคณะนี้คะ

ผมชอบสัตว์ตั้งแต่เด็กและอยากจะเรียนเกี่ยวกับสัตว์ อยากทำอะไรก็ได้ที่เกี่ยวกับสัตว์ ที่คิดไว้ อยากเป็นสัตวแพทย์ก็อยากเป็น zoo keeper ก็อยากเป็น ก็เลยทำตามความฝันตัวเองมาเรื่อยๆ จริงๆ ตอนวางแผนตอนแรกก็ตั้งใจไปสอบสัตวแพทย์นะครับ แต่พอคะแนนออกมา ก็รู้ว่าคะแนนเรายังไม่ถึงขนาดนั้น เราก็ไปหาคณะว่าคะแนนเราน่าจะยื่นที่ไหนได้บ้าง ตอนนั้นก็เข้าเว็บมหาวิทยาลัยเลยว่ามีแต่ละ ม. มีคณะอะไรบ้าง ก็ได้เจอคณะนี้ที่ ม.เกษตรฯ ในเว็บ ซึ่งเราเห็นก็เลยเลือกมาอยู่ในอันดับที่เราจัดด้วย

Dek-D :  เทคนิคการค้นหาตัวเองฉบับน้องริว เป็นยังไงคะ

ที่ผมเลือกเรียนเกี่ยวกับสัตว์ เพราะเคยไปสวนสัตว์ตอนเด็กๆ แล้วรู้สึกชอบสัตว์ ชอบสิ่งมีชีวิตที่มีความแตกต่างจากมนุษย์ มันเป็นความชอบที่เห็นครั้งแรกก็ชอบเลย และมีความหลากหลายทางชีวภาพของสัตว์ อยากรู้ว่าในโลกนี้มีอะไรอีกบ้าง ก็อยากแนะนำทุกคนว่า ตามหาความฝันของตัวเองไปเรื่อยๆ ก่อนก็ได้ ถึงเราจะหาตอนนี้ไม่ได้ แต่ในอนาคตก็จะเจอเอง โดยคณะที่จะสอบเข้าไปก็ต้องเป็นคณะที่เรามั่นใจว่าเข้าไปแล้วเราจะอยู่กับมันได้ ไม่ทำให้เราท้อตอนเรียน ซึ่งก็มีหลายคนที่เข้าไปในคณะที่ไม่ใช่ก็จะมีแต่ความคิดที่ว่า จะซิ่วดีมั้ย ดังนั้นจึงไม่ค่อยแนะนำให้เข้าแบบนั้น เพราะมันจะเสียสุขภาพจิต ก็อยากให้ทุกคนค่อยๆ ตามหาความฝันของตัวเอง

Dek-D :  ช่วงเตรียมตัวสอบเข้ามหาลัย เครียดหรือกดดัน มั้ยคะ?

เครียดครับ เพราะเราต้องเรียนออนไลน์ ตามงาน และต้องเตรียมตัวสอบไปด้วย แต่จริงๆ มันก็ข้อดีของการเรียนออนไลน์อยู่ด้วย เพราะมันช่วยประหยัดเวลาในการเดินทาง อย่างผมจะมีเรียนพิเศษเสริมหลังเลิกเรียน เลิกเรียนเสร็จก็สามารถเดินทางไปเรียนพิเศษได้เลย แต่ข้อเสียก็มีเพราะต้องมีวินัยในตัวเองมากขึ้น

Dek-D :  ตอนเลือกคณะรอบแอดมิชชั่น เลือกอะไรไปบ้างและมีเทคนิคการจัดอันดับยังไงบ้างคะ

ตอนที่ผมจะจัดอัน ก็จะเลือกคณะที่เป็นไปได้ยากที่สุดไว้อันดับ 1-2 ครับ ส่วน 3-5 เป็นอันที่เราอยากเรียนคือ คณะสัตวแพทย์ เลือกเป็นจุฬาฯ ม.เกษตรฯ และม.มหิดล ส่วน 6-7 ก็จะเป็นเทคนิคการสัตวแพทย์ และ จิตวิทยา อันดับ 8-10 ใส่เป็นคณะวิทยาศาสตร์ไว้ปิดท้ายครับ ซึ่งคณะทั้งหมดเราก็เป็นคนเลือกเอง เลือกคณะที่เราอยากเข้า มีปรึกษาเรื่องการจัดอันดับกับเพื่อนบ้าง แต่สุดท้ายเราเป็นคนตัดสินใจ และตอนที่เลือกไปก็ไม่มีเสียดายตรงไหนเลยครับ เพราะเรามั่นใจและชอบการอันดับแบบนี้

