รู้หรือไม่! 18 เรื่องน่ารักของครอบครัวลูกดก "แองเจลิน่า โจลี่-แบรด พิตต์"









          "แองเจลิน่า โจลี่ และ แบรด พิตต์" ถ้าพูดถึงครอบครัวนี้ซักเมื่อ 2-3 เดือนก่อน คงเป็นครอบครัวที่หลายคนอิจฉาหนักมากกก ทั้งมีคุณพ่อหล่อเฟี้ยว คุณแม่สวยปิ๊ง แถมยังใจบุญมากเวอร์ ทำให้พอมีข่าวว่าทั้งคู่ตัดสินใจแยกทางกันเท่านั้นแหละ ชาวโลกถึงได้ช็อกมากเวอร์ เอาเป็นว่าเพื่อเป็นที่ระลึกถึงความน่ารักของครอบครัว โจลี่ - พิตต์ วันนี้พี่กวางรวบรวมเรื่องราวน่ารักๆ ที่เป็นความทรงจำดีๆ มาให้น้องๆ ชาว Dek-D ได้อ่านกัน รับรองเลยว่าอ่านแล้วจะแอบหลงรักครอบครัวนี้แบบไม่รู้ตัว

 


ภาพจาก http://www.inquisitr.com/

 
          1. ครอบครัวโจลี่ - พิตต์เป็นครอบครัวใหญ่มากกก มีสมาชิกตั้ง 8 คนด้วยกัน! คือคุณแม่แองเจลิน่า โจลี่ คุณพ่อแบรด พิตต์ และลูกๆ อีก 6 คน ได้แก่ แมดด็อกซ์ (15) แพ็กซ์ (12) ซาฮาร่า (11) ไชโลห์ (10) น็อกซ์ (8) และวิเวียน (8) จินตนาการสภาพเวลาทุกคนอยู่พร้อมหน้ากันดูสิ มันต้องป่วนมากก

 
          2. อย่างที่รู้กันว่าน้องๆ 3 ใน 6 คนนี้ ไม่ใช่ลูกแท้ๆ made by ขุ่นแม่โจลี่หรอกนะ แต่เป็นเด็กที่ทั้งคู่รับเลี้ยงมาจากที่ต่างๆ ไม่ว่าจะแมดด็อกซ์ ที่รับมาจากประเทศกัมพูชา แพ็กซ์ ที่รับมาจากเวียดนาม และซาฮาร่า ที่รับมาจากเอธิโอเปีย #ฉายาคู่รักใจบุญไม่ได้ได้มาเพราะจับฉลากนะจ๊ะ

 
          3. ส่วนอีก 3 คนที่เหลือเป็นเลือดเนื้อของโจลี่ – พิตต์ จริงๆ จ้า โดยน้องไชโลห์สาวเท่ เกิดที่นามีเบีย ส่วนฝาแฝดชายหญิงอย่างน็อกซ์และวิเวียนนั้นเกิดที่ฝรั่งเศส

 
          4. มีที่มาต่างๆ กันแบบนี้ ทั้งโจลี่และแบรดเลยปล่อยให้ลูกๆ เลือกเรียนภาษาที่ 2 กันได้ตามใจชอบ ซึ่งเด็กๆ ก็เลือกได้หลากหลายสุดๆ แมดด็อกซ์เลือกเรียนภาษาเยอรมันและรัสเซีย แพ็กซ์พยายามหัดภาษาเวียดนามบ้านเกิด ซาฮาร่าเรียนภาษาฝรั่งเศส ส่วนไชโลห์เลือกเรียนภาษากัมพูชา ในขณะที่ฝาแฝดตัวจิ๋วอย่างน้องวิเวียนเลือกภาษาอารบิก และน็อกซ์เลือกเรียนภาษามือ! #รวมแล้วนับได้7ภาษา #นี่บ้านหรือสหประชาชาติ

 


