น้องๆ ชาว Dek-D.com หลายคนในเว็บ พี่แนนว่าเกินครึ่งเลยหล่ะที่เรียกตัวเองว่าเป็นเด็กกิจกรรม ซึ่งการทำกิจกรรมควบคู่ไปกับการเรียนอย่างพอดี ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีค่ะ แต่ว่าก็มีหลายคนนะคะ ที่เอาดีด้านกิจกรรม จนเกือบจะเฟลเรื่องเรียน หรือหนักไปถึงขั้นพลาดจนแอดมิชชั่นไม่ติด
วันนี้พี่แนนได้ไปสัมภาษณ์รุ่นพี่ที่น้องๆ คุ้นหน้ากันดี นั่นคือ กัปตันพลอย BRAND'S Admission Reality 6 สถานะปัจจุบันกลายเป็นนักศึกษาชั้นปี 1 คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร จะมาเล่าช่วงชีวิตมัธยม ที่เรียกว่าเป็นเด็กกิจกรรมแบบเข้าเส้น จนทำให้พลาดการสอบสำคัญไปอย่างที่ควรไป และกลับมาแก้ไขยังไงให้ดีขึ้น ไปฟังกันเลยจ้า
วันนี้พี่แนนได้ไปสัมภาษณ์รุ่นพี่ที่น้องๆ คุ้นหน้ากันดี นั่นคือ กัปตันพลอย BRAND'S Admission Reality 6 สถานะปัจจุบันกลายเป็นนักศึกษาชั้นปี 1 คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร จะมาเล่าช่วงชีวิตมัธยม ที่เรียกว่าเป็นเด็กกิจกรรมแบบเข้าเส้น จนทำให้พลาดการสอบสำคัญไปอย่างที่ควรไป และกลับมาแก้ไขยังไงให้ดีขึ้น ไปฟังกันเลยจ้า
นักกิจกรรมสายโหดตัวจริง
บอกได้อย่างเต็มปากเต็มคำเลยว่า เด็กกิจกรรมค่ะ เพราะเราทำกิจกรรมเยอะ แต่ไม่ใช่ว่าทำแต่กิจกรรมจนไม่สนใจการเรียนหรือทิ้งทุกอย่างเลยนะ การเรียนก็ยังสำคัญและเต็มที่เหมือนเดิม เพราะเรามีคำขวัญประจำใจว่า “เรียนดี กิจกรรมเด่น เน้นความเป็นไทย” (เอามาจากโรงเรียน)
ในส่วนของการกิจกรรม ที่บอกว่าทำเยอะอ่ะ เพื่อนๆ เราบอกเองว่าเราทำกิจกรรมเยอะเกินไป แต่สำหรับตัวเราแล้วคิดว่าเยอะจริงแต่ไม่เยอะเกินไปนะ5555 (พอรับไหวอ่ะ) กิจกรรมที่ทำตั้งแต่อยู่ ม.4 จนถึงปัจจุบันนี้สามารถสรุปได้ดังนี้
กิจกรรมส่วนหนึ่งของกัปตันพลอย
นอกจากการเข้าอบรม และเป็นแกนนำค่ายต่างๆ แล้ว ก็ยังมีกิจกรรมจิตอาสาเพื่อสังคมต่างๆ ของโครงการครอบครัวพอเพียง มูลนิธิประเทศไทยใสสะอาด เช่น การเป็นครูอาสาสอนหนังสือให้กับเด็กและเยาวชนในชุมชนแออัด การเข้าร่วมกิจกรรมรณรงค์การต่อต้านการคอร์รัปชัน กิจกรรมการเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมไทยมวยไทยซึ่งก็ได้เป็นวิทยากรผู้ช่วยในกิจกรรมนี้ด้วย
นอกจากเรื่องจิตอาสาแล้ว เราก็ยังฝึกซ้อมวิ่งทุกวัน ซึ่งเราเริ่มฝึกซ้อมอย่างจริงจังเมื่อปีที่แล้ว เป็นการออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงและเพื่อลงแข่งวิ่งมินิมาราธอน จนได้รับรางวัลต่างๆมา
กิจกรรมอย่างโหด แต่ก็ลดเกรด
คือเห็นเป็นคนบ้าทำกิจกรรมขนาดนี้ แต่เรื่องเรียนแล้วเราไม่เคยทิ้งเลยนะ อย่างที่บอกว่าเรามีคำขวัญประจำใจ 5555 เราเรียนสายวิทย์-คณิต (วิทย์กบฏ555) ซึ่งหลายๆ คนบอกว่าเป็นสายที่ยากและหนัก เราว่ามันก็หนักจริงนั่นแหละ เรียนกว่าจะเลิกตั้งเกือบ 4 โมง บางวันมี อาจารย์ขอคาบเรียนเพิ่มอีกก็เกือบ 6 โมง การบ้านมีเพียบ ชวนมึนมาก แต่ในเมื่อเราทำกิจกรรมไปด้วยและเรียนไปด้วยเราก็ต้องเหนื่อยขึ้นเป็น 2 เท่า ตั้งใจเป็น 2 เท่า และต้องตามงานจากเพื่อนๆ เอง จนเราเรียนจบ ม.6 มาได้เกรดเฉลี่ย 3.64 เราว่าเราพอใจแล้วหละ สำหรับเด็กกิจกรรมอย่างเรา
ม.6 แล้วยังห้ามใจไม่ได้...
