รอบ Portfolio เป็นรอบแรกของการคัดเลือกในระบบ TCAS และเป็นรอบที่หลายคนตั้งเป้าจะติดตั้งแต่รอบนี้ด้วย เพราะรีบติดก่อน ก็ทำให้ไม่ต้องเครียดกับการเตรียมตัวรอบอื่นๆ
วันนี้จะพาน้องๆ มาเตรียมตัวว่าถ้าจะเข้า Portfolio แบบที่ยังไม่เห็นเกณฑ์ TCAS68 ว่าจะออกมาเป็นแบบไหน จะต้องเตรียมตัวยังไง นำไปลองใช้กันได้เลย
#dek68 อยากเริ่มเตรียมตัวรอบ Portfolio TCAS68 ทำยังไงดี?
พี่มิ้นท์แนะนำ 3 คำนี้ให้กับน้องๆ ค่ะ "เก็บ-เตรียม-ลุย" เก็บผลงานให้มากพอ เตรียมให้เหมาะกับคณะ แล้วไปลุยกันเลย ซึ่งแต่ละขั้นตอนมีรายละเอียดยังไงบ้าง ไปดูกัน
"เก็บ"
เก็บในที่นี้ ไม่ได้แค่เก็บผลงานอย่างเดียว เพราะรอบ Portfolio เป็นรอบของคนที่มีความพร้อมในด้านต่างๆ ซึ่งก็รวมถึงความพร้อมในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยด้วย
"เก็บผลงาน" ใครที่รู้ตัวว่ายังไม่มีเกียรติบัตร หรือ รางวัลใดๆ เลย ก็ยังพอมีเวลาอยู่ค่ะ ลองหากิจกรรม Open House, กิจกรรมค่ายจากคณะต่างๆ หรือการประกวดต่างๆ ที่มีเกียรติบัตรการันตีการมีส่วนร่วมในกิจกรรม ยิ่งถ้าใครหากิจกรรมที่เหมาะกับคณะที่อยากเข้าได้ล่ะก็ ยิ่งมีประโยชน์เลย ซึ่งการเก็บผลงานจากเวทีหรือมหาวิทยาลัยต่างๆ จะยิ่งมีเครดิตที่ดีในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย
"เก็บข้อมูล" แน่นอนว่า น้องๆ ม.6 คงยังไม่เคยมีใครสมัครเข้ามหาวิทยาลัย ดังนั้น เราควรไปหาข้อมูลจากรุ่นพี่ว่าพี่ๆ ที่เขาติดรอบ Portfolio มหาวิทยาลัยต่างๆ เขาทำพอร์ตกันยังไง ซึ่งในเว็บ Dek-D ก็มีรุ่นพี่มาแชร์พอร์ตให้ดูเรื่อยๆ เผื่อเป็นไอเดียและนำมาประยุกต์ใช้กับพอร์ตของเรา กรณียังมีบางอย่างตกหล่นไปค่ะ
ตัวอย่าง Portfolio จากรุ่นพี่ที่รีวิวในบอร์ดเว็บ Dek-D
- รีวิว Portfolio คณะสัตวแพทยศาสตร์ & Top Secret ที่ไม่มีใครบอก!
