เตรียมตัวสอบ+ฝึกทำโจทย์แบบไหน ได้ผลดีที่สุดภายใน 3 เดือนก่อนสอบ

สวัสดีค่ะ แป๊บๆ ก็จะสิ้นปี ซึ่งมีสนามสอบ TGAT/TPAT รอน้องๆ อยู่ในเดือนธันวาคม ก่อนที่เดือนมีนาคม จะมีการสอบอีกครั้งในสนามของ A-Level เท่ากับว่า น้องๆ มีเวลาเตรียมตัวประมาณ 2-5 เดือนเท่านั้น  

หลายคนถามเข้ามาว่าจะเตรียมตัวอ่านหนังสือยังไงดี หากดูระยะเวลาการเตรียมตัวสอบ พี่มิ้นท์ขอแนะนำให้เตรียมสอบ TGAT/TPAT ก่อนเลย เพราะระยะเวลากระชั้นชิดเข้ามาแล้ว และเป็นวิชาที่ไม่ได้อ้างอิงเนื้อหาในห้องเรียน จึงเริ่มเตรียมตัวได้เลย และวันนี้พี่มิ้นท์ก็มีเทคนิคสำหรับคนที่อยากฝึกทำข้อสอบในช่วงโค้งสุดท้าย ฝึกแบบไหน ตรงจุด และได้ผลดีที่สุด!

เตรียมตัวสอบ+ฝึกทำโจทย์แบบไหน ได้ผลดีที่สุดภายใน 3 เดือนก่อนสอบ

หากน้องๆ ฝึกทำข้อสอบด้วยตัวเองที่บ้าน มี 3 ทริคมาแนะนำ ดังนี้

1. จับเวลาให้เสมือนจริง  

น้องๆ จะต้องรู้ก่อนว่าข้อสอบแต่ละวิชามีเวลาให้ทำเท่าไหร่ ซึ่งการซ้อมสอบจับเวลาจริงนั้น ทำรอบเดียวอาจไม่ค่อยเห็นผลเท่าไหร่ค่ะ ต้องทำซ้ำๆ หลายๆ ครั้ง เพื่อให้เรารู้สปีดของตัวเอง

ครั้งแรก ยังไม่จับเวลา เพื่อดูว่าวิชานั้น เราใช้เวลาทำประมาณกี่นาที บางคนใช้เกินกว่าเวลาที่กำหนด บางคนอาจจะใช้เวลาน้อยกว่าก็ได้ หลังจากนั้น ในครั้งอื่นๆ อาจปรับเปลี่ยนเป็นการจับเวลานับถอยหลังแทนก็ได้ค่ะ เมื่อทำซ้ำเรื่อยๆ บ่อยๆ เราจะเริ่มรู้สปีดตัวเอง และรู้จุดอ่อนแต่ละวิชา ว่าเราพลาดตรงไหน เช่น คำนวณคิดนานไป เจอโจทย์ยาวแล้วอ่านช้า เป็นต้น

2. เลือกข้อสอบให้มีความเหมาะสม ใกล้เคียงกับข้อสอบจริง  

แม้ว่าข้อสอบจะเปลี่ยนรูปแบบมา แต่ก็มี Test Blueprint แนวข้อสอบออกมาให้น้องๆ ดูเป็นแนวทางได้ บวกกับมีคุณครูหรืออาจารย์จากติวเตอร์ต่างๆ ได้เก็งข้อสอบให้ใกล้เคียงกับข้อสอบจริง น้องๆ สามารถหามาทำได้ โดยอาจจะไปดูที่ห้องสมุดของโรงเรียนก็ได้ค่ะ

การได้ทำข้อสอบที่ใกล้เคียงกับข้อสอบจริง จะทำให้น้องๆ ได้รู้ระดับความยาก ความยาว ของข้อสอบ ซึ่งก็จะช่วยให้น้องๆ จัดการเวลาในห้องสอบได้

3. Print กระดาษคำตอบให้เหมือนจริง

เป็นอีกเทคนิคที่อยากแนะนำจริงๆ ค่ะ เพราะในปีนี้มีการสอบ  2 รูปแบบ คือ คอมพิวเตอร์และกระดาษ หากน้องเลือกการสอบด้วยรูปแบบกระดาษ จะต้องใช้ดินสอในการฝนคำตอบ ซึ่งการฝน ก็จะต้องฝนให้ถูกวิธีในระดับความเข้มที่พอดีด้วย 

หากน้องฝึกทำข้อสอบเก่าที่บ้าน แต่ใช้วิธีเขียนคำตอบ 1 2 3 4 แบบนี้ก็จะไม่เหมือนการสอบจริงเท่าไหร่ รวมถึงน้องๆ ก็จะไม่ได้ฝึกมือ ไม่ได้กะน้ำหนักในการฝนด้วย พอเจอหน้างานจริง ช่วงแรกอาจจะติดๆ ขัดๆ ไม่มั่นใจสิ่งที่ตัวเองฝนไป