เมื่อขึ้น ม.6 ที่ใกล้จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้วเนี่ย ถ้าถามว่าเลิกทำกิจกรรมมั้ย ตอบเลย เลิก.....ไม่ได้หรอก 5555 มันเหมือนเป็นของคู่กันขาดไม่ได้ แต่ก็ลดการทำกิจกรรมลงมาบ้าง จากที่เคยซ้อมสวดมนต์ ก็เลิกซ้อมเพราะได้ระดับประเทศละ จากที่เป็นประธานนักเรียนก็หมดวาระ คอยเป็นที่ปรึกษาพอ ส่วนที่ยังทำอยู่คือโครงการครอบครัวพอเพียง เรื่องวิ่ง และเปลี่ยนจากการทำกิจกรรมมาเป็นทำผลงานแทน5555 คือได้รับคัดเลือกจากคณะครูให้เป็นตัวแทนโรงเรียน ส่งผลงานที่เราเคยทำมาเพื่อเข้ารับการคัดเลือกรางวัลต่างๆ บอกเลยว่าแต่ละงานต้องใช้เวลาทำอย่างมาก
และแล้วก็...พลาดจนได้!!
ปัญหาที่เจอบ่อยเลยคืออ่านหนังสือไม่ทัน อย่างสอบ GAT PAT ครั้งแรกต้องบอกเลยว่าคนอื่นอาจมีเวลาเตรียมตัวเยอะแต่เรามีเวลาอ่านอย่างจริงจังคือ 1 เดือนก่อนสอบ (ก่อนหน้านั้นก็อ่านนะแต่ไม่จริงจัง5555) พอไปสอบก็ไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ และอีกอย่างคือไม่จับเวลาตอนฝึกทำข้อสอบเก่า ส่งผลให้ตอนสอบ PAT5 ทำไม่ทัน พลาดคะแนนไปง่ายๆทั้งที่ไม่ควรพลาด
เจ็บครั้งแรกเป็นบทเรียน ฝึกข้อสอบหนักขึ้น
เพื่อไม่ให้การสอบสนามต่อไปพลาดอีก ก่อนอื่นเราแบ่งเวลาการฝึกทำข้อสอบเก่า ว่าวันนี้เราทำชุดไหนไหนบ้าง แล้วต้องทำให้ได้ให้ตรงกับตารางที่วางไว้ โดยไม่หักโหมเกินไป พักบ้างแต่ไม่ใช่พักยาวเลย อีกอย่างคือในการฝึกทำข้อสอบเก่าทุกครั้งเราก็จับเวลาในการทำไปด้วย
เมื่อไปสอบในสนามต่อไปคือ 7 วิชาสามัญ บอกเลยว่าการจับเวลาตอนฝึกทำข้อสอบเก่าได้ผลมาก เราทำทันทุกวิชา(แต่จะถูกหรือเปล่าอีกเรื่องนึง) และอีกอย่างคือเราไม่ได้อ่านหนังสือเลยนะ เราอาศัยการฝึกทำข้อสอบปีที่ผ่านๆ มา เพราะเวลาในการเตรียมตัวเรามีน้อย เราเลยใช้การฝึกทำข้อสอบให้รู้แนว จับแนวให้ได้ พอแล้ว อ้อแต่อย่าลืมท่องศัพท์ภาษาอังกฤษทุกวันด้วยหละ คะแนนภาษาอังกฤษที่เรามีอันน้อยนิดก็มาจากการท่องศัพท์ล้วนๆ
กิจกกรรมทำให้ทักษะชีวิตพัฒนา หากรู้การแบ่งเวลาที่ดี
