ถ้าคณะที่จะเลือก Admission เปลี่ยนเกณฑ์จากปีที่แล้ว ต้องจัดอันดับยังไง

สวัสดีค่ะ สำหรับ TCAS66 รอบ Admission นี้ คณะไหนไม่เปลี่ยนเกณฑ์เลย ถือว่าโชคดีสุดๆ เพราะสามารถอ้างอิงจากคะแนนเก่าของปีก่อนๆ ได้เลย แต่ปัญหาที่เจอส่วนใหญ่ในปีนี้คือ เมื่อข้อสอบเปลี่ยน หลายมหาวิทยาลัยก็จะเปลี่ยนเกณฑ์การคัดเลือกด้วย

หากโชคดีหน่อย ก็เปลี่ยนแค่เล็กน้อย แต่หลายคณะก็เหมือนแกล้ง เพราะเปลี่ยนเกณฑ์คัดเลือกแทบ 100% วันนี้พี่มิ้นท์จะมาให้คำแนะนำเบื้องต้นว่า หากคณะที่น้องๆ จะเข้าเปลี่ยนเกณฑ์ จะมีวิธีรับมือหรือต้องเตรียมตัวเกี่ยวกับการจัดอันดับยังไงบ้าง มาดูกันเลยค่ะ

ถ้าคณะที่จะเข้ารอบ 3 Admission เปลี่ยนเกณฑ์ ต้องทำยังไง

รูปแบบการเปลี่ยนเกณฑ์ในรอบ 3 จะมีลักษณะคล้ายๆ กัน โดยเฉพาะคณะที่เคยใช้ PAT1 คณิตศาสตร์, PAT2 วิทยาศาสตร์ เพราะ 2 วิชานี้ได้ยกเลิกไป ส่วน PAT2 ก็ได้ไปรวมอยู่ในวิชา TPAT3 ซึ่งบางคณะที่เคยใช้ความถนัดทางวิทยาศาสตร์ อาจยกเลิกวิชานี้แล้วไปใช้ A-Level แทน เป็นต้น  

นอกจากนี้ยังรวมถึงการเปลี่ยนแปลงค่าน้ำหนักด้วย บางคณะใช้วิชาเดิม แต่ปรับเปลี่ยนค่าน้ำหนัก เช่น จากเดิมใช้ GAT 50% อาจเปลี่ยนเป็น TGAT 80% ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงเกณฑ์ในที่นี้ จึงรวมถึงการเปลี่ยนวิชาและค่าน้ำหนักค่ะ  

ถ้าคณะที่น้องๆ อยากเข้าเปลี่ยนเกณฑ์ ต้องทำยังไง?

***หมายเหตุ แนวทางต่อไปนี้ เป็นการบอกแนวทางเมื่อเจอคณะที่เปลี่ยนเกณฑ์ แต่ไม่ใช่การวิเคราะห์แนวโน้มคะแนน น้องๆ จะต้องดูข้อมูลสถิติคะแนนอื่นๆ ประกอบด้วย***

1. ถ้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย ยังพออ้างอิงได้

ถ้าคณะที่น้องๆ อยากเข้า ยังใช้วิชาเดิม แต่อาจสลับค่าน้ำหนัก ไปเน้นบางวิชาแทน หรือ เปลี่ยนแค่วิชาเดียว  

แบบนี้น้องๆ ยังสามารถอ้างอิงกับสถิติคะแนนเดิมได้ค่ะ เพราะถือว่ามีความใกล้เคียงกับปีที่แล้ว การที่อ้างอิงคะแนนเดิมได้ หมายความว่า น้องๆ จะต้องดูว่าองค์ประกอบคะแนนที่ใช้ในคณะนั้นๆ เฟ้อหรือฝืด และคาดการณ์แนวโน้มคะแนนต่อ ว่าควรเผื่อคะแนนไว้เท่าไหร่  