Dek-D :  ถนัดวิชาอะไรมากที่สุดคะ

ผมถนัดวิชาชีววิทยามากที่สุด เทคนิคการอ่านหนังสือของผม จะไม่ชอบอ่านเงียบๆ ครับ ชอบเปิดเพลงอ่านหนังสือชิลๆ จะช่วยให้ผมมีสมาธิมากขึ้น เพราะผมชอบอ่านหนังสือในบรรยากาศที่มีเสียงหน่อยๆ ไม่เงียบมาก ส่วนเรื่องการบริหารจัดการเวลาในการสอบ จะต้องฝึกทำข้อสอบแบบจับเวลาบ่อยๆ เวลาผมอยู่กับเพื่อนก็จะจับเวลาทำข้อสอบกับเพื่อนครับ ซึ่งมันช่วยได้มาก จะได้รู้ว่าระยะเวลาเท่านี้ เราทำได้เท่าไหร่ ทำให้เรารู้เวลาของตัวเองด้วย

Dek-D :  พอเราชอบวิชาชีววิทยาแล้ว เรามีวิชาจัดตารางอ่านหนังสือยังไงบ้างคะ

คณะที่ผมสอบจะใช้ PAT1 PAT2 GAT O-NET  ผมเป็นคนที่เรียนสายวิทย์ แต่ไม่ถนัดคณิต เคมี ฟิสิกส์ ดังนั้นช่วงก่อนสอบก็จะไปหาที่ติวของ 3 วิชานี้ จะเน้นวิชาที่เราทำไม่ได้เป็นหลัก ส่วนวิชาที่มั่นใจอย่างชีววิทยา ก็จะเก็บไว้ท้ายๆ เพื่อทบทวน ไปเน้นวิชาที่เราทำไม่ได้ก่อน  

Dek-D :  แล้วเวลาอยู่ในห้องสอบ มีเทคนิคการทำข้อสอบยังไงบ้าง

ก่อนสอบ เขาจะมีให้เข้าไปในห้องสอบก่อนเวลาเล็กน้อย ผมจะเข้าไปในห้องสอบก่อน ก็จะไปนั่งหลับตา หายใจเข้าออกยาวๆ นั่งทำสมาธิกับตัวเองข้างในนั้น มันช่วยได้เยอะมากเลย มันทำให้เรามีสมาธิมากขึ้น ส่วนเทคนิคที่จะไม่ให้ลนในห้องสอบเลย ก็คือต้องซ้อม เราจะต้องรู้ว่า เราจะทำอะไรได้บ้างกับเวลาที่เค้าให้มาและจะต้องบริหารเวลายังไง

Dek-D :  พูดถึงการเรียน ปี 1 บ้าง ผ่านมา 1 เทอมเป็นยังไงบ้างคะ

เทอมแรกก็ยังเป็นการเรียนออนไลน์ครับ แต่ก็อยากเรียนออนไซต์มากกว่า เพราะปี 1 มันมีกิจกรรมเยอะ น่าจะมีประโยชน์กับนักศึกษามากกว่า แต่พอเรียนออนไลน์ก็แทบจะไม่ได้ทำอะไรเลย ส่วนเรื่องเรียน ก็เรียนออนไลน์ตั้งแต่เช้า เนื้อหาการเรียนยังไม่ต่างจากมัธยมมาก ตอนนี้เทอมแรก จะมีคณิตและเคมี ก็จะเรียนเหมือนตอน ม.6 เลย ส่วนเคมีก็เรียนทบทวน ของ ม.ปลาย และอีกวิชาใหม่เป็น animal science ครับ วิชาคณิต  

Dek-D :  ได้เริ่มเรียนวิชาใหม่ๆ แล้ว เล่าถึงวิชา animal science ให้น้องๆ รู้จักหน่อยได้มั้ยคะ  

Animal science หรือสัตวศาสตร์ ก็จะเป็นชีววิทยาแบบใหม่ครับ เรียนเกี่ยวกับพวกสัตว์ฟาร์ม การให้อาหารสัตว์ เช่น วัว ควาย มีพันธุ์อะไรบ้าง ให้ผลผลิตอะไรบ้าง เท่าที่เรียนมาผ่านมา 1 เทอม จะสอนเกี่ยวกับสัตว์ฟาร์มเป็นส่วนใหญ่ เช่น วัว แกะ แพะ หมู ไก่ เป็ด การให้อาหารสัตว์ การผสมพันธุ์ของสัตว์ฟาร์ม ไปจนถึงเรียนเกี่ยวกับผลผลิตที่ได้มา เราเอาไปทำอะไรได้บ้าง ในช่วงเทอมแรกก็จะเรียนเป็นพื้นฐานก่อน โดยจะแยกสายพันธุ์ของสัตว์ ถิ่นกำเนิดแต่ละชนิดเป็นอย่างไร ซึ่งที่เรียนมาก็ชอบ เพราะเป็นคนเป็นคนที่ชอบสัตว์ พอได้เรียนแบบเจาะลึกแบบนี้ก็ชอบมากเลย