หลายๆคนอาจมองว่าการทำกิจกรรมนั้นทำให้เสียเวลาเรียน ทำให้สอบได้คะแนนน้อย แต่เราไม่ได้คิดอย่างนั้นนะ เพราะการเรียนไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต เป็นเพียงบันได้ที่จะทำให้เราไปสู่ความฝันเราต่างหาก แต่กิจกรรมนี่สิคือทักษะของชีวิตที่จะทำให้เรามีประสบการณ์ทำงาน ประสบการณ์ใช้ชีวิตในหลายด้าน มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี กล้าแสดงออกในทางที่ถูกต้อง และสามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมอย่างมีคุณภาพได้
ฝากถึงน้องๆ นักกิจกรรมทั้งหลายนะว่า ไม่ต้องกลัวที่จะทำกิจกรรม ขอเป็นเพียงสิ่งที่เรารัก เราอยากทำและต้องเป็นสิ่งที่ดี ที่ถูกต้อง ลงมือทำไปเลย เพราะเราจะได้อะไรกลับมาเยอะแยะจากการที่เราทำ อย่างน้อยๆสิ่งที่น้องได้คือความกล้าตัดสินใจที่เลือกที่จะทำ และที่สำคัญ ในเมื่อเป็นเด็กกิจกรรมแล้วก็อย่าทิ้งการเรียน เราต้องยอมรับด้วยว่าเราอาจเหนื่อยหนักกว่าเด็กทั่วๆไป แต่สิ่งที่ได้ก็ย่อมมีค่ามากกว่าแน่นอน อย่าทำให้ใครมาว่ามาดูถูกเราได้ว่า ทำกิจกรรมแล้วเสียการเรียน แต่เราต้องให้คนชื่นชมเราให้ได้ว่า เรียนดี กิจกรรมเด่น นี่แหละคนเก่งของจริง
ทั้งกิจกรรมกับการเรียน ถ้าให้ความสำคัญ และจัดแบ่งได้อย่างเหมาะสม ก็สามารถจะทำได้ดีและประสบความสำเร็จควบคู่ไปด้วยกันได้อย่างดีแน่นอนค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ม.6 ที่กิจกรรมก็อยากทำส่งท้าย แต่แอดมิชชั่นก็ดันมาประชิด อย่าลืมแบ่งความสำคัญและอย่าให้อะไร ส่งผลเสียต่อกันนะคะ
ส่วนน้องที่เพิ่งขึ้น ม.6 คนไหน ที่อยากแชร์ชีวิตเด็กแอดมิชชั่นให้โลกรู้ และได้ชื่อว่าเป็น "กัปตัน" เว็บเด็กดี มาสมัครกันได้เลยกับ BRAND'S Admission Reality 7 ที่ www.dek-d.com/admission/reality/ar7/ ที่เหล่าพี่ๆ ทีมงานจะคอยทั้งถีบทั้งดัน จนน้องๆ แอดฯ ติด พร้อมสิทธิพิเศษอีกมากมาย สมัครได้แล้วถึง 29 มิ.ย.นี้ เรียนไม่เก่ง หน้าตาไม่ดี โรงเรียนไม่ดัง ไม่ใช่ปัญหา ขอแค่กล้า และพร้อมแชร์ชีวิตไปกับเด็กแอดฯ 59 ก็เป็นกัปตันได้จ้า!!
6 ความคิดเห็น
หนูเป็นเด็กกิจกรรมนะ กิจกรรมโหดจริงๆ
เอาจริง ๆ มันอยู่ที่การแบ่งเวลา ยิ่งเรามีเวลาน้อยเท่าไหร่ เราก็ยิ่งได้รับแรงกดดันในการถีบตัวเองให้สูงขึ้นเท่านั้น
เราว่าไม่ควรอ้างว่ากิจกรรมเยอะทำให้การเรียนไม่ดี เพราะมันอาจจะเกิดจากการที่เราเรียงลำดับความสำคัญไม่เป็นหรือจัดสรรเวลาเหล่านั้นไม่ดีต่างหาก
หนูก็เด็กกิจกรรมเหมือนกัน ToT มันก็สนุกดีนะ แต่เหนื่อยหน่อยต้องตามงานเพื่อนให้ทัน