2. เปลี่ยนใช้วิชาประเภทเดียวกัน ให้ดูว่ายากหรือง่ายขึ้น

หากคณะนั้นๆ เปลี่ยนเกณฑ์ แต่ยังพอดูแนวทางได้ เช่น ใช้วิชาใกล้เคียงเดิม ตัวอย่าง จาก PAT2 วิทยาศาสตร์ ไปใช้ A-Level ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา หรือ เปลี่ยนจาก PAT1 ความถนัดทางคณิตศาสตร์ ไปใช้ A-Level คณิตศาสตร์ และยังมีค่าน้ำหนักใกล้เคียงเดิม แบบนี้ให้น้องๆ ดูว่า ข้อสอบเปลี่ยนไปในทิศทางที่ง่ายหรือยากขึ้น

เช่น ถ้า PAT1 เปลี่ยนไปใช้ คณิต 1 ระดับความยากอาจใกล้เคียงกัน แต่ถ้าเปลี่ยนไปใช้คณิต 2 ก็จะง่ายขึ้น แปลว่าคนส่วนใหญ่ทำคะแนนได้ดีขึ้น และคนที่ได้คะแนนสูงในวิชานี้ก็มีเยอะขึ้น

เมื่อดูทิศทางแล้วว่ามันง่ายหรือยากขึ้น ก็จะบวกปัจจัยเหล่านี้เพิ่มเข้าไปในการคำนวณคะแนนอีก

หมายความว่า ถ้าเปลี่ยนมาใช้คะแนนที่ง่ายขึ้น ก็จะมีแนวโน้มทำให้คะแนนสูงขึ้น (โดยยังไม่รวมปัจจัยเรื่องคะแนนเฟ้อหรือฝืด) แต่ถ้าเปลี่ยนไปใช้คะแนนที่ยากขึ้น ก็มีแนวโน้มทำให้คะแนนลดลง (โดยยังไม่รวมปัจจัยเรื่องคะแนนเฟ้อหรือฝืด) และเมื่อได้ "ความน่าจะเป็น" ของคะแนนมาแล้ว ก็จะมาบวกกับคะแนนเฟ้อและฝืดของแต่ละวิชาต่อไป 

แม้จะไม่สามารถเจาะจงได้ว่าพอเปลี่ยนวิชาแล้วจะทำให้คะแนนสูงขึ้นหรือลดลงกี่เปอร์เซ็น แต่ก็เป็นปัจจัยที่น้องๆ ไม่ควรมองข้ามค่ะ 

3. เปลี่ยนเลยมากกว่า 80-100%

มีจำนวนคณะไม่น้อยที่น้องๆ เจอว่าเกณฑ์แตกต่างจากปีที่แล้ว 100% เช่น จากปีที่แล้วใช้ GAT/PAT ปีนี้ใช้ A-Level ทั้งหมด หรือ ปีที่แล้วใช้ PAT2 ปีนี้ ใช้แค่ TGAT เป็นต้น ถ้าเกณฑ์เปลี่ยนแบบสุดขั้ว จะไม่สามารถใช้เทียบกันตรงๆ ได้  พี่มิ้นท์มี 3 วิธีมาแนะนำดังนี้

เทียบคะแนนกับคณะที่ปีที่แล้วใช้เกณฑ์ใกล้เคียงกัน

วิธีแรก ให้น้องๆ  ลองหาคณะประเภทเดียวกัน ที่ปีที่แล้วใช้เกณฑ์เหมือนหรือใกล้เคียงกับคณะที่เราอยากเข้าในปีนี้ เช่น จะเข้าคณะด้านภาษา ก็ต้องหาคณะด้านภาษา ในมหาวิทยาลัยอื่นๆ ที่ปีที่แล้วใช้เกณฑ์ใกล้เคียงกับคณะที่เราจะเข้าปีนี้ และต้องเป็นระดับมหาวิทยาลัยใกล้เคียงกันด้วย เพื่อให้คะแนนไม่หนีกันมาก  