Dek-D :  ทั้งเรียนทั้งทำงานไปพร้อมๆ กันแบบนี้ จัดการเวลาให้ดีทั้งคู่ยังไงบ้าง

เทคนิคของผมอาจจะไม่ได้ดีที่สุด แต่ผมก็ใช้วิธีนี้มาตลอด เราก็จะแบ่งเวลาระหว่างเรียนกับทำงาน เช่น ในหนึ่งสัปดาห์ ถ้ามีงานเข้ามา ก็จะพยายามให้งานนั้นมาอยู่วันเสาร์อาทิตย์ เป็นวันว่างของเรา ไม่ติดเรียน แต่ถ้าจำเป็นจริงๆ ก็จะยื่นจดหมายลาที่โรงเรียน ถ้ามีการบ้านก็จะคอยตามจากเพื่อนๆ หลักๆ ก็แบ่งเวลาและให้เรื่องเรียนมาก่อนครับ  พ่อแม่ก็บอกให้เอาเรื่องเรียนเป็นหลัก และการแสดงมาเป็นรองครับ

Dek-D :  ในความคิดของริว เรียนกับการแสดงละครอะไรยากกว่ากัน

คือตอนนี้ ผมรู้สึกว่ายากทั้งคู่ เรื่องเรียนก็ยาก เพราะต้องใช้ความจำมากๆ ส่วนเรื่องการแสดง ตอนนี้ก็อยู่ในช่วงพัฒนาตัวเอง ยังเจอปัญหาตัวเองอยู่บ้าง มีอะไรที่เราต้องพัฒนาก็พยายามพัฒนาตัวเองต่อไปครับ

Dek-D :  มาที่เรื่องการแสดงกันหน่อย บทบาทไหนที่เล่นแล้วรู้สึกง่าย เป็นตัวเองมากที่สุด แล้ว บทไหนยากที่สุดคะ

ซีรีส์ที่เล่นมาแล้วเป็นตัวเรามากที่สุดก็คือ รุ่นพี่ secret love ค่อนข้างจะเล่นเป็นตัวเอง เล่นง่ายมาก คือตัวบุคลิกของบทเตวิน จะเป็นเด็กใส่แว่น ติ๋มๆ เงียบๆ แต่ก็มีด้านสนิทกับเพื่อน ตลกบ้าง มันก็ดูเหมือนตัวเราเลย เวลาเล่นก็จะรู้สึกง่ายมาก 

ส่วนบทที่ยากที่สุดคือ GGEZ ครับผม เป็นซีรีส์เกี่ยวกับเกม ในบทผมต้องเป็นเซียนเกมอันดับหนึ่ง แต่ผมไม่เล่นเกมคอม แล้วบุคลิกของตัวละครก็จะมีความกวนมาก ตอนเล่นก็ต้องบิ้วให้ตัวเองเป็นคนแบบนั้น ก็ยากแต่ท้าทายครับ

Dek-D :  แล้วบทแบบไหนบ้างที่อยากลองเล่น ถ้ามีโอกาส

บทที่ผมอยากจะลอง มีเยอะมากเลยครับ เช่น บทซีเรียสแบบสืบสวนไปเลย จริงจัง ฆาตกรรมก็อยากลอง หรือ ไปแนวตลกเลย อยากลองเล่นซีรีส์แนวๆ นี้ดูบ้างครับ

Dek-D :  สุดท้ายแล้ว ฝากอะไรถึงน้องๆ #dek65 หน่อยค่ะ

ช่วงเวลานี้ เพื่อนสำคัญ หาเพื่อนดีๆ และพากันไปเรียน ช่วยกันติว ซึ่งในโรงเรียนของพี่จะมีการแบ่งสายจากวิทย์คณิตไปเป็นหลายสายย่อย  พี่อยู่ในห้องวิทย์สุขภาพ ซึ่งส่วนใหญ่ก็มีความฝันที่จะไปทางคณะสายแพทย์ พออยู่ห้องนั้น ทุกอย่างก็จะไปด้วยกันกับเพื่อน เรียนด้วยกัน ติวด้วยกัน ทุกอย่างมันจะง่ายขึ้น ดังนั้นก็อยากให้น้องๆ หาเพื่อนที่มีความฝันอย่างเดียวกัน อยากเข้าคณะนี้เหมือนกับเรา อ่านหนังสือด้วยกัน ช่วยกันติว จับเวลาทำข้อสอบ มันจะส่งผลกับเราเยอะมากๆ ครับ

ว้าวว! และนี่ก็คือรีวิวน่ารักๆ ที่พี่มิ้นท์ได้สัมภาษณ์มาฝากน้องๆ ชาว Dek-D  ค่ะ เราไม่ค่อยได้อ่านรีวิวหรือบทสัมภาษณ์ของคณะนี้สักเท่าไหร่ ก็หวังว่าจะได้เห็นภาพของคณะเทคนิคการสัตวแพทย์มากขึ้นนะคะ สุดท้ายนี้ อย่าลืมติดตามผลงานของ "พี่ริว" กันด้วยนะคะ :D