รอบ Portfolio ม.เกษตรศาสตร์ มีเปิดรับหลายโครงการ แต่โครงการที่หลายคนพูดถึงมากที่สุด คงหนีไม่พ้น "โครงการช้างเผือก" ซึ่งถือว่าเป็นโครงการที่รับเยอะสุดในรอบ Portfolio ของ ม.เกษตรศาสตร์ โดยปีนี้ TCAS67 รับถึง 19 คณะ รวมกว่า 2,236 ที่นั่ง อีกทั้งยังเป็นโครงการที่รับทั้ง ม.6 ปวช. กศน. และหลายสาขาที่เปิดให้เด็กซิ่วยื่นได้ด้วย จึงไม่แปลกที่หลายคนจะรอคอยสมัครในโครงการนี้
วันนี้พี่ๆ เว็บ Dek-D จะพามารู้จัก 4 เรื่องน่ารู้ของ "โครงการช้างเผือก" ม.เกษตรศาสตร์ มีเรื่องไหนที่ควรรู้บ้าง มาติดตามกันเลย
1.โครงการนี้เป็นโครงการที่รับเยอะ ไม่จำกัดพื้นที่ผู้สมัคร และยื่นสมัครได้ทั้ง ม.6 ปวช. กศน.หรือเด็กซิ่ว อีกทั้งมีหลายคณะก็เปิดรับผ่านโครงการ โดยปีโดยปีนี้ TCAS67 รับถึง 19 คณะ รวมกว่า 2,236 ที่นั่ง อาทิ คณะวิศวกรรมศาสตร์รับ 258 ที่นั่ง, คณะแพทยศาสตร์ 12 ที่นั่ง, คณะสัตวแพทยศาสตร์ 10 ที่นั่ง เป็นต้น
2.โครงการนี้จะเน้นพิจารณาจากเกรดเฉลี่ย ม.ปลาย และแฟ้มสะสมผลงานที่มีผลงานตามที่กำหนด ซึ่งบางคณะก็มีกำหนดใช้คะแนน TGAT TPAT ด้วย เช่น คณะเกษตร พิจารณาจากเกรดเฉลี่ย, คะแนน TGAT, แฟ้มสะสมผลงาน และการสอบสัมภาษณ์ โดยให้น้ำหนักที่การสอบสัมภาษณ์ถึง 40% ส่วนทางด้านคณะสัตวแพทยศาสตร์ พิจารณาจากแฟ้มผลงาน, คะแนน TGAT TPAT3 และสอบสัมภาษณ์ โดยให้น้ำหนักที่แฟ้มผลงาน, คะแนน TGAT, คะแนน TPAT3 อย่างละ 30% เท่าๆ กัน ซึ่งคณะไหนพิจารณาจากอะไร จะมีแจ้งไว้ในระเบียบการที่ออกมาแล้ว
3.น้องๆ ที่สมัครโครงการนี้ จะต้องแนบไฟล์ Portfolio ไปในระบบตอนสมัครด้วย ซึ่ง Portfolio ทาง ม.เกษตรฯ กำหนดว่าจะต้องไม่เกิน 10 หน้า A4 (ไม่รวมปกคำนำสารบัญ) รวมอยู่ใน 1 ไฟล์ โดยทางโครงการจะพิจารณาจาก Portfolio และคุณสมบัติเบื้องต้นก่อน หากแฟ้มผลงานผ่่าน คุณสมบัติผ่าน ก็จะประกาศให้เข้ารอบสอบสัมภาษณ์ต่อไป
4.โครงการนี้สามารถเลือกสมัครได้แค่ 1 สาขา มีค่าสมัคร 200 บาท โดยจะเริ่มเปิดรับสมัคร 1 พ.ย.66 - 4 ม.ค.67 ด้วยความที่โครงการนี้รับเยอะ และมีคณะเข้าร่วมเยอะ ใครที่อยากเรียน ม.เกษตรศาสตร์ และคุณสมบัติผ่าน มีผลงานตามที่เขากำหนด นับเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่งเลยครับ
ระเบียบการโครงการช้างเผือก ม.เกษตรศาสตร์ คลิกที่นี่
0 ความคิดเห็น