ยกตัวอย่างเช่น จะเข้าคณะ A ซึ่งปีที่แล้ว ใช้ GAT+PAT1 ส่วนปีนี้ ใช้ A-Level ไทย+สังคม+อังกฤษ เมื่อปีนี้ไม่สามารถเทียบคะแนนได้ ก็ต้องไปหาว่าปีที่แล้วมีมหาวิทยาลัยไหนที่อยู่ใกล้เคียงกัน และปีที่แล้วคณะนี้ใช้เกณฑ์วิชาสามัญ ไทย+สังคม+อังกฤษ จากนั้น น้องๆ ค่อยนำคะแนนตัวเองของปีนี้ไปเทียบค่ะ 

ไม่วางไว้อันดับท้ายๆ หรือถ้าจะวางอันดับท้ายๆ ภาพรวมจะต้องเซฟ

สำหรับน้องๆ ที่ไม่ต้องการเทียบกับปีที่แล้วเพราะยุ่งยากเกินไป ก็มีวิธีเซฟๆ มาฝาก นั่นคือ ไม่วางคณะเปลี่ยนเกณฑ์ 100% ไว้อันดับท้ายๆ ในการจัดอันดับของน้องๆ ค่ะ เพราะเมื่อเทียบคะแนนปีอื่นไม่ได้ ก็ถือว่าเป็นคณะกลุ่มเสี่ยงที่ไม่สามารถคาดเดาแนวโน้มได้ ซึ่งถ้าวางไว้อันดับท้ายๆ อาจจะเสี่ยงหลุดได้ทั้ง 10 อันดับ หากอันดับบนๆ ไม่เซฟพอ

หากมีเลือกคณะเปลี่ยนเกณฑ์และอยากไว้อันดับท้ายๆ ด้วยทำยังไง? สำหรับน้องๆ ที่ยืนยันหนักแน่นว่าคณะที่เลือกจะวางไว้อันดับท้ายๆ  ก็แนะนำให้อันดับด้านบนเป็นคณะที่คาดการณ์แนวโน้มได้ และมีคะแนนสูงเพียงพอ โดยเฉลี่ยประมาณ 10 คะแนน หรือมากกว่านี้ยิ่งดีค่ะ เพื่อป้องกันไม่ได้หลุดมาถึงอันดับด้านล่าง

ไม่เลือกคณะที่คะแนนเปลี่ยน 100% ทั้ง 10 อันดับ

เราไม่สามารถเลี่ยงคณะที่เปลี่ยนเกณฑ์ได้ แต่สามารถเลี่ยงที่จะเลือกคณะที่เปลี่ยนเกณฑ์ 100% ได้ ฉะนั้นแนะนำน้องๆ ว่า ใน 10 อันดับ ควรมีคณะที่ไม่เปลี่ยนเกณฑ์หรือเปลี่ยนเกณฑ์เพียงเล็กน้อยรวมอยู่ด้วย อย่างน้อย 3-4 อันดับค่ะ อย่างน้อยเราจะได้รู้ว่าคณะที่เรามี ได้คะแนนมากกว่าปีที่แล้วหรือไม่

ส่วนคณะที่เปลี่ยนเกณฑ์ 100% ทั้งวิชาและสัดส่วน หากเปรียบก็เหมือนกับคณะเปิดใหม่ที่อ้างอิงคะแนนเก่าไม่ได้ จึงยากที่จะบอกว่าคะแนนปีแรกนี้จะเปิดมาที่เท่าไหร่แล้วเราจะติด ดังนั้นพูดง่ายๆ ว่า ใน 10 อันดับจึงไม่ควรเป็นคณะเปิดใหม่หรือคณะเปลี่ยนเกณฑ์จากหน้ามือเป็นหลังมือทั้ง 10 อันดับนั่นเอง

ในการจัดอันดับ Admission ไม่มีใครสามารถฟันธงได้ 100% มาคณะไหนคะแนนจะขึ้นลงเท่าไหร่ เพราะไม่ใช่แค่สถิติ แต่ยังมีเรื่องจำนวนผู้สมัคร จำนวนรับ และความนิยมด้วย ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของน้องๆ ที่จะต้องอุดความเสี่ยงเหล่านั้น 

อ่านเรื่องก่อนหน้า

อ่านเรื่องต่อไป