ภาพจาก people.com

 
          5. ซาฮาร่าเป็นเด็กที่ตอนรับเลี้ยงใหม่ๆ มีสภาพร่อแร่ที่สุด ทั้งขาดน้ำ ขาดสารอาหาร และติดเชื้อจนเกือบไม่รอดเป่าเค้กวันเกิด ทว่าด้วยความรักและความทุ่มเทของคุณแม่โจลี่กับคุณพ่อแบรด ก็ทำให้ทุกวันนี้ซาฮาร่ากลายเป็นเด็กสาววัย 11 ขวบสุดชิก ร่างกายแข็งแรงจนเหล่าปาปารัสซี่ตั้งฉายาให้ว่า “ยัยหนูดวงตาพิฆาต” เลย

 
          6. ลูกๆ บ้านนี้มีสัดส่วนชาย 3 หญิง 3 ดูเท่ากันดีก็จริง แต่ตอนนี้เริ่มจะมีการเปลี่ยนแปลงซะแล้ว เพราะสาวน้อยไชโลห์แสดงออกความเป็นเพศทางเลือกอย่างชัดเจน เธอชอบแต่งตัวแมนๆ ทำกิจกรรมแมนๆ ตัดผมแมนๆ แถมยังชอบให้ใครต่อใครเรียกว่า "จอห์น" ซะด้วยนะ แน่นอนว่างานนี้คุณแม่โจลี่และพ่อแบรดให้ความสนับสนุนเต็มที่ ไม่ว่าไชโลห์จะอยากเป็นเพศไหนก็ตาม #ปรบมือออ #transkid

 
          7. ลูกๆ ของโจลี่ทั้ง 6 คน ไม่มีใครอยากเป็นนักแสดง แต่ว่าบางครั้งก็มาโผล่เป็นตัวประกอบขำๆ ให้หนังของพ่อแม่บ้าง เช่นแมดด็อกซ์ที่โผล่มาเป็นตัวประกอบในหนังโหดๆ อย่าง World War Z ที่พ่อแบรดเล่น! โดยรับบทเป็นซอมบี้ที่ต้องโดนพ่อตัวเองยิงหัวรัวๆ 55555 #ทำไมพ่อถึงทำกับแมดได้

 
          8. ซาฮาร่ากับแพ็กซ์เองก็ไม่น้อยหน้า เคยมาเป็นตัวประกอบอดทนในหนัง Maleficent ของแม่โจลี่ด้วยนะ เป็นฉากที่แม่มดมาเลฟิเซนต์บุกมาแช่งเจ้าหญิงออโรร่าถึงปราสาท (ที่พูด Well...Well... นั่นแหละ) ฉากนี้คุณแม่โจลี่บอกเลยว่าต้องพยายามอย่างหนักในการเก็กหน้าโหดเดินผ่านฝูงนักแสดงประกอบไป โดยห้ามไม่ให้แอบขยิบตาปิ๊งๆ ไปทางลูกๆ ของตัวเอง 5555 #ขุ่นแม่น่ารักกก

 


เด็กสองคนนั้นไง ซาฮาร่าและแพ็กซ์ (แอคติ้งแพ็กซ์คือดีมาก ดูกลัวแม่มาก)
ภาพจาก ภาพยนตร์ Maleficent

 
          9. นอกจากซาฮาร่าและแพ็กซ์แล้ว วิเวียนยังกระโดดมาช่วยแม่รับบทเด่นในมาเลฟิเซนต์ด้วย ในบทบาทของเจ้าหญิงออโรร่าวัยเด็ก!!! ซึ่งจริงๆ แล้วเดิมทีทีมงานไม่ได้กะจะให้หนูวิเวียนรับบทนี้หรอกนะ แต่เด็กที่มาออดิชั่นทุกคนดันร้องไห้กระจองอแงกลัวแม่มดมาเลฟิเซนต์กันหมด เหลือแค่วิเวียนคนเดียวที่ยิ้มสู้ (แถมยังชอบเล่นเขาบนหัวแม่ไปอีก) ทำให้หนูน้อยได้กลายเป็นนางเอกจำเป็นไปแบบงงๆ ซะงั้นเลยจ้า