- รีวิวสอบเข้าแพทย์รามารอบ 1 portfolio ปี 64 หลักสูตรแพทย์-บริหาร(MM) ตั้งแต่การสอบ BMAT IELTS ทำพอร์ต จนถึงรอบสัมภาษณ์แบบละเอียดยิบ
- เปิดพอร์ต เทคนิคการแพทย์ มหิดล และแชร์คำตอบตอนสอบสัมภาษณ์ dek67
"เก็บโอกาส" หากโอกาสมาต้องรีบคว้าไว้ ทุกมหาวิทยาลัยเปิดรับรอบ Portfolio ในโครงการที่แตกต่างกัน ลองพิจารณาตัวเองว่าเราเป็นสไตล์ไหน สายกีฬา สายวิชาการ สายแข่งขัน สายคุณธรรม ไม่ว่าน้องๆ จะเป็นกลุ่มไหน เชื่อพี่มิ้นท์ได้เลยว่ารอบ Portfolio เปิดโอกาสให้คนทุกกลุ่ม แต่ต้องติดตามข่าวเรื่อยๆ นะ
"เก็บเงิน" รอบนี้อาจมีค่าใช้จ่ายสูงหน่อย แม้จะยังไม่ต้องสอบ แต่จะมีค่าสมัครรอบพอร์ต ยิ่งสมัครเยอะ ค่าใช้จ่ายก็จะยิ่งมากขึ้นด้วย ยังไม่รวมค่าใช้จ่าย หากต้องเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ
"เก็บเกรด" มหาวิทยาลัยเกินกว่าครึ่ง ใช้เกรดในรอบนี้ มีทั้งใช้ 4 เทอม และ 5 เทอม ดังนั้นแนะนำให้น้องๆ เร่งเก็บเกรดใน ม.6 เทอม 1 เพื่อดันให้เกรดเราสูงขึ้น เพราะหากมีกำหนดเกรดขั้นต่ำแล้วเราทำได้ไม่ถึง ก็จะหมดสิทธิ์สมัครค่ะ
"เตรียม"
เมื่อทยอยเก็บผลงานได้แล้ว ก็ได้เวลาเตรียมตัวสำหรับรอบ Portfolio แล้ว แนะนำให้น้องๆ เตรียมตัว ดังนี้
1. คัดเลือกผลงานเฉพาะ ม.ปลาย ถ้าผลงานเก่าเกินไป ไม่มีประโยชน์ค่ะ และมหาวิทยาลัยจะไม่พิจารณาผลงานที่เก่าเกินไปด้วยเพราะไม่สามารถสะท้อนความสามารถที่แท้จริงได้ ดังนั้น ย้ำว่าให้เลือกผลงานที่ทำในช่วง ม.4-6 เท่านั้น
2. แยกเก็บผลงานตามประเภท หากใครมีความสนใจที่หลากหลาย ให้แบ่งประเภทของกิจกรรมไว้เลย เช่น กลุ่มนี้เป็นผลงานด้านวิชาการ ประกวดแข่งขันต่างๆ, กลุ่มนี้เป็นกิจกรรมสาธารณประโยชน์ ไว้เผื่อมีโครงการด้านคุณธรรม เป็นต้น ซึ่งแต่ละกลุ่ม น้องๆ สามารถเรียงลำดับ พ.ศ. มาได้เลย หรือถ้าเป็นรางวัลจะเรียงตามรางวัลใหญ่ไปเล็กก็ได้ค่ะ
3. เตรียมเอกสารที่ใช้สมัคร ซึ่งตอนนี้ที่น้องๆ เตรียมได้ ก็จะมีสำเนาบัตรประชาชน, สำเนาทะเบียนบ้าน, รูปถ่าย ส่วนเอกสารด้านการศึกษา เช่น ใบรับรองการเป็นนักเรียน ไว้ใกล้สมัครค่อยทำเรื่องขอจากโรงเรียนอีกครั้ง
"ลุย"
เมื่อผลงานพร้อม เตรียมและคัดแยกประเภทเรียบร้อย หลังจากนี้ก็รอติดตามข่าวการเปิดรับสมัครของมหาวิทยาลัย
ข้อควรรู้เกี่ยวกับรอบ Portfolio
- สมัครโดยตรงกับเว็บมหาวิทยาลัย
- สมัครได้หลายมหาวิทยาลัย แต่จะสมัครได้คณะเดียวหรือมากกว่า 1 คณะต่อมหาวิทยาลัย ให้ศึกษาจากระเบียบการ
- ค่าสมัคร แยกตามมหาวิทยาลัย ราคาส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 200-500 บาท
- รอบนี้ ส่วนใหญ่มีการสอบสัมภาษณ์
- ตรวจสอบให้ดี ว่าให้ส่ง Portfolio ออนไลน์หรือใช้เป็นเล่มจริง
ทั้งหมดนี้หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับน้องๆ ที่กำลังจะเริ่มเตรียมตัวสมัครรอบ Portfolio นะคะ พี่มิ้นท์ขอพูดให้ชื่นใจก่อนว่า รอบนี้เปิดรับเยอะมากๆ มีทุกคณะ แต่จะมากหรือน้อยกว่าปีก่อนยังบอกไม่ได้ค่ะ ซึ่งรอบนี้เป็นรอบของคนพร้อม บางคนไม่ได้เรียนโดดเด่นแต่กิจกรรมเด่น และมีความพร้อมมากกว่า ก็ติดเข้ามหาวิทยาลัยก่อนได้เช่นกัน พี่มิ้นท์ขอเป็นกำลังใจให้น้องๆ ที่กำลังเตรียมตัวทุกคนเลยนะคะ ^^
0 ความคิดเห็น