กระดาษคำตอบหาได้ที่ไหน? ใกล้ๆ ทปอ. จะมีเผยแพร่กระดาษคำตอบขึ้นบนเว็บไซต์ myTCAS ไปดาวน์โหลดมาลองได้เลย หรือ ถ้าใครอยากได้เยอะ สามารถซื้อได้ที่ Dek-D's Store มีขายกระดาษคำตอบด้วยนะ

นอกจากการลองซ้อมทำข้อสอบเก่าที่บ้าน ก็ยังมีทางเลือกที่เป็นการสอบสนามสอบจำลอง หรือที่เรียกว่าการสอบเสมือนจริง ซึ่งที่เว็บ Dek-D ได้จัดสอบต่อเนื่องมาหลายปี เป็นที่พูดถึงของเด็กแอดมิชชั่นมาหลายรุ่น นอกจากจะได้ทบทวนความรู้แล้วยังได้ประสบการณ์สนามสอบแบบจริงๆ ด้วย ใครที่เลือกสอบที่สนามสอบจำลอง มีทริคดีๆ แนะนำดังนี้

1. เตรียมตัวให้เหมือนไปสอบสนามจริง

เพราะสนามสอบของโครงการ Dek-D's Pre-admission เราจัดสอบที่โรงเรียนที่เป็นสนามจริงของการสอบ TGAT/TPAT ดังนั้น หากน้องๆ สามารถเลือกสนามสอบจำลอง และสนามสอบจริงที่เดียวกัน น้องๆ จะได้ทดลองการเดินทาง คำนวณเวลาที่ใช้เดินทาง สำรวจของขายรอบๆ โรงเรียน ทำความรู้จักตึก และห้องเรียนจริงๆ ทำให้วันสอบจริง คุ้นเคย ไม่กดดัน เมื่อเราสบายใจ ก็จะทำข้อสอบได้ดีขึ้นด้วยค่ะ

2. เรียนรู้กฎต่างๆ ของสนามสอบ การตรวจบัตร เสียงประกาศ

ถึงจะชื่อว่าสอบจำลอง แต่ทุกอย่างเหมือนจริงมากค่ะ ในสนามสอบ Pre Admission ของเว็บไซต์เด็กดี เรามีขั้นตอนของการประกาศที่นั่งสอบ การตรวจบัตรเข้าห้องสอบ เสียงประกาศ การเซ็นชื่อเข้าสอบ รวมถึงกฎการแต่งกายตามรูปแบบของสนามสอบ ทปอ. เลย ดังนั้น เมื่อน้องๆ ได้มาสอบที่สนามสอบ แนะนำให้จำขั้นตอนต่างๆ เอาไว้ เมื่อถึงวันสอบจริง จะได้เข้าใจขั้นตอนต่างๆ ไม่มีพลาดแน่นอน

3. ฝึกควบคุมความกดดันจากเพื่อนๆ

เพราะสนามสอบ Dek-D's Pre-admission ได้รับความไว้วางใจจากน้องๆ ม.ปลาย หลายหมื่นคนต่อรอบจากทั่วประเทศ ดังนั้นในทุกๆ สนามสอบจะมีผู้เข้าสอบ (ที่ไม่รู้จักกัน) สอบห้องเดียวกัน น้องๆ จะได้ฝึกสมาธิและควบคุมความกดดันจากเพื่อนๆ ค่ะ เพราะหลายครั้งที่เราเห็นเพื่อนทำเสร็จก่อนแล้วนอนฟุบ หรือ เห็นบางคนทำข้อสอบเร็วมาก ก็ว้าวุ่นเลย!  

โครงการ Dek-D's Pre-admission รอบเดือนพฤศจิกายน 
ยังเปิดรับสมัครอยู่ถึง 1 ต.ค.66 นี้เท่านั้น กำหนดการสอบ 4-5 พ.ย.66 นี้

วิชาที่เปิดสอบ

หากใครไม่สะดวกไปสอบที่สนาม มีตัวเลือกสำหรับการสอบที่บ้านด้วย โดยเปิดระบบสอบ 6-12 พ.ย.66

สมัครสอบ Dek-d's Pre-Admission

ใครถนัดวิธีไหนก็ลองปรับใช้กันดูค่ะ ขอแค่ให้น้องๆ ได้เตรียมตัวและฝึกจริงๆ ไม่ว่าวิธีไหนก็เป็นประโยชน์กับน้องๆ อย่าลืมว่าการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ไม่ใช่โชคช่วย แต่มาจากความพยายามและความตั้งใจของเรา!