 
          10. เบื้องหลังตอนถ่ายทำก็ฮามากๆ เพราะคนทั้งบ้านต้องมารวมตัวกันที่กองถ่าย เพื่อล่อให้น้องวิเวียนวัย 4 ขวบเล่นตามบท ซึ่งก็ไม่ง่ายเลยจนขุ่นแม่โจลี่ต้องใช้ท่าไม้ตาย ควักคทาผีเสื้อที่เตรียมไว้มาโบกแล้วกระโดดโลดเต้นให้น้องวิเวียนอารมณ์ดี ยอมเล่นตามคำสั่ง (คิดภาพขุ่นแม่โจลี่ในร่างมาลีฟิเซนต์กระโดดโบกคทาผีเสื้อแล้วขำแป๊บ) ส่วนคุณพ่อแบรดก็ต้องลงไปอยู่ใต้หน้าผาที่น้องวิเวียนต้องหล่นลงไป เพื่อล่อให้น้องกระโดดไปหา ฟังดูแล้วมีความป่วนมาก ทำงานกันเป็น teamwork สุดๆ 55555

 
          11. แต่ก่อนจะร่วมมือกันทั้งบ้านแบบนี้ เด็กๆ เคยแอนตี้บทมาเลฟิเซนต์มาก่อน! เพราะในความคิดเด็กๆ แม่มดนางนี้ร้ายกาจน่ากลัวสุดๆ ขนาดที่ตอนคุณแม่โจลี่ใส่ชุดมาเลฟิเซนต์ครั้งแรก น้องแพ็กซ์ถึงขั้นวิ่งหนีไปร้องไห้ จนโจลี่ต้องค่อยๆ อธิบายให้เด็กๆ เข้าใจถึงตัวตนจริงๆ ของมาเลฟิเซนต์ แต่ก็ไม่ลืมกำชับว่าห้ามลูกๆ เอาเรื่องนี้ไปบอกใครก่อนหนังจะฉายนะ ^^

 
          12. ผลสรุปคือลูกๆ ของคุณแม่โจลี่เก็บความลับกันเก่งมาก ขนาดที่วันหนึ่งไชโลห์ถึงขั้นมีเรื่องชกต่อยเพื่อนร่วมชั้น เพราะเพื่อนว่าแม่มดมาเลฟิเซนต์ ไชโลห์จึงพยายามปกป้องบทของแม่ แต่ก็ยังพูดความลับไม่ได้ โอยยย...น่าเอ็นดูสุดๆ

 


น้องวิเวียน ผู้พิชิตแม่มดใจร้าย
ภาพจาก ภาพยนตร์ Maleficent


 
          13. แต่ก่อนจะมาเป็น Happy Family อย่างทุกวันนี้ ในช่วงแรกๆ ทั้งโจลี่และแบรดต้องผ่านอะไรๆ มาหนักหนามาก เพราะทั้งคู่ปิ๊งกันในกอง Mr. & Mrs. Smith ขณะที่แบรด พิตต์ ยังไม่หย่าขาดจากเจนนิเฟอร์ อนิสตัน ภรรยาในขณะนั้น ทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ก่อนแบรดจะตัดสินใจหย่า และคบหาแองเจลิน่าอย่างเปิดเผย

 
          14. ภาพแรกที่ยืนยันว่าโจลี่ - พิตต์เป็นคู่รักกันแล้วนะ คือตอนปี 2005 ที่ทั้งคู่ไปออกเดทริมหาด ณ ประเทศเคนย่า โดยในรูปนั้นมีน้องแมดด็อกซ์อยู่ด้วย (แฮปปี้แฟมมิลี่มากเวอร์) เชื่อไหมว่าภาพนี้ปาปารัสซี่ขายให้นิตยสารได้แพงถึง 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 35 ล้านบาทไทยเลย!

 
          15. อ๊ะๆ แต่อย่าเพิ่งคิดว่าแพงนะจ๊ะ เพราะขอบอกว่ายิ่งนานไป มูลค่าของครอบครัวนี้ยิ่งพุ่งขึ้นเรื่อยๆ หลังจากแองเจลิน่าคลอดลูกแท้ๆ คนแรกในปี 2006 (น้องไชโลห์) ก็สามารถขายรูปเบบี๋ได้ในราคา 4 ล้านดอลลาร์ (38 ล้านบาท!) และพอถึงคิวน้องน็อกซ์และวิเวียนลืมตาดูโลกเมื่อปี 2008 โจลี่ - พิตต์ก็ขายรูปได้อีก 14 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 485 ล้านบาท!!!!!! #เป็นลมแป๊บ ซึ่งรายได้ทั้งหมดก็ไม่ได้เอาไปช็อปปิงที่ไหน แต่มอบให้องค์กรการกุศลหมดเลย เลิศศศ

 


ภาพจาก นิตยสาร Hello

 
          16. แม้โจลี่ - พิตต์จะเริ่มคบหากันตั้งแต่ปี 2005 จนลูก 6 เข้าไปแล้ว แต่พวกเขาเพิ่งเข้าพิธีวิวาห์อย่างถูกต้องตามกฏหมายเมื่อปี 2012 เองนะ! สาเหตุก็เพราะตอนแรกทั้งคู่ตั้งใจว่าจะไม่แต่งงานจนกว่าชาวรักร่วมเพศจะสามารถแต่งงานกันได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่สุดท้ายก็ทนความรบเร้าของลูกๆ ไม่ไหว จึงตัดสินใจประกาศแต่งงานก่อนกฎหมาย #Lovewins จะออก 3 ปี

 
          17. ทั้งที่คบหากันนาน 11 ปี และแต่งงานแล้ว 4 ปี แต่ทั้งคู่ก็ตัดสินใจหย่าร้างกันในเดือนกันยาที่ผ่านมาจนเป็นข่าวดังกระหึ่มโลก หลายคนเดาว่าเพราะแบรด พิตต์นอกใจรึเปล่า ซึ่งแหล่งข่าวก็รายงานกันว่าไม่ใช่นะจ๊ะ แต่เป็นเพราะแบรดมีปัญหาเรื่องอารมณ์ และวิธีการเลี้ยงดูลูกๆ ที่แตกต่างจากโจลี่ จนทำให้โจลี่ตัดสินใจยุติความเป็นครอบครัวลงในที่สุด

 
          18. ผลจากการหย่าร้างครั้งนี้ก็สรุปว่า โจลี่ได้ลูกๆ ทั้ง 6 คนไปดูแล ส่วนแบรด พิตต์มีสิทธิ์แค่เยี่ยมเยียนลูกเท่านั้น เป็นการปิดฉากครอบครัวสุขสันต์โจลี่ - พิตต์ ที่คงทำให้หลายๆ คนคิดถึงไปอีกนาน และก็ยังหวังอยู่ลึกๆ ด้วยว่า อาจจะมีวันหนึ่งที่ทุกคนได้กลับมาเป็นครอบครัวกันอีกครั้งก็ได้ ^^

 


ภาพจาก นิตยสาร Hello

 
          แม้จะเป็นครอบครัวที่จบด้วยการแยกทาง แต่ก็ถือว่าครั้งหนึ่งเคยมีช่วงเวลาดีๆ ร่วมกันมากเลยว่าไหมคะ น้องๆ อ่านเรื่องราวของครอบครัวนี้แล้วรู้สึกยังไงกันบ้าง ชื่นชอบแง่มุมไหนของครอบครัวนี้ก็มาเมาท์มอยกันได้ ส่วน "รู้หรือไม่!" ครั้งต่อไปพี่กวางจะพาไปสนุกกับเรื่องราวของคนดังคนไหน อย่าลืมรอติดตามกันนะจ๊ะ





 
ข้อมูลจาก
http://www.thenational.ae/
http://www.inquisitr.com/
http://www.ibtimes.com/
http://www.nydailynews.com/
http://www.mtv.com/
https://joliepittresource.wordpress.com/
http://www.eonline.com/
http://www.eonline.com/
https://www.yahoo.com/
http://www.ew.com/
http://www.people.com/
http://www.people.com/
http://www.usmagazine.com/
http://www.usmagazine.com/
http://www.irishnews.com/
http://www.showbiz411.com/
http://www.nickiswift.com/
http://www.harpersbazaar.com/
http://www.mtv.com/
http://www.usmagazine.com/
http://www.therichest.com/






 
พี่กวาง
พี่กวาง - Columnist พลเมืองบางบัวทอง ผู้ตามทันทุกเทรนด์ฮิต เพราะไถทวิตเตอร์ระหว่างรถติดแยกแคราย

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

กำลังโหลด